"แค่กๆๆ" โมรียาลำสักอาหารที่ถูกจุกเข้าไปในปาก หล่อนขยับร่างไปนั่งเอามือทาบอกหายใจรัว ใช้มืออีกข้างลูบผมเผ้าที่พะรุงพะรังประใบหน้า และปัดเศษอาหารออกไป น้ำตานองหน้าที่แดงก่ำแปดเปื้อน ดวงตาฉ่ำปรือจ้องมองเขาด้วยความเคียดแค้นชิงชังยิ่งกว่า ความกลัวยังคงอยู่ไม่เลือนหาย หากแต่ความเจ็บช้ำน้ำใจนั้นมีอำนาจเหนือกว่าในยามนี้
"ลี่ไปทำให้อะไรให้พี่เจ็บแค้นถึงขนาดนี้เหรอพี่ภูมิ...ลี่เคยทำกับพี่ภูมิเหมือนหมูเหมือนหมาแบบนี้เหรอ!!" น้ำเสียงแพร่งพร่าสะอื้นเอาความเจ็บช้ำกลั่นกรองเป็นคำพูดที่เชือดเฉือนหัวใจคนฟังให้ปวดหนึบได้ไม่แพ้กัน น้ำตาเจ้ากรรมไหลรินไม่ยอมหยุด ทั้งที่หล่อนเอามือปาดแล้วเช็ดอีก เหมือนจะควบคุมความรู้สึกที่สั่นสะท้านเอาไว้ไม่ได้แล้วเช่นกัน
"อย่ามาใช้วิธีสำออย...พี่ภูมิของเธอมันตายไปแล้วมู่ลี่ ตายไป...ตั้งแต่วันที่มันรู้ว่าผู้หญิงที่เคยให้คำสัญญาว่ากลับมาหามัน หลอกให้มันรอเหมือนคนโง่...แต่ตัวเองกลับเริงร่าเล่นชู้สู่ชาย หอบหิ้วกลับมาจัดงานแต่งใหญ่โต! โดยคนที่รอเหมือนควายอย่างมัน...รู้เป็นคนสุดท้าย!!"
"..." หล่อนเห็นบางอย่างในแววตาแข็งกร้าวนั้นของเขา...ภาษาที่ส่งสารสื่อออกมา สยบทุกถ้อยคำที่หล่อนอยากเอ่ยต่อว่าต่อขานอีกมากมาย มันคือความเจ็บปวดที่ฝังแฝงลึกล้ำสุดหัวใจ และเธอ...ก็ยอมรับว่ามันคือความจริง เพียงแต่ไม่เคยคิดถึงผลการกระทำ ว่ามันจะร้ายแรงรวดร้าวได้ขนาดนี้
"ไม่ต้องกงไม่ต้องกินมันแล้ว!! มานี่..." ภูมิศิลาสลัดบางอย่างที่ตีตื้นขึ้นมากลบความตั้งใจ ที่หมายหมาดเอาไว้ตั้งแต่แรกวางแผนจัดการกับเรื่องนี้ แล้วเข้าไปกระชากร่างเล็กที่ยังสะอื้นไห้ หล่อนล้มลุกคลุกคลานพาตัวเองลงจากแคร่ตามแรงลากที่ไร้ความปราณี เดินไปตามทางเท้าซึ่งมีความกว้างประมาณสองเมตร แต่ทอดยาวไปไกลสุดสายตาเข้าไปยังแปลงไร่นาสวนผสม
โมรียาสงบคำด้วยเพราะจุกเจ็บไปทั้งกายและใจ หล่อนปล่อยให้คนมีอำนาจเหนือกว่าทั้งด้านกำลังใจแรงกาย จูงพาไปเหมือนเป็นทาสที่อยู่ใต้อาณัติไม่อาจต่อรองสิ่งใด
แม้แต่...ลมหายใจ
"ทิน!" เจ้าของอาณาเขตตะโกนเรียกหาคนงานเมื่อมายืนเท้าสะเอวอยู่ตรงคอกม้าแล้วมองไม่เห็นคนงานซึ่งทำหน้าที่ในส่วนนี้ มือหนึ่งยังจับข้อมือเล็กไว้แน่นไม่ยอมปล่อย แม้หล่อนจะไม่ได้ออกแรงขัดยืนเขาแล้วก็ตาม
"ไอ้ทิน!!" ครั้งที่สอง...ก็ยังไม่เห็นวี่แววเจ้าของชื่อ จะโผล่ออกมาให้เห็น
"ไอ้เวรนี่! มึงอู้งานเหรอ เดี๋ยวกูจะขังให้กินนอนในคอกม้าสักเดือน!" สายตาคมกล้าสาดส่องไปรอบๆ ด้วยอารมณ์ร้อนรุ่มที่ยังค้างคาอยู่ มันทำให้เขารู้สึกอยากกระทืบใครสักคนให้รู้แล้วรู้รอด เพราะไม่เช่นนั้นโมรียาอาจต้องเป็นที่รองรับ ซึ่งใจจริงแล้วชายหนุ่มไม่นึกอยากทำรุนแรงกับหล่อนมากนัก ด้วยยังสำนึกถึงความเป็นเพศแม่ แม้จะอยากหักคอหล่อนวันละหลายๆ รอบอยู่เหมือนกันก็ตาม
"นายภูมิ...ผมอยู่นี่ ผมไปเอายาให้เจ้าบุญถวายครับ มันท้องเสียตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว" ร่างของคนงานหนุ่มวัยยี่สิบต้นๆ วิ่งมายืนหอบอยู่ตรงหน้านายจ้างของมัน
"ท้องเสีย??" ร่างใหญ่ขมวดคิ้วเชิงสงสัยและเหมือนกำลังประมวญความคิดบางอย่างไปด้วย
"ครับ...สงสัยกินอะไรผิดสำแดงเข้าไป ตอนนี้เริ่มดีขึ้นแล้วครับ"
"ออ งั้นคงต้องทำความสะอาดให้มันเสียหน่อย เดี๋ยวมึงพาผู้หญิงคนนี้ไปที่คอกไอ้บุญถวายนะ จัดการหาถังน้ำหาแปรงให้ด้วย"
"ทำ...ทำไมครับนายภูมิ" เจ้าทินเหลือบไปมองหญิงสาวร่างระหงแล้วก็ไม่อาจเชื่อในสายตาว่าเจ้านายของมันจะให้คนสวยๆ แบบนี้ทำอะไรอย่างที่มันคิด
โมรียาเองก็หน้าหงิกหน้างอมองเขาด้วยแววตาขุ่นเคืองอยู่เช่นกัน
"กูไม่นิยมเลี้ยงคนขี้เกียจมึงก็รู้ จะให้มานั่งๆ นอนๆ กินฟรีอยู่ฟรีเอาเปรียบคนอื่นๆ ได้ยังไง พาแม่นี่ไปอาบน้ำให้เจ้าบุญถวาย...เขาอยากได้อะไรก็หาให้ แต่อย่าปล่อยให้คลาดสายตาไม่งั้น! มึงตาย"
"นี่! มันจะมากไปไหม ฉันมาขออาศัย หรืออยากมาอยู่นักรึไง!! จะให้ทำบ้าๆ แบบนั้น ฉัน!..." มือไม้ที่ชี้โบกโวยวายหยุดชะงักทันที แต่เมื่อดวงตาคมกล้าสาดมอง ความป่าเถื่อนของเขาก่อนหน้า ยังคงกล่อมกลืนหลอกหลอนใจหล่อน หญิงสาวจึงทำได้เพียงกรีดร้องตะโกน อยากจะฆ่าฟันเขาอยู่ในใจ แล้วสงบปากสงบคำเพื่อความอยู่รอด
"ครับ...นาย..." ไอ้ทินรับคำพลางกลืนน้ำลายลงคอ สายตากลมโตคมกริบหันมองนายแล้วจิกสลับมาที่เขา ราวจะกินเลือดกินเนื้อเสียให้ได้
"ตามไอ้ทิมไปสิ...มัวโอ้เอ้ หรือต้องให้ฉันเป็นคนจัดการเอง" มิวายยังข่มขู่
"หึ..." โมรียาสะบัดหน้า ถอนหายใจด้วยความคับแค้น หล่อนจะเก็บจำทุกรายละเอียดที่เขาทำ แล้วเมื่อวันหนึ่งทุกอย่างถ่ายเทมาอยู่ในมือหล่อนบ้าง เขาจะต้องรู้ซึ้งและสำนึกในสิ่งที่ทำกับหล่อนในวันนี้อย่างสาสม
หล่อนเดินตามเจ้าทิมกระทืบเท้าด้วยความโมโหเหมือนเคย ภูมิศิลามองพลางแสยะยิ้ม อยากรู้นักจะไปได้สักกี่น้ำ คนที่ไม่เคยทำอะไรเลยแม้แต่ล้างแก้วน้ำสักใบอย่างโมรียา หล่อนใช้ชีวิตอย่างสุขสบายเกินไปจนเคยตัว เอาแต่ใจเสียจนไม่เห็นความสำคัญของสิ่งใดๆ ทั้งสิ้นแม้แต่...ความรู้สึกของเขา
ดังนั้น...หล่อนควรได้รับการสั่งสอนให้รู้สึกรู้สาเสียบ้าง เขาจะเป็นคนปรามหล่อนเอง ไม่ว่าด้วยวิธีไหนก็ตาม หากมันจะดัดสันดานชุ่ยๆ ของหล่อนให้อ่อนลงได้ เขาก็จะสรรหามาลงทัณฑ์ไม่ว่างเว้นเลยทีเดียว
"นี่ครับ..." ทิมยื่นถังน้ำพลาสติกพร้อมอุปกรณ์สองสามอย่างสำหรับอาบน้ำให้ม้าตัวโปรดของเจ้านายส่งให้สาวเจ้า หล่อนจิกตามองตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วยกมือกอดอกได้สนใจ ประหนึ่งว่าเขาไม่ได้มีตัวตน
เจ้าทิมถอนหายใจกลอกตา...ตัวเขาเองก็เอาใจใครไม่ถูกเหมือนกัน ลำบากใจจริงๆ ร่างใหญ่ในชุดคนงานถือถังน้ำนั้นไปวางไว้ใกล้ๆ ม้าที่จูงเชือกมัดเอาไว้ในคอก หันไปมองสาวปริศนาที่นายตนเองมาเข้ามาในไร่นิดนึง ก่อนจะเดินไปลากสายยางและเปิดน้ำเตรียมความพร้อมให้กับหล่อน
"เชิญครับคุณผู้หญิง..."
"แกก็อาบให้มันสิ...ฉันไม่ทำงานกุลีพวกนี้” หล่อนยังเชิดหน้าแบะปาก มองพื้นคอกม้าสกปรก เต็มไปด้วยสิ่งปฏิกูลและเศษหญ้า ด้วยสายตาดูแคลนเต็มที
"ผมช่วยคุณผู้หญิงได้ทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องอาบน้ำให้ม้าครับ...ถ้าคุณผู้หญิงข้องใจก็ลองไปคุยกับเจ้านายผมดูก็ได้ แต่บอกไว้ก่อนนะ นายภูมิน่ะไม่ชอบพูดอะไรซ้ำซาก ช่วงนี้ยิ่งมีเรื่องวุ่นๆ ในไร่ด้วย เกิดไม่พอใจขึ้นมาจะถูกจับล่ามกินนอนกับม้าไม่มีใครช่วยได้นะครับ" ทิมลอบยิ้ม พอจะรู้จุดอ่อนของหล่อนบ้างแล้ว จากการสังเกตก่อนหน้า
มือเรียวเล็กขาวผ่องคลายจากการกอดหน้าอกในทันที สีหน้าหล่อนถอดสีเล็กน้อย ในขณะที่ขยับกระทืบเท้าเดินเข้ามาหาเจ้าทิม คนงานหนุ่มอมยิ้มแล้วส่งสายยางให้ โมรียาฉกดึงเหมือนคนโกรธกันมาเป็นชาติ ทั้งที่เพิ่งเห็นหน้ากันไม่ถึงครึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ
"ม้าตัวโปรดนายนะครับ...คุณต้องอาบให้สะอาดนะไม่งั้นนายเล่นงานแน่ ผมจะพลอยซวยไปด้วย" เจ้าทิมย้ำ
"ม้า...ตัวโปรด..." หล่อนย้ำคำพูดของคนงานหนุ่ม พร้อมรอยยิ้มร้าย
"ใช่ครับ...ตัวนี้นายภูมิรักที่สุดเลย" เจ้าทิมยังไม่รู้ภัยที่พาลเข้ามา เขายิ้มอย่างภูมิอกภูมิใจ เพราะเจ้าบุญถวายเป็นม้าหนุ่มแข็งแรงองอาจและราคาสูงพอใช้เลยทีเดียว
โมรียาเหยียดยิ้ม หล่อนจ้องม้าตัวใหญ่สีขาวหมอกตัวสูง ซึ่งถ้าหล่อนเข้าไปยืนใกล้ๆ ศีรษะคงอยู่ประมาณแค่โคนขาของมัน ขนยาวเงางามแสดงให้เห็นว่าได้รับการดูแลเป็นอย่างดี หางเป็นพวงสะบัดไปมา ปากก็เคี้ยวหญ้าอ้อยอิ่ง คงเป็นม้าที่คุ้นเคยกับคนไม่น้อย ถึงได้ไม่แตกตื่นคนแปลกหน้าอย่างหล่อน
"มันจะทำร้ายฉันหรือเปล่า..." หล่อนแสร้งถาม
"อ๋อ...ไม่หรอกครับ มันคุ้นแล้วก็แสนรู้มาก ถ้าผมหรือคนที่มันคุ้นเคยอยู่ด้วยมันจะไม่แตกตื่น แต่ถ้าไม่มีใครที่มันรู้จักอยู่เลยนั่นแหละอันตราย..." ทิมอธิบาย หญิงสาวพยักหน้าแล้วคิดในใจ ว่าม้าตัวนี้กะไรแสนรู้แท้ จำคนได้ แถมยังรู้ว่าต้องปฏิบัติตัวอย่างไรตอนไหนอีก
"ได้...ฉันจะอาบน้ำให้มันสะอาดเกลี้ยงเกลาเลยทีเดียว" รอยยิ้มสุดท้ายก่อนที่หล่อนจะหันหลังให้ทิมแล้วเดินตรงไปที่เจ้าม้าตัวเขื่อง ทำเอาทิมต้องย่นคิ้วใช้ความคิด รู้สึกเหมือนบางอย่างกำลังคืบคลานเข้ามาอย่างน่ากลัว