ต่องพูดไปตามที่คนอื่นพากันนินทา แม้จะได้ยินพสุธาพูดว่าจะพาเธอโรงพยาบาลก็ตามที แต่หากอยากเชื่อว่าพาไปที่อื่น ความจริงจะเป็นอย่างไร ก็ไม่นึกอยากสนใจอยู่แล้ว
เรื่องนินทาสนุกปาก บางคนก็ชอบเอาเรื่องไม่จริงขึ้นมาพูดกัน
อภิยาได้ยินต่องสาธยายออกมาแบบนั้นก็ให้ร้อนไปหมดทั้งหน้า นอนกกกับเจ้าของไร่เทียมพสุธาอย่างนั้นหรือ
แล้วภาพที่เขาขึ้นมานอนเบียดเธอบนเตียงคนไข้ก็ผุดเข้ามาในหัว ให้หน้าร้อนหน้าแดงขึ้นอีกเท่าตัว ร้องบอกไปว่า “โอ๊ย ไม่ใช่เลยพี่ต่อง ไม่ใช่แบบนั้น คุณพุธพาหยินไปส่งโรงพยาบาลต่างหาก โห คิดอะไรกันแบบนั้น”
“เรามาวันแรก เขาก็พูดกันแล้วว่าเราน่ะหวังรวยทางลัด ไม่อย่างนั้นจะอยากเข้าหาคุณพุธ เข้าไปประจ๋อประแจ๋ ประจบ คอยรับใช้คุณพุธแบบนั้นไปทำไม ถ้าไม่หวังอยากได้คุณพุธเป็นผัวน่ะ”
“หยินไม่ได้...” เธอส่ายหัวแล้วก็พูดต่อไม่ออก
เธอไม่ได้คิดแบบนั้นเลยจริง ๆ แล้วก็คิดไม่ถึงด้วยว่าคนอื่น ๆ จะคิดกันแบบนี้
ต่องพูดไปเรื่อย เธอฟังแล้วก็ได้แต่นั่งถอนใจ เธอห้ามความคิดของใครไม่ได้ และที่เธอพยายามเข้าไปให้พสุธาเห็นหน้าบ่อย ๆ ก็เพราะว่าอยากเข้าไปทำงานในสวนเกษตรอินทรีย์ต่างหาก เธออยากให้เขาสอนงานให้ เธออยากเรียนรู้การทำเกษตร ไม่ได้หวังรวยทางลัดอย่างที่ใคร ๆ พูดกัน
แล้วก็ก้มหน้าก้มตาเดินกลับห้อง สามวันที่พสุธาให้หยุดพัก เธอใช้เวลาสามวันนั้นช่วยงานที่บ้านจนครบตามเวลาที่เขาบอก ค่อยกลับไปทำงานอย่างเดิม และเธอก็ไม่ได้เจอหน้าพสุธาอีกเลยเป็นเวลาร่วมสัปดาห์หลังจากนั้น
วันนี้พสุธากลับเข้าบ้านไวหน่อย สองทุ่มก็ขับรถเข้ามาจอดที่โรงจอดเรียบร้อยแล้ว วันที่เขากลับจากโรงพยาบาล เขาต้องเข้าไปอยู่ที่สวนแล้วก็ยาวเป็นอาทิตย์ ๆ เพราะมีงานต้องจัดการที่ในนั้น เพิ่งจะได้ออกจากสวนก็วันนี้เอง กำลังจะเข้าบ้าน ตาก็อดมองเลยไปยังห้องพักคนงานไม่ได้ ก่อนจะหยุดเดิน เปลี่ยนเส้นทางจากห้องของเขา ตรงไปยังห้องพักคนงานทางนั้นแทน
เข้าไปยืน ๆ หยุด ๆ เมียง ๆ มอง ๆ กำลังจะตรงไปยังห้องที่เคยมาเมื่อครั้งก่อน ก็ต้องสะดุ้งตกใจ เมื่อมีเสียงถามดังมาจากด้านหลัง
“มาหาใครหรือคะคุณพุธ”
อยากจะหันไปไซด์คิกใส่สักที
พสุธาหันไปมองยังคนถาม เห็นว่าเป็นคุณน้อมก็ปรับเสียงเข้มบอกไปว่า “ไม่ได้หาใคร จะมาดูว่าหายไปไหนกันหมด หน้าบ้านไม่มีคนอยู่เลยสักคนเดียว เกิดใครเดินทะเล่อทะล่าเข้ามาหิ้วทีวี ตู้เย็นออกไปจะมีคนรู้เรื่องไหม”
คุณน้อมหน้าเสีย รีบบอกว่าจะไปดูคนในบ้านว่าหายไปไหนกันหมด พร้อมกับบ่น ก่นด่าไปตามทาง
คล้อยหลังคุณน้อมแล้ว เขาตรงไปที่ห้องนั้นที่เคยมาแล้วเมื่อครั้งก่อน พบว่าประตูก็ไม่ยอมปิด มองเข้าไปเลยได้เห็นอภิยากำลังพับผ้าที่ซักแห้งเก็บเอาเข้าตู้อยู่พอดี
กระแอมไปทีหนึ่ง แต่เจ้าหล่อนก็ยังเฉย เลยส่งเสียงดังขึ้น ถามไปว่า
“หายแล้วหรือไง”
หญิงสาวชะงักมือที่กำลังเก็บของเข้าที่ หันไปมองที่เขา เห็นอยู่หน้าประตูห้องก็เดินออกไปด้านนอก
นึกถึงคำพูดของต่องเมื่อวันนั้นได้ ก็ค่อยดึงประตูปิดลง แล้วก็ค่อยตอบคำถามของเขาที่ถามเมื่อครู่นี้ “หายแล้วค่ะ”
“ไหน”
พสุธาถาม พร้อมกับยื่นมือจะแตะที่หน้าผาก แต่ร่างเล็ก ๆ สูงแค่อกเขาเอนหลบมือของเขาไปยังอีกทิศทาง พสุธาเลยชะงักกึก แล้วดึงมือของตัวเองกลับมาที่ข้างลำตัวอย่างเดิม มองท่าทีของอีกฝ่ายด้วยสายตาไม่พอใจ
คืนนั้นเขาจับมากกว่านี้อีก วันนี้เขาเผลอตัวจะวัดไข้เฉย ๆ ทำมาเล่นตัวกับเขาเสียอย่างนั้น แล้วหันหลังเดินจากไป โดยไม่พูดไม่ถามอะไรอีกแม้แต่คำเดียว
อภิยายืนมองเขาจนลับตาไปแล้ว ก็ค่อยยกมือขึ้นแตะหน้าผากของตัวเอง ทำไมร้อนที่หน้าจังเลย ก่อนจะเลื่อนมือลงมาแตะที่หน้าอกด้านซ้ายของตัวเอง หัวใจก็เต้นแรงอีกต่างหาก
หรือว่ายังไม่หายดี
แล้วเมื่อครู่นี้เธอก็ไม่ได้ตั้งใจหลบมือของเขา มันเป็นของมันไปเอง รู้สึกได้ถึงสายตาของเขาเมื่อครู่นี้ เหมือนเขาจะไม่พอใจอะไรสักอย่างในตัวเธอ เดินกลับเข้าห้องพักไป
พสุธาเดินกลับออกมาจากทางห้องพักคนงานด้วยความรู้สึกแปลก ๆ ทำไมเขาจะต้องไปสนแม่นั่นด้วยวะ
จะป่วย
จะหาย
หรือจะตายก็เชิญเลย เขาไม่สนหรอกโว้ย
แล้วเดินแยกไปขึ้นรถ พอดีกับที่มีสายเรียกเข้าโทรมาพอดี พบว่าเป็นนายตำรวจคนใหญ่คนโตของจังหวัด นัดไปนั่งดื่มด้วยกัน จึงชวนให้มาที่คาเฟ่ของเขา ทางนั้นเห็นด้วย เขาเลยไปนั่งรอที่นั่น ก่อนจะปัดเรื่องของอภิยาทิ้งไปจากหัวของเขาเสีย
“ไปตลาดกันไหมนังหนู”
ต่องถามเมื่อเธอเดินกลับมาจากทำงานแล้ว อภิยาหันไปมองต่อง ถามอย่างแปลกใจ “ไปตลาดก็ได้ด้วยหรือพี่ต่อง”
“ทำไมจะไม่ได้เล่า อยู่ที่นี่ มาทำงานนะนังหนู ไม่ได้มาติดคุก” ต่องบอกไปขำไป
ต่องคุยกับเธอได้อย่างสนิทใจมากขึ้น เมื่อเธอเปิดใจกับต่องว่าเธอมาที่นี่เพื่อทำงานจริง ๆ ไม่ได้คิดจะมาจับเจ้าของไร่อย่างที่ใคร ๆ ต่างพากันพูด ต่องมองเธอแล้วก็พยักหน้าอย่างเห็นใจ แล้วพอได้คุยไปคุยมาถึงเรื่องที่บ้านก็พบว่าพ่อแม่ของต่องตายไปหมดแล้ว เธอบอกว่าเธอเองก็เหมือนกัน แม่ตายไปก่อนหน้า แล้วพ่อก็เพิ่งมาตายเมื่อไม่นานนี่เอง แล้วเลยพากันกอดคอร้องไห้ ถึงได้คุยกันสะดวกใจมากขึ้น
ได้ยินต่องชวนแบบนั้น ก็คิดว่าดีเลย ของใช้ที่เอามาด้วยหมดพอดี เธอเคยเดินไปดูที่ร้านสวัสดิการด้านหน้า เห็นว่าไม่มีของแบบที่เธอใช้อยู่เป็นประจำ อีกทั้งยังมีราคาแพงกว่าราคาขายทั่วไปอีกด้วยเลยยังไม่ซื้อ
แล้วถามต่องไปว่า “ไปยังไงหรือพี่ต่อง”