ตอนที่ 7

1691 Words
ฉันเดินออกมาจากห้องน้ำก่อนจะพบเห็นว่าคนที่ร่วมหลับนอนกันอยู่เมื่อคืนนี้กำลังนั่งรอกันอยู่ที่ปลายเตียงอย่างคนมีมารยาท ฉันยกยิ้มให้กับเธอเล็กน้อยเมื่อเราหันมาสบตากันพอดิบพอดี ก่อนที่ฉันจะเดินผ่านเลยตัวของเธอไปและเดินไปเปิดประตูห้องเพื่อที่จะออกไปข้างนอก แต่แล้วก็ราวกับโชคชะตาช่างเล่นตลก เพราะฉันดันเปิดประตูออกมาพร้อมกับคนห้องตรงข้ามพอดิบพอดีราวกับจับวาง เราสบสายตากันราว ๆ ห้าวินาที ก่อนที่ฉันจะสัมผัสได้ถึงคนที่เดินออกมาตามกันยืดตัวขึ้นมาหอมแก้มฉันเล็กน้อยก่อนที่เจ้าตัวจะเดินจากออกไป “*จ่าว อัน” “…” ฉันหน้าเสียไปเล็กน้อยเมื่อกล่าวทักทายแล้วเธอทำเป็นเมินเฉยราวกับไม่เห็นว่าฉันยืนอยู่ตรงนี้ “เมื่อคืนหลับสบายดีนะ” และฉันยังใจดีสู้เสือถามออกไป ซึ่งเธอก็เปรยสายตาขึ้นมาสบกันเล็กน้อยก่อนจะเมินเฉยไปอีกครั้ง “จะดีกว่านี้ถ้าคุณช่วยเบาเสียงลงหน่อย...” “…” “กลิ่นพวกคุณตีกันไปมาจนฉันข่มตาหลับแทบจะไม่ลง” และเธอก็เดินผ่านหน้าของฉันไปพร้อมกับกระเป๋าเดินทางใบเล็ก ๆ ที่ทำให้ฉันได้แต่สงสัย “*เติ้งได!” ฉันรีบวิ่งไปหาเธอพร้อมกับคว้ามือของเธอเอาไว้ในทันที “เธอจะเก็บของไปไหน?” “ฉันควรกลับไปอยู่ในที่ที่เป็นของฉันก็เพียงเท่านั้น” เธอตอบกลับอย่างไม่หยี่ระ แต่มันกลับเป็นคำตอบที่ทำให้ฉันรู้สึกหัวเดือดปุด ๆ ราวกับเธอเอาค้อนมาทุบกัน “ฉันไม่อนุญาตให้เธอไป!” ก่อนที่ฉันจะเปล่งเสียงแห่งความโทสะออกไป “แล้วคุณมีสิทธิ์อะไรมาห้ามฉัน!” เธอสะบัดมือออกจากการเกาะกุมจากฉันและสบตากันด้วยแววตาสั่นไหว “ฉันมีสิทธิ์ที่อยากจะอยู่หรือว่าอยากจะไป!” “แต่เธอติดหนี้ฉันอยู่!” ไม่รู้อะไรดลใจให้พูดออกไปแบบนั้น แต่มันกลับทำให้คนข้าง ๆ น้ำตาไหลรินออกมาเป็นสายโดยที่ฉันเองก็ไม่แน่ใจว่าสาเหตุของน้ำตานั้นมาจากอะไรกันแน่ “งั้นก็เอาคืนไป!” เธอปาเช็คที่ฉันเขียนให้กับเธอเมื่อวานนี้มาใส่ฉัน ก่อนที่เธอจะเดินห่างออกไปไกลพร้อมกับไหล่ของเธอที่สั่นไหวอย่างรุนแรง ฉันสบมองเธอด้วยความโกรธเคืองมากยิ่งกว่าเดิมไปอีกเป็นเท่าตัว เพราะไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนมาแสดงกิริยาเช่นนี้กับฉันมาก่อน ฉันจึงจงใจปล่อยกลิ่นออกไปอย่างรุนแรงจนคนที่เดินอยู่ข้างหน้าถึงกับตัวทรุดลงไปในทันทีอย่างไม่อาจจะต้านทานตัวเองได้ “ถ้าฉันไม่อนุญาตให้เธอไป...เธอก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเดินหันหลังให้กับฉัน!” ฉันเดินเข้าไปประชิดตัวของเธอ และคว้าแขนเธออย่างแรงขึ้นมาให้คนตรงหน้ายิ่งน้ำตารินไหล “ขอร้อง...ปล่อยฉันเถอะ!” เธอร้องไห้ออกมาทั้งใบหน้าก็ยังแดงก่ำ ร่างกายของเธอบิดเร้าไปมาอย่างคนที่พยายามต่อสู้กับความรู้สึกของตัวเองเพราะกลิ่นของฉันที่จงใจปล่อยออกมาเพราะความโกรธเคือง ฉันเป็นอัลฟ่าสายเลือดบริสุทธิ์และแน่นอนว่ากลิ่นของฉันจะมีผลมากกับโอเมก้าอย่างเธอ เพราะโดยปกติแล้วกลิ่นของพวกอัลฟ่าจะไม่สามารถทำอะไรเบต้าได้ แต่ถ้าหากว่ามาจากสายเลือดบริสุทธิ์ไม่ว่าจะเป็นเบต้าหรืออัลฟ่ายีนส์ด้อยก็พ่ายแพ้ราบคาบให้กับพวกเราทั้งนั้น นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเราถึงมีน้อย...เพราะพวกเราจะพิเศษกว่าคนอื่น ๆ ให้ได้ทะนงตนอย่างไรล่ะ แต่ฉันคงจะเป็นพวกเราส่วนน้อยที่ไม่เคยใช้เลือดบริสุทธิ์ของตัวเองต้องข่มแหงรังแกใครที่อ่อนแอกว่า ยกเว้นแต่เพียงตอนนี้ที่ฉันก็ควบคุมตัวเองไม่ได้เหมือนกัน... “เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะเดินหันหลังให้กับฉัน!” ฉันกำแขนของเธอแรงขึ้น ส่วนคนตรงข้ามก็ได้แต่น้ำตาไหลพราก ทั้งเธอก็ยังสบมองฉันด้วยความหวาดกลัวจนฉันสัมผัสได้ แต่ฉันไม่อาจจะห้ามตัวเองได้ ถ้าเปรียบกับความโกรธของฉันตอนนี้เป็นปรอท...มันคงจะเกินร้อยและทะลุเกินไปแล้วก็อาจจะเป็นไปได้ “ฮึกคุณ...ฉันกลัว” ฉันฉุดร่างของเธอให้เข้ามาประชิดตัวจนกระเป๋าเสื้อผ้าของเธอร่วงหล่นลงพื้น “นายน้อยครับ!” “ช่วยฉันด้วย...” “มึงอย่ามาแส่เรื่องของกูไอตง!” “นายน้อย!” อาตงก็พยายามที่จะเรียกเตือนสติ แต่ตอนนี้ฉันยังไม่สามารถดับอารมณ์โกรธของตัวเองลงได้ ฉันดึงร่างของเธอจนเธอตัวปลิวมาตามแรงฉุด ก่อนจะผลักเธอเข้าไปภายในห้องของฉันและโยนตัวของเธอลงบนเตียงนอนจนเหม่ยแสดงสีหน้าแห่งความเจ็บปวดออกมาอย่างไม่ปิดบัง ฉันปลดเข็มขัดของตัวเองและควักเอาตัวตนของตัวเองออกมาสู่โลกภายนอกให้คนบนเตียงได้พบเห็น น้ำตาของเธอกำลังทำให้ความรู้สึกของฉันสับสน แต่ฉันก็ไม่อาจจะควบคุมอารมณ์ดิบเถื่อนของตัวเองในตอนนี้ได้แม้ฉันพยายามที่จะต่อสู่กับตัวเองอยู่ภายในใจ “คุณ ฉันขอร้อง อย่านะ!” เธอยังพยายามขอร้องทั้งน้ำตาที่รินไหล แต่เหมือนกับหูของฉันดับอื้ออึงไม่แม้แต่จะได้ยินเสียงใด ๆ รวมไปถึงเสียงของตงที่อยู่นอกห้องและพยายามที่จะเรียกสติ “นายน้อยครับ หยุดปล่อยกลิ่นเถอะนะครับ ค่อย ๆ คุยกับเธอนะครับนายน้อย!” “คุณลี ฉะ ฉันขอโทษ!” ฉันไม่ได้สนใจในเสียงใด ๆ แต่กลับฟุบหน้าลงไปที่ซอกคอของเธอและขบเม้มมันอย่างรุนแรงจนเกิดเป็นรอยจ้ำแดง ๆ กลิ่นของเธอที่ปล่อยออกมาเพราะไม่อาจจะห้ามตัวเองได้เช่นกันกำลังทำให้ฉันเผลอดื่มด่ำกับมันและหลงลืมความโกรธไปเพียงชั่วครู่ ฉันสูดดมที่ซอกคอของเธออย่างคนหลงใหล มือข้างที่ว่างก็ส่งไปบีบคลึงที่เต้าอวบอิ่มของเธอผ่านเสื้อยืดที่ตัวของเธอนั้นยังคงสวมใส่ “ฮือ...” เจ้าหล่อนยังคงร้องไห้อย่างหนักหน่วง แต่ปฏิกิริยาร่างของเธอกำลังตอบสนองฉันโดยการเชิดหน้าขึ้นให้ฉันได้กระทำตามใจ ฉันผละออกมาจากซอกคอของเธอก่อนจะสบมองใบหน้าของเหม่ยด้วยแววตาสั่นไหว ฉันถอดเสื้อผ้าที่ปกคลุมร่างของตัวเองออกและส่งมือไปจับที่แท่นอุ่นร้อนของตัวเองเพื่อเตรียมตัวจะใส่เข้าไปในร่างกายของเธอ “คุณ...มีสติก่อนได้ไหม ฉันขอร้อง” แต่แล้วใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาของเธอกับการกอดร่างของตัวเองเอาไว้อย่างคนที่กำลังฝืนธรรมชาติกลับทำให้การกระทำของฉันทั้งหมดหยุดชะงักไป สติของฉันค่อย ๆ กลับมาทีละเล็กทีละน้อยเมื่อยามได้สบมองใบหน้าที่เคล้าน้ำตาของเธอ ก่อนท้ายที่สุดแล้วฉันจะกลับมามีสติเต็มร้อย แล้วก็พบว่าตอนนี้ตัวเองกำลังทำเรื่องที่ครั้งหนึ่งเคยปฏิญาณกับตัวเองเอาไว้ว่าจะไม่มีวันรังแกผู้ที่อ่อนแอกว่าไม่ว่าจะเป็นผู้ใดก็ตาม “เหม่ย...” “ฉันไม่ไปจากคุณแล้วก็ได้ ฮึก ได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะนะ...” “เหม่ย...” และการขอร้องที่หวาดกลัวของเธอก็ทำให้ฉันรู้สึกราวกับว่าหัวใจของตัวเองกำลังจะแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ และนี่เป็นครั้งแรกที่ชีวิตของฉันมีความรู้สึกแบบนี้กับผู้หญิงที่ไม่ได้ขึ้นชื่อว่าม๊า... “เหม่ยคือฉัน...” “ฉันกลัวแล้ว ฮือ อย่าทำอะไรฉันเลย...” เธอยกมือขึ้นมาขอร้องให้ฉันเห็นใจ แต่ตอนนี้สติของฉันกลับมาแล้ว และฉันจะไม่มีวันทำแบบนี้กับเธออีก “ฉันขอโทษ” ฉันพูดออกมาและขยับร่างเข้าไปเพื่อที่จะโอบกอดเธอ “อย่านะ! อย่าเข้ามา!” แต่เธอกลับเบี่ยงตัวออกจากฉันทั้งน้ำตาที่รินไหลด้วยความหวาดกลัว และมันทำให้ฉันชะงักไปในทันที ฉันลุกขึ้นยืนจากเธอก่อนจะจัดการตัวเองให้กลับมาเรียบร้อยดังเดิม ก่อนที่ฉันจะหันกลับมาสบมองที่เธอและก็พบว่าเหม่ยร่นถอยหนีออกจากฉันจนไปนั่งชิดอยู่กับผนังทั้งยังกอดตัวเองเอาไว้อย่างคนหวาดกลัว ภาพของเธอทำให้ฉันได้แต่สบมองด้วยแววตาที่สั่นไหว ฉันรู้สึกผิดต่อเธอมากและฉันก็โกรธตัวเองที่กล้ากระทำเรื่องราวอุบาทแบบนี้กับเธอลงไปเสียได้ “เหม่ย ฉัน...” “อย่าเข้ามานะ!” เท้าของฉันที่กำลังจะก้าวเข้าไปหาเธอหยุดชะงักไป “ปล่อยฉันออกไป ฉันจะไม่หนีคุณไปไหนแล้ว แต่อย่าทำอะไรฉันเลยนะ” เธอยังกอดร่างของตัวเองเอาไว้อย่างหวงแหน ฉันคงไม่ใช่อัลฟ่าคนแรกที่แสดงกิริยากับเธอแบบนี้ เหม่ยจะต้องผ่านชีวิตมามากมายขนาดไหนกว่าเธอจะผ่านมาถึงตรงนี้ได้ แต่ฉันกลับเป็นคนนิสัยไม่ดีที่เกือบจะจี้ปมเธอเรื่องอัลฟ่า ทั้ง ๆ ที่ฉันเคยบอกกับเธอว่าฉันไม่ใช่คนแบบนั้น “อัลฟ่ามันก็เหมือนกันหมด!” “ฉันขอ...” “เลวเหมือน ๆ กันหมด!” “…” “จำไว้เลยนะว่าฉันเกลียดคุณ!” “เหม่ย...” “ฉันเกลียดไอพวกอัลฟ่าอย่างคุณทุกคน!” ***(จ่าว อัน) = อรุณสวัสดิ์ ***(เติ้งได) = เดี๋ยวก่อน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD