“ถุงยางอนามัยรุ่นใหม่ของเราที่กำลังจะออกสู่ท้องตลาดในเดือนหน้า จะมีลักษณะพิเศษด้วยปุ่มเล็กๆ ที่กระจายอยู่ทั่วทั้งตัวสินค้า จะช่วยสร้างอารมณ์ให้กับผู้หญิงได้เป็นอย่างดี แถมกลิ่นหอมที่เลียนแบบมาจากกลิ่นดอกไม้ธรรมชาติก็หลากหลายมากยิ่งขึ้น มีให้ผู้ใช้ได้เลือกถึงสิบสองกลิ่นครับ”
นักออกแบบผลิตภัณฑ์หนุ่มฝีมือดีของบริษัทกล่าวจบก็หันมองไปรอบๆ ห้องประชุมเพื่อขอความเห็นจากทุกคน โดยเฉพาะชาริลล์ที่วันนี้มาเข้าประชุมแทนริชาร์ดเพราะเจ้าตัวดันไม่ว่างเสียอย่างนั้น แต่ชายหนุ่มกลับเอาแต่นั่งจ้องโทรศัพท์มือถืออย่างเอาเป็นเอาตาย ราวกับกำลังรอคอยสายของใครบางคน
“เอ่อ... คุณชาร์ล... คิดว่าสินค้าตัวใหม่ของเราตัวนี้เป็นยังไงบ้างครับ”
ชาริลล์ก็ยังไม่เงยหน้าขึ้นมอง ทำให้คนถามอึกอักและแสนลำบากใจ แต่ก็จำต้องเอ่ยถามซ้ำอีกครั้ง และครั้งนี้เขาได้ยิน
“เออ... ว่าไงนะ ผม... ผมไม่ทันได้ฟัง”
คนที่ยืนอยู่ด้านหน้าของห้องรีบทวนคำถามให้กับผู้บริหารหนุ่มอีกครั้ง
“สินค้าตัวใหม่ของเราเป็นยังไงบ้างครับ”
สินค้าหรือ... ใช่สิ เขามาเข้าประชุมเพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับถุงยางอนามัยตัวใหม่แทนเจ้าริชาร์ดนี่ แล้วทำไม... เขาถึงไม่มีความรู้สึกจดจ่อกับการบรรยายตรงหน้าเลยนะ สมองเอาแต่จดจ่ออยู่ที่โรสิตา รอคอยการโทรมาของหล่อน ทั้งๆ ที่ไม่สามารถล่วงรู้เลยว่า หล่อนจะโทรมาหาในวันนี้หรือเปล่า
ช่างน่าขำนักกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับชาริลล์ คาร์ตัน...
ชายหนุ่มเต็มไปด้วยความสมเพชตัวเอง แต่ก็ไม่สามารถลบล้างความคิดคะนึงที่มีต่อโรสิตาได้ เขาถอนใจออกมาเบาๆ พร้อมกับลุกขึ้นยืน
“ผมไม่สันทัดเรื่องถุงยางอนามัยเท่าไหร่ คงต้องรอให้เจ้าของมาตัดสินใจเอง วันนี้จบการประชุมแค่นี้นะครับ ผมขอตัว”
ชาริลล์ไม่สนใจสายตาที่เต็มไปด้วยความแปลกประหลาดใจของผู้คนรอบตัว เขาก้าวออกมาจากห้อง และเดินตรงไปยังรถสปอร์ต ก้าวขึ้นมานั่ง และหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจ้องมอง อย่างชั่งใจ ในอกแสนจะร้อนรุ่มยากควบคุม
นี่เขาเป็นอะไรไปนะ ทำไมต้องคิดถึงโรสิตาขนาดนี้ด้วย ยิ่งได้ใกล้ชิดหล่อน เขาก็ยิ่งเหมือนถูกสะกดด้วยเวทมนต์ร้าย ไม่มีนาทีไหนเลยที่ไม่มีหล่อนอยู่ในสมอง ไม่มีวินาทีไหนเลยที่ชื่อของหล่อนจะไม่มาวิ่งพล่านอยู่ในใจ
เขากำลังบ้า... ใช่... บ้าไปแล้ว บ้าอย่างไม่สามารถจะควบคุมได้ ผู้ชายที่เคยหลงใหลอยู่แต่กับตัวอักษร จนคิดว่าชาตินี้ไม่มีทางที่ผู้หญิงคนไหนจะเรียกร้องความสนใจของเขาได้อีกแล้ว แต่ยามนี้โรสิตากลับทำให้เขาไม่คิดถึงหนังสือ ไม่คิดถึงภาพวาดโบราณอีกต่อไป
มีแค่หล่อน... แค่หล่อนเท่านั้นในความรู้สึกนึกคิดตอนนี้
นิ้วเรียวยาวกดเข้าไปที่รายชื่อผู้ติดต่อ ชื่อของโรสิตาอยู่ที่หน้าจอโทรศัพท์ ในเมื่อหล่อนไม่โทรมา... เขาก็ควรที่จะโทรไปหาหล่อนเสียเอง อย่างน้อยๆ ได้ยินเสียงก็ยังดี
ชาริลล์สูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่เพื่อข่มความประหม่า นิ้วแกร่งกำลังจะจิ้มลงไปกับปุ่มโทรออก แต่สายเรียกเข้าก็ดังขึ้นเสียก่อน รอยยิ้มที่ไม่เคยคิดว่าจะกว้างได้ขนาดนี้ปรากฏบนใบหน้าหล่อคมสัน เขายิ้มด้วยความดีใจ รีบกดรับทันที
“สวัสดีครับคุณโรส ผมกำลังคิดถึงคุณโรสอยู่พอดี...”
อดไม่ได้ที่จะเอ่ยสิ่งที่คิดอยู่ภายในใจออกไปให้อีกฝ่ายได้รับรู้ เสียงหวานของโรสิตาทำให้โลกของเขาสว่างไสวขึ้นได้อย่างน่าอัศจรรย์ หัวใจกระด้างเต้นแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ผู้หญิงเคยเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ารำคาญ น่าเบื่อสำหรับเขา แต่มันกลับไม่ใช่เมื่อผู้หญิงคนนี้ชื่อโรสิตา
“ได้ครับ... ยินดีครับ แล้วพบกันครับ”
แม้ฝ่ายสาวเจ้าจะตัดสายการสนทนาไปแล้ว แต่รอยยิ้มบนใบหน้าของชาริลล์ คาร์ตันก็ยังไม่จางหายไปไหน เขาเอนกายใหญ่พิงกับเบาะรถ นัยน์ตาสีเขียวมรกตเต็มไปด้วยความพึงพอใจเป็นที่สุด หัวใจหนุ่มกำลังกลายร่างเป็นลูกโป่งยามถูกอัดด้วยก๊าซ มันพองมันฟูจนแทบจะปริแตก แต่ในขณะที่เขากำลังเต็มไปด้วยความดีใจ อีกฟากหนึ่งของคู่สนทนากลับกำลังเต็มไปด้วยความละอายใจ
“อย่าทำหน้าแบบนี้สิยายโรส ไหนรับปากกับฉันแล้วไงว่าจะไม่ใจอ่อนอีก”
มิตาเห็นหน้าของเพื่อนซีดลงก็รีบเตือนสติ
“ท่องไว้ทำเพื่อครอบครัว ท่องเอาไว้”
โรสิตาฝืนพยักหน้ารับ ทั้งๆ ที่แสนจะปวดร้าว
“ขอบใจเธอมากนะมิตา ถ้าไม่ได้เธอ ฉันคงไม่รู้จะเดินไปทางไหนเลย”
“ไม่ต้องขอบอกขอบใจอะไรฉันหรอกยายโรส ขอแค่แกทำตามในสิ่งที่ฉันบอกให้สุดความสามารถก็พอแล้ว แค่นี้แหละที่ฉันต้องการ”
“อืมม์...”
โรสิตาพยักหน้ารับเศร้าๆ มองตัวเองในกระจกเงาซ้ำอีกครั้ง และก็ได้เห็นผู้หญิงหน้าตาสะสวยแต่งหน้าอ่อนๆ อยู่ในนั้น
“แกสวยมาก ยังไงคืนนี้แผนของเราจะต้องสำเร็จ”
เป็นอีกครั้งที่โรสิตาไม่สามารถพูดออกมาได้ กระบอกตาร้อนผ่าว ลำคอตีบตันจนยากจะเอื้อนเอ่ยสิ่งใดออกมา
“แล้วนี่แกนัดชาริลล์ คาร์ตันกี่โมง”
“หก... หกโมงเย็น”
มิตาเหลือบตาขึ้นมองนาฬิกาที่ผนังห้องเล็กน้อย
“ตอนนี้บ่ายสาม แกยังมีเวลาเตรียมตัว และเตรียมใจ มานี่...”
ร่างของโรสิตาถูกดึงให้ลุกจากหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ให้ไปนั่งลงบนเตียงเล็ก โดยมีมิตานั่งอยู่เคียงข้าง จากนั้นมิตาก็ยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งมาให้หล่อน
“ท่องจำให้หมด... นี่คือสิ่งที่แกต้องทำ”
โรสิตารับมาถือเอาไว้อย่างงงๆ
“อะไรของเธอน่ะมิตา”
“บทไง ท่องจำเอาไว้ซะ ทุกอย่างจะได้แนบเนียนไร้ที่ติ”
หยาดน้ำตาแห่งความสมเพชตัวเองหล่นลงมาอาบแก้มและหยดแหมะลงกับกระดาษสีขาวเปื้อนหมึกในมือตรงหน้า
“ฉันคิดว่า... ฉันรู้ว่าควรจะพูดอะไร”
“ไม่ได้หรอก... แกยิ่งชอบใจอ่อนกับหมอนั่นอยู่ ท่องตามที่ฉันร่างมานี่แหละ รับรองคืนนี้ชาริลล์ คาร์ตันเสร็จแกแน่”
หากเป็นผู้ชายคนอื่นหล่อนคงไม่รู้สึกละอายใจขนาดนี้
โรสิตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวดแสนทรมาน แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่นใด นอกจากทำตามคำแนะนำของมิตาเพื่อนรัก
หญิงสาวก้มหน้าลงอ่านทุกอย่างในกระดาษ มิตาเห็นแล้วก็อมยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ เพราะหล่อนต้องการช่วยให้โรสิตาได้เงินก้อนใหญ่เร็วๆ ครอบครัวของโรสิตาจะได้คลายความเดือดร้อนลงเสียที แม้จะไม่สามารถกลับมาอยู่ในระดับเดิมได้ก็ตาม
“เป็นไงบทของฉัน เยี่ยมไหม”
โรสิตาช้อนตาขึ้นมองเพื่อนรัก ก่อนจะพูดเสียงแผ่ว
“ใช่ ดีมาก แต่ฉัน... ฉันคิดว่ามันอ่อยเกินไป”
“มันก็ต้องอ่อยแบบนี้แหละ อ่อยแบบมีชั้นเชิงยังไงล่ะ เอาน่า แกเชื่อฉันเถอะ ชาริลล์ คาร์ตันหนีเงื้อมือของแกในค่ำคืนนี้ไม่พ้นหรอก พรุ่งนี้แกเตรียมตัวบีบน้ำตาเอาไว้ให้เยอะๆ ก็แล้วกัน เงินก้อนใหญ่จะได้ตกมาถึงมือสักที”
“แล้ว... ถ้าคุณชาร์ล... เอ่อ... ชาริลล์ ไม่ให้เงินฉันล่ะ”
“จะเป็นไปได้ยังไงล่ะ ในเมื่อถ้าไม่ให้เงินแก เขาก็ต้องรับผิดชอบแกด้วยการแต่งงาน แต่ผู้ชายตระกูลนี้หวงความโสดระดับชาติ ไม่มีทางยอมรับผิดชอบแกด้วยการแต่งงานหรอก ยังไงซะเขาก็จะฟาดหัวแกด้วยเงิน ซึ่งเงินก้อนนี้แกสามารถเรียกร้องได้มากเท่าที่แกต้องการ สิบล้าน ยี่สิบล้าน หรือว่าร้อยล้าน ขนหน้าแข้งของชาริลล์ คาร์ตันก็ยังไม่ร่วงสักเส้น พวกเขารวยจะตายไป”
โรสิตาไม่ได้รู้สึกดีกับสิ่งที่ได้ยินเลยแม้แต่น้อย
“ฉันคง... ไม่เรียกร้องเยอะขนาดนั้นหรอก... ขอแค่มีเงินไถ่บ้านคืน และมีเงินรักษาพ่อก็พอแล้ว”
“ไม่ได้นะยายโรส แกจะต้องเรียกเงินให้มากพอที่แกจะสามารถใช้ชีวิตต่อไปได้อีกสักสามสิบสี่สิบปีด้วย เอาแค่มาไถ่บ้าน รักษาพ่อแม่ไม่ได้หรอก”
“แต่ฉันจะขอเขาแค่นั้นจริงๆ พอไถ่บ้านได้แล้ว ฉันก็จะกลับเมืองไทยไปหางานทำ”
มิตาทำเสียงหมั่นไส้ในลำคอ
“คุณหนูอย่างแกเคยทำงานมาก่อนหรือไง ล้างจาน ซักผ้ายังไม่เป็นเลย แล้วจะออกไปทำงานข้างนอก อย่าหาว่าฉันดูถูกเลยนะยายโรส ผู้หญิงสวยๆ ทำอะไรไม่เป็นอย่างแกน่ะ ควรจะมีผู้ชายรวยๆ เลี้ยงไปตลอดชีวิต”
มิตาพูดถูกหล่อนเป็นผู้หญิงที่ไม่เคยทำงานบ้าน ไม่เคยแม้แต่พับผ้าเองมาก่อน หล่อนไม่มีทางสู้ชีวิตในโลกใบนี้ได้ตามลำพังหรอก
“ฉันเป็นแบบที่เธอพูดจริงๆ มิตา... ฉันนี่มันไม่ได้เรื่องเลยเนอะ”
มิตาพอเห็นเพื่อนรักเศร้าก็ตบบ่าให้กำลังใจ
“เอาน่า ทำวันนี้ให้ดีที่สุดก่อน เอาเงินจากชาริลล์มาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หลังจากนี้ค่อยคิดกันใหม่... ฉันสัญญานะว่าจะไม่มีวันทิ้งแก ยายโรส”
โรสิตามองเพื่อนอย่างขอบคุณ และซบหน้าร้องไห้กับอกของมิตา
“ถ้าไม่มีเธอ... ตอนนี้ฉันคงฆ่าตัวตายไปแล้ว... ขอบใจมากนะมิตา... ขอบใจที่ไม่ทิ้งเพื่อนนิสัยเอาแต่ใจอย่างฉัน... ขอบใจที่ช่วยฉันมาตลอด”
“ที่ฉันทำทุกอย่างลงไป ก็เพราะแกเคยมีน้ำใจกับฉันมาก่อน ดังนั้นเราจะไม่มีวันทิ้งกัน ฉันจะช่วยดันแกให้ผ่านด่านทดสอบชีวิตนี้ไปให้ได้ ฉันสัญญา”
“ขอบใจ... ขอบใจจริงๆ มิตา”
โรสิตาสะอื้นไห้กับอกของเพื่อนรักปริ่มจะขาดใจ ใช่... หล่อนจะทำให้มิตา จะทำให้พ่อกับแม่ที่รอคอยการกลับไปของหล่อนผิดหวังไม่ได้ ชาริลล์ คาร์ตัน ก็แค่เหยื่อ เขาก็แค่เหยื่ออันโอชะของหล่อนเท่านั้น หล่อนไม่ควรลังเลที่จะเชือดเขา...
ห้ามลังเลใจอีกเด็ดขาด... โรสิตา...