21

1139 Words
“วันนี้หยินลาไงคะ” “อ่อ” เขาทำท่าเหมือนเพิ่งนึกได้ แล้วบอกขึ้น “รถไม่วิ่งเส้นนี้หรอกตอนเช้า มาอีกทีนู่นเลยบ่ายสาม ขึ้นรถสิ จะไปแถวนั้นพอดี เดี๋ยวไปส่ง” อภิยามองเขาด้วยสายตาลำบากใจ ความตั้งใจของเธอที่มีอยู่เดิมที่ว่าไม่อยากให้ใครเห็นตนเองอยู่กับพสุธาตามลำพัง หรือไปไหนมาไหนกันสองคนก็ยังคงอยู่ แล้วจึงถอยหลังห่างออกจากรถของเขาก้าวหนึ่ง ถามเขากลับไป “คุณพุธจะเลยไปแถวไหนคะ ที่ว่าจะไปส่งน่ะค่ะ” “ถามเยอะนะ ขึ้นมาเถอะน่า เร็วเข้า” สิ้นเสียงสั่ง เธอมองเลยออกไปยังถนน เห็นรถมาพอดีก็โล่งใจ แต่แล้วกลับไม่ใช่เส้นทางที่เธอจะไปก็หน้าม่อยลง “ถ้าจะไปก็รีบขึ้นรถตอนนี้เลย ยังไม่มีใครเห็นหรอกน่า” พสุธาบอกจบกดมุมปากลงเล็กน้อย ค่อยบอกต่อจากนั้นด้วยท่าทีไม่ใส่ใจ “ก็แล้วแต่นะ หรืออยากจะรอถึงบ่ายสามก็ตามใจ” ว่าแล้วค่อย ๆ ปล่อยเท้าออกจากคันเร่ง ให้รถไหลไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ คนคอยรถ มองดูเวลาเห็นว่ามันเดินไปทุกขณะ ทุกวินาที ไม่หยุดให้ได้คิด ได้ตัดสินใจเอาเสียเลย บวกกับไม่ใช่คนพื้นที่ จึงจำใจต้องวิ่งตามรถของเขา ร้องเรียกตามหลังไปด้วย “คุณพุธคะ คุณพุธ” รถเบรกแทบทันทีตั้งแต่คำเรียกขานคำแรกว่า ‘คุณ’ นั่นแล้ว พอรถจอดสนิท เธอก็รีบคว้าที่เปิดประตูรถของเขาเปิดออก ก่อนจะขึ้นนั่งบนนั้นในนาทีต่อมา พสุธาเหลือบมองเห็นว่าเรียบร้อยดีแล้ว เขาออกรถมุ่งหน้าไปยังถนนเข้าเมืองทันที เธอนั่งเงียบมาตลอดทางจนเริ่มคุ้นว่าเป็นถนนสายมอเตอร์เวย์ก็หันไปมองเขา “คุณพุธจะผ่านไปทางไหนคะ นี่มันจะถึงมหา’ลัยของหยินแล้วนะคะ” “ก็ไปแถวนั้นแหละ” เขาบอกแล้วนั่งเงียบ เธอก็เงียบไปเช่นกัน ไม่นานจากนั้นเขาขับรถเลี้ยวเข้าประตูของมหาวิทยาลัย ถามเธอพร้อมมองผ่านกระจกหน้ารถออกไปด้านนอก “ตึกไหน” “วนไปที่หอนาฬิกาแล้วเลี้ยวขวา ตึกที่สองค่ะ” เขาขับรถไปตามที่เธอบอก ไม่นานก็จอดรถที่หน้าตึกแห่งนั้น จอดรถเรียบร้อย เขาหันมาบอกเธอว่า “ไม่ต้องรีบ” “ขอบคุณค่ะ” อภิยาเอาเอกสารติดตัวไปด้วยตั้งแต่แรก เธอจึงไม่ต้องแวะกลับบ้าน วิ่งไปบนชั้นที่ตั้งของคณะวิชาจัดแจงกรอกเอกสารตามที่อาจารย์โทรศัพท์ไปแจ้ง แล้ววิ่งลงไปพร้อมเอกสาร ส่งที่สำนักงานบริหารและพัฒนานักศึกษาหลังจากนั้น นั่งรออยู่ชั่วโมงเต็ม ๆ ก็เริ่มเป็นห่วงพสุธา นี่อย่างไรเล่าเธอถึงไม่อยากมากับใคร ไม่สบายใจที่คนอื่นจะต้องมาคอยกับเธอไปด้วย ธุระที่ไม่รู้ว่าจะแล้วเสร็จเมื่อไร มารอแบบนี้มันเสียเวลาเขาไหม แล้วลุกไปถามทางเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัย ทางนั้นบอกว่ารอก่อน ยังไม่เสร็จ เพราะต้องรออาจารย์ท่านหนึ่งเข้ามาเซ็นชื่อ ตอนนี้ท่านยังมาไม่ถึง จึงบอกทางนั้นไปว่าจะไปเข้าห้องน้ำเดี๋ยวเดียว แล้ววิ่งไปดูพสุธา เห็นนั่งรอที่เดิม เลยเข้าไปบอกเขาเสียงอ่อน “คุณพุธคะ” “เสร็จแล้วหรือ” “ยังเลยค่ะ” “ยังก็ไปจัดการธุระให้เสร็จสิ” “คุณพุธจะกลับเลยไหมคะ ไม่ต้องมารอแบบนี้หรอกค่ะ หยินเกรงใจ” “มาด้วยกัน จะให้กลับใครกลับมันได้ไง ไปสิ รอได้” เขาบอกด้วยสีหน้าเป็นปกติ ไม่มีโกรธขึ้ง บึ้งตึง หรือไม่พอใจอะไรเลย เธอเห็นอย่างนั้นก็ย้ำไปว่า “อีกหลายชั่วโมงเลยนะคะ” เขาพยักหน้าแล้วไม่พูดอะไรอีก เธอเลยออกวิ่งกลับไปนั่งรอที่เดิม รอต่อจากนั้นอีกสามชั่วโมงกว่าจะได้เอกสารมา อาจารย์ที่โทรตามเธอมา ตามมาที่สำนักงานบริหารด้วย ขณะนั่งรอ ท่านก็ถามว่าตอนนี้เธอทำอะไรอยู่ที่ไหน ด้วยความที่สนิทกับท่านอยู่ไม่น้อยจึงบอกไปตามจริงว่าทำงานอยู่ที่ไร่ของลูกชายคุณลุงอรรถพล เพื่อนรุ่นนี่ของพ่อ เธอทำงานใช้หนี้ไปด้วย แล้วก็ว่าจะสมัครเรียนไปด้วย แล้วอดปรึกษาเรื่องอื่น ๆ กับท่านด้วยไม่ได้ ท่านบอกกลับมาด้วยเหตุและผลที่เธอฟังแล้วรู้สึกเติมเต็มกำลังใจไม่น้อย ยกมือไหว้ขอบคุณอาจารย์ ทั้งขอบคุณแล้วกล่าวลาท่านไปพร้อมในทีเดียวเลย แล้วตรงไปยังรถของพสุธาตรงหน้าตึก เขานั่งรอที่เดิม พอเห็นเธอก็ลุกขึ้น พร้อมกับถามว่า “เย็นพอดี ออกจากนี่ไปถึงคงค่ำ หิวไหม” “ไม่ค่ะ คุณพุธล่ะคะ” “หาอะไรกินมาแล้ว เอ้านี่ ซื้อติดไว้ก่อนเธอจะลงมา หิวก็แกะกินซะ เสียดายไม่มีลูกชิ้นงู จะได้ซื้อไว้ให้” เขาส่งถุงที่มีขนมปัง นม แล้วก็น้ำเปล่าให้ ก่อนจะออกรถไป อดคิดต่อว่าเขาในใจไม่ได้ ยังไม่จบเรื่องลูกชิ้นนั่นอีกหรือไง แกะขนมจะกิน ก็นึกได้ หันไปถามเขา “คุณพุธกินหรือยังคะ” “กินไปเถอะน่า” กินไปได้ครู่ใหญ่ จนท้องเริ่มอิ่มแล้ว ก็ค่อยพูดขึ้นว่า “เรื่องที่คนอื่นเอาไปพูดกัน หยินคิดได้แล้วล่ะค่ะ” “คิดได้ว่ายังไง” “ก็...” พูดขึ้นมาคำหนึ่งค้างเอาไว้ ก่อนจะเก็บขยะปิดปากถุงให้เรียบร้อย บอกเขาไปว่า “ก็หยินไม่ได้มาเพื่อจับคุณพุธนี่คะ หยินมาทำงาน ใครอยากจะพูดอะไร หยินก็คงไปห้ามเขาไม่ได้” “อือ” เขาร้องตอบออกมาคำเดียว อดเหลือบมองตาเธอไม่ได้ แต่แล้วก็ไม่เห็นแววตา สีหน้ามารยาสาไถยแต่ประการใด จึงเงียบ มองตรงไปยังถนนรอฟังต่อจากนั้น “เราทุกคนก็ล้วนต้องทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดค่ะ หยินไม่ได้คิด คุณพุธก็ไม่ได้คิด เรื่องอะไรจะต้องเอาคำพูดของคนอื่นมาตัดสินตัวเราด้วย จริงไหมคะ” หากไม่ได้คำแนะนำจากอาจารย์เธอก็ยังคงกังวลไม่จบไม่สิ้น ยิ้มแล้วขอบคุณท่านอยู่ในใจ พสุธาไม่พูดอะไร ถามตัวเองว่าเขาไม่ได้คิดอะไรอย่างที่อีกฝ่ายกำลังเหมารวมจริง ๆ น่ะหรือ แต่แล้วก็ให้คำตอบกับตัวเองไม่ได้เลย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD