PART เหม่ย
ตอนนี้ร่างของฉันนั่งอยู่บนรถยนต์คันหรู โดยที่เคียงข้างของฉันมีคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้านายนั่งอยู่เคียงข้างกัน
ไม่รู้เลยว่าตอนนี้เรื่องมันเป็นมาอย่างไรทำไมฉันจะต้องมานั่งอยู่กับเธอคนนี้...พร้อมกับที่ฉันต้องขนย้ายข้าวของมาอยู่กับคนที่ชอบทำตัวบ้าอำนาจและเอาแต่ออกคำสั่ง
ฉันไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับคน ๆ นี้มาก ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเธอเลยด้วยซ้ำยกเว้นแต่ชื่อเสียงเรียงนามและเป็นลูกเต้าเหล่าใคร
แต่ความรู้สึกของฉันบอกว่าเธอมาดี แม้ฉันจะเสี่ยงตัวเข้าไปทำงานให้กับคน ๆ นี้จนเกือบจะเอาตัวออกมาไม่ได้แล้วก็ตาม...แต่สุดท้ายคนที่เข้ามาช่วยฉันจากสถานการณ์นั้นก็คือเธอคนนี้อยู่ดีนั่นแหละ
รถยนต์คันหรูเลี้ยวเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ที่ฉันกล้าพูดได้เต็มปากเต็มคำเลยว่ามันใหญ่กว่าบ้านของฉันเป็นร้อยเท่า
การ์ดรอบ ๆ บริเวณตัวบ้านก็โค้งคำนับให้กับรถที่กำลังขับเคลื่อนเข้ามา และฉันก็ได้โอกาสสำรวจมองไปรอบ ๆ บ้านอย่างตื่นเต้นเพราะไม่เคยคิดเคยฝันมาก่อนว่าจะได้มีโอกาสมาอยู่บ้านที่มันหลังใหญ่ขนาดนี้
ถ้าแม่ของฉันมาอยู่ด้วย...ท่านจะต้องชอบใจมากแน่ ๆ
“นายน้อยครับพรุ่งนี้มี...”
“ฉันไม่คุยเรื่องงานตอนนี้” เมื่อรถจอดสนิทลง คนสนิทของเธอก็เอ่ยออกมาในทันทีแต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่อยากคุยเรื่องงานเท่าไร “แล้วก็อย่าขึ้นไปรบกวนฉันบนห้องนะ...หาแม่บ้านทำความสะอาดห้องให้กับเธอด้วย”
“ได้ครับนายน้อย ว่าแต่จะให้เธอไปอยู่ที่ตึกไหนครับ?” ฉันหันมองไปรอบ ๆ บ้านอีกครั้ง
และก็ได้พบเห็นว่ามันมีบริเวณกว้างมาก และมีบ้านแตกย่อยออกไปอีกหลายหลัง รวมไปถึงตึกแถวที่ฉันคิดว่าน่าจะเป็นที่อยู่อาศัยสำหรับลูกน้องของเขา
บ้านคนหรือกิจการหอพักฉันเองก็เริ่มที่จะไม่แน่ใจแล้วเหมือนกัน...
“นอนบ้านใหญ่กับฉันสิ” ลีตอบออกมาอย่างคนอารมณ์เสีย “เธอเป็นโอเมก้า จะให้ไปนอนตึกเดียวกับพวกอัลฟ่า เบต้าได้ไง ที่นี่โอเมก้าก็ไม่มีสักคน!”
“เอ่อ แต่นายน้อยก็เป็น...”
“นางแมวขโมยนี่เป็นเมียฉัน!” ฉันหันขวับไปสบมองคนพูดในทันทีอย่างตื่นตกใจ
พร้อมกับใบหน้าของฉันที่ค่อย ๆ รู้สึกร้อนผ่าว โดยที่ฉันเผลอกำกระเป๋าที่ถือติดมือมาด้วยจนมันแทบจะขาดติดมือเพราะกำลังเขินอายกับคำบอกกล่าวที่คน ๆ นี้กล้าพูดมันออกมาได้โดยไม่อายปาก
“เอ่อครับ...” คนสนิทของเขาเงียบไปในทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น “ถ้างั้นเดี๋ยวผมจัดการให้ครับ” และหลังจากนั้นเขาก็ลงจากรถไปเพื่อทำตามในสิ่งที่เจ้านายเอ่ยสั่งในทันที
จนในที่สุดบนรถคันนี้ก็เหลือเพียงแค่เราสองคน...
“หรือว่าอยากจะนอนกับฉัน?” เธอหันหน้ามาสบมองกันทั้งยังยกยิ้มด้วยสายตาแพรวพราวจนฉันต้องผินหน้าหนี
“ใครจะไปอยากนอนกับคุณ!” และฉันก็รีบเอ่ยตอบออกไปในทันทีอย่างร้อนใจ
ส่วนหนึ่งฉันก็กลัวว่าเราอาจจะเกินเลยกันไปมากกว่านี้ แต่อีกใจหนึ่งฉันกลัวตัวเองมากกว่าที่อาจจะระงับอารมณ์ของตัวเองไม่ได้ เพราะเวลาที่ฉันอยู่ใกล้เธอทีไร...ตัวของฉันจะต้องรู้สึกร้อนรุ่มราวกับจะฮีทอยู่ตลอดเวลาเลยก็ว่าได้
และฉันไม่สามารถบังคับตัวเองตอนฮีทได้แม้ว่าฉันจะพยายามมากมายขนาดไหน...
“แต่เธอทำหน้าเหมือนกับจะบอกว่าทนไม่ไหวเลยนะเวลาที่ได้อยู่ใกล้ฉัน...” ลีขยับเข้ามาใกล้จนฉันสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อนของเธอ “กลิ่นของเธอมันหอมมาก และมันทำให้ฉันรู้สึกคลั่งตลอดเวลาที่ได้กลิ่นมัน...” และลีก็ค่อย ๆ กดจูบลงมาที่ลำคอระหงส์อย่างแผ่วเบา
ส่วนฉันก็ได้แต่นั่งตัวแข็งทื่ออย่างไม่กล้าขยับเขยื้อนตัวไปไหน หัวใจของฉันก็เต้นระส่ำอย่างรุนแรง ไหนจะภาพที่เราสองคนเกือบจะเกินเลยกันไหลย้อนกลับมาที่หัวสมองของฉันอีก
และถ้าเขายังไม่รีบขยับออกห่างจากฉันในตอนนี้...ฉันก็จะควบคุมอารมณ์ความดิบเถื่อนตามสัญชาตญาณของตัวเองไม่ไหวแล้วเหมือนกัน
ก๊อก! ก๊อก!
“แม่บ้านจัดการห้องเสร็จแล้วครับ” คนสนิทกลับมาอีกครั้งราวกับช่วยชีวิต
และฉันบังเอิญได้ยินลีจิ๊ปากอย่างไม่พอใจเล็กน้อย ก่อนจะค่อย ๆ ขยับออกห่างจากฉันและกลับไปนั่งตัวตรงดังเดิม
เธอถอนหายใจราวกับพยายามระงับอารมณ์ของตัวเองที่กำลังหวามไหว แต่ดูเหมือนสิ่งที่อยู่ใต้กางเกงของเธอมันจะไม่ได้สงบลงไปตามสิ่งที่ลีอยากจะให้มันเป็น
“ไอตงนะไอตง! มึงนี่มันมารพจนกูทุกเรื่องจริง ๆ” เธอสถบออกมา ก่อนจะเปิดประตูรถฝั่งของตัวเองแรง ๆ จนมันไปกระแทกที่ท้องของคนสนิทให้เขางอตัวในทันทีเพราะความเจ็บปวด
“นาย...”
“มึงไม่ขัดกูสักเรื่องจะตายไหมวะ? *เฉียนซื่อมึงเกิดเป็นคนขัดรองเท้าหรือไงทำไมถึงได้ขัดกูเก่งนัก!”
“นายน้อยหมายถึง...”
“มึงรีบไปให้พ้นหน้ากูก่อนที่กูจะเป่ากระบาลมึงเพราะความโมโห!”
“แต่นาย...”
“เอาปืนที่เหน็บเอวของมึงอยู่มาให้กู!”
“ไปแล้วครับ ๆ *ต้าวเฉียน ต้าวเฉียน!” ก่อนที่ชายคนนั้นจะวิ่งหน้าตั้งออกไปในทันทีให้ฉันได้แต่หัวเราะขัน
คนใหญ่คนโตในความคิดของฉันมันไม่ได้เป็นอย่างที่ฉันคิดไว้เสียทีเดียว ฉันคิดว่าพวกเขาจะสุขุมกว่านี้ ดูจริงจังกว่านี้ แต่ที่เห็นจากผู้หญิงคนนี้มันกลับดูตรงกันข้ามมันไปเสียหมด
และมันก็ทำให้ลีดูน่ารักในเวลาเดียวกันด้วย...
“ยิ้มอะไรของเธอ ลงมาสิ” ฉันได้สติกลับมาเพราะเธอเดินอ้อมมาเปิดประตูรถให้กันแล้ว ฉันเงยหน้าสบมองกับเธอที่ยังยืนรออยู่ ก่อนจะได้เห็นว่าตอนนี้ใบหน้าของลีกำลังเจ้าเล่ห์มากมายขนาดไหน
ลีเดินนำหน้าของฉันเข้าไปในตัวบ้านขนาดใหญ่ และดูเหมือนที่นี่จะเหงามากเพราะฉันไม่เห็นใครเลย จำได้ว่าเมื่ออาทิตย์ก่อนที่ผ่านมาฉันได้ยินข่าวเรื่องของเจ้าสัวตระกูลเนตรมังกรว่าสิ้นใจแล้ว และฉันก็ดันแย่จริง ๆ ที่ไปขโมยกระเป๋าสตางค์ของเธอในวันสำคัญแบบนั้นเสียได้
แต่จะให้ทำอย่างไร...ตอนนั้นฉันยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าลีเป็นใคร รู้เพียงแค่ว่าเธอแต่งตัวดี และในกระเป๋าเงินของเธอคนนี้จะต้องมีเงินประทังชีวิตฉันเยอะแน่ ๆ และมันก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ
“นี่ห้องของเธอ” เธอชี้ไปข้างหน้าให้ฉันมองตาม ก่อนที่ฉันจะเดินเข้าไปในห้อง แต่ยังสัมผัสได้ว่าลีเดินตามเข้ามาอยู่
“แล้วคุณจะเข้ามาทำไม?”
“อ้าว!” เธอดูหน้าเหวอไปเมื่อฉันเอ่ยถามออกมาแบบนั้น “แต่ว่าฉันยัง...” ลีเงียบไป แต่เธอกลับก้มลงมองที่เป้ากางเกงของตัวเอง ซึ่งฉันก็ก้มลงสบมองตามสายตาของเธอ
“ออกไปเลยนะ!”
“นี่เธอกล้าไล่...”
ปัง!
พร้อมกับที่ฉันผลักร่างของเธอด้วยแรงทั้งหมดที่ฉันมีอยู่ และปิดประตูลงกลอนในทันทีโดยไม่ได้สนใจเลยว่าคนข้างนอกจะเอ่ยร้องเรียกกันดังมากมายขนาดไหน
ฉันทิ้งตัวลงบนที่นอนก่อนจะยกหมอนขึ้นมาปิดใบหน้าเอาไว้ ตอนนี้หน้าของฉันกำลังแดงก่ำพร้อมกับร้อนผ่าว
และกลิ่นฟีโรโมนจากคนที่พึ่งออกไปเมื่อครู่แต่ยังคงทิ้งกลิ่นเอาไว้จาง ๆ ในห้อง ๆ นี้ กลับทำให้ฉันรู้สึกร้อนรุ่มขึ้นมาจนตัดสินใจแล้วว่าจะต้องทำอะไรบางอย่าง...ไม่อย่างนั้นคืนนี้ฉันคงข่มตาลงนอนไม่ได้แน่ ๆ
“อย่างน้อยทำตัวเอง ก็ยังดีกว่าให้ไอ้อัลฟ่าโรคจิตคนนั้นมาทำ!”
PART ลี
ฉันเดินออกมาจากห้องน้ำที่อยู่ภายในห้องนอนของตัวเอง ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนเตียงพร้อมกับแผ่ร่างที่เปลือยเปล่าของตัวเองอย่างไม่ได้มีความรู้สึกเขินอายใด ๆ
ฉันสบายตัวขึ้นมามากแล้วจากการปลดปล่อยตัวเอง แต่มันก็คงจะดีกว่านี้ถ้าใครอีกคนยอมทำให้กันก่อนที่จะไล่ฉันให้ออกมาจากห้อง
แต่พอคิดไปถึงใบหน้าของเหม่ยก็ทำให้ฉันเผลอยิ้มออกมาโดยที่ไม่ทันได้รู้สึกตัว
ผู้หญิงคนนี้ยังดูน่าสนใจอยู่เสมอ...
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เธอขอกันเอาไว้ทั้ง ๆ ที่รู้ทั้งรู้ว่าฉันอาจจะไม่ยอมทำตามที่เธอขอก็เป็นไปได้ แต่สุดท้ายแล้วฉันก็ยอมทำตามคำขอนั้นแม้ว่าตัวของฉันจะทรมานและมันยากที่ฉันจะห้ามอารมณ์ดิบเถื่อนของตัวเองได้ไหว
ฉันคิดเอาไว้แล้วว่าผลลัพธ์ของมันนั้นจะต้องน่าพึงพอใจสำหรับฉัน ดังนั้นการที่ให้เธอมาอยู่ด้วยกัน...มันย่อมเป็นผลดีของฉันทั้งนั้นไม่ว่าจะเกี่ยวกับเรื่องเซ็กซ์ หรือแม้กระทั่งเรื่องงานที่ฉันยังจะต้องใช้งานเธออีกในภายภาคหน้า
ฉันลุกขึ้นยืนจนเต็มความสูงอีกครั้งและเดินไปหยิบโทรศัพท์ของทายาทแก๊งสิงโตขาว แน่นอนว่ามันถูกเข้ารหัสเอาไว้เพื่อความเป็นส่วนตัว แต่ใบหน้าของมันที่ขึ้นหราโชว์บนหน้าจอกลับทำให้ฉันรู้สึกสะอิดสะเอียนจนอยากที่จะอาเจียนออกมาเต็มทน
“ครับนายน้อย...”
“เรียกคนที่เก่งด้านแฮกโทรศัพท์ขึ้นมาหาฉันเดี๋ยวนี้ ฉันให้เวลาแค่ห้านาที”
“ตามคำสั่งครับผม” และปลายสายก็ถูกตัดไป
ก๊อก! ก๊อก!
ฉันลุกขึ้นยืนจนเต็มความสูงและเดินไปเปิดประตู ก่อนจะพบเห็นว่าเธอคนนี้เป็นเบต้าสาว ทั้งยังใบหน้าสวยหมายตรงสเปคของฉันอีก
“เข้ามา” ฉันอ้าประตูให้กว้างขึ้นและเธอคนนั้นก็เดินตามเข้ามาอย่างง่ายดาย
ฉันยื่นส่งโทรศัพท์ไปให้กับเธอ ซึ่งเธอก็รู้ในทันทีว่าควรที่จะทำอย่างไรต่อไป ไม่นานโทรศัพท์เครื่องนั้นก็เข้าไปยังหน้าเมนูหลักได้สำเร็จในเวลาเพียงไม่นาน
เธอยื่นส่งโทรศัพท์กลับมาให้และฉันเองก็รับมันมาถือเอาไว้ เจ้าหล่อนส่งสายตาหวานเยิ้มให้กันอย่างยั่วยวน และฉันที่มีอารมณ์อยู่แล้วเป็นทุนเดิมก็เปิดชุดคลุมอาบน้ำของตัวเองในทันทีให้เจ้าหล่อนได้ก้มลงต่ำมองตามสิ่งนั้น
เธอคนนี้รู้ดีว่าควรจะกระทำที่ตรงไหน และละเมียดละไมชิมแต่ละคำได้อย่างน่าชื่นชม แต่สติของฉันในตอนนี้อยู่ที่โทรศัพท์เครื่องนี้ ฉันกำลังดูการเคลื่อนไหวของมัน รวมไปถึงเบอร์โทรที่โทรเข้าโทรออกบ่อย ๆ ก่อนจะได้พบว่ามันเป็นซิมที่ใช้แล้วทิ้ง และส่วนมากจะเป็นฝ่ายนั้นที่ติดต่อกลับมา
ฉันเดาว่ามันน่าจะเป็นคนที่ฆ่าป๊าของฉัน และอาจจะกำลังหนีไปกบดานอยู่ที่ไหนสักแห่งในเมืองนี้ หรือไม่...ก็อาจจะกำลังไปทำงานสำคัญอีกอย่างให้กับเจ้านายของมันอยู่
“อ่า...ดี” ฉันวางโทรศัพท์ลงที่โต๊ะและเปลี่ยนเป้าหมายมือมาจับที่ศีรษะของคนใต้ร่างแทน
เจ้าหล่อนเงยหน้าขึ้นมาสบมองกันตาหวานเยิ้ม แต่ฉันกลับจินตนาการว่าเธอคนนี้...คือคนที่นอนอยู่ห้องทางฝั่งตรงข้ามของฉันอย่างเหม่ยนั่นเอง
พอคิดได้ดังนั้นอารมณ์ของฉันก็ตีตื้นกลับขึ้นมาจนเต็มปรอท ฉันอุ้มเธอขึ้นมาและกดศีรษะของเธอลงไปกับเตียง ใช้มือข้างที่ว่างบีบคลึงที่สะโพกมนของเธอพร้อมทั้งปลดกางเกงเธอออกด้วยอารมณ์ดิบเถื่อน
และหลังจากนั้นฉันก็กระทำในสิ่งที่ฉันไม่สามารถทำกับเหม่ยตัวจริงได้ โดยที่ตลอดทั้งคืนนั้นเธอคนนี้ก็ได้แต่ร้องครางออกมาอย่างสุขสม โดยที่ฉันยังคงจินตนาการอยู่ในความคิด...ว่าคน ๆ นี้เป็นเหม่ยตลอดทั้งคืน
สักวันเธอจะต้องเป็นของฉันโดยสมบูรณ์แบบ...เหม่ย
***(เฉียนซื่อ) = ชาติปางก่อน
***(ต้าวเฉียน) = ขออภัย,ขอโทษ