คุณนายนิตยาไม่อนุญาตให้ลูกสาวอยู่ตามลำพังกับผู้ชายคนไหน แม้แต่นายอานนท์ ว่าที่ลูกเขยที่ดูเหมือนว่าจะตกกระป๋องเรียบร้อยด้วยฝีมือความช่างขุดคุ้ยของแบร์นาร์ด นายธามไทด้วยอีกคน
ไม่มีใครรู้เรื่องระหว่างเขากับนัชชา...
“อ้อ... นี่แม่ส่งมาเป็นสปายใช่มะ? จะมาสืบล่ะสิว่าฉันไปไหน ทำอะไร ฉันไม่ใช่ผู้ก่อการร้ายข้ามชาตินะคุณ ทำไมต้องมาตาม คุณน่ะ กลับไปทำงานกับพี่เปาสักทีเหอะ” ต่อว่าอย่างไม่พอใจ ทว่าพอดวงตาคู่คมละจากจอสี่เหลี่ยม ข่มขู่ด้วยเสียงดุดัน
“ให้แบร์นาร์ดส่งคนอื่นมาดีไหม?”
“ไปดินเนอร์ครูซกับพี่ธาม แล้วค่อยไปเดินตลาดไนต์มาร์เก็ตกับเพื่อนพวกยัยแหม่มน่ะ” ตอบแล้วก็ยิ้มเจื่อน เปลวไฟลูกหนึ่งปรากฏในดวงตาคู่คมปลาบ
“ผมจะบอกคุณนายว่าคุณไปกับแฟน และไปกับเพื่อน”
“เลิกกันแล้ว เป็นเพื่อนหมดทุกคนนั่นแหละ เอาเป็นว่าบอกแม่ว่าฉันไปกับเพื่อนละกัน” คนพูดไม่ได้มีเจตนาปิดบังแต่ชายหนุ่มเข้าใจไปอีกอย่าง
เขาไม่คิดว่าการที่เธอเลิก ๆ คบ ๆ ไปเรื่อยกับผู้ชายหลายคนเป็นเรื่องดี เท่าที่ได้ยินมา คุณหนูปริมออกเดทกับหนุ่ม ๆ ไปทั่ว ใครชวนไปก็ไป
“รอก่อนละกัน ฉันชวนพี่เปากับยัยพุดไปด้วย เอ่อ... วันก่อนคุณเมา ฉันว่าจะบอก...”
“ครับ...?”
คิ้วเข้มหนาขมวดมุ่นมองแก้มสีขาวนวลที่กลายเป็นสีแดงระเรื่อ การที่เธอทำพูดจาอ้อมค้อมไปมา ชวนเลขาฯ ผู้ชายเข้าห้องยังลงกลอนด้วยมือของตัวเอง ควรต้องมีเหตุผลบางอย่าง
“ของคุณอลันด้วยใบนึง... ซื้อตั๋วเรือเกินมา”
สิ้นคำสั่งสุดแสนเป็นกันเอง คุณหนูประจำบ้านก็หยิบผ้าเช็ดตัวเดินหายเข้าห้องน้ำไป
ร่างสูงก้าวสั้น ๆ หย่อนก้นนั่งลงบนที่นอนอย่างถือวิสาสะ แทนที่เขาจะไปนั่งตรงโซฟาในฐานะ ‘แขก’ อาจเป็นเพราะว่าเขาไม่เคยคิดว่าตัวเองอยู่ในสถานะแขกหรือลูกจ้างมาแต่แรก
ซื้อตั๋วเกินงั้นเหรอ?
คิดพลางหัวเราะในลำคอ ตาคมจับจ้องอยู่กับประตูห้องน้ำยังกับว่าสามารถมองทะลุผ่านไปได้ คนข้างในกำลังทำอะไร? ภาพความสวยจับตาบนเรือนร่างงามยังอยู่ในหัวสมอง ซึ่งเขาต้องส่ายหน้าแรง ๆ เพื่อสลัดมันออกไป
พอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรรายงานคุณนายนิตยาว่าลูกสาวกำลังจะไปดินเนอร์ เขาบอกแค่ว่าเธอพักอยู่คอนโดมิเนียมของปรายลดาละแวกไหน ไม่ได้ระบุสถานที่หรือเลขห้อง ส่งตารางนัดหมายผ่านอีเมลผ่านแท็บเล็ตในมือ
ไม่นาน กลิ่นหอมโชยผ่านมาตามลมพร้อมร่างบางในชุดคลุมอาบน้ำ ผมเปียกหมาดสีน้ำตาลซึ่งได้ยินเสียงไดร์เป่าผมพาหัวใจสั่นระรัว ดวงตาคู่คมเข้มประกายตามติดไปจนประตูห้องน้ำปิดลงอีกครั้ง
นัชชาลืมไปว่าเธอควรหยิบชุดเข้าไปด้วย ในเมื่อมีผู้ชายนั่งทนโท่เป็นท่อนไม้อยู่หนึ่งคนในห้อง ขณะที่เธอส่งยิ้มยั่วยวนด้วยอีกต่างหาก แต่ก็ไม่รู้ว่าเธอคิดผิดหรือเปล่าที่ทำใจกล้า เพราะในทุกย่างก้าว รู้สึกได้ถึงดวงตาคู่คมปลาบเต็มไปเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ปรารถนา
ออกจากห้องน้ำอีกครั้ง โดยใช้เวลาแต่งตัวไม่นาน เสื้อแฟชั่นเปลือยไหล่เข้ารูปสีดำสนิทเข้ากันดีกับกางเกงยีนสีซีด แขนเสื้อยาวคลุมถึงข้อมือไม่ได้ทำให้มันดูเรียบร้อยเพราะอกอวบอัดคัพมหึมาเบียดเสียดกันแน่น
ใบหน้าหล่อเหลาขมึงทึงหนัก กวาดสายตามองแต่หัวจรดเท้าอย่างขุ่นเคืองใจ
“แต่งตัวแบบนี้แน่ใจนะว่าแม่ไม่ว่า?”
“แม่ฉัน... ใส่ยิ่งกว่านี้ย่ะ แล้วนี่ก็เสื้อแม่ฉัน” เธอเถียงเต็มปากเต็มคำ
ภาพคุณแม่ยังสาวลอยเข้ามาในหัวชายหนุ่มแต่เป็นเพราะว่าเขาพบคุณนายแค่ตอนทำงานเท่านั้น เลยไม่รู้ว่าหล่อนแต่งตัวอย่างที่ลูกสาวพูดหรือเปล่า
“ชุดมันออกจะเข้ากันดีเห็นไหม? ข้างล่างกางเกงยีนขายาว ข้างบนก็ต้องเปิดนิดหน่อย พอเป็นอาหารตา เคยบอกแล้วนี่คะ ฉันเป็นพวกชอบทำบุญทำทาน ไปกันได้หรือยังคะ? ฉันรีบ” บอกแล้วก็เดินนำหน้าไป โดยมีชายหนุ่มทำฟึดฟัดตามไปติด ๆ ไม่ลืมหยิบโทรศัพท์มือถือจากกระเป๋า โทรหาปลายสายบอกว่าไม่ต้องมารับเธอที่ออกจากบ้านแล้ว
การที่หญิงสาวทำให้เขาดีใจและเข้าใจผิดอีกครั้งไม่เป็นเรื่องดีต่อการทำงานที่ไม่ควรรับปากทำแต่แรก เธอได้จองตั๋วล่องเรือสุดแสนโรแมนติกสองที่นั่งของปรายลดากับสามี และของเขาด้วย ยังไม่ยอมให้นายธามไทมารับ
บางทีเธอคงไม่อยากให้เขาต้องเหงาอยู่คนเดียว หลังเลิกงานแล้วกลับบ้านไปใช้ชีวิตคนโสดลำพังเหมือนทุกวัน ไม่ได้สนใจว่าเขาอาจมาเป็นก้างขวางคอ! ของเจ้านายคนเก่าหรือของนายลูกชายเจ้าของเรือ
“วันนี้คุณต้องเป็นพี่ชายปริมนะ... ดูสิคุณอลัน เราตาสีเดียวกันอ่ะ” บอกพลางควงคล้องแขนอย่างสนิทสนม
คอนแทคเลนส์สีฟ้าครามประกายเข้ากันกับใบหน้างามหมดจด สาวเอเชียได้กลายเป็นฝรั่งนางแบบลูกครึ่ง ตามผิวงามและความสวยลงตัวโดยไม่ต้องแต่งเติมอะไรมาก กระทั่งว่าผมสีน้ำตาลเข้มช็อกโกแลต ทรวดทรงสมส่วนของคนทั้งคู่ ไม่หนีว่าเป็นคู่รักก็เป็นพี่น้องฝาแฝด
“หน้าก็เหมือนกัน...”
“ผมไม่เห็นด้วยกับการหลอกลวง... ผมจะกลับนะ เชิญคุณเที่ยวกับแฟนไปเถอะ ตามสบาย” ในน้ำเสียงเย็นยะเยือกพาดวงตาคู่สวยเบิกกว้างตะลึง กว่าจะลากหลอกเขามาถึงศูนย์การค้าติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
เป็นโชคดีที่ปรายลดากลับมาจากโต๊ะลงทะเบียนที่ได้จองที่นั่งเอาไว้ แน่ว่าเป็นสมนาคุณจากบัตรเครดิตที่คุณนายนิตยาใจอ่อนยอมเปิดวงเงินให้ลูกสาวเหมือนเดิม
“พ่อเลี้ยงกับยัยพุดมาแล้วนั่น” ปลายนิ้วชี้ไปทางชายหนุ่มที่เดินจูงมือคุณแม่ในเดรสทรงพอดีตัวสีชมพูหวาน ดูผ่าน ๆ อาจไม่เหมือนคนท้องสักเท่าไร ด้วยความเป็นคนตัวเล็ก
ในศูนย์การค้าวันนี้มีคนไม่มากเนื่องมาจากว่าเป็นวันธรรมดา นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยังเป็นคนไทยหลังประสบวิกฤติการณ์โรคติดต่อโควิด-19 บางคนใส่หน้ากากอนามัยบ้างก็ไม่ใส่ แต่สำหรับการขึ้นเรือล่องชมแม่น้ำเจ้าพระยาในประเทศไทย ผู้คนให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเองและสังคมมากขึ้น
พอปรเมษฐ์พาภรรยาตามมาสมทบพร้อมบัตรผ่านประตู เจ้านายหนุ่มรู้ใจเลขาฯ ที่ไม่ต่างจากสหายหรือพี่น้องเพราะทำงานร่วมกันมาเกือบสิบปี
“ขึ้นเรือไปด้วยกัน แกน่ะ อยู่กับยัยปริมไปนั่นแหละ หน้าตาไม่น่าไว้ใจ จะก่อเรื่องอะไรอีกหรือเปล่าก็ไม่รู้”
“พี่เปาทำไมพูดงั้นอ่ะ เห็นปริมเป็นนางร้ายไปได้ ปริมจะไปก่อเรื่องอะไรเล่า” เสียงเง้างอนแย้งพ่อเลี้ยงของเพื่อนรัก ก่อนจะถูกว่าด้วยน้ำเสียงเข้มเครียด
“คิดว่าพี่ไม่รู้หรือไง เรื่องปิ่นแก้วน่ะ เพลา ๆ ลงบ้าง ปล่อยนางไป นางทำอะไรพุดไม่ได้อยู่แล้ว อย่าให้พี่ต้องพูดกับแม่เราเลยนะ” ปรเมษฐ์ได้ดุเด็กสักหน่อย เจ้าตัวก็ทำหน้าบึ้งตึง ไม่กล้าที่จะเถียงเขาซึ่งอายุถึงสี่สิบสองปี ร่างสูงในเสื้อยืดสีเดียวกันกับภรรยาตบบ่าผู้ชายตัวเท่า ๆ กัน
“อลัน งานไม่ต้องทำ เฝ้ายัยตัวแสบนี่ไว้ เข้าใจ?” คำสุดท้ายที่พูด แทนที่ปรายลดาจะช่วยเธอสักหน่อยกลับทำแลบลิ้นใส่ เอาสติกเกอร์อันเล็ก ๆ มาแปะไว้บนเสื้อ ส่งกระดาษให้อลันรับไปเพื่อที่จะให้เธอตามไปเจอกันทีหลัง
“เออ! ไปเลย ไปกับผัวเลย มีผัวแล้วลืมเพื่อน คนอะไรช่วยมาตั้งเยอะ ไม่เคยสำนึกบุญคุณ” นัชชาได้แต่ยืนโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยง มองตามหลังคนที่เดินหายไปกับฝูงชน สวีทหวานกับสามีไม่เกรงใจฟ้าดิน จากนั้นเธอก็เริ่มเหวี่ยงแม้กระทั่งกระดาษบนเสื้อ ที่มีตัวเลขและลวดลายดอกไม้เป็นสัญลักษณ์บอกว่าเธอจะต้องขึ้นไปล่องเรือลำไหน
“มันจะหลุดไหมเนี่ย? ฮึ่ย... บ้าจริง จะทำมาทำไมก็ไม่รู้สติกเกอร์อันแค่นี้ ไม่ทำอันเท่าฝาบ้านแปะไว้กลางหัว เป็น wristband แบบ Seven Seas Explorer ไม่ได้หรือไงนะ แบบนี้ฉันก็ทำหายน่ะสิ”
ชายหนุ่มเห็นอยู่ว่าบางคนหงุดหงิดเอามาก ๆ ยังเข้าใจไฮโซสาวที่กำลังพูดถึงเรือสำราญล่องในมหาสมุทรไปทั่วโลก ระดับความหรูหราเท่าโรงแรมหกดาว มูลค่าชุดเครื่องนอนในห้องพักก็สูงถึงสามล้านบาทเศษเข้าไปแล้ว
สำคัญที่สุดคือมีบัตเลอร์ให้บริการแบบส่วนตัวสำหรับไฮโซ เศรษฐี ไม่รู้ว่าเหมือนสถานภาพของเขาในตอนนี้หรือเปล่า...
แล้วเขาจะเป็นมากกว่านี้ได้ไหมนะ?
“คิดอะไร? มองอะไร ๆ ไม่เคยเห็นคนสวยหรือไง ยิ้มอะไร คุณอลัน” เธอเอาเรื่องคนที่ยืนยิ้มอยู่เงียบ ๆ หลังเปลี่ยนที่ติดสติกเกอร์ไว้บนผิวตรงหน้าอกของตัวเองแทน
“เปล่า... ไม่ได้คิดอะไร แล้วคุณไม่ไปกับแฟนเหรอ?” ถามทั้งที่ไม่ใช่นิสัยของอลันแม้แต่น้อย และก็ไม่ใช่นิสัยของนัชชาที่จะยอมสารภาพความจริง
“ไปทักทายหน่อยแค่นั้นแหละ ฉันตั้งใจมากับคุณอลัน... จะไปด้วยกันไหม?”
ชายหนุ่มชะงักนิ่ง มือถือตั๋วสองใบในท่าทางไร้คำตอบ ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันจนเหยียดตรงก่อนจะระเบิดอารมณ์
“ไม่ไปก็อย่าไป ไปคนเดียวก็ได้!”
กิริยาไม่น่ารักของนัชชาทำวงหน้าหล่อเหลาผุดรอยยิ้มอีกรอบ ก่อนที่เขาจะก้มหน้าลงมองกระดาษในมือซึ่งเป็นตั๋วขึ้นเรือของเธอก่อนนึกขึ้นได้ว่าเลขาฯ สุดเนี้ยบอย่างเขาไม่ควรยืนทำหน้าซื่อบื้อกับเรื่องเล็กน้อยแค่นี้