กลับมาพบกัน ตอนที่ 5

1754 Words
30 นาทีผ่านไป            "คุณครับ!! ไม่ได้นะครับ ทำแบบนี้นายฆ่าคุณแน่!" ทิมวิ่งวุ่นวนไปเวียนมารอบๆ บริเวณ มองดูหญิงสาวกระทำการบางอย่างกับม้าตัวรักของเจ้านาย พลางห้ามปรามกึ่งขอร้อง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ไปมากกว่านั้น            เมื่อสักครู่มันถูกหลอกให้ไปเอาน้ำมาให้หล่อนดื่ม แต่พอกลับมาอีกทีเจ้าทิมถึงกับแทบช็อก เมื่อเจ้าบุญถวายที่เคยสวยสง่า บัดนี้กลายเป็นม้าที่ถูกหนูแทะไปแล้ว เนื่องจากขนของมันเว้าๆ แหว่งๆ ไปเสียทุกส่วนจากการถูกตัดโดยฝีมือของหญิงสาว            ขวดและแก้วน้ำในมือหล่นสูญ พร้อมๆ กับหัวใจของตัวเอง....            "ก็อาบให้มันสะอาดไง ขนรกสกปรกจะตาย ต้องตัดออกให้หมด ไม่อย่างนั้นมันจะเกลี้ยงเหรอ นายแกสั่งให้ฉันอาบน้ำให้เกลี้ยงให้สะอาดนี่ ไม่ได้ยินหรือไงเมื่อครู่น่ะ"            "ใช่ครับ...แต่ แต่ไม่ใช่แบบนี้แน่ๆ" เสียงเจ้าทิมสั่น มือสองข้างยกกุมศีรษะแทบจะทึ้งผมทิ้งให้หมดหัว เพราะต่อให้เข้าไปห้ามตอนนี้ ก็ไม่ช่วยอะไรเสียแล้ว            เจ้าบุญถวายยืนเคี้ยวหญ้าสบายใจเพราะมีคนอาบน้ำถูตัวให้ มันหารู้ไม่ว่ายามนี้ มันได้กลายเป็นม้าถูกกล้อนขนไปเสียแล้ว ถ้าเป็นคนก็คงพร้อมห่มจีวรเข้าโบสถ์ได้ทันที            "เสร็จแล้ว หึ...อาบน้ำให้ม้า มันก็แค่นี้เอง..." หล่อนหัวเราะในลำคอร่วน โยนแปรงและสายน้ำลงบนพื้นใกล้ๆ กับกันไกรตัดหญ้าคมกริบที่ใช้บั่นขนเจ้าบุญถวาย เนื้อตัวของหล่อนเปียกมอมแมม แต่โมรียาไม่สาระคาย รู้สึกสาแก่ใจมากกว่าที่ได้เอาคืนเจ้าของม้าตัวนี้บ้าง ม้าแสนเชื่องไม่มีพยศ แต่คน...กลับช่างพยศ ยากจะหยั่งใจยิ่งนัก            "ตาย! ตายแน่ๆ ครับงานนี้"            "..." สาวเจ้าไม่แยแส หล่อนเดินเอ้อระเหยออกจากคอกม้าที่ละเลงนองเอ่อไปด้วยน้ำและน้ำยาอาบน้ำ พาตัวเองกลับบ้านพักซึ่งอยู่ไม่ไกล และหล่อนพอจะทำทางได้            "เกิดอะไรขึ้น!!" เสียงทุ้มตะคอกดังมาจากข้างหลัง หล่อนจึงหันกลับไปมอง เห็นภูมิศิลาวิ่งตัวปลิวเข้าไปที่คอกม้า สายตาจับจ้องอยู่แต่ที่ตัวเจ้าบุญถวาย            "นายครับ...คือ คือผม..." ทิมอึกอัก ตะกุกตะกักไม่กล้าเอ่ยปากตอบสิ่งใด ได้แต่ยืนดูอยู่ข้างนอก กุมมือไว้ด้านหน้าเตรียมพร้อมสำหรับรองรับอารมณ์ของเจ้านาย ซึ่งเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้ว            "โมรียา!!!!"            เสียงทุ้มก้องสนั่นนั้นเท่าเอาหล่อนขนลุกชัน เผลอกลั้นลมหายใจชั่วครู่ ใจหายวาบ ทั้งเพราะความเย็นของน้ำที่กระเด็นมาโดนตัว และด้วยสายตาพิฆาตคาดโทษนั้นของเขา            "ไอ้ทิม!! มึงดูยังไงถึงปล่อยให้เป็นแบบนี้" ชายหนุ่มเจ้าของไร่หันมาเล่นงานลูกน้องของตัวเองก่อน เจ้าทิมก้มหน้านิ่ง ตัวสั่นปากสั่น เรียงลำดับคำตอบไม่ถูก            "ผม...ผมก็เฝ้าคุณผู้หญิงตามคำสั่งนายเลยครับ แต่...เมื่อครู่เธออยากดื่มน้ำผมเลยไปเอาให้ กลับมาอีกทีก็...ก็เป็นอย่างที่นายเห็นล่ะครับ ผมไม่รู้จะทำยังไงเหมือนกัน ผมขอโทษครับนาย...ให้ทำอะไรก็ได้ แต่อย่าไล่ผมออกจากไร่เลยนะครับ" เจ้าทิมพร่ำพลางน้ำเสียงเหมือนจะร้องไห้ไปพลาง ท่าทีลนลานชัดเจน            ทางด้านภูมิศิลานั้นเมื่อตะคอกใส่คนนั้นทีคนนี้ทีจบ ก็ก้าวรุดไปดูม้าตัวโปรด ที่บัดนี้แทบไม่เหลือเค้าความองอาจให้เห็น กลายเป็นม้าที่ถูกแมลงสาบแทะขนไปเสียแล้ว ซึ่งดูท่าทางมันจะไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรด้วยกับความร้อนใจเป็นไฟสุมทรวงของเขา            "ไอ้บุญลูกพ่อ..." ชายหนุ่มกัดฟันกรอด เอามือลูบขนที่ถูกตัดวิ่นเป็นหย่อมๆ บางแห่งแทบถึงโคน บางที่ก็สั้นบ้างยาวบ้าง แหว่งๆ วิ่นๆ แทบดูไม่ได้เอาเสียเลย            มือใหญ่ลูบไปตามลำตัวเจ้าม้ารุ่นตัวรัก...ความกรุ่นโกรธหนักหน่วงด้วยรู้สึกว่าครั้งนี้โมรียาเริ่มเล่นแรงเกินไปแล้ว            "จะไปไหน!!!"            สองเท้าหยุดชะงัก...ในขณะที่กำลังเดินกลับไปที่พักของตน หล่อนไม่หันกลับไปมองเขาแต่ยืนนิ่งๆ เอามือกอดอก เบ้ปากยกนิ้วเรียวงามที่บัดนี้ยาทาเล็บสีหวานติดประดับด้วยเม็ดคริสทัลได้ลอกออกไปบ้างแล้ว            การอาบน้ำให้เจ้าม้าบ้านั่น...ก็ทำหล่อนเสียหายไม่น้อยอยู่เหมือนกันนะ            "เธอตั้งใจจะแกล้งฉันใช่ไหมโมรียา!!" เขาผละจากตัวม้าเดินดุ่มออกมาด้านนอกสาวเท้าเข้าหาหญิงสาวด้วยความฉุนเฉียว            โมรียาหันควับมาตามเสียงฝีเท้าที่กระทืบลงดิน หล่อนถอยกรูดตามสัญชาตญาณเอาตัวรอด แต่ช้าไป...มือใหญ่คว้าท่อนแขนของหล่อนไว้ดึงเข้าหาตัว และบีบแรงจนหล่อนร้องครวญ            "บ้าสิ! ก็คุณสั่งให้อาบน้ำให้เกลี้ยง ให้สะอาด นั่นไง! เกลี้ยงดีแล้ว สะอาดดีแล้วยังจะมาอะไรอีก!" หล่อนตวาดกลับ หายใจหอบสั่น แต่สะบัดหน้าไปทางอื่นไม่ยอมสบตาดุกล้าของเขา            "มันจะมากไปไหม..." เสียงทุ้มเล็ดลอดไรฟันกรอด มองเธอประหนึ่งอยากจะหักคอให้ตายคามือ            "แล้วที่คุณทำกับฉัน...มันไม่มากไปรึไง" หญิงสาวหันหน้ามาเผชิญกับความจริง...หล่อนมองเขาไม่ลดละเช่นกันเมื่อคิดว่าตนเองก็คือผู้ที่ถูกกระทำก่อน และร้ายแรงกว่าหลายเท่าด้วย ทำไมหล่อนจะไม่มีสิทธิ์ทวงความยุติธรรมกลับคืนมาบ้าง            "ได้...ถ้าเธออยากลองดีกับฉัน...เราก็จะได้เห็นดีกัน! โมรียา!!"            "ว้าย!!!" ไม่ทันขาดคำพูด ร่างของหล่อนที่เตรียมจะดึงกลับหนีก็ถูกเกี่ยวตวัดขึ้นพาดบ่ากว้างเสียก่อนแล้ว หล่อนยังไม่หมดฤทธิ์ง่ายๆ ยังดิ้นและพยายามใช้กำปั้นน้อยๆ ทุบไปบนหลังเขาเต็มแรง สองเท้าเหวี่ยงถีบทำทุกทางให้ตัวเองได้รับอิสระกลับคืน จนอีกฝ่ายง้างมือตบแรงๆ ตรงสะโพก หล่อนเจ็บจนร้องเสียงหลง ใบหน้าเบี้ยวเหยเก            "ซวยแน่คุณคนสวย...เล่นล่อเจ้าบุญซะไม่เหลือเค้าแบบนี้นายเอาตายแน่ๆ" ไอ้ทิมยืนเกาหัวแกรกๆ มองเจ้านายที่อุ้มแบกร่างหญิงสาวปริศนากระเตงเดินหายเข้าไปในไร่ แล้วก็อดที่จะนึกถึงชะตากรรมของหล่อนไม่ได้ เพราะนายของเขาแม้จะใจดีอยู่มากก็ตาม แต่ก็ยังโหดเอาเรื่อง จนคนงานและชาวบ้านในละแวกนี้ยำเกรงกันเป็นแถบๆ ไม่บ่อยนักหรอกที่จะมีใครสักคนกล้าขัดใจ                                                 "นี่ปล่อย!!"            "..." ได้ยินเสียงตอบรับใดๆ จากร่างใหญ่ถึกที่แบกหล่อนเดินดุ่มๆ ด้วยสองเท้ามั่นคง โมรียาไม่กล้าแผลงฤทธิ์มากนักเพราะโดนฟาดตีก้นจนเจ็บแปลบไปหมด อีกทั้งหล่อนก็เริ่มรู้สึกเหนื่อยหอบกับการดิ้นรนต่อต้านเขาแล้วด้วย            ร่างของหล่อนสั่นไหวเข้ากับจังหวะการเดินของเขา รอบๆ ทางสองด้านเต็มไปด้วยต้นส้มที่กำลังผลิดอกออกผลเล็กๆ ที่นี่คงเป็นไร่สวนที่ไหนสักแห่งของครอบครัวชายหนุ่ม ซึ่งการปลูกผลไม้สวนผสมส่งออกและแปรรูปเป็นกิจการหลักของบ้านเขานั่นเอง            "จะพาฉันไปไหน!"            "พาไปเอาความสกปรกในจิตใจเธอออกยังไงล่ะ ไม่ต้องกลัว...ฉันยังไม่ฆ่าเธอตอนนี้หรอก เธอยังต้องทรมานอีกเยอะ!!" ชายหนุ่มยังเดินกระทืบเท้าไปเรื่อยๆ ตามร่องสวนเมื่อเกือบสุดทางก็ลัดเลาะไปยังอีกด้าน ที่เป็นพื้นที่โล่ง มีอุปกรณ์การเกษตรและเครื่องมือต่างๆ วางอยู่            ตูม!!! ร่างของหล่อนถูกเหวี่ยงลอยลิ่วโดยไม่ได้ตั้งตัว กว่าจะรู้สึกรู้สาอีกทีก็ปรากฏว่าตัวเองได้ตกลงมาในบ่ออะไรสักอย่าง เปียกปอนไปทั้งตัว ที่แย่กว่านั้น...            "กรี๊ด!! ช่วยด้วย!" หล่อนหวีดร้องสุดเสียงด้วยความตกใจ เมื่อน้ำสกปรกที่มีกลิ่นเหม็นเน่าอย่างรุนแรงทะลักเข้าปากเข้าจมูก ต้องรีบกลั้นหายใจและใช้มือขวนขวายไขว่คว้าจะพาตัวเองให้พ้นจากความโสโครกนั้น โดยไม่ได้ลืมตาดูเพราะความกลัวและขยะแขยงอย่างที่สุด            "น้ำหมักชีวภาพ...คงช่วยขัดเกลาความเลวในตัวเธอให้ลดน้อยลงได้บ้างนะโมรียา สำเนียกไว้ด้วยว่า สิ่งปฏิกูลที่เน่าเสียพวกนี้มันยังมีประโยชน์กว่าเธอเสียอีก ให้น้ำจุลินทรีย์พวกนี้ชะล้างความคิดชั่วๆ ของเธอซะบ้าง หึ...นิสัยเสียจนเคยตัว" ภูมิศิลายืนหน้าขรึมอยู่เหนือขอบบ่อขนาดไม่ใหญ่และไม่เล็กมากนัก สำหรับพักน้ำหมักชีวภาพที่พร้อมใช้งานแล้วใช้ในการเกษตร แล้วแสยะยิ้มร้าย มองหญิงสาวที่ตะเกียกตะกายเหมือนคนกำลังจมน้ำคลำ            แต่...พักน้ำชีวภาพที่เป็นบ่อซีเมนต์นี้มันไม่ได้ลึกขนาดทำให้ใครจมน้ำตายได้หรอก หากยืนขึ้นน้ำก็สูงแค่หน้าขาเท่านั้นเอง...            "ช่วยด้วย!! ไอ้บ้าเหม็นจะอ๊วก!!"            "ยังไม่รู้ตัวอีก...ว่าตัวเองน่ะเหม็นยิ่งกว่าน้ำหมักพวกนี้ด้วยซ้ำ สวยแต่รูป...ข้างในเน่าจนหนอนยังส่ายหน้า ฮึ!"            "ช่วย..ด้วย...อื้อ! ช่วย!!" น้ำเสียงแหลมปรี๊ดเริ่มค่อยๆ อ่อนแรงลง ร่างเล็กยังดิ้นทุรนแต่หล่อนคงตกใจมากจนไม่ทันคิดว่าถ้าหากลุกยืนและเดินขึ้นจากบ่อหล่อนก็รอดแล้ว            "..." ภูมิศิลาขมวดคิ้ว...มองร่างที่ล้ากำลังลงทุกขณะด้วย สายตาจับสังเกตอยู่ตลอดเวลาไม่ได้ละเลย            "ถ้าไม่โง่ก็ยืนขึ้นสิ...น้ำมันลึกซะที่ไหน รอยหยักในสมองถูกเงินทับจนเซลล์ตายไปหมดแล้วหรือไง" เขาตะโกนบอกร่างที่ที่กำลังทิ้งตัวเอนไปด้านหลังด้วยสภาพสิ้นแรง            "โมรียา..." ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไร้การตอบสนองไปแล้ว            "มู่ลี่! มูลี่!..." คราวนี้ภูมิศิลาเริ่มใจเสีย เห็นร่างเล็กนั้นคล้ายหมดสติก็รีบก้าวเท้ากระโดดลงไปในบ่อน้ำสีคลำทันที
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD