เปลวกนก TALK
สุดท้ายก็เรียนจบรับปริญญาเรียบร้อย ฉลองสิคะรออะไร ความเป็นเพื่อนระหว่างฉันกับวศินแน่นแฟ้นขึ้น ข่าวคราวก็ซาลงมากแล้ว เพราะข่าวไอ้พลกลบหมดเรียบร้อย ฉันใช้ชีวิตปกติแบบคนทั่วไป แต่แผลเป็นในใจฉันยังเหลืออยู่ดี
“ใครจ้างพวกแกมา”
“ที่จริงพวกพี่ไม่จำเป็นต้องบอกก็ได้นะ แต่จะบอกน้องคนสวยแล้วกัน”
“ใคร”
“ผู้ชายที่ชื่อชุมพล มาเป็นผัวพี่ๆเถอะ”
ภาพเสียงคำพูดยังจำได้หมดทุกอย่าง ความทรงจำอันเลวร้ายไม่เคยลืมหรอกนะ ที่ไม่พูดไม่ได้แปลว่าลืม แต่ขอทำให้แม่คะน้าภูมิใจก่อนแล้วกัน ส่วนเรื่องแก้แค้น10ปีก็ไม่สาย
“ไปอังกฤษวันไหน”
“พรุ่งนี้ตอนเย็น”
“ไปกินเลี้ยงฉลองกันไหม”
“ถ้าไปผับCc เปลวไม่ไปนะ”
“อืม เปลวลืมพลได้หรือยัง”
“จะลืมได้ยังไงล่ะ ทำกับเปลวไว้ขนาดนั้น” ฉันยิ้มแห้งๆให้เพื่อน
“เริ่มต้นกับศินได้ไหม ให้ศินได้ดูแลเปลว ศินอยากดูแลเปลวไปตลอดชีวิต” อยู่ ๆ เขาก็โพล่งขึ้น
“เรียนจบค่อยว่ากันเนอะ วศินอาจจะมีใครดีๆเข้ามาในชีวิต เปลวอยากวศินดูใครไว้บ้าง”
“เปลวรู้ไหมว่าศินคิดกับเปลวมากกว่าเพื่อน”
“รู้ แต่เปลวยังไม่พร้อมมีใคร”
“แต่ศินจะรอ”
ฉันมองหน้าวศิน เขาเป็นเพื่อนที่ดีกับฉันมาตลอด คอยอยู่เคียงข้างดูแล ฉันมีความรู้สึกดีๆให้ แต่มันก็ไม่ใช่ความรักในแบบชู้สาวอยู่ดี
แต่ฉันไม่อยากเสียเพื่อนดีๆแบบวศิน
“ศิน”
“ไม่เป็นไร ศินรอได้ เอาเป็นว่าตอนเย็นเจอกันนะ”
“อืม” ฉันเอ่ยแล้วแยกย้ายกันกลับ เขาดีกับฉันมากแต่ฉันให้เขามากกว่าเพื่อนไม่ได้จริง ๆ
ฉันเดินเข้าไปในบ้านหลังจากแยกกับวศินแล้ว ฉันเข้าไปกอดแม่คะน้าจากด้านหลัง รักแม่คะน้ามากที่สุดเลย
“รักแม่คะน้าจังเลยค่ะ”
“ปากหวานจังนะ”
“แม่คะ ทำไมแม่ถึงไม่แต่งงาน”
“แม่อยากดูแลหนูไปเรื่อย ๆ มีความสุขดีจะตาย” แม่คะน้าหยิบจานขนมยื่นมาให้ฉัน
“เคยมีคนมาจีบแม่ไหม”
“มีสิลูกแต่แม่ยังไม่สนใจใครหรอก”
“ลองเปิดใจคบใครสักคนสิคะ เปลวไปอยู่เมืองนอกตั้งหลายปี แม่ก็คุยๆกับใครเป็นเพื่อนแล้วกัน”
“อืม ได้จ้ะ”
“ตอนเย็นหนูไปฉลองนะแม่”
“อย่าดึกมากนะลูก”
“ค่ะแม่”
ผับ$$
เคร้ง!!
เสียงแก้วกระทบกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตอนนี้กำลังได้ที ฉันเปลี่ยนลุคตัวเองใหม่ เกาะอกกับกระโปรงสั้นเสมอหู เปรี้ยวเข็ดฟันเลยวันนี้
ผู้ชายมองตาแทบจะหลุดจากเบ้า แล้วไงใครจะสนขอแรดๆสักวัน
เต้นไปสักพักเหมือนเหมียวมันนั่งอยู่โต๊ะข้างๆกับผู้ชายคนนึง หรือฉันตาฝาดก็ไม่รู้ ฉันเพ่งสายตามองอยู่นานมาก ฉันคิดว่าน่าจะใช่เหมียว
“ไปเต้นกันไหมวศิน”
“เอาดิ”
ฉันลุกขึ้นไปเต้นๆ ผู้มองกันเกรียว สนุกสุดๆ เต้นไปสักพักก็เหมือนมีคนมาเต้นข้างๆ พอมองไปเป็นไอ้เชี่ย”พล เต้นอยู่กับผู้หญิงนมโต
เหมือนจะคิดแผนออกแล้ว
ฉันกับวศินเดินมานั่งที่โต๊ะ ฉันกระดกเหล้ารัวๆเข้าปาก นั่งมองไอ้พลเต้นอย่างใจเย็น
“เดี๋ยวเปลวมานะ”
“อืม”
เขาพูดกับฉัน แต่ตายังจ้องไปที่อีกโต๊ะ เป็นเหมียวที่นั่งอยู่ เป็นเหมียวจริงๆด้วย. ฉันเดินมา ก่อนจะเต้นกับผู้ชายคนนึง พร้อมกับมองจิกไปที่ชุมพล
“อีร่าน”
มันมองทางฉันก่อนจะจูบผู้หญิงคนนั้นอย่างดูดดื่ม ควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าจริงๆ
“น้องคนนั้นสุดยอดเลย”
“ขอเบอร์หน่อยครับคนสวย”
“แม่ของลูกกู”
“โอ้ยยยยย ท่าเต้นเด็ดสุดๆ”
เสียงผู้ชายโห่ร้องไปหมด ฉันเดินมาจากนั้นก็เขาไปกอดแขนพล พร้อมกับหัวซบไหล่ มองเยาะเย้ยผู้หญิงคนนั้น
“พลค่ะ ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร” ผู้หญิงที่ชุมพลพามาเอ่ยถาม
“ตายแล้ว!!เขาไม่ได้บอกเธอเหรอ ทำไมไม่บอกล่ะคะว่าฉันเป็นไรกัน เมื่อคืนยังนอนด้วยกันอยู่เลย”
“กรี้ดดดด” ผู้หญิงคนนั้นกรีดร้องเล่นเอาหูฉันแทบดับ
“อีเปลว!” เขาตวาดฉันเสียงดัง คิดว่ากลัวหรือไง ไม่กลัวอยู่แล้ว
“ขอให้สนุกกับการแก้ตัวนะคะ”
“มันเป็นใครพล”
“เหมยฟังพลก่อน มันไม่ใช่แบบที่เหมยคิด”
เพี้ยะ!!!เพี้ยะ!!
โดนแล้วไหมมึงไอ้พลสมน้ำหน้า ฉันเดินมาถึงโต๊ะวศินยืนหันหลังให้ฉันอยู่ เขากำลังทะเลาะกับเหมียวเลย มีเรื่องอะไรกันเนี่ย
“มึงก็ดีแต่กินขอร่านของเหลือนั่นแหละ ไอ้วศิน”
“แล้วไง กูรักเปลวทำไมกูต้องสน มึงไม่ต้องมาเสือก”
“ทำไมกูจะเสือกไม่ได้ในเมื่อกูเป็นเมียมึง”
'เมีย'อย่างนั้นเหรอ เรื่องบ้าอะไรกันมีอะไรที่ฉันยังไม่รู้อีกเหรอ
ยืนงงในดงเป็ดเลยตอนนี้ วศินกำมือแน่นคงจะโกรธเหมียวแน่นอน
“กูไม่เคยคิดว่ามึงเป็นเมีย”
“มึงรักอีเปลวสินะ”
“ใช่”
“อีเปลวก็แค่เมียน้อย”
เหมียวตะเบ็งเสียงใส่วศิน เฮ้อ!อยู่ดีๆ ฉันก็เป็นเมียน้อยกรรมจริงๆ
“มึงก็ของกินเล่นอีเหมียว มึงเสนอตัวให้กูเอง กูไม่อยากได้มึงเลย ก่อนที่จะว่าใครร่าน มึงร่านกว่าคนอื่นอีก กูกินฟรีอีเหมียว มึงเสนอตัวให้กูเอง เลิกมาวุ่นวายสักที”
“วศินต้องการแบบนั้นใช่ไหม ได้เลย!!
เหมียวเดินไปนั่งโต๊ะกับผู้ชายอีกคน วศินมองเหมียวด้วยความโกรธ อยากรู้ว่ามีเรื่องอะไรกัน แต่ก็ช่างเถอะ เรื่องของเขาฉันไม่ยุ่ง
“กลับเลยไหมวศิน”
“กลับเลยก็ได้”
ฉันกับวศินเดินออกมาจากผับ จากนั้นก็ขึ้นรถ ฉันยังข้องใจเรื่องวศินกับเหมียวอยู่ จะถามก็ไม่กล้าถามเพราะตอนนี้วศินกัดฟันกรอดๆไปตลอดทาง นี่คือเหตุผลที่เหมียวพูดแขวะฉันตลอดหรือเปล่านะ
|