ร่างสวยสง่ากำลังนั่งจิบไวน์รสชาติโปรดอยู่ที่โต๊ะตัวใหญ่ท่ามกลางจอมอนิเตอร์หลายสิบตัว ที่กำลังฉายภาพเคลื่อนไหวของใครบางคนให้เธอได้เผลอสบมองอย่างคนอารมณ์ดี
เธอกำลังยกยิ้มให้กับอาการกระวนกระวายของคนตรงหน้าที่นั่งอยู่ไม่สุข นั่งสั่นขาไปมาเหมือนกับคนกังวลอะไรบางอย่าง และเธอก็เดาได้ว่าที่เขาเป็นอย่างนี้ก็เป็นเพราะ...เธอนั่นเอง
ไม่ใช่ว่าอยากจะเข้าข้างอะไรตัวเองหรอกนะ...แต่การที่เขาหันมองทุกคนที่เดินผ่านและการนั่งกุมขมับเหมือนรอใครสักคนแบบนั้น มันกลับทำให้เธอกำลังรู้สึกสนุก...และรู้สึกอยากกลั่นแกล้งเขาให้มากขึ้นไปอีก
“อิง...ไปบริการคุณเหนือฟ้าทีสิ”
“รับทราบค่ะคุณดาวเหนือ” และเธอก็กดปุ่มวางสายลงทันทีที่ปลายสายนั้นตอบรับ
รสไวน์จากแก้วทรงสูงนั้นถูกไหลรินเข้าปากเรื่อย ๆ อย่างไม่รีบร้อน ภาพของคนทั้งสองที่เธอนั่งจ้องมองดูอยู่เริ่มทำให้ดาวเหนือรู้สึกพึงพอใจที่คน ๆ นั้นดูเหมือนจะไม่ได้มีอารมณ์ร่วมไปกับเด็กที่เธอนั้นส่งไปเลย แถมดูเหมือนเจ้าตัวจะหงุดหงิดเสียด้วย...ที่อิงนั้นไม่ใช่คนที่เขานั้นต้องการจะพบเจอ
“อะไรน่ะ?” และจากมุมปากที่กำลังยกยิ้มอย่างพอใจ กลับกลายมาเป็นบึ้งตึงทันที เมื่อเริ่มเห็นเขามีปฏิกิริยาตอบกลับในแบบที่เธอไม่ได้คาดคิด!
มันไม่ใช่ความผิดของใครหรอกที่ทำให้เด็กของเธออยู่ในสภาพคร่อมร่างของเขาอยู่ แต่ตอนนี้เธอเริ่มรู้สึกไม่ชอบใจที่ดูเหมือนจะเห็นเขาให้ความร่วมมือกับเจ้าหล่อนคนนั้นเป็นอย่างดี...ไม่มีอารมณ์เสียเหมือนเมื่อครู่อีกแล้ว
แค่นี้ก็ทนไม่ไหวแล้วงั้นเหรอ?
เธอได้แต่สถบก้นด่าอยู่ภายในใจและพยายามจะเมินเฉยต่อภาพเหล่านั้นที่มันทำให้เธอรู้สึกขุ่นเคืองจนเริ่มจะนั่งไม่ติดเก้าอี้เพราะอาการอะไรบางอย่างที่กำลังปะทุขึ้นมา
มือกำเข้าหากันแน่นจนรู้สึกปวดระบม สมองสั่งการให้ทำอะไรสักอย่างก่อนที่เธอจะรีบปรี่ตัวออกไปจากห้องนั้นอย่างรวดเร็วในทันที
“วันนี้เด็ก ๆ ของฉันบริการดีไหมคะ? คุณเหนือฟ้า...”
“คุณ...”
“คุณดาวเหนือคะ!” อิงร้องตกใจที่อยู่ ๆ เจ้านายที่โทรมาบอกให้หล่อนมาบริการเขา อยู่ ๆ ก็โผล่มาเหมือนกับจงใจอย่างไรอย่างนั้น
“ไม่มีอะไรหรอก...ทำหน้าที่ของเธอต่อไปเถอะ” เธอว่าเช่นนั้นและส่งยิ้มสงบมาให้กับคนที่ยังนั่งนิ่งไม่ไหวติงราวกับเหมือนว่าตัวเองนั้นทำความผิด “ให้เด็กของฉันดูแลคุณต่อนะคะ” และเธอก็หันหลังเตรียมตัวจะเดินจากไป
“เดี๋ยว!” ดาวเหนือกระตุกยิ้มที่มุมปาก เมื่อเธอสัมผัสได้ถึงมือนุ่มของคุณเขามาจับเธอเอาไว้ก่อนที่เธอจะเดินจากออกไป
“มีอะไรอีกหรือเปล่าคะ?”
“คุณจะไปไหน...นั่งกับฉันก่อน...”
“คุณดาวเหนือคะ...ท่านรัฐมนตรีอยากคุยด้วยค่ะ” ดาวเหนือหันกลับไปสนใจเด็กของเธออีกคนหนึ่งที่เดินเข้ามาบอกกัน
เธอเปรยสายตามองที่เด็กคนนั้นและพยักหน้าให้อย่างเข้าใจ ก่อนที่เธอจะเบนสายตากลับไปหาคนด้านหลังของเธออีกครั้ง และยกยิ้มออกมาอย่างพอใจเมื่อมองเห็นว่าแววตาของเขากำลังเว้าวอนเธอมากแค่ไหน
“วันนี้คงต้องให้เด็กของฉันดูแลคุณไปก่อนนะคะ” และเธอก็เอื้อมมือไปเกลี่ยที่ริมฝีปากของเขาบางเบาอย่างที่เธอได้ทำเอาไว้ในครั้งแรกที่เราเจอกัน
ก่อนจะหันหลังและเดินจากออกไปด้วยความรู้สึกเหนือกว่าที่เริ่มพองโตขึ้นมาที่อกข้างซ้าย
เหนือฟ้ายืนมองร่างสง่างามในชุดสีดำสนิทเดินจากออกไปไกลพร้อมกับดวงใจของเธอที่หลุดล่องตามไป
สัมผัสแผ่วเบาจากปลายนิ้วของหล่อนอีกแล้วที่ทำให้เธอเหมือนตกอยู่ในห้วงภวังค์ที่ไม่มีวันหาทางออกเจอ
เธอยกมือแตะที่ริมฝีปากของตัวเองอีกครั้ง...สัมผัสเพียงแผ่วเบานั้นยังร้อนวูบวาบอยู่ตรงปลายมุมปาก จนเธอต้องใช้ลิ้นเลียมันบางเบาอย่างข่มอารมณ์ความรู้สึก
แล้วเมื่อไหร่เรือนร่างและริมฝีปากที่เธอนั้นปรารถนาจะเป็นสิ่งที่เธอครอบครองมันได้เสียที...แทบจะอดใจรอต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว...ดาวเหนือ
.
.
หลังจากนั้นผ่านมาหลายวัน...เธอก็ไม่ได้กลับไปที่คลับแห่งนั้นอีก เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาล ทำให้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นให้เธอต้องหัวหมุนอยู่ตลอดแทบทั้งวัน
แม้แต่เวลาจะนอนพักหรือแม้กระทั่งเวลาทานอาหารเธอยังไม่มีเหมือนกับใครคนอื่น ยิ่งถ้าเป็นคนไข้ที่รีเควสมาว่าจะต้องเป็นเธอเท่านั้น...เธอยิ่งจะต้องตั้งใจและจดจ่ออยู่กับสิ่งนั้นเพราะเธอรู้ดีว่าพวกเขานั้นเชื่อใจเธอมากขนาดไหนถึงยอมเข้ารับการรักษากับเธอ
ที่บอกว่าเธอไม่ชอบความสูญเสียนั้นมันเป็นเรื่องจริง...แม้เขาเหล่านั้นจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับชีวิตเธอเลยก็ตาม
แต่เธอก็ไม่อยากให้พวกเขาพบการสูญเสีย...เหมือนกับที่ชีวิตของเธอนั้นเคยได้พบเจอ
“คุณหมอพักหน่อยไหมคะ?” นับพิมเดินเข้ามาถามไถ่คุณหมอคนเก่งถึงในห้องพักทันทีเมื่อเจ้าหล่อนนั้นพึ่งเดินออกมาจากห้องผ่าตัดพร้อมกับคุณหมอเหนือฟ้า
นับจากเช้ามาเคสนี้ก็เป็นเคสที่สี่แล้ว ที่การผ่าตัดนั้นค่อนข้างจะกินเวลานาน และทำให้คุณหมอของหล่อนนั้นต้องนั่งอ่านเคสเพื่ออ่านประวัติของคนไข้รายต่อไปที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดในวันพรุ่งนี้อีก
“ไม่ได้หรอกค่ะคุณนับพิม...จริง ๆ ฉันอยากผ่าตัดเคสต่อไปเลยนะคะ ไม่อยากรอให้ถึงพรุ่งนี้เลย” เหนือฟ้านั้นเป็นกังวล เพราะคนไข้บอกกับเธอเองว่าอยากจะรอให้ญาติมาหาก่อนถึงจะยอมเข้ารับการผ่าตัดหลังจากที่อิดออดอยู่นาน
แต่เพราะว่าเนื้อร้ายนั้นมันเรื้อรังมานานแล้ว เธอจึงค่อนข้างที่จะเป็นกังวลว่าอาจจะรอต่อไปไม่ไหว
“แต่ถ้าคนไข้ไม่ยินยอมเราก็ทำแบบนั้นไม่ได้นะคะ...” นับพิมนั่งลงตรงหน้าของคุณหมอที่ดวงหน้าเหนื่อยล้าเต็มที “นอนพักสักหน่อยนะคะ...เดี๋ยวพิมไปหาอะไรมาให้ทาน” หล่อนเอ่ยบอกด้วยความเป็นห่วงจากใจจริง
ซึ่งมันทำให้คุณหมอคนเก่งยอมแพ้ต่อสายตาเป็นห่วงเป็นใยของเจ้าหล่อน และยอมพยักหน้ารับให้แต่โดยดี
“งั้นไม่ต้องล็อคห้องก็ได้นะคะ...คุณเข้ามาแล้วฉันหลับอยู่ก็ปลุกได้เลยนะ พักสักงีบคงไม่เป็นอะไร”
“รับทราบค่ะคุณหมอ...” ก่อนที่เจ้าหล่อนจะยิ้มร่าและวิ่งหน้าตั้งออกไปในทันที
คุณหมออย่างเธอที่ไม่อยากผิดคำพูด ก็เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าและหยิบชุดกาวน์กลับไปแขวนไว้ยังที่ของมัน
เนื่องจากที่แห่งนี้เป็นโรงพยาบาลเอกชน บวกกับตอนนี้ค่อนข้างที่จะดึกจนใกล้จะรุ่งสางแล้ว ทำให้เธอไม่ต้องอยู่ร่วมกันกับคุณหมอคนอื่น ๆ ที่คงกลับบ้านไปพักผ่อนกันหมดยกเว้นคุณหมอที่เข้าเวรถึงกะเช้า
ร่างสูงสง่าเอนกายลงไปกับเตียงนอนที่แสนนุ่มสบาย เปลือกตาของเธอหนักอึ้งจากความเหนื่อยล้ามาตลอดหลายวัน ทำให้เพียงไม่นาน...เธอก็นอนหลับใหลลงสู่ห้วงนิทราไปอย่างง่ายดาย
โดยมีร่างสวยสง่าของใครบางคนเดินเข้ามาภายในห้องราวกับรู้ทิศทาง ก่อนที่เจ้าหล่อนจะลากเก้าอี้ที่อยู่มุมโต๊ะมาอยู่เคียงข้างของคุณหมอคนเก่งที่กำลังนอนหลับตาพริ้ม
เจ้าหล่อนเอื้อมมือไปลูบกรอบหน้าของคนที่นอนหลับใหลด้วยความรู้สึกบางอย่าง เพราะเขาไม่มาหลายวันเธอเลยกระวนกระวายใจจนต้องถ่อมาหาถึงที่นี่เพราะรู้ว่าเขายังคงต้องทำงานหนัก
“คุณหมอ...”
“ชูว์...คุณหมอพึ่งหลับไปเลยค่ะ” เจ้าตัวยกนิ้วชี้แตะที่ริมฝีปากและยกยิ้มให้กับพยาบาลสาวที่ถือถุงอะไรสักอย่างเข้ามาด้วย
“คุณเป็นใครคะ?” นับพิมมองคนตรงหน้าฉงน เพราะเธอไม่เคยเห็นเจ้าหล่อนคนนี้มาก่อน
“วางของ ๆ คุณไว้เลยค่ะ...ที่เหลือฉันจัดการเอง”
“ได้อย่างไรกันคะ! แล้วคุณเป็นใคร...เข้ามาในห้องคุณหมอได้อย่างไร!” นับพิมยังคงโวยวายไม่เลิกเพราะเธอกำลังรู้สึกไม่ไว้วางใจผู้หญิงสวยตรงหน้า
คุณคนสวยเหยียดยิ้มมุมปากอีกครั้ง ก่อนที่เจ้าตัวจะลุกขึ้นยืนและเดินเข้าไปหาคุณนางพยาบาลที่ยังยืนมองอย่างเอาเรื่องอยู่
นับพิมยอมรับเลยว่าคุณเขาสวยมาก ร่างสง่ามาดนางพญาช่างเข้ากันได้ดีกับชุดแชลแนลที่คุณเขาสวมใส่ ไหนจะร่างสูงสง่าที่เกือบเท่าคุณหมอคนเก่งของเธออีก
หากบอกเธอว่าเป็นคนรักของคุณหมอ...นับพิมจะเชื่อสนิทใจโดยไม่มีข้อโต้แย้งใด ๆ เลย
“ขอบคุณสำหรับอาหารนะคะ...ต่อจากนี้ไปคงเป็นหน้าที่สำหรับคนรักอย่างฉันแล้วค่ะ”
“ว่าอย่างไรนะคะ?”
“ฉันดาวเหนือค่ะ...เป็นคนรักของคุณหมอเหนือฟ้า แล้วทีนี้พอจะเชื่อใจฉันได้หรือยังคะ...คุณพยาบาลนับพิม”