Chapter 18

1914 Words
เจ้าของร่างเย้ายวนในชุดเรียบหรูดูดี เสื้อแฟชั่นกับยีนเข้ารูปสมสัดส่วนกระแทกส้นสูงปึงปังหนีมาได้สักพัก ใบหน้าสดสวยบึ้งตึงบอกว่าเธอไม่อยู่ในอารมณ์สนทนากับใครหน้าไหนทั้งนั้น! อีพวกนี้ก็มองกันจริง ไม่เคยเห็นฝรั่งหล่อ ๆ หรือไงยะ! มีผู้หญิงเดินมาด้วยกันแท้ ๆ เธอทำได้แม้กระทั่งด่าผู้คนรอบกายในใจ สาเหตุที่หงุดหงิดขึ้นมา แม้แต่ตัวเองยังไม่รู้ว่าเพราะอะไรแน่ ปลายส้นสูงสวยทรงแก้วใสหยุดก้าวลงตรงประตูบานเลื่อนกระจก มีลมเย็นวูบพัดโชยมาจากข้างนอก ท่ามกลางความมืดมิดของแม่น้ำในยามค่ำคืน สวยสว่างด้วยแสงไฟ รายล้อมรอบด้วยตึกสูงเสียดฟ้า ท่าเรือแห่งนี้ยังมีไฟประดับประดาจากเรือสำราญขนาดใหญ่ที่สุดของน่านน้ำเจ้าพระยา สามารถจุคนได้มากกว่าหนึ่งพันคน รอบ ๆ ตัวเรือสีขาวมีไฟสปอร์ตไลท์สีม่วง มองเห็นน้ำพุเปลี่ยนสี เวทีแสดงดนตรีบนดาดฟ้าเรือ แม้ไม่ใหญ่เท่าเรือที่ล่องในมหาสมุทร แต่ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการด้านความบันเทิงอย่างครบครัน เท่าที่ได้ยินราคาคุยมาจากรุ่นพี่รหัส หากจะพูดถึงเครดิตลูกชายเจ้าของเรือสำราญที่มีทั้งในน่านน้ำเจ้าพระยาและแหลมฉบัง ธามไทคงเหมาะสมกับเธอมากกว่านายอานนท์ด้วยซ้ำ น่าเสียดายที่ตอนนี้ลูกสาวคุณนายนิตยาไม่แลใครสักคน... และแม่บังคับอะไรเธอไม่ได้! ความคิดหยุดลงเมื่อเห็นว่าเพื่อนรักโบกไม้โบกมือให้ไกล ๆ เธอจึงชูมือขึ้นสะบัดไปมาตอบเป็นเชิงว่าคงไม่เข้าไปรบกวนเวลาแสนหวานของสองหนุ่มสาวที่กำลังจะจูงมือกันเข้าประตูวิวาห์ในอาทิตย์หน้านี้ พอดีกับที่โทรศัพท์สั่นดังทำให้ต้องรับสายของชายหนุ่มที่วิ่งมาหาในอีกครู่ เขาผ่อนลมหายใจหอบเหนื่อย “ปริม... ทำไมไม่รับโทรศัพท์พี่เลย พี่โทรไปตั้งหลายรอบ” “ยุ่งอยู่ค่ะ... ไปเช็คอินมา ปริมรูดการ์ดแม่พาพุด พี่เปากับคุณอลัน เลขาฯ มาเที่ยวด้วยน่ะ” ไหวไหล่ตอบโกหกไปส่วนหนึ่ง ไม่แปลกที่อีกคนจะไม่พอใจ “ทำไมไม่บอกล่ะว่าชวนเพื่อนมาด้วย... พี่บอกแล้วว่าจะพาปริมมาไง พ่อพี่เป็นเจ้าของเรือนะ ปริมจะเอาตั๋วกี่ใบปริมบอกพี่คำเดียว พี่เอามาให้อยู่แล้ว” ท่าทางกึ่งบ่นของผู้ชายมากคารมพารอยยิ้มระรื่นบนวงหน้างาม ร่างสูงในเชิ้ตทำงานโน้มตัวลงคว้ามือเรียวเล็กไว้แผ่วเบา “ปริมยิ้มให้พี่... แปลว่าไม่ได้โกรธพี่แล้วใช่ไหม?” “ปริมจะไปโกรธอะไรพี่ธามคะ? นู่น... คนที่ควรโกรธพี่น่าจะเป็นคนนู้นมากกว่า” พูดพลางชายตามองไปทางฝั่งซ้าย ผ่านฝูงชนที่นั่งรอเวลาเรือออกอยู่ในเล้าจน์ที่มีเครื่องดื่มต้อนรับ หญิงสาวหน้าตาสะสวยคนหนึ่งกำลังมองเธอและเขาอยู่ ปานทิพย์ เป็นผู้จัดการแผนกอาหารในที่ทำงานเดียวกันกับธามไท เรือสำราญหรูเครือซีเพิร์ล ใบหน้าสดสวยเจือยิ้มร้ายกาจ จุดประสงค์ที่นัชชายอมตอบรับนัดหมายคือตั้งใจมาสะสางความแค้นเป็นการส่วนตัว กระสุนนัดเดียวได้นกตั้งหลายตัว! “พี่บอกว่าไม่ได้เป็นอะไรกับใครทั้งนั้น พี่คบปริมคนเดียว ทำไมไม่เชื่อพี่ ไปฟังใครมาอีก” “ใครบอกไม่เชื่อคะ? ปริมต้องเชื่อพี่ธามอยู่แล้ว ไปกันเถอะ...” ชวนแล้วเธอก็เลื่อนมือลงกุมมือหนา เพื่อที่จะจับจูงกันเดินไป ร่างบางหยุดปลายเท้าลงข้างหน้าผู้จัดการสาวที่หน้าเผือดทันที และถึงแม้ว่าชายหนุ่มที่จับจูงมือกันอยู่จะพยายามกระตุกมือเบา ๆ ก็ไม่มีประโยชน์ “คุณผู้จัดการ... เป็นไงบ้างคะ? วันนี้ลูกค้าเยอะไหมเอ่ย” ทักทายด้วยรอยยิ้ม หญิงสาวในชุดสูทสุภาพยกมือไหว้อย่างมีมารยาท “ค่ะ... ฉันต้องขอโทษด้วยนะคะ ที่ทำให้คุณเข้าใจผิด” เพราะว่าคนโดนตบไม่ใช่คนที่ควรขอโทษ! นัชชาเลยหัวเราะจนน้ำตาเล็ด ปัดป่ายมือไปมา “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่กล้าถือสาคุณหรือพี่สาวของคุณหรอก หน้าตานิสัยใสซื่อเหมือนกันไม่มีผิด ได้ข่าวว่าพี่สาวกำลังโดนฟ้องเพราะไปวางยาผู้ชายคงยุ่งหน่อยนะคะ” สองหนุ่มสาวตะลึงมองอย่างไม่เชื่อหู ไม่มีใครคิดว่านัชชาจะทำตัวหยาบคายยิ่งกว่าคราวก่อนตอนพบกัน เป็นธามไทที่ปรามเสียงเข้ม “ปริม... ทำไมพูดแบบนี้กับเพื่อนพี่ มากไปแล้วนะเรา” “ไม่มากไปหรอกค่ะ ถ้าเทียบกับที่คุณอลันโดน และปริมต้องไปนอนเฝ้าไข้อยู่ตั้งสี่วันสามคืน ก็คงต้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุด อีพวกชอบแย่งผัวชาวบ้าน เมียเขาท้องอยู่แท้ ๆ ไม่มีจิตสำนึกความเป็นมนุษย์เลยหรือไง...” คำด่าทอหันไปอีกทาง แต่ดันกระทบเข้ากับเจ้าของร่างบางที่ยืนตัวสั่นเทา ไม่รู้ว่าโกรธหรือรับเรื่องนี้ไม่ได้กันแน่ ปานทิพย์เงยหน้าขึ้นประจันใบหน้าสะสวยแต่งแต้มเครื่องสำอางอ่อน ทว่าแฝงความร้ายกาจไว้บนอายไลเนอร์คมกริบที่ละจากชายหนุ่ม เพื่อหันกลับมาทางเธอ “แค่นี้้ทำน้ำตาซึม ฉันแค่พูดถึงพี่สาวคุณเองนะ ไม่ได้พูดถึงพ่อแม่สักหน่อย ถ้าไม่อยากให้ใครเขาว่าก็สั่งสอนคุณปิ่นแก้วให้หัดทำตัวดี ๆ ลานะคะ” แล้วเธอก็สะบัดมือหนาออกอย่างไร้เยื่อใย ก้าวฉับ ๆ ไปไม่รอคนข้างหลัง ด่าแล้วก็หนีสิ... จะรออะไร! “ปริม... จะไปไหน!?” เสียงตวาดไล่ตามคนที่เร่งฝีเท้าให้เร็วจนเกือบจะวิ่ง กระทั่งพบเข้ากับชายหนุ่มอีกคน อลันกำลังชะเง้อคอมองหาเธออยู่ด้วยเขาคงไม่อยากขัดคำสั่งเจ้านายว่าให้เฝ้ายัยตัวแสบไว้ให้ดี เขากลับยืนนิ่งอึ้งไปหลังจากที่เจ้าตัวบอกว่าชวนมาเที่ยวด้วยกัน แต่จูงมือผู้ชายคนอื่นหน้าตาเฉย ซึ่งมันดันเป็นเรื่องเข้าใจผิดไปทั้งหมด “ปริม! ไปขอโทษเพื่อนพี่เลยนะ ทิพย์ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพี่ปิ่น ปริมไม่มีสิทธิ์ไปว่าเขาแบบนั้น” คำต่อว่าสุดท้ายเมื่อนัชชาก้าวมาถึงเลขาฯ ส่วนตัว ทำเอาธามไทโมโหจนเลือดขึ้นหน้า ด้วยความที่เคยไปเที่ยวบ้านปรเมษฐ์ ก็คงจะต้องจำเลขาฯ ได้ “อ้อ... หนุ่มที่บอกว่าไปนอนเฝ้าไข้” “ใช่ค่ะ คนนี้แหละคุณอลัน... คู่เดทของปริม ขอตัวนะคะพี่ธาม ไว้เจอกันเมื่อชาติต้องการ” ท่าทางโบกมือลายั่วยวนโทสะพาชายหนุ่มกัดกรามแน่นเป็นสันนูน มองชายแปลกหน้าปานจะกินเลือดเนื้อ ในสีหน้าเคร่งขรึมของชายอีกคนดูเยือกเย็นราวกับว่าเขาไม่รู้สึกอะไร ทว่าพอเธอยกมือขึ้นควงคล้องแขนเป็นล่ำสันอย่างสนิทสนม แววตาสีฟ้าครามประกายเข้มจัดมองคนตัวเล็กอย่างโกรธขึ้ง สะบัดมือของเธอออกแล้วเดินหนี เพราะไม่ได้เต็มใจให้นัชชาใช้เป็นเครื่องมือแต่แรกอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ได้ลืมว่ามีหน้าที่จะต้องเฝ้าตัวสร้างปัญหา ที่เดินตามหลังมาพอถึงเวลาขึ้นเรือไปเดท คงไม่ใช่เดทสำหรับคนที่ไม่ได้รู้สึกผิดอะไร ยังดูอารมณ์ดีเพราะได้ทำเรื่องสาแก่ใจหลายเรื่อง “พ่อเลี้ยงเตือนอะไรไม่ฟังเลยใช่ไหม? พูดความจริงมาดีกว่า แบบนี้ผมไม่ชอบ” ต่อว่าเสียงเข้ม ก่อนหันไปส่งกระดาษใบเล็ก ๆ ให้พนักงานหนุ่ม ที่ก้มหน้าดูตัวเลขแล้วเดินนำหน้าไป หญิงสาวก็ยกส้นสูงแหลมก้าวตาม “พี่เปาบอกว่าคุณอลันทำแต่งาน ไม่เคยไปเที่ยวไหนเลย ปริมแต่งตัวสวยมาเที่ยวกับคุณจริง ๆ นะคะ เมื่อกี้... แค่ทางผ่านน่ะ” คำพูดกลับไปกลับมาของนัชชาเป็นอย่างหนึ่งที่แม้แต่มืออาชีพยังจับผิดไม่ได้ และเขาก็ไม่พอใจมาก ไม่รวมไอ้เรื่องที่แทนตัวเองว่า ‘ปริม’ เวลาจะล่อหลอกเขาทุกครั้ง! “ผมเตือนคุณแล้วนะว่าอย่าไปยุ่งกับปิ่นแก้ว ผมจะจัดการเรื่องของเจ้านายผมเอง” “ฉันไม่ได้ทำอะไรเขานี่ แค่แสดงความคิดเห็นทางโซเชียล มันเป็นสิทธิเสรีภาพทางความคิดนะคะ ตราบใดที่ไม่ได้ไปล่วงละเมิดใคร ฉันไม่โง่ไปด่ามันให้โดนฟ้องหมิ่นประมาทอยู่แล้วป่ะ” พูดจบ เธอก็ก้าวตามพนักงานแทนคนที่ไม่ยอมให้ความช่วยเหลือสุภาพสตรี เรียกเสียงหวาน “คุณน้องคะ... ขอยืมแขนหน่อย พี่ใส่ส้นสูง เดินไม่ค่อยถนัด” ด้วยความเคยชินนิสัยตามแม่ แม้ตัวเองจะอายุน้อยกว่า คนนอกมองหลังอย่างหวาดผวา ไม่อยากมีปัญหาเป็นมือที่สามกับลูกค้าที่กำลังเดือดดาล! ชายหนุ่มก้าวพรวดไปคว้าต้นแขนเล็ก ดึงขึ้นบันไดเลื่อน เก็บงำประกายสายตาวาวโรจน์ไว้อย่างถึงที่สุด “แล้วจะใส่รองเท้าส้นสูงมาทำไม? วันหลังกรุณาลากรองเท้าแตะหรือรองเท้าที่ผู้คนเขาใส่กัน ไม่ต้องไปเป็นภาระใคร” “ฉันตัวเล็กกว่าคุณอลัน...” ในท่าทางน้อยอกน้อยใจไม่สมเป็นนัชชา ชายหนุ่มทำตาขวางอย่างไม่สบอารมณ์ “ไม่ต้องมาทำเป็นพูดดี ผมไม่ได้โมโหน้อยลงเลยนะ ปริม คุณเป็นเด็กนิสัยเสียมากเพราะโดยสปอยล์ เหมือนที่คุณพุดบอกทุกอย่าง” คำบริภาษของเขาทำเอาเธอรู้สึกเจ็บจุก! จึงนิ่งเงียบไปจนถึงโต๊ะรับประทานอาหารที่มีผ้าปูโต๊ะสีขาวสะอาด คนนำทางก็ขอตัวไปพร้อมคำอวยพรให้สนุกสนานกับการท่องเที่ยว ต่างคนนั่งลงในฝั่งตรงข้ามกัน เชิงเทียนทอแสงสลัวท่ามกลางความมืด ขับสีแดงสดของดอกกุหลาบในแจกันแก้ว ให้บรรยากาศโรแมนติก เรือสำราญหรูในน่านน้ำเจ้าพระยา ผู้คนคึกคักยังมีวงดนตรีกล่าวต้อนรับ บนชั้นดาดฟ้าโล่งกว้างของเรือที่แล่นไปช้า ๆ ผ่านสองฝั่งลำน้ำยามค่ำคืน สามารถมองเห็นทิวทัศน์เมืองกรุงได้อย่างรอบตัว 360 องศา ปรายลดากับพ่อเลี้ยงนั้นอยู่ในชั้นที่มีเครื่องปรับอากาศคือชั้นสอง ไม่รู้ว่าเป็นแผนการของเพื่อน เพราะถ้าหากว่าเจ้านายอยู่ใกล้ ๆ อลันก็จะห่วงงาน หรือเป็นเพราะปรเมษฐ์ไม่อยากให้คนท้องโดนลมเย็น ๆ กันแน่ กระแสโทสะยังคงลอยวนอยู่รอบกายหญิงสาวที่ไม่กล้าพูดอะไร เส้นผมสีน้ำตาลเป็นลอนปัดปลิวไปกับลม เธอได้สูดกลิ่นอายของลมและน้ำให้ใจเย็นลง จึงอยากจะเอ่ยคำขอโทษ “คือฉัน...” “ผมไม่ชอบผู้หญิงแต่งตัวโป๊ นิสัยไม่ดี ปากร้าย หยาบคาย ขี้อิจฉาเหมือนปิ่นแก้ว” สีหน้าของเขายังเต็มไปด้วยความขุ่นข้องหมองใจ ผิดหวังกับคำชักชวนที่อุตส่าห์ดีใจ ริมฝีปากบางเฉียบเม้มเข้าหากันแน่นสนิท นัชชาไม่ได้พูดอะไรหลังจากนั้นแม้แต่คำเดียว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD