Episode 4 เบาะแสในความทรงจำ

3030 Words
หลังจากฝนตกตลอดทั้งวันจนพึ่งหยุดเมื่อตอนหกโมงเย็น เธโอเห็นว่าคงไม่มีลูกค้าแล้วจึงเดินไปพลิกป้ายปิดร้านและลงกลอนไฟฟ้าล็อกถาวรเอาไว้ เขาเดินไปขึ้นรถเก๋งสีน้ำตาลแดงในลานจอดรถก่อนขับมุ่งหน้าไปตามแผนที่โดยมีปลายทางอยู่ที่หอพักของแครอล เลนเนอร์ เขาเปิดระบบขับรถอัตโนมัติจึงมีเวลานั่งจิบกาแฟเปิดดูข่าวผ่านทางแท็บเลต รถขับไปอย่างช้าๆ เนื่องจากการจราจรติดและถนนลื่น คลิปวีดีโอที่ก๊อปปี้แคทนำมาเผยแพร่ลงเครือข่ายอินเตอร์เน็ตทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กับการทำงานของตำรวจ คดีอุบัติเหตุต่อเนื่องจึงมีโอกาสรื้อขึ้นมาสืบสวนเป็นคดีฆาตกรรมต่อเนื่องแทน รถวิ่งเข้ามาจอดในลานจอดรถของหอพักที่ดูไม่โทรมแต่ก็ไม่หรูหรา น่าแปลกที่หอพักของเหยื่อแต่ละคนมักจะอยู่ลึกเข้ามาในตรอกไม่ได้ติดถนนใหญ่ เมื่อเปิดประตูรถก้าวลงจากรถก็ต้องเจอกับพื้นที่เจิ่งนองไปด้วยน้ำฝน แม้ว่าพื้นปูนคอนกรีตจะเรียบและสะอาดแต่เมื่อฝนตกก็ทำให้รองเท้าผ้าใบที่ใส่มาเปียกแฉะจนน่าเหนื่อยหน่าย เธโอเดินผ่านลานจอดรถเข้ามาในเขตหอพัก แต่ประตูทางเข้าต้องใช้คีย์การ์ดในการเปิดประตู เขาจึงเดินเข้าไปคุยกับผู้ดูแลหอพักที่นั่งอยู่ในห้องธุรการใกล้กับประตูทางเข้าแทน ผู้ดูแลหอพักเป็นหญิงวัยกลางคนผิวคล้ำแดด ผมยาวถึงบ่ารูปร่างอวบนิดหนึ่ง เธอนั่งอยู่บนโต๊ะทำงานตัวเดียวในห้อง เธโอจึงเดินเข้าไปสอบถาม “สวัสดีครับ” “มาหาห้องเช่าหรือ ทำไมมาดึกจัง นี่ทุ่มครึ่งแล้วนะ” เธโอนิ่งเหมือนกำลังใช้ความคิดก่อนจะทำทีเป็นสนใจห้องเช่า “ครับ พอดีผมพึ่งเสร็จธุระที่ทำงาน ว่าแต่ที่นี่ต้องทำสัญญารายเดือนใช่มั้ยครับ” “ไม่ต้องหรอก หอพักให้เช่ารายวันได้ เธอจะพักกี่วันล่ะ” “อาทิตย์นึงก็ได้หรือครับ” “ได้สิ ก่อนหน้านี้สามวันก็พึ่งมีคนมาติดต่อเช่าอาทิตย์นึง เดี๋ยวนี้หาลูกค้าเข้าพักระยะยาวได้ยากมากเลย สงสัยฉันต้องเปลี่ยนทำเลหอพักซะแล้วล่ะมั้ง” “แล้วช่วงนี้มีปัญหากล้องวงจรเสียบ้างหรือเปล่าครับ” หญิงผู้ดูแลหอพักเงยหน้ามองเธโออย่างแปลกใจ “รู้ได้ยังไงน่ะ กล้องชั้นแปดเสียเมื่อเช้านี่เอง เสียอยู่ชั้นเดียวด้วย ฉันเรียกช่างไปแล้วแต่น่าจะมาได้พรุ่งนี้” “ขอโทษนะครับ ชั้นแปดมีผู้หญิงที่ชื่อแครอล เลนเนอร์ พักอยู่หรือเปล่าครับ” “มีสิ...” เจ้าของหอพักเริ่มรู้สึกเอะใจจึงถามเธโอ “นี่เธอไม่ได้มาหาห้องพักใช่มั้ย มาทำอะไรกันแน่” น้ำเสียงของเธโอเริ่มเปลี่ยนเป็นร้อนใจ “ขอร้องล่ะครับ ขอผมขึ้นไปหาเธอได้มั้ย” “จะขึ้นไปหาเธอทำไมล่ะ” “แค่โทรติดต่อเธอให้ผมก็ได้ครับ อาจจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นก็ได้” ไม่นานนักก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นที่สวนด้านหลังหอพัก คนในละแวกใกล้เคียงต่างทยอยเดินเข้าไปมุงดูที่พื้นด้านล่างหอพัก บางคนก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรเรียกหน่วยกู้ภัยและตำรวจ บางคนก็ถ่ายรูปและอัดวีดีโอเอาไว้ ในห้องธุรการที่เจ้าของหอพักอยู่นั้นไม่ได้ยินเสียงโกลาหลที่เกิดขึ้นภายนอกจนกระทั่งมีชายหนุ่มคนหนึ่งผลักประตูเข้ามาตะโกนเรียกท่าทางตื่นตระหนก เขาเป็นหนึ่งในผู้พักอาศัยอยู่ในหอพักที่นี่ “มีอะไรงั้นหรือ” “มีคนตกตึกทางฝั่งระเบียงครับ” “หา” เจ้าของหอพักหวีดร้องเสียงดังก่อนยืนนิ่งด้วยความตกตะลึง เธโอทำท่าจะกดโทรศัพท์แต่ถูกอีกฝ่ายร้องห้ามไว้ “มีคนโทรเรียกหน่วยกู้ภัยกับตำรวจแล้วครับ” เธโอเก็บโทรศัพท์ก่อนสะกิดที่ไหล่ของเจ้าของหอพัก “ไม่เป็นไรนะครับ” เจ้าของหอพักตั้งสติได้จึงรีบวิ่งตามเธโอกับชายหนุ่มผู้มาแจ้งข่าวเพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานที่เกิดเหตุ เธโอวิ่งนำหน้าเจ้าของหอพักกับชายหนุ่มอีกคนแหวกฝูงชนออกมาจนถึงบริเวณที่พอจะมองเห็นศพของคนตายได้ ศพของแครอล เลนเนอร์ นอนหงายดวงตาเบิกโพลงอยู่บนพื้นที่เฉอะแฉะ เลือดสีแดงฉานถูกน้ำเจือจางปะปนกับเศษเนื้อสมองสีขาวขุ่นกระจายออกจากบริเวณศีรษะ แขนกับขาอย่างละข้างบิดเบี้ยวผิดรูป เธโอรู้สึกเย็นวาบตั้งแต่กลางหลังไปจนถึงต้นคอ ร่างของเธอคงจะค่อยๆ เย็นชืดเพราะปริมาณเลือดที่ไหลออกจากร่างกายไม่หยุด ไม่นานนักหัวใจก็จะเต้นช้าลงเรื่อยๆ จนในที่สุดลมหายใจที่รวยรินก็จะหยุดลง ชีวิตของคนคงจบลงได้ง่ายๆ ด้วยกระบวนการเพียงเท่านี้ เธโอเหมือนกำลังตกอยู่ในภวังค์จึงไม่ทันได้ยินเสียงไซเรนจากรถตำรวจและรถของหน่วยกู้ภัย จนกระทั่งมือของเควินแตะลงบนไหล่ของเขาอย่างแผ่วเบา เธโอหันมองหน้าเควิน นัยน์ตาสีเทาหม่นของเขาสะท้อนเพียงความว่างเปล่าจนยากจะคาดเดาว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ “ไม่เป็นไร ตรงนี้ให้ตำรวจจัดการ เธอกลับไปรอที่บ้านเถอะ” เธโอเริ่มกระพริบตาได้ เขากลับมาตั้งสติได้อีกครั้งจึงกล่าวตอบเควินเสียงแผ่วเบา “ผมขอตัวก่อนนะครับ” เควินมองดูแผ่นหลังของเธโอที่เดินไกลออกจากฝูงชนไปเรื่อยๆ อย่างใจหาย ได้แต่หวังว่าความทรงจำที่เลวร้ายจะไม่หวนคืนมาในคราวเดียว เมื่อเธโอหายลับไปจากสายตาแล้วเควินจึงหันมาสนใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าแทน เธโอกลับมานั่งในรถและเปิดระบบขับขี่อัตโนมัติเพื่อเดินทางกลับร้านเดอะโมเมนโต น่าแปลกที่สภาพจิตใจของเขาในตอนนี้มันนิ่งสงบผิดปกติ เสียงเพลงเบาๆ ดังขึ้นจากลำโพงภายในรถคงเป็นผลจากระบบเอไอเพื่ออำนวยความสะดวกให้คนขับที่สกอเลอร์ช่วยติดตั้งเอาไว้ให้ มันช่วยให้เขารู้สึกผ่อนคลายจนค่อยๆ ผล็อยหลับไป เฟรได้รับโทรศัพท์จากเควินซึ่งเล่าเรื่องที่เธโอพบศพคนตายในหอพักให้ฟัง เควินกลัวว่าความทรงจำของเธโอในตอนที่ถูกทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัสจะกลับมาจึงขอให้เฟรช่วยแวะไปดูเธโอที่ร้านเดอะโมเมนโต เธอจึงขับรถมานั่งรอเธโออยู่ในลานจอดรถ หลังจากนั่งรออยู่ครู่หนึ่งจึงมองเห็นรถสีน้ำตาลแดงขับเข้ามาจอดแต่กลับไม่มีวี่แววว่าจะมีคนลงจากรถ เฟรดับเครื่องยนต์ก่อนเดินเข้าไปเคาะกระจกรถของเธโอ เธโอลืมตาช้าๆ มองไปทางต้นเสียงเมื่อเห็นว่าเป็นเฟรเขาก็กดเปิดกระจกรถแล้วคุยกับเธอ “มาได้ยังไงครับ ดึกป่านนี้แล้ว” “นายเป็นอะไรหรือเปล่า” นัยน์ตาของเฟรฉายแววกังวลอย่างชัดเจน “ผมไม่เป็นไร คุณเควินบอกคุณหมดแล้วหรือ” เธโอดับเครื่องยนต์ก่อนลงจากรถ ตอนนี้เขาควรจะทำให้สถานการณ์รอบตัวกลับเป็นปกติเสียก่อน “เดินไปคุยไปเถอะครับ” เธโอเดินนำเฟรผ่านถนนใหญ่ไปเปิดประตูร้านเดอะโมเมนโตท่ามกลางอากาศเย็นชื้นหลังฝนตกเกือบทั้งวัน เมื่อเข้ามาในร้านเขาก็พาเธอไปนั่งบนโต๊ะกลมสำหรับรับประทานอาหารในห้องครัว เครื่องปรับอากาศและไฟฟ้าในบ้านทำงานอัตโนมัติ เธโอเดินไปดูกาต้มน้ำบนเตาไฟฟ้าก่อนจะกดเปิดสวิตซ์ เขาหยิบถุงชาจากกล่องกระดาษใส่ลงในแก้วชาสองใบก่อนจะเทน้ำร้อนลงไป แล้ววางแก้วหนึ่งลงตรงหน้าเฟร ในขณะที่ตนเองเดินไปลงนั่งฝั่งตรงข้าม เฟรยกแก้วชาขึ้นดื่มสลับกับลอบมองอีกฝ่ายท่าทางลังเลไม่รู้ว่าควรจะพูดดีหรือไม่ เธโอจึงเป็นฝ่ายชวนเธอคุยก่อน “มีอะไรจะถามก็พูดมาเถอะครับ ผมไม่เป็นไร” “นายไปทำอะไรที่หอพักของคุณแครอลงั้นหรือ” “พอดีมีข้อมูลบางอย่างที่ผมอยากถามเธอ แต่ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้นซะก่อน” “ตอนฉันไปหาคุณเวนดี้ที่หอพัก นายเป็นคนห้ามฉันไม่ใช่หรือ ทำไมคราวนี้ถึงทำเองล่ะ” ริมฝีปากของเฟรขมุบขมิบเหมือนบ่นพึมพำไม่พอใจอะไรอยู่คนเดียว เธโอจึงยิ้มน้อยๆ ก่อนตอบคำถาม “เพราะผมมั่นใจว่ามีข้อมูลที่จะทำให้เธอยอมพูดได้น่ะครับ” “ข้อมูลอะไรงั้นหรือ” “ผมต้องบอกคุณด้วยหรือครับ” เฟรหรี่ตามองดูอีกฝ่ายอย่างไม่สบอารมณ์นัก “ฉันอุตส่าห์มานั่งเป็นเพื่อน แค่นี้ก็ต้องปิดบังด้วย” “ถ้าบอกแล้วอย่าเอาไปเปิดเผยได้มั้ยล่ะครับ ข้อมูลบางส่วนมันยังเป็นความลับน่ะ” “เห็นฉันเป็นคนยังไง ฉันรู้ว่าอะไรควรไม่ควรหรอก” เธโอชั่งใจอยู่พักหนึ่งจึงยอมพูด “เรื่องของคุณแครอล ผมเห็นว่าเธอเคยมีประวัติแจ้งความเรื่องค้าประเวณี ผมก็เลยคิดว่าเธออาจจะมีภาพถ่ายของ เรย์ เวลลี่ เก็บไว้บ้าง เลยไปหาเธอน่ะครับ” “แล้วจะไปหาเธอในฐานะอะไรล่ะ” เธโอหลุดหัวเราะในลำคอเบาๆ เพราะกำลังถูกคำถามของตนเองย้อนกลับมา เขากล่าวกับเธอ “มีคนไหว้วานให้ผมช่วยสืบเรื่องของเรย์ เวลลี่ น่ะครับ” “แบบนี้เบาะแสก็ขาดไปแล้วน่ะสิ” เสียงของเฟรเศร้าลงนิดหนึ่ง “คุณแครอลเสียแล้วนี่” “ไม่เชิงครับ ที่จริงผมได้ข้อมูลน่าสนใจมาจากเจ้าของหอพักด้วย” เฟรหยุดคิดไม่อยากถามเขาเรื่องที่หอพักอีกจึงพยายามเปลี่ยนเรื่อง “พอแล้วๆ วันนี้คนโพสต์ที่ใช้ชื่อก๊อปปี้แคทน่าจะลงคลิปฆาตกรรมชุดใหม่ ลองดูกันมั้ย” เธโอแตะสัมผัสหน้าโต๊ะแช่ไว้ซักครู่หนึ่งก่อนที่หน้าโต๊ะจะปรากฏภาพคล้ายภาพในจอคอมพิวเตอร์ โต๊ะในห้องอาหารก็เหมือนโต๊ะเคาน์เตอร์ข้างนอกและโต๊ะในห้องหนังสือคือเป็นจอคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมถึงกัน เธโอกดเลื่อนดูข้อความในกระดานข่าวก่อนจะหยุดลงที่ชื่อก๊อปปี้แคท เขาแตะเปิดกระดานที่โพสต์โดยก๊อปปี้แคท “วันนี้ไม่มีข้อความอะไรนะครับ มีแต่คลิปวีดีโอ” เฟรยังชอบใจกับผิวหน้าโต๊ะที่เป็นจอคอมพิวเตอร์ในตัวโดยไม่ได้สนใจคำพูดของเธโอ “จอบนโต๊ะนี่เหมือนในร้านอาหารกับในห้างเลย ฉันใช้งานได้มั้ย” “ผมตั้งค่าไว้ให้มันรับสัมผัสได้เฉพาะลายนิ้วมือผมน่ะครับ” “เสียดายจัง” สีหน้าของเฟรผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด “ตอนนี้มาดูคลิปกันก่อนดีมั้ยครับ ผมจะเอาขึ้นจอบนโต๊ะ” “จริงด้วย เปิดเลยๆ ” หลังจากเธโอกดคลิกลิงค์เข้าคลิปวีดีโอ ภาพวีดีโอเริ่มต้นจากกล้องมือถือในมือผู้ถ่ายค่อยๆขยับเข้าไปใกล้ประตูห้องสีน้ำตาลเข้ม คนถ่ายคลิปวีดีโอไม่ได้ปรากฎตัวในคลิปและไม่ได้ส่งเสียงออกมา เขาสวมถุงมือหยิบรีโมทย์ทรงสี่เหลี่ยมสีดำขนาดเท่านิ้วชี้ขึ้นมากดปุ่มก่อนยกนาฬิกาผ่านหน้ากล้อง เวลาสามทุ่มเป็นเวลาที่คาดว่าผู้ตายกำลังนอนหลับสนิทอยู่ ผู้ถ่ายคลิปวีดีโอนำผ้าขนหนูชุบน้ำอุดรูใต้ประตูไว้ก่อนจะสอดท่อยางผ่านรูที่จงใจเหลือทิ้งไว้เพื่อปล่อยก๊าสคาร์บอนมอนอกไซด์เข้มข้นจากถังขนาดเล็กเข้าไปในห้อง และภาพก็ตัดไปเพียงเท่านั้น เฟรย่นคิ้วก่อนจะเริ่มคำถาม “นี่คดีของคุณเวนดี้ ลอว์สัน ใช่หรือเปล่า” “คิดว่าใช่ครับ ก๊อปปี้แคทลงคลิปเป็นวันที่สองแล้ว ก็หมายความว่าพรุ่งนี้เขาอาจจะลงมือฆ่า เรย์ เวลลี่” “ถ้าเป็นอย่างที่ผ่านๆ มาก็ควรจะเป็นแบบนั้น ถ้านายอยากจับตัว เรย์ เวลลี่ ก็ต้องหาตัวเธอให้เจอก่อนก๊อปปี้แคท” สีหน้าของเธโอเครียดลงนิดหนึ่งก่อนจะมองไปที่โทรศัพท์ “ถ้าคาดไม่ผิด... อีกไม่นานคงมีโทรศัพท์เข้ามา” เธโอยังพูดไม่ทันขาดคำก็ปรากฏข้อความเตือนว่ามีสายเรียกเข้า เขาเห็นชื่อเควินเป็นผู้โทรเข้ามาก็ชั่งใจอยู่พักหนึ่งจึงกดรับสาย เสียงเควินดังออกลำโพง “เธโอ ถึงบ้านหรือยัง” “ถึงแล้วครับ ผมอยู่กับเฟร” “อ้อ งั้นฉันไม่กวนดีกว่า เธอสองคนคุยกันดีๆ ก็แล้วกัน” “โทรมาเรื่องคลิปวิดีโอของก๊อปปี้แคทหรือเปล่าครับ” เธโอรีบแทรกขึ้นก่อนที่เควินจะกดตัดสายทำให้อีกฝ่ายยอมตอบกลับ “เห็นแล้วใช่มั้ย มันคือภาพในคดีของเวนดี้ ลอว์สัน ตอนเข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่มีร่องรอยของคนร้ายเลย” “เหมือนกับคดีที่สองที่ถูกแฉเลยนะครับ” เธโอกล่าวก่อนจะบอกเรื่องที่เกิดขึ้นในหอพักกับเควิน “ที่จริงก่อนจะพบศพคุณแครอล ผมได้คุยกับเจ้าของหอพักนิดหน่อยแล้วก็ได้รู้ว่ากล้องวงจรปิดในชั้นที่คุณแครอลอยู่บังเอิญเสียตั้งแต่เช้าวันนี้ ไม่มีบันทึกการเข้าออกของคนแปลกหน้าช่วงนั้นด้วย แต่มีเรื่องนึงที่ผมสงสัยครับ” “เรื่องอะไรล่ะ” “หอพักของคุณแครอลเป็นแบบเช่ารายวันได้ ของเหยื่อรายอื่นๆ ก็เหมือนกันหรือเปล่าครับ” “เหมือนกัน เพราะไม่ใช่อพาร์ตเม้นหรือคอนโดก็เลยเปิดให้เช่ารายวันได้ ฉันลองตรวจสอบรายชื่อผู้ที่เข้าพักรายวันของทั้งสามหอพักที่เกิดคดีตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมาแต่ไม่พบชื่อที่เหมือนกันเลย และผู้เช่ารายวันส่วนใหญ่ถ้าจ่ายเงินมัดจำก็ไม่ต้องใช้เอกสารยืนยันตัวตนทำให้ตรวจสอบได้ยากมาก” “ถ้างั้นผมจะลองตามเบาะแสจาก เรย์ เวลลี่ ดูนะครับ” “นายรู้หรือว่าจะตามได้ที่ไหน” เฟรรีบแทรกขึ้น “ฉันเคยกดเข้าโพสต์รับสมัครงานของเรย์ เวลลี่ ค่ะ บางทีคนที่ฉันรู้จักอาจจะช่วยถ่ายภาพให้ได้” “งั้นลองติดต่อดูหน่อย ถ้าได้ภาพเมื่อไรก็ส่งมาให้ลุงแล้วกัน” “ได้ค่ะ ถือว่าฉันมีส่วนร่วมในคดีแล้วนะ” “ขอร้องว่าอย่าพึ่งเอาไปเผยแพร่ที่ไหนก็แล้วกัน วันนี้ลุงมีธุระต้องทำต่อ ลุงวางสายก่อนนะ” กล่าวจบเควินก็ตัดสายไปโดยไม่ได้ฟังเสียงของอีกฝ่ายซึ่งเธโอชินแล้วแต่เฟรนั่งกระพริบตาก่อนจะเงยหน้าคุยกับเธโอ “ปกติบทจะวางสาย คุณลุงก็วางไปดื้อๆ แบบนี้เลยหรือ” “ใช่ครับ” เฟรพยักหน้าเหมือนกำลังทำความเข้าใจก่อนที่สายตาจะเหลือบไปเห็นนาฬิการแขวนบนผนังซึ่งบอกเวลาเกือบห้าทุ่มแล้ว เธอสีหน้าตกใจรีบลุกขึ้นยืนพลางกล่าวอย่างร้อนใจ “ฉันต้องรีบกลับแล้วล่ะ บอกแม่ว่ามาธุระไม่นาน ป่านนี้คงรอแล้วแน่เลย” “ให้ผมไปส่งมั้ยครับ” “ฉันขับรถมา ต้องขับกลับอยู่แล้ว ไม่เป็นไรหรอก” เฟรเตรียมสะพายกระเป่าถือพลางลุกขึ้นยืน “งั้นผมเดินไปส่งที่รถ” “ได้สิ” เธโอเดินนำเฟรออกจากร้านเดอะโมเมนโตมาหยุดที่หน้าประตูรถของเธอในลานจอดรถ ในขณะที่เฟรขึ้นรถแล้วก็เปิดกระจกคุยกับเธโอ “นายไม่เป็นไรแล้วแน่นะ” เธอถามย้ำพลางลอบสังเกตท่าทีของเธโอ “เป็นอะไรหรือครับ” “ก็เรื่องที่เจอศพวันนี้ ตอนนายกลับมาท่าทางหดหู่มากเลย” “ผมไม่เป็นไรแล้วจริงๆ ครับ อาจจะแค่เหนื่อยนิดหน่อย” เฟรพยายามมองหน้าเขาซึ่งเธโอก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตอนนี้เธอจึงดูไม่ออกว่าเขารู้สึกยังไงกันแน่ เธอจึงได้แต่เปลี่ยนเรื่องคุย “พรุ่งนี้เป็นวันนัดพบของคนที่โอนเงินเพื่อไปทำงาน คนรู้จักที่ฉันบอกจะไปเจอกับเรย์ เวลลี่ตอนแปดโมงเช้า ฉันจะให้เขาช่วยถ่ายภาพมาให้ ถ้าได้แล้วฉันจะส่งให้นายทางโปรแกรมแชทนะ” “ขอบคุณครับ วันนี้คุณกลับดีๆ นะครับ” เฟรพยักหน้าแล้วปิดกระจกก่อนขับรถออกจากลานจอดรถไป หลังจากรถของเฟรลับสายตาไปแล้วเธโอจึงเดินกลับมาที่ร้านเดอะโมเมนโต เช้าวันรุ่งขึ้นเธโอกำลังหยิบขนมปังทาเนยเพื่อรับประทานกับกาแฟยามเช้า ข้างๆ ขนมปังมีหมูแฮมและไข่ดาววางอยู่ เขามองดูท้องฟ้าผ่านหน้าต่างในห้องครัวซึ่งยังคงมีเมฆให้เห็นแต่ไม่มีทีท่าว่าฝนจะตก เสียงเตือนข้อความเข้ามาทางโปรแกรมแชทดังขึ้น เธโอใช้นิ้วแตะสัมผัสจอบนโต๊ะอาหารเพื่อเปิดอ่านจึงได้เห็นข้อความจากเฟร “คนรู้จักฉันส่งภาพถ่ายมาให้แล้ว ลองเปิดดู” เธโอคลิกเปิดจึงเห็นภาพถ่ายของคนที่ชื่อ เรย์ เวลลี่ กำลังพูดต่อหน้าคนจำนวนมาก แต่ภาพถ่ายจากระยะไกลทางมุมขวาของใบหน้าเธอจึงทำให้เห็นภาพไม่ชัดนัก เธโอกดเข้าห้องแชทกับสกอเลอร์ก่อนพิมพ์เรียกอีกฝ่ายพร้อมกับส่งรูปถ่ายให้ “สกอเลอร์อยู่มั้ยครับ ผมได้ภาพถ่ายของคนที่ชื่อเรย์ เวลลี่มา อยากให้ช่วยหาทางวิเคราะห์และจำลองภาพได้มั้ย” ไม่นานนักสกอเลอร์ก็เริ่มพิมพ์ตอบกลับมา “จำลองภาพใบหน้าในรูปถ่ายให้สมบูรณ์ใช่มั้ย” “ผมอยากได้ภาพถ่ายของเธอในมุมที่ชัดกว่านี้” “รอซักครู่” ข้อความจากสกอเลอร์หยุดไปครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะอัพโหลดรูปใหม่ส่งกลับมาให้เธโอแล้วพิมพ์ถาม “ภาพนี้ใช้ได้มั้ย”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD