EPISODE 04

1311 Words
“คุณธัน ไหนคุณป๊าบอกคุณธันไม่ว่างไงคะ” เมียไอ้ภพรีบเดินมาหาผม พร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้า ตอนนี้เธอกำลังตั้งท้องและใกล้จะคลอดเต็มที ซึ่งที่เธอมายืนยิ้มอยู่ตรงหน้าผมได้ คงเป็นเพราะเธอคงจะแอบมาเดินเล่นหน้าบ้านระหว่างที่ไอ้ภพเผลอไผล เพราะถ้าไอ้ภพไม่เผลอ เธอไม่มีทางได้ออกมาเดินแบบนี้แน่ ไอ้บ้าภพมันห่วงเมียยิ่งกว่าไอ้ฮอลล์ซะอีก ไม่แปลกที่มันจะรักและหวงเมียมันมาก เพราะคนอย่างมันไม่เคยรักใครสักคนนอกจากคนในครอบครัว พอได้รักผู้หญิงที่ชื่อ ‘พีชญา’ มันก็ทุ่มเทสุดหัวใจ แต่กว่าจะได้รักกันแบบนี้ ก็สาหัสกันพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเลว ๆ ของไอ้ภพ และเรื่องของพีชญา หลายปัญหาที่รุมเร้า ดีที่ทั้งไอ้ภพและพีชจับมือกันแน่น ไม่งั้นคงไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้ “พอดีว่างน่ะ เคลียร์งานเสร็จก็เลยแวะมา เข้าบ้านกัน เดี๋ยวไอ้ภพจะตามหาซะก่อน” ผมพยุงคนที่มีศักดิ์เป็นพี่สะใภ้เดินเข้าบ้าน ก่อนไอ้ภพจะบ้า ผมต้องเอาเมียมันกลับไปเก็บที่ “พีชเพิ่งออกมาเองนะคะ กะจะเดินออกกำลังกาย” พีชญาหันมาทำหน้าเศร้าสร้อยใส่ผม นี่คงจะโดนไอ้ภพเข้มงวดมาสินะ ยิ่งใกล้คลอด ไอ้ภพมันยิ่งเครียด ซึ่งคนที่มันปรึกษาก็คือไอ้ฮอลล์กับจิว มันไม่ปรึกษาผม เพราะคิดว่าผมไม่เข้าใจความรู้สึกมัน จริงอยู่บางเรื่องผมไม่เข้าใจ และไม่อยากเข้าใจโดยเฉพาะเรื่องรักใคร่ แต่เรื่องคลอดลูกผมคิดว่าผมให้คำปรึกษามันได้ แต่คิดไปคิดมาไม่เอาดีกว่า เดี๋ยวมันจะตีโพยตีพายเป็นห่วงเมียมันยิ่งกว่าเดิม “เดินมากเดี๋ยวเธอก็ปวดขาอีก เข้าบ้านไปนั่งพักเถอะ อีกเดี๋ยวคงได้ทานข้าว” ผมให้เหตุผลและพาเธอเดินเข้ามาข้างใน ซึ่งเธอก็ไม่ค่อยอยากจะเดินสักเท่าไหร่นัก พีชญาเธออายุ 22ปีได้มั้ง จะเรียกว่าคุณแม่ยังสวยก็ย่อมได้ ในขณะที่ไอ้ภพอายุ 27ปี เนื่องด้วยอายุที่ห่างกันมันเลยมีอาการหวงเมียมันมาก “หนู” นั่นไง เสียงมันมาก่อนตัวซะอีก “ไปเดินเล่นทำไมไม่บอกเฮีย ทำแบบนี้ได้ไง” ไอ้ภพมันรีบเดินมาพยุงเมียรักของมัน “ไหนป๊าบอกมึงโทรมาบอกว่าไม่ว่าง” แล้วมันก็หันมาถามผมด้วยความแปลกใจ “กูว่างแล้วไงครับ แล้วไอ้อาการเห่อเมียเนี่ย เพลา ๆ ลงบ้างเถอะ กูเห็นแล้วอดคิดไม่ได้ว่ามึงอ่อน” ผมเอ่ยปากแซวเสร็จก็เดินเลี่ยงออกมาจากตรงนั้น ขี้เกียจฟังไอ้ภพแก้ตัวข้าง ๆ คู ๆ “พี่เสือ” เสียงของ ‘วอร์ม’ น้องชายคนเล็ก ลูกชายของป๊ากับพี่ไลลา ตอนนี้วอร์มอายุ 9 ขวบน่าจะได้ ถ้าผมจำไม่ผิด “ลุงธันต่างหากล่ะ เสือที่ไหน บอกกี่ทีไม่จำ” นี่เสียงของลูกไอ้ฮอลล์ ‘น้องเคลิ้ม’ ทุกวันนี้ชื่อหลานผมก็ยังไม่ค่อยชิน และคงจะชินยาก เพราะนี่ก็หลายปีมาแล้ว น้องเคลิ้มตอนนี้อายุประมาณ 4 ขวบ และสนิทกับน้องวอร์มมาก “ก็พี่จะเรียกแบบนี้ เคลิ้มอย่ายุ่งดิ นี่พี่เสือ” “ไม่ได้ ต้องเรียกลุงธัน” เด็กสองคนเริ่มถกเถียงกัน และเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่เขาสองคนเถียงกันประจำเวลาที่ผมมาที่นี่แล้วเจอเขาสองคนพร้อมกัน วอร์มชอบเรียกผม เหมือนที่ป๊าเรียก ส่วนน้องเคลิ้มชอบเรียกผมแบบที่จิวสอน ซึ่งเรียกแบบไหนก็ไม่ผิด แต่มันผิดที่น้องเคลิ้มเป็นเด็กชอบเอาชนะ เหมือนพ่อกับแม่อย่างจิวกับไอ้ฮอลล์ น้องวอร์มก็เลยตัดปัญหาด้วยการ… “พี่ไม่คุยกับเคลิ้มแล้ว อยากชนะก็ชนะไปเลย แต่พี่จะเรียกพี่เสือ และเคลิ้มต้องเรียกพี่ว่าอาวอร์มแบบที่พี่จิวสอนด้วย” ว่าจบไอ้น้องชายคนเล็กของผมก็ลุกจากเก้าอี้แล้วเดินหนีไป เพราะรู้ว่ายังไงก็ไม่มีทางเถียงชนะเด็กอย่างน้องเคลิ้ม นี่ผมจินตนาการถึงตอนโตไว้ละ ถ้าถึงวันนั้นพวกผมคงปวดหัวมาก ซึ่งทุกวันนี้ก็ปวดหัวใช่เล่น “ไม่เรียกหรอก ตัวเล็กนิดเดียวจะเป็นอาได้ยังไง” นี่ก็ยังไม่จบเรื่องการนับญาติและสรรพนาม “ไงจ๊ะพ่อหนุ่มปากหวาน ไหนว่าไม่ว่าง” พี่ไลลาเดินเข้ามาหาผมและน้องเคลิ้มที่นั่งอยู่ “เคลียร์งานเสร็จเร็วครับ วันนี้มีอะไรกินบ้างครับ” ผมยิ้มให้พี่ไลลา ถึงแม้ว่าเธอจะแต่งงานกับป๊าแล้วก็ตาม แต่เธอยังคงให้พวกผมเรียกเธอว่าพี่ “เมนูโปรดของทุกคนจ้ะ พี่เห็นรถธันขับเข้ามา ก็เลยสั่งแม่บ้านจัดเมนูโปรดของธันด้วย” ต้องบอกเลยว่าครอบครัวของผมอบอุ่นเสมอ แต่เรื่องน้องทิวผมยังไม่พร้อมที่จะบอกใคร เอาตรง ๆ ก็เพราะลึก ๆ ในใจผมก็คิดว่าผมคือคนอื่น ยิ่งผมเคยทำผิดต่อป๊า ผมก็ยิ่งละอายใจ ผมไม่กล้าเอาลูกมาแนะนำกับครอบครัว ผมคิดว่าผมไม่เหมาะสมที่จะอยู่ในครอบครัวนี้ด้วยซ้ำ… “เมื่อไหร่คะคุณธัน” น้องสะใภ้อย่างจิวเอ่ยขึ้น ซึ่งตอนนี้เราทุกคนทานอาหารกันเรียบร้อย และมานั่งในห้องนั่งเล่น ส่วนเด็กน้อยก็พากันไปเล่นที่ห้องของเล่น “เมื่อไหร่อะไร” ผมถามกลับเมื่องุนงงในคำถาม ยิ่งนับวันจิวมันก็พูดไม่ค่อยรู้เรื่องขึ้นทุกวัน “เมื่อไหร่คุณธันจะมีแฟนแล้วแต่งงานมีลูกบ้างคะ จิวจ้องมานานแล้วนะ” เธอดูจริงจังกับคำถามมาก “ฉันไม่อยากมีใคร และไม่อยากอ่อนเหมือนไอ้ภพกับไอ้ฮอลล์” “กูไม่ได้อ่อน” มันสองคนประสานเสียงกันทันที “คุณธันคะ ถ้าคุณธันชอบผู้ชายด้วยกัน ก็ไม่มีใครว่านะคะ สมัยนี้โลกเปิดกว้าง เราทุกคนอยากให้คุณธันมีความสุขนะคะ” พีชญาว่าเสริม และไม่รู้ว่าไปเอาความคิดเรื่องเกย์มาจากไหน ถึงได้คิดเป็นตุเป็นตะขนาดนี้ “พอเลย พอ ๆ พวกเธอสองคนหยุดมโนกันได้แล้ว ฉันเป็นผู้ชาย และฉันแค่ยังไม่อยากมีใคร ยังไม่เจอคนที่ถูกใจ” ผมว่าปรามพีชและจิว “พูดแบบนี้มานานแล้วนะคะ เดี๋ยวก็แก่ก่อนหรอก” เป็นเสียงของจิวน้องสะใภ้ปากหมาพูดขึ้น “ป๊าว่าธันก็น่าจะมีคนดูแลได้แล้วนะ” นั่นไงป๊า มีการเสริมส่งความคิดของจิวกับพีชอีกแล้ว “ผมยังไม่อยากมีใครครับป๊า หาว… ผมง่วงแล้วขอกลับก่อนนะครับ” ผมว่าตัดบทแล้วจากนั้นก็รีบลุกเดินออกจากห้องนั่งเล่น อยู่นานกว่านี้เดี๋ยวโดนจิวกับพีชจี้เรื่องแต่งงาน “คุณธันชิ่งอีกแล้วนะคะ พูดเรื่องนี้ทีไรหนีกลับก่อนตลอด แล้วแบบนี้เมื่อไหร่จะมีแฟนล่ะคะ” จิวส่งเสียงตามหลังผมมา ผมจึงยกมือขอบายให้เธอ ขืนหันหน้าไปก็ไม่จบไม่สิ้นกันพอดี เดี๋ยวถ้าเกิดป๊าอยากนัดให้คนมาดูตัวกับผมอีกจะยุ่งยาก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD