ชุมพลTALK
ตลอดหลายๆวันที่ผ่านมานี่ เปลวมันกลั่นแกล้งผมตลอด มันโกรธมันแค้นอะไรผมนักหนา ผมควรจะเป็นฝ่ายโกรธมันมากกว่าสิ ที่นอกใจผมไปมีคนอื่น ตั้งแต่ผมโดนปล่อยคลิปวันนั้น ผมเป็นคนดังในชั่วข้ามคืน ผมล่ะเกลียดมันจริงๆเลย
ไม่อยากออกไปไหน คนมองผมและชุบชิบนินทา บางคนด่าผมเสียๆหายๆอีกต่างหาก ความเ****นเป็นเป็นเหตุแท้ๆ แต่มันก็ไม่มีสิทธิ์ทำกับผมแบบนี้ ผมไม่ไปมหาวิทยาลัย2อาทิตย์ พอไปก็เจออีเปลว พูดแซะพูดแขวะ ผมล่ะยอมมันจริงๆ เลิกกันไปก็ต่างคนต่างอยู่สิ แต่นี่อะไร ทำยังกับผมไปฆ่าแม่มันตาย
ผมเดินออกมาข้างนอกเลย ก่อนจะหยิบแมสมาปิดหน้า ยังอายเรื่องคลิปไม่หายเลย รับปริญญาก่อนเถอะ จะไม่มาที่นี่อีกเลย อายครับอายแทบแทรกแผ่นดินหนี
ตอนนี้ผมกับมันเกลียดกันสุดๆ ถึงแม้จะมีความรู้สึกรักบ้าง แต่ความเกลียดชังมีมากกว่า มันเป็นผู้หญิงที่ร้ายกาจมาก ผมล่ะเกลียดมันจริงๆ
“เอ้า!ไอ้พลทำไมมานั่งอยู่นี่วะ” ไอ้พีชเอ่ยถามผมขณะที่เดินมาหา เฮ้อ! พ่นลืมหายใจออกมาแรงๆ เหนื่อยท้อชะมัด ไม่รู้จะเจอเปลวแกล้งอะไรอีก
“กูโดนอาจารย์ไล่ออกมา”
ผมฟึดฟัดอย่างอารมณ์เสีย พีชเป็นพี่ชายฝาแฝดของแพรว เป็นเพื่อนสนิทของผมเอง เรียนด้วยกันแต่มันไปต่างประเทศ2อาทิตย์ เพิ่งกลับมา
“แล้วเรื่องคริปมึงรู้ไหมว่าใครเป็นคนปล่อย?”
“มีคนเดียวอีเปลว กูล่ะเกลียดมันจริงๆ กูเอาคืนมันแน่ๆ”
“เปลวกนกแฟนมึงน่ะเหรอ? กูไม่อยากจะเชื่อเลย” พีชเอ่ยอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“ไม่ใช่แฟนกู กูเลิกกับมันแล้ว ตอนนี้มันร้ายจะตาย ชีวิตกูล่มจมพังพินาศก็เพราะมัน มันนี่โคตรร้ายกาจเลย”
“เป็นไปได้ไงวะ? ผู้หญิงอ่อนโยนขนาดนั้น จะร้ายได้ขนาดนี้” มันทำหน้าไม่อยากจะเชื่อ ราวกับเรื่องที่ผมพูดมันเป็นเรื่องโกหก
“อีเปลวนรก มันไม่ใช่เปลวกนกหรอก”
ผมกัดฟันกรอดๆยังโกรธไม่หาย มันทำผมแสบมากๆเลย โคตรเกลียด ไม่รู้เมื่อก่อนผมไปหลงรักมันได้ยังไง? ผู้หญิงร้ายกาจ เจ้าคิดเจ้าแค้น ผมสิควรจะแค้นมัน มันควรผมต่างหากที่ต้องแค้นในสิ่งที่มันทำ มันนอกใจผม
“เจอกันผับCcนะตอนเย็น”
“กูไม่ไปผับนั้นหรอก”
“กูลืมไปว่าอดีตความรักหวานๆของมันกับมึงเยอะ ไปผับอื่นก็ได้ ผับอื่นก็เมาได้เหมือนกัน”
“อืม” ผมพยักหน้า
“งั้นมึงไปกับกู วันนี้เขาซ้อมรับปริญญาด้วย ไปด้วยกันเลย”
“ก็ได้ อาจารย์คงไม่ไล่ออกมาอีกนะ”
“มึงก็นั่งเหงียบๆสิวะ อาจารย์เขาไม่ว่าอะไรหรอก”
“อืม”
ผมเดินเข้าไปในห้องพร้อมกับพีช ผมนั่งอยู่ริมสุด มองไอ้วศินกับเปลวคุยกันกระหนุงกระหนิง จับมือถือแขนกัน ผมหมั่นไส้กับท่าทางของทั้งสองมาก หึ! ธรรมดาคนมันร่าน คนเคยกินกันย่อมไม่ถือตัว มันไม่หวงตัวหรอก มันคุยกันสักพักก่อนจะหันมามองหน้าผม
มันเบ้ปากใส่ผมก่อนจะหันไปคุยกันต่อ อีนรกนี่มันร้าย
อาจารย์ : “เจอกันวันรับปริญญานะ”
“ครับ/ค่ะ”
ผมกับพวกนักศึกษาออกมาจากห้อง ผมไม่อยากอยู่มหาลัยแล้ว อยากกลับบ้านเต็มที เกลียดสายตาของคนทั้งมหาลัยเลยก็ว่าได้ อายกว่านี้มีอีกไหม สายตาทุกคนที่มองมาที่ผม โคตรอายเลยครับ
“ชุมพลจะกลับแล้วหรือคะ?” แพรวเอ่ยถามแล้วเดินมาหาผม เธอใส่ชุดรัดติ้วกระดุมแทบปริแตกกับหน้าอกหน้าใจที่มันดันออกมา
“อืม”
“คุยกับแพรวก่อนได้ไหม?”
“ได้สิว่ามา”
“พลเปิดใจรับใครเข้ามาหรือยังคะ?”
“แพรวลืมไปแล้วเหรอ? ว่าพลเพิ่งเลิกกับแฟนได้ไม่นาน”
“ค่ะ แพรวรู้แต่แพรวแค่อยากรู้ ถ้าพลยังไม่มีใคร แพรวขออาสารักษาแผลใจให้พลได้ไหม?”
“พลไม่มีแผลใจ ขอตัวนะ”
“ตอนเย็นเจอกันที่ผับนะคะ”
”แล้วเจอกันนะ”
ผมเดินมาตรงที่ผมจอดรถ คนมุงดูรถผมเต็มไปหมด มันเกิดเรื่องบ้าอะไรวะเนี่ย ผมรีบฝ่าคนที่มุงดูรถผม เชี้ยเอ้ย!! แม่ง!!
สภาพรถผมโดนสเปรย์สีเขียนข้อความเต็มไปหมด ไอ้หน้าม้อ ไอ้ทุเรศ ไอ้สารเลว ไอ้ฆาตกร บลาๆ โอ้ยยยยย กูอยากจะบ้าตาย
รถราคาแพงของผม ดูแทบไม่ได้เลยตอนนี้ มันไม่ต่างจากรถที่อยู่ในรถของเก่า
อารมณ์กรุ่นโกรธของผมประทุขึ้น จะเป็นใครไม่ได้เลย นอกจากอีเปลว มันร้ายกาจมันจะแกล้งผมไปถึงไหน
“อีเปลว!!!”
ผมรีบวิ่งตามหามันเลย ผมเห็นมันกำลังเดินไปที่หน้าตึก ผมคว้าข้อมือมัน ก่อนจะกระชากแรงๆ
“ไอ้เชี่ย”! มึงเป็นบ้าอะไร?”
“มึงทำกูแสบมาก มึงเอาสีไปพ่นรถกู”
ผมตวาดเสียงดัง จนคนแถวนั้นหันมามองผมเป็นตาเดียว แต่ใครจะสนล่ะ ผมเพิ่มแรงบีบที่ข้อมือมันแรงๆ จนมันหน้าเหยเกด้วยความเจ็บปวด
“มีหลักฐานไหมล่ะว่ากูทำ ปล่อยกูได้แล้ว มึงไม่สิทธิ์มาถูกตัวกูด้วยซ้ำ”
“มากกว่านี้กูก็ทำมาแล้วอีร่าน!!
““ไม่ปล่อยใช่ไหม!!งั้นมึงเจอนี่”
ฟู่!!!
“อ้ากกกกกก แสบๆ!!อีเชี้ย!! โอ๊ย! แสบๆ”
ผมเต้นเร่าๆราวกับเจ้าเข้า เมื่อโดนสเปรย์พริกไทยเข้าไป ผมรีบปล่อยมือมันทันที
“สมน้ำหน้า ไอ้เลว!! ไอ้คนระยำ!”
ผมได้ยินเสียงมันเดินออกไป แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ มันเจ็บมันแสบไปหมด ตาผมมันจะบอดไหม? คราวหน้ามันโดนหนักแน่ อีเปลวนรก