หลังจากที่เกวลินและเพื่อนๆไปหาอะไรกินเสร็จก็พากันมาหาที่สบายๆ ฟังเพลงที่ร้านเหล้าแถวคอนโด เกวลินที่พอกรึ่มๆ เมานิดๆก็ออกไปเต้นวาดลวดลายกลางฟลอร์เต้นรำมีบรรดาหนุ่มเล็กหนุ่มใหญ่เข้ามาเต้นด้วยจน เพื่อนๆก็สนุกสนานอาจเพราะไม่เจอกันนานปิดเทอมต่างแยกย้ายกันกลับบ้านวันนี้ถือว่าเลี้ยงฉลองที่เปิดเทอมกลับมาพบกันอีกครั้ง
'เอ้าชนนนน' สามสาวประสานเสียงกัน จากที่จะนั่งชิลแล้วกลับก็เพลินจนเวลาจะตี1 แล้วต่างคนต่างเมามายเดินขาขวิดกัน
"ยัยนัทตี้ ยัยดา ฉันว่าเรากลับกันดีกว่าฉันไม่ไหวแล้วเมา" เกวลินยืนแทบไม่ไหวเอ่ยชวนเพื่อนกลับบ้าน
"เออชะนีกลับก็ดีตอนนี้ฉันไม่ไหวแล้วเหมือนกัน " นัทตี้เห็นด้วยส่วนดาหลาฟุบหลับคาโต๊ะไปแล้ว
" งั้นแกแบกนังดาขึ้นมาเลยสลบไปแล้วนั่น " หลังจากนั้นก็พากันประคองเดินโซเซกลับออกไปจากผับโดยมีสายตาคมมองตามไปอยู่ห่างๆ
ทางด้านหัสดินหลังจากวางสายแทนไทก็ได้โทรสอบถามคนที่ตนส่งไปตามดูแลเกวลินแบบห่างๆโดยไม่ให้เจ้าตัวรู้ สายเขารายงานมาว่าเกวลินหลังจากเดินห้างก็มาต่อที่ผับ เขาตามมาดูแต่ไม่ได้แสดงตัวแต่อย่างใด พยายามดูอยู่ห่างๆเห็นเด็กนั่นเต้นยั่วยวนผู้ชายแล้วก็มันเคี่ยวหน้าจับมาตีให้ก้นลายจริงๆ ทำไมชอบทำตัวแรด
แต่ถึงยังไงเขาก็ไม่แสดงตัวตามดูจนอีกฝ่ายกลับคอนโดอย่างปลอดภัย เอาจริงๆเขาก็เข้าใจในวัยรุ่นที่ต้องมีเที่ยวบ้างเขาก็อยากให้เกวลินใช้ชีวิตตามวัยให้สนุกจึงไม่เข้าไปก้าวก่ายปล่อยไปตามวัยดีกว่า ถึงจะแอบขัดใจบ้างกับพฤติกรรมของหญิงสาวก็ตาม
เช้าวันต่อมา คอนโดเกวลิน
"โอ๊ยปวดหัวชะมัดเลย "
ร่างบางงัวเงียตื่นขึ้นมาบ่ายของวันต่อมา ดีวันนี้ยังไม่มีเรียนจึงไม่ต้องลำบากตื่นไปเรียนแบบเมาค้าง ไม่รู้ว่าตนกลับมาถึงห้องได้ยังไงภาพมันตัดไปเลยจำได้แค่ว่าพอแยกกันส่งเพื่อนขึ้นแท็กซี่ เธอก็นั่งรถกลับมาที่คอนโดที่อยู่ไม่ไกลมาก
"กริ่งงงๆๆๆๆ" เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
"ฮัลโหล "ร่างบางควานหาโทรศัพท์เจอก็กดรับสายโดยไม่มองหน้าจอ
"น้องเกล หายไปไหนมาป๋าโทรหาหนูเป็นร้อยสายทำไมไม่รับสาย รู้ไหมป๋าเป็นห่วงหนูมากแค่ไหน " พอกดรับสายเสียงของพระบิดาก็ดังตะคอกแทรกเข้ามาอย่างร้อนรนเป็นห่วง
"ป๋า ป๋าใจเย็นๆนะหนูเกลตอบไม่ทัน " เธอรีบเอ่ยห้ามผู้เป็นพ่อที่พอรับสายก็รัวคำถามมาเลย
"จะให้ป๋าใจเย็นได้ยังไงรู้ไหมป๋าคิดไปต่างๆนาๆเลยคิดว่าหนูเป็นอะไรไป คิดว่ามีคนทำไม่ดีไม่ร้ายหนูขอเถอะถ้าไม่ให้ป๋าส่งคนไปดูแลก็อย่าทำให้ป๋าเป็นห่วงได้ไหม "
ผู้เป็นพ่อบอกอย่างเป็นห่วงจะว่าเขาคิดเยอะเกินไปก็ได้แต่เขามีลูกสาวสุดที่รักที่เป็นแก้วตาดวงใจแค่คนเดียว จะไม่ยอมให้เป็นอะไรไปเด็ดขาด
"ป๋าน้องเกลขอโทษค่ะ น้องเกลผิดเองป๋าอย่าโกรธน้องเกลเลยนะคะ" เธอกล่าวขอโทษและออดอ้อนผู้เป็นบิดาอย่างสำนึกผิดที่ทำให้ผู้เป็นพ่อไม่สบายใจ
"ป๋าไม่โกรธหนูหรอกแค่หนูปลอดภัยป๋าก็สบายใจหายห่วงแล้ว" แทนไทเองเมื่อเจอลูกอ้อนของลูกสาวก็ใจอ่อนโกรธไม่ลงทุกที
"แต่ป๋าขอนะรอบนี้ป๋าจะให้ลุงดินไปดูหนูเกลนะลูกถือว่าป๋าขอ ป๋าจะได้ไม่เป็นห่วงหนูมาก"
ผู้เป็นพ่อรีบเสนอเมื่อมีโอกาสที่จะมีคนเข้าไปดูแลและรายงานความเป็นไปของลูกสาวโดยที่ลูกสาวจะไม่โกรธหากจับได้อีก
"ได้ค่ะป๋า หนูเกลจะเชื่อฟังที่ป๋าบอกค่ะ"
เกวลินตอบรับ แม้ผู้เป็นพ่อจะแปลกใจที่ลูกสาวยอมรับให้มีคนไปดูแลง่ายๆ แต่ความดีใจมีมากกว่าเลยไม่ได้เอะใจว่าตนได้ฝากปลาย่างไว้กับแมว เอ๊ะหรือจะเป็นฝากแมวไว้กับปลาย่างที่แสนอร่อยนะ
เกวลินได้แต่กระหยิ่มยิ้มย่องในใจเข้าทางเธอแล้ว...