หลังกลับมาจากงานเลี้ยงของผู้ใหญ่ท่านหนึ่งในอำเภอ คุณสนธยากับคุณนงนุชแทบจะล้มทั้งยืน เมื่อเห็นสภาพบาดเจ็บของลูกชาย คุณสนธยามองสภาพบาดแผลของลูกชาย แล้วกวาดสายตามองไปรอบบ้าน เพื่อหาลูกสาวบุญธรรม แต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงา แค่นี้เขาก็พอสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับลูกชายได้แล้ว ในขณะที่คุณนงนุชรีบเข้าไปกอดลูกชาย มองผ้าพันแผลที่พันอยู่หน้าท้องและต้นแขนของลูกชายด้วยความเป็นห่วง
“ใครมันกล้าทำร้ายลูกชายของแม่ บอกแม่มาเดี๋ยวนี้ แม่จะไปแจ้งความ แม่ต้องเอามันเข้าคุกให้ได้”
“เอ่อ...” นพเก้าถึงกับพูดไม่ออก เมื่อเจอคำถามของมารดา เขาจะบอกความจริงนางได้ยังไง ว่าสาเหตุที่เขาถูกแทง เพราะเขาคิดจะขืนใจน้องสาวบุญธรรม
“แกก็บอกแม่ไปสิไอ้นพ ว่าที่แกถูกแทง เพราะแกจะข่มขืนนังพิมล” เสียงของวิริยาดังขึ้นพร้อมกับร่างระหงเดินออกมาจากห้องนอน ถึงเธอจะเกลียดน้องสาวบุญธรรม แต่เรื่องที่น้องชายทำ เธอก็รับไม่ได้เหมือนกัน
“ผมเปล่านะพี่หญิง” นพเก้าเงยหน้าขึ้นปฏิเสธทันที ถึงความจริงจะเป็นอย่างที่พี่สาวพูด แต่ถ้าเขาปฏิเสธเสียอย่าง ยังไงมารดาก็ต้องเชื่อเขาอยู่แล้ว
“ถ้าแกไม่ได้คิดจะข่มขืนนังพิมล แล้วทำไมนังพิมลถึงเอามีดแทงแกล่ะไอ้นพ ชาวบ้านเขาก็ได้ยินกันหมด ตอนที่นังพิมลร้องขอความช่วยเหลือ”
“ผมเปล่านะครับแม่ ผมไม่ได้ทำอะไรมลจริงๆ” เมื่อจนต่อคำพูดของพี่สาว นพเก้าก็หันไปอ้อนมารดาทันที เขาไม่วันยอมรับสิ่งที่เขาทำลงไปในครั้งนี้แน่ ตอนนี้อรพิมลก็ไม่ได้อยู่ที่นี่ เขาจะพูดยังไงก็ได้ ยังไงมารด่าก็ต้องเชื่อในสิ่งที่เขาบอกอยู่แล้ว
“ผมไม่ได้ทำอะไรมลจริงๆ นะครับแม่ พี่หญิงใส่ร้ายผม แม่ต้องเชื่อผมนะครับ ผมไม่มีทางทำเรื่องเลวๆ แบบนั้นกับพิมลหรอกครับ”
“แม่เชื่อลูกจ้ะ ลูกชายที่น่ารักของแม่ ไม่มีทางทำเรื่องชั่วๆ แบบนั้นเด็กขาด แล้วนี่นังพิมลมันหายหัวไปไหน ทำไมไม่ออกมาล่ะ”
“นังพิมลมันไม่ออกมาหรอกแม่ ตอนนี้ไม่รู้มันหนีเตลิดไปไหนแล้ว” วิริยาตอบมารดาอย่างไม่พอใจ นพเก้าพูดอะไรนางก็เชื่อทุกอย่าง แล้วแบบนี้อรพิมลจะโดนอะไรบ้าง เธอไม่อยากคิดเลย ถึงเธอจะบอกว่าเธอเกลียดอรพิมลก็เถอะ แต่คนที่เธอเกลียดมากกว่าอรพิมลก็คือ นพเก้า
“แม่จะแจ้งความ จับมันเข้าคุก หนอย...นังเด็กสารเลว เลี้ยงไม่เชื่อง กล้าดียังไงมาทำร้ายลูกชายฉัน”
“หยุดความคิดโง่ๆ ของคุณไปเลยนงนุช แทนที่ยัยพิมลถูกจับเข้าคุก ผมว่าลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของคุณต่างหากที่ถูกจับเข้าคุก ข้อหาพยายามข่มขืน ที่สำคัญยัยพิมลยังเด็ก ลูกชายสุดที่รักของคุณ อาจเจอข้อหาพรากผู้เยาว์เลยนะ” คุณสนธยาเตือนภรรยาอย่างหัวเสีย นางคิดมาได้ยังไงที่จะไปแจ้งความจับลูกสาวบุญธรรม ในเมื่อตัวก่อเหตุก็เป็นลูกชายของตัวเอง ยิ่งไปกว่านั้นพยานที่รู้เห็นก็มีไม่น้อย ขืนแจ้งความไป สุดท้ายคนที่เดือดร้อนคงเป็นลูกชายมากกว่าลูกสาวบุญธรรมเป็นแน่
“นี่คุณเข้าข้างมันเหรอคุณสน” คุณนงนุชเงยหน้าขึ้นตวาดใส่สามีอย่างไม่พอใจ
“ผมก็ต้องเข้าข้างคนถูกสิคุณนงนุช ตัวคุณเองก็น่าจะรู้ว่าเจ้านพนิสัยเป็นยังไง แล้วยัยพิมลเป็นเด็กนิสัยยังไง แถมพยานที่เห็นเหตุการณ์ก็มีตั้งหลายคน แล้วคุณคิดว่าตำรวจจะเชื่อคำพูดของคุณกับเจ้านพหรือไง”
“เรื่องนี้หญิงเห็นด้วยกับพ่อ จะไปแจ้งความเพื่อประจานความเลวของไอ้นพทำไมกัน แล้วหญิงก็มั่นใจด้วยว่าชาวบ้านแถวนี้ต้องไปเป็นพยานช่วยนังพิมลมันแน่นอน บอกตามตรงนะแม่...แม่ไม่อายแต่หญิงอายค่ะ” วิริยาพูดจบก็เดินกลับเข้าห้องทันที เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็เห็นกันอยู่ว่าใครเป็นคนผิด แต่มารดาของเธอยังกล้าคิดแจ้งความจับอรพิมลอีก เธอไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเพราะอะไร มารดาจะรักนพเก้าจนไม่ลืมหูลืมตาแบบนี้
“แล้วนี่ใครพาแกไปโรง’ บาล” คุณสนธยาหันมาถามลูกชายทันที เมื่อลูกสาวเดินสะบัดหน้าหนีกลับเข้าห้องนอนไป จากสภาพที่เห็นก็ไม่น่าจะบาดเจ็บอะไรมาก เพราะถ้าโดนแทงจุดสำคัญ ป่านนี้คงไปนอนโอดครวญอยู่ในโรงพยาบาลแล้ว
“ไม่ได้ไปหรอกพ่อ พี่หญิงเป็นคนทำแผลให้ผมแล้ว ตอนที่นังพิมลมันแทงผม พี่หญิงกลับมาบ้านพอดี”
“เดี๋ยวแม่พานพไปโรง’ บาลเองนะลูก ไปให้หมอตรวจเสียหน่อย แม่เป็นห่วง เกิดนังพิมลแทงเข้าที่สุดสำคัญ...”
“ไม่ต้องหรอกแม่ นพไม่ได้เป็นอะไรมาก”
นพเก้าหันมาปฏิเสธคำขอของมารดาทันควัน ให้ไปทำแผลที่โรงพยาบาล เขาไม่เอาหรอก อีกอย่างนางพยาบาลที่อยู่ในโรงพยาบาลก็อยู่ห่างออกไปจากบ้านเขาไม่กี่หลังเอง ถ้าไปทำแผลที่นั่น แล้วเจอนางพยาบาลคนนั้น เขาไม่อยากตอบคำถามหรือนั่งเผชิญหน้ากับพยานที่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคืนนี้หรอก พอนพเก้าเงยหน้าขึ้นก็ถูกบิดาจ้องอยู่ ความรู้สึกกลัวก็แล่นวาบเข้ามาในอก ก่อนจะรีบเอ่ยขอตัวไปพักผ่อน เขาไม่อยากตอบคำถามอะไรของบิดาอีก
“ผมขอตัวไปนอนก่อนนะแม่ ผมง่วงมากเลย”
“เดี๋ยวสินพ” คุณนงนุชเรียกลูกชายที่ลุกหนีกลับไปยังห้องนอนของตัวเองด้วยความเป็นห่วง แต่ดูเหมือนความเป็นห่วงของนางจะไม่ได้รับการตอบรับ
“ผมจะออกไปตามหาพิมล” คุณสนธยาพูดขึ้น เมื่อภรรยาเตรียมจะเดินตามลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของนางไปที่ห้องนอน ตอนนี้คนที่น่าเป็นห่วงคือลูกบุญธรรมของเขามากกว่า เจอเรื่องร้ายๆ แบบนี้ ไม่รู้ตอนนี้ไปหลบอยู่ที่ไหน
“คุณจะออกไปตามมันทำไม คนที่คุณควรเป็นห่วงคือลูกชายของคุณต่างหาก ไม่ใช่นังเด็กนั่น”
“พูดอะไรหัดคิดให้มันรอบคอบเสียบ้างนะคุณนงนุช ยังไงยัยพิมลก็เป็นลูกสาวของคุณกับผมเหมือนกัน”
“มันไม่ใช่ลูกสาวของฉัน”
“ผมอยากให้สถานสงเคราะห์ที่คุณไปรับยัยพิมลมาเลี้ยง ได้ยินคำพูดเลวๆ แบบนี้ของคุณจริงๆ พวกเขาจะได้รู้เสียที ว่าผู้หญิงที่บอกว่าตัวเองเปรียบเสมือนแม่พระของเด็กกำพร้า แท้ที่จริงแล้วก็แค่ปีศาจตัวหนึ่งเท่านั้น” คุณสนธยาย้อนภรรยาอย่างหมดความอดทน ก่อนเดินออกจากบ้านด้วยความผิดหวัง นึกไม่ถึงเลยว่าภรรยาจะเปลี่ยนไปได้ถึงเพียงนี้ นับตั้งแต่เขาลาออกจากงานราชการ เพราะสุขภาพไม่ดี ภรรยาที่น่ารักและแสนภาคภูมิใจของเขาก็เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ
“กลับมาคุยกันให้รู้เรื่องเดี๋ยวนี้นะคุณสน คุณกล้าดียังไงถึงมาด่าฉันแบบนี้ ที่คุณมีกินมีใช้อยู่ทุกวันเพราะใคร ถ้าไม่ใช่ฉัน”
คุณนงนุชโวยวายใส่สามีอย่างเกรี้ยวกราด และพาลเกลียดลูกสาวบุญธรรมมากขึ้นไปอีก นับวันนางจะยิ่งแตะต้องเด็กสาวคนนี้ไม่ได้เลย ไม่รู้คนเป็นสามีจะรักจะเอ็นดูเด็กคนนี้อะไรนักหนา รักยิ่งกว่าลูกของตัวเองเสียอีก
‘เธอเคยสังเกตบ้างไหมนุช ว่ายัยเด็กอรพิมลหน้าตาคล้ายคุณสนอยู่เหมือนกันนะ’
จู่ๆ คำพูดของเพื่อนสนิทก็ผุดขึ้นในหัว คุณนงนุชถึงกับหน้าตึงทันที ถ้าเรื่องที่เพื่อนสนิทของนางพูดเป็นความจริง นางคงปล่อยให้เด็กคนนี้อยู่ในบ้านไม่ได้อีกแล้ว
“ฉันต้องกำจัดแกออกไปจากชีวิตฉันและลูกของฉันให้ได้นังอรพิมล”
//////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...