ภารตีขมวดคิ้ว เธอไม่ได้คิดไปเองแน่ๆ ผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงจุดนั้น เป็นใครบางคนที่เธอรู้จักดีแต่ห่างหายไปเกือบสามปีเต็ม ภารตีทรงตัวยืน เธอขยับจะเดินตรงไปหา แต่... “ยัยตีมานั่งทำอะไรตรงนี้หะ ตามพี่มาเร็วๆ เลย” ภาคโบกมือเรียกน้องสาว แถมยังทำท่าจะเดินเข้ามาหาท่ามกลางสายตาทุกคู่ ยกเว้นผู้หญิงคนนั้น “พี่ภาคคะ ตีบอกแล้วไม่ใช่เหรอคะ ตีจะผ่านทุกขั้นตอนด้วยตัวเอง” ภารตีแย้งเสียงขุ่น ใบหน้าหงิกงอ “ไร้สาระน่า แกทำแบบนี้ทุกคนตรงนี้ก็ไม่ได้รู้สึกดีขึ้นหรอก คำครหาจะหนาหูขึ้นกว่าเก่าเสียอีก พอแกได้ยินก็จะพานโมโหเสียเปล่าๆ” ภาคไม่เห็นด้วย ต่อให้ภารตีผ่านทุกขั้นตอนด้วยตัวเอง เธอก็เชิดหน้าพูดได้ไม่เต็มปากหรอก เพราะทุกคนที่นี่ไม่มีสักคนที่ไม่รู้จักภารตี “เซ็งเลย...ไปค่ะ ขอโทษนะคะ ตีไม่ใช่เด็กเส้น ตีเป็นแค่น้องสาวเจ้าของบริษัท” ไหนๆ ก็จำเป็นต้องตกเป็นหัวข้อสนทนาอยู่แล้ว ก่อนไปภารตีเลยเฉลยตัวตนของตนเอง เพื่อ