“ไม่ปล่อย! ฉันไม่ปล่อยเธอหรอก...” ออสตินตอบเสียงแผ่ว...เขาก้มตัวลงฝังจมูกและปากลงบนซอกคอหอมกรุ่น
อัจฉราใจสั่นวาบ ขนบนกายลุกเกลียว จากสัมผัสแสนเสน่หาที่อีกฝ่ายหยิบยื่นให้…
“ปล่อย!…” เสียงห้ามแหบปร่า เธอกำลังจะหมดแรง
“ไม่…” เสียงออสตินยังเข้ม กลิ่นผิวกายของอัจฉราทำให้เขาพลุ่งพล่าน จากที่เคยคิดจะแค่แกล้งเล่นๆ ให้หล่อนตกใจ เวลานี้ชายหนุ่มบอกอย่างไม่อาย เขาอยากฟัดหล่อนตรงนี้แหละ...ไม่สนใจแล้วว่าสถานที่ไม่อำนวย เขาทนไม่ไหว ไอ้ตัวป่วนประจำตัวมันผงาดง้ำ และมันจะไม่ยอมลดความอหังการลงหรอกหากไม่ได้ระบายออกเสียบ้าง
“อย่า…ฉันไม่สนุกด้วย...”
อัจฉราเค้นเสียงออกมาอย่างอยากลำบาก ผิวเนื้อเธอเบ่งบานตอบรับสัมผัสรุ่มร้อนนั่น เธออยากจะผลักไสเขา อยากจะดิ้นหนี แต่เรี่ยวแรงของเธอหายไป เธอกำลังเสียเปรียบและตกเป็นเบี้ยล่าง
ชายหนุ่มไม่ตอบ และเขาก็ไม่ได้หยุดรุกรานเธอเช่นกัน...สายตาวาวับมองนวลแก้มนวลผ่องพิศและผิวเนื้อเนียนละเอียดที่โผล่พ้นคอเสื้อชุดทำงานแสนเชย มือหนึ่งตวัดกอดรัดเอวบาง แต่อีกมือกลับเลื่อนขึ้นลูบไล้ทรวงงาม แล้วเคล้นคลึงช้าๆ
อัจฉราสะดุ้งโหย่ง! ความร้อนจากอุ้งมือหน้าเสียดแทงผิวกายเธอจนคับยุบยับ...เสียงครางแผ่วๆ ดังรอดริมฝีปากอิ่ม ร่างกายบอบบางแอ่นหยัดแนบลำตัวกับความแกร่งร้อนด้านหลัง
และเธอก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ เมื่อเกมพิศวาส อำนาจเบ็ดเส็ดออสตินเป็นผู้กุมไว้ เขาจัดการหล่อนแบบไม่รั้งรอ และเหมือนเดิม ชายหนุ่มสาดกระสุนเชื้อพันธุ์ใส่อัจฉรา โดยไม่สวมอุปกรณ์ป้องกัน ในหนึ่งวันเขาพลาดกับหล่อนสองครั้ง สองครั้งในหนึ่งวันช่างเป็นเหตุการณ์ที่เหลือเชื่อ
เมื่อเขาไม่เคยพลาด!
“โอ! เกิดอะไรขึ้นกับแก ยัยอัจ?”
สภาพของเธอคงดูไม่ได้ เพ็ญศรีจึงร้องทักเมื่อเดินโผเผกลับมาที่ห้องทำงานตัวเอง
อัจฉราทิ้งสะโพกลงบนโต๊ะทำงาน เธอยกมือเสยผมที่รุ่ยร่ายเคลียกรอบหน้าแล้วจึงตอบเสียงโหย “โดนปล้ำ!”
“เห้ย! จริงหรือล้อเล่น ยัยบ้า นี่มันเรื่องใหญ่เชียวนะ” จากสภาพของอัจฉราก็น่าเชื่อว่าที่หล่อนพูดมาคือเรื่องจริง แต่ใครล่ะ อุกอาจขนาดนี้ ในที่ทำงาน
“จริง...ไอ้บ้ากามที่นั่งบนหอคอยเหมือนที่แกบอกไง...ฉันซวย...เพราะดันไปเจอมันตอนมันเงี่ยน...เข้าพอดี!”
หญิงสาวกระแทกเสียงตอบ เธอเจ็บใจจนน้ำตาเล็ด โดนดูถูกไม่พอยังต้องมานั่งเจ็บใจอีก
“CEO ออสติน ไรเดอร์...จริงอะ?”
เพ็ญศรีครางเสียงหลง มันเกิดเรื่องบ้าๆ นี่กับเพื่อนเธอได้ยังไง มันเป็นความโชคร้าย หรือว่าโชคดีกันแน่
“จริง...ตัวเป็นๆ แถมห้าวสุดๆ เล่นฉันสะงอมเลยนี่แหละ”
อัจฉราเค้นเสียงพูด เธอยังจำแววตาดูแคลนของเขาได้ ผู้ชายคนนั้นมองเธอเหมือนเป็นสิ่งไร้ค่า เขาประเมินเธอเท่ากับเงิน3 แสนบาท ค่าเปิดซิงเธอถูกชะมัด...
“แก...จะเอาไงต่อ...”
“ไม่รู้สิ...แต่ช่างแม่ม! ฉันซวยเอง...ขอให้ไม่เจอกันอีกก็พอ...สาธุ” หญิงสาวยกมือท่วมหัว ภาวนาให้ไม่เจอกับความซวยที่ฉาบทาด้วยความเสียว เพราะไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกันว่าจะต้านสัมผัสเร้นลึกจากเขาได้ เพราะเธอก็ชอบความรู้สึกเช่นนั้นเหมือนกัน
แม้ปากจะพูดปาวๆ ว่าเกลียด...
ลมปากกับข่าวลือ
เสียงประตูห้องทำงานเปิดผั๊วะเข้ามา พร้อมกับเสียงโวยของเพ็ญศรี
“ข่าวลือมันหนาหูขนาดนี้ แกจะว่าไงยัยอัจ? ปล่อยไว้ให้มันคาราคาซัง... แกจะมีแต่เสียกับเสีย”
“ฉันไม่รู้ว่าตัวเองต้องทำอะไร...มันก็แค่...”
อัจฉรากลืนคำพูดสุดชอกช้ำไว้ในอก จะให้เธอร้องแล่แห่กระเซิงว่าถูก ผู้บริหารระดับสูง ‘ข่มขืน’ จะมีใครเชื่อเธอบ้างล่ะ เมื่อเธอเป็นแค่ฟันเฟืองตัวเล็กๆ คงไม่มีผู้ใหญ่คนไหนให้ความสำคัญกับเธอเท่ากับ ออสตินที่เป็นถึง CEO
“แกเสียตัว! นะอัจ...มันไม่ใช่แค่หมาตัวหนึ่ง...เดินมาเยี่ยวรดปลายเท้า แกไม่โวย ไอ้เวรนั่นก็สบายใจสิ”
เพ็ญศรีเจ็บแค้นแทนเพื่อน ผู้หญิงสาวบริสุทธิ์คนหนึ่ง ถูกกระชากพรหมจรรย์ไปโดยไม่ได้รับความยุติธรรม อีกฝ่ายทำเพราะอยากประกาศศักดาของเพศชายที่อยากอยู่เหนือกว่าเพศหญิง
“มันก็แค่ข่าวลือ ไม่มีใครรู้หรอกว่าเป็นฉัน”
อัจฉราพูดเสียงอ่อน เธออายแทบจะเอาหน้าซุกดินที่ถูกผู้ชายคนหนึ่งเหยียบหยาม
“แกจะเงียบ...”
“อืม...ช่างมันเถอะ ก็แค่ครั้งเดียว” หญิงสาวเม้มปากแน่นหลังพูดจบ ผิวเนื้อตรงหว่างขายังระริกซ่าน จำสัมผัสเร่าร้อนที่ออสตินประเคนใส่ได้อย่างไม่มีทางลืม เธอหุบขาแน่นและสะกดกลั้นความพลุ่งพล่านที่ระริกซ่านขึ้นมาทุกครั้ง ยามนึกถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้น
“แล้ว...ถ้าแกท้อง...” เพ็ญศรีถอนใจเฮือก เธอย้อนถามเสียงแผ่ว
อัจฉราตาโต เธอลืมนึกถึงข้อนี้ ผ่านมาเกือบ2 วันหากเธอท้องล่ะ? “ฉันคงไม่ซวย...” เสียงเธอสั่น เพราะไม่แน่ใจเหมือนกัน หากเพราะความพลั้งเผลอครั้งนั้นทำให้เธอโชคร้าย เธอจะรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไร
“มันไม่สนุกนะอัจ การเลี้ยงลูกคนเดียวน่ะ มันเหนื่อยสาหัส ยิ่งแกแล้วด้วย คนรอบข้างจะมองยังไงล่ะ แกไม่ได้มี ‘ผัว’ เหมือนฉัน”
“มันยังไม่เกิด ปล่อยมันไปก่อนเถอะเพ็ญ...ยังไงฉันก็เสียตัวไปแล้ว...มันแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วนี่”
หญิงสาวพูดอย่างตัดใจ อะไรมันจะเกิดก็ต้องเกิด แต่เธอไม่มีทางยอมจำนน ตกเป็นแค่ของเล่นสนุกๆ ของผู้ชายคนนั้นหรอก...ไม่มีวัน
“ตามใจ แต่แกต้องบอกฉันนะอัจ หากมีอะไรๆ ผิดปรกติในตัวแก อย่าคิดแย่ๆ ด้วยการกำจัดเขาทิ้ง”
ต่อให้ผู้ชายทั้งโลกเลวทรามยังไง ขอแค่ผู้หญิงยังคงมีความเป็นมนุษย์ไม่ทำลายเลือดในอกตัวเอง แม้บางครั้งมันจะออกมาเพื่อประจานความเหลวไหล...แต่ผลพวงไม่เกี่ยว เขาคือสิ่งบริสุทธิ์ที่พระเจ้าประทานให้
“อืม...ได้ ฉันไม่ใจร้ายแบบนั้นหรอกแก หวังว่าฉันคงไม่ซวย...เฮ้อ!” หญิงสาวถอนใจ รีบจัดการตัวเองให้ดูดีขึ้น แม้จะรู้สึกหน่วงๆ ในอก ก็จำเป็นต้องสลัดทิ้ง
‘ผู้หญิงไม่ใช่ ‘วิทยาศาสตร์’
ที่จะได้เปิดโอกาสให้ผู้ชายทดลอง’
เพราะความคิดแบบนี้ไง เธอจึงครองตัวจนถึงตอนนี้ เพศหญิงต้องเป็นฝ่ายทนเพื่อให้ชีวิตคู่ ดำรงอยู่ โดยที่ผู้ชายไม่ได้รู้สึกกับความรับผิดชอบของตัวเอง ยังคงสำเริงสำราญ...ใช้ชีวิตเหมือนโสดตลอดกาล
ห้องท่านประธาน...
ออสตินนั่งหน้าบูด เขาอมลิ้นเล่นจนเซ็ง งานไม่ได้มีอะไรมาก เพราะกำลังอยู่ในช่วงพัฒนา เขาก็ต้องคิดวิธีทำให้มันเฟื่องขึ้น แค่นั้น... แต่ในเวลานี้ยังนึกไม่ออก เพราะในสมองเขา มีแต่ภาพยัยป้าครึๆ นั่น นอนอ้าขาอล่างฉ่าง กับเสียงร้องครวญของหล่อน ทำให้นึกแผนงานดีๆ ไม่ออกสักที
“คุณพริ้ม...ขอกาแฟดำแก้วสิ” ชายหนุ่มกดอินเตอร์คอมร้องขอกาแฟขมๆ เพื่อตัดความฟุ้งซ่านในใจ พิ้มเพลา เลขานุการเอ็กซ์อึ๋มหน้าห้องยังหน้าสนกว่าเป็นไหนๆ หล่อนสวยสมกับตำแหน่งเลขานุการ CEO แต่งตัวสวยสดชวนมอง ทั้งเสื้อผ้า หน้าผม กลิ่นน้ำหอมโชยฟุ้ง...กับเสื้อผ้าแหวกหน้า ผ่าหลัง ไม่ต้องเดา ไม่ต้องจินตนาการ เพราะทั้งหมดแทบจะหลุดออกมากองอยู่ตรงหน้าหากเจ้าหล่อนขยับตัวแรงๆ
“บอสขา...กาแฟค่ะ” เสียงหวานฉ่ำ กับแววตาอ่อย
หากเป็นก่อนหน้านี้เขาคงไม่รอช้าที่จะกระโจนเข้าใส แต่ตอนนี้...บอกตามตรงมุขหล่อนแป๊ก! เขาไม่ได้มีอารมณ์ร่วม ออกจะเอียนด้วยซ้ำ เต้าทรวงขนาดเหลือกินเหลือใช้ ดูก็รู้ว่าผ่านมีดหมอ มันกลมกลึงจนน่ากลัว สู้เต้าขนาดเหมาะมือของยัยป้านั่นก็ไม่ได้
เห้ย! แล้วเขาจะไปเปรียบเทียบกับยัยนั่นทำไม?
พริ้มเพลาวางแก้วกาแฟดำตรงหน้าเจ้านายหนุ่ม หล่อนโน้มตัวจนเต้าทรวงขนาดน้องภูเขาไฟ แทบจะหลุดแผละออกมากองตรงหน้า แต่สายตาดุดันของออสติน ทำให้หล่อนต้องรีบถอยหลังกับ พลางยกมือขึ้นขยับเต้าให้เข้าที่เข้าทาง
“มีอะไรจะเล่าให้ฟังไหม? กำลังง่วง” ชายหนุ่มเปรย แล้วจึงยกกาแฟร้อนๆ ขึ้นจิบแก้เซ็ง
“เรื่องอะไรดีคะ?” พริ้มเพลาค่อยยิ้มออก เธอขยับเข้าใกล้โต๊ะทำงานของออสตินอีกนิด เผื่อฟลุค!
“เรื่องอะไรก็ได้กำลังเบื่อ อืม...มีข่าวลือสนุกๆ ไหมล่ะ?”