เมื่อร่างสูงเดินลงจากเรือนไปแล้ว ด้วยบอกจะไปร่ำสุรากับเกลอเก่า เฉลิมฉลองได้ขึ้นยศขุน แลไม่ช้าไม่นานคุณฤาก็คงจะได้ขึ้นยศด้วยเช่นกัน
สมิงมองตามร่างสูงด้วยความระแวดระแวง จากวันนั้นก็ผ่านมาแล้ว2-3วัน สมิงก็ไม่ใคร่สิ้นสงสัยในตัวผัวได้ จึงแอบจับสังเกตอยู่ตลอด ถึงความชอบกลของท่าทางคนทั้งสอง ที่แสร้งทำวางเฉยต่อกัน แต่พอคล้อยหลังเพียงครู่ สายตาคนทั้งคู่สบกันคราใด เป็นเกิดรอยยิ้มน้อยๆที่ดวงหน้าขึ้นพร้อมกันทุกครา แลเมื่อถูกจับได้ ก็เฉสายตาไปเสียทางอื่น รอยยิ้มเมื่อครู่ก็พลันค่อยจางหายไป
ซ้ำมะยงยังเทียวแอบบอกให้รู้ถึงความสัมพันธ์เป็นนัยอยู่เป็นนิจ ตอกย้ำเมียเอกด้วยสายตาเย้ยหยัน รอยยิ้มหวานเฉียดเฉือนใจ
ฤาชาก็ยังสังเกตได้ถึงสงครามกระแสจิตนี้ แต่ปรามเท่าใดมะยงก็ยังแอบรั้น จนเขาใจเสียกลัวสมิงจะจับพิรุธได้ จึงต้องคอยเฝ้าเอาใจหมิงดังคนปกปิดสิ่งผิด
สมิงก็ให้รู้แน่ว่าสายตาประหลาดนั้นมีบางอย่างก่อเกิดภายในคนทั้งสองแล้ว แต่ไม่แน่ชัดว่าเลยเถิดไปไกลแล้วหรือไม่ เค้นความเท่าใดฤาชาก็คงไม่ยอมแจ้งแถลงไข บอกความจริงเป็นแน่ สมิงจึงเล่นตามน้ำทำเป็นไม่รับรู้ อดสู อดเอาเขาควายหนักมาสวมบนหัว สู้ทนแสร้งโง่ จนเพลาเลยผ่านหลายวัน รอเสือตายใจ ครานี้แล จะเอาให้ได้คาหนังคาเขา
คล้อยหลังผัวลงเรือน สมิงเรียกน้องเข้ามาสั่งงานในทันที
"ไอ้อ่ำ มึงว่องไวกว่าผู้อื่น ตามดูให้กูทีรึ ว่าคุณฤาไปที่ใด อย่าให้คาดสายตาเทียว" สายตาคมโตมองเขม็งไปเบื้องหน้า ไม่จับจ้องที่จุดใดเป็นพิเศษ
สมิงรู้ตนดีว่ามิใช่คนใจเย็น เกรงจะทำกระไรโดยไม่ไตร่ตรอง เพียงคิดจินตนาการถึงภาพผัวตนนอนกกกอดกับผู้อื่น ก็ให้คิดเห็นแต่มีดด้ามยาวในมือ จ้วงแทงเอาคนทั้งสอง ตายดิ้นไปเสีย เหตุนี้จึงยั้งรอ ไม่ไปให้เห็นภาพเลาทรามนั้นด้วยตาตนต้อง
หมิงทำแน่ หมิงทำมันแน่ๆ จักสับเป็นร้อยชิ้นเสียก็ยังได้
"จ๊ะพี่" ไอ้อ่ำรับคำรู้งาน เร่งรุดแอบตามติดร่างสูงที่เดินห่างเรือนออกไปทางท่า
"ส่วนพวกมึง ไปคอยตามดูไอ้คนมาใหม่…" สมิงมิอยากเอ่ยชื่อให้เป็นเสนียดปาก
"ไม่ทันแล้วจ๊ะพี่ ข้าเห็นมันออกไปก่อนหน้า ด้วยธุระใช้สอยของเรือนครัว"ไอ้จุกโผงขึ้นก่อนพี่จะพูดจบ ด้วยเกรงจักมีใครตัดหน้าพูดก่อน
"หึ" สมิงแค้นขำ เยาะเย้ยตนเอง ใบหน้างามหล่อเหลาวาดยิ้มเจ็บปวด
ที่เรือนเช่าหลังเล็กใกล้ตลาด
มะยงรินสุรา แลจัดหากับแก้มรสเลิศที่มีมากมายในตลาด มาบริการเอาใจฤาชาอยู่ไม่ขาด พร้อมรอยยิ้มอ่อนหวานน่ามอง อ่อนโยนผิดกับอีกผู้ที่เรือนนัก
"แล้วนี่คุณฤามิไปสังสรรค์ ยินดีกับท่านขุนไกรหน่อยหรือขอรับ"
"จักไปทำกระไร มันหรือแค่อยากอวดอ้าง ข่มผู้อื่นว่าได้ขึ้นยศก่อนก็เท่านั้น"
มะยงขันเบาๆ แลรินสุราเติมที่จองของฤาชาอยู่มิขาด ก่อนตะล่อมพูดบอกไปเรื่องอื่น
"คุณฤาขอรับ ที่เรือนบ่าวไม่ใคร่สะดวกกับมะยงเลย ทั้งยุงทั้งห้องหับก็ส่วนรวม มะยงอยากมีเรือนหลังเล็กๆบ้างขอรับ"
"คอยก่อนเถิดพ่อ สถานการณ์ยังไม่สู้ดี"ฤาชาพยายามพูดถึงสมิงให้น้อยที่สุด
"เมียคุณฤาชอบทำหน้าดุน่ากลัวนักขอรับ"
"เขาชอบทำหน้าอย่างนั้นเอง แลทรงเครื่องหน้าเยี่ยงคนยโสด้วยกระมัง ไม่แปลกใจที่พ่อจักมองว่าอย่างนั้น แต่หากความจริง เขาเป็นคนน้ำใจงามคนหนึ่งทีเดียว"ฤาชาบอกเล่า ด้วยความที่อ่อนประสบการณ์ด้านเอาใจคน จึงไม่ใคร่ใช้คำพูดให้เข้าถึงหัวจิตหัวใจได้เท่าใดนัก เหตุให้คนฟังตึงหน้า รู้สึกเคืองโกรธอยู่ไม่น้อย
มะยงปรับอารมณ์ก่อนเปลี่ยนเป็นอ่อนหวาน
"คุณฤาว่าสรรพคุณคุณเธอมาอย่างนี้ มะยงก็ให้สบายใจขึ้นขอรับ นึกเข้าใจว่าจะถูกขย้ำหัวเสียแล้ว"ว่าแอบแซะ
"อันเรื่องดุ ก็ดุสมชื่ออยู่ พ่อต้องระวังด้วยหนา อย่าให้ระแคะระคายว่าเอ็งเป็นเมียพี่อีกคน หมิงมันไม่ใคร่เหมือนคนอื่น บทจะดีก็ดีใจหาย บทจะร้ายก็เอาการอยู่"
"เช่นไรจึงพิศดารนักขอรับ" มะยงแอบหยันชายหนุ่มร่างสูงตรงหน้า "คุณฤา ดูเกรงอกเกรงใจพี่หมิงเสียเหลือเกินหนาขอรับ"
"ก็นั่นแหละ มันหรือก็เกินคน จักให้พี่มีเมียเดียวไปจนตลอด ช่วงที่เกี้ยวมันอยู่แรมเดือน จำต้องตัดขาดสตรีที่ติดพันอยู่ทั้งหมด ไม่เช่นนั้นมันก็ไม่เอาท่าเดียว"
คำบอกเล่าของฤา ทำให้มะยงคิดอิจฉาสมิงนัก
ตามเกี้ยวเป็นเดือนๆเทียวหรือ มิน่าเล่า คนง่ายดายอย่างตน ถึงเอามาเก็บซ่อน ดูไม่มีค่านัก ใบหน้าหวานง้ำงอ แต่ในตอนนี้มะยงรู้ว่าควรทำตัวเช่นไรจึงจะดี ชายหนุ่มฝืนใบหน้างอกลับมายิ้มหวาน ในหัวคิดวางแผนการ ที่จะทำให้ตนชำนะในศึกชิงผู้ในครานี้
กูหรือก็งาม
มะยงถอนใจยาว ร่างบางเอนอิงซบที่แผงอกแกร่ง ก่อนจะว่ายุให้ผัวเมียแตกกันอย่างเนียนๆ
"มะยงห่วงคุณฤาขอรับ"
"ไม่อยากให้พี่หนักใจ ก็อย่าสร้างเรื่องปวดหัวให้เพิ่ม เพียงเจ้าเฉยเสีย หมิงก็ไม่มีทางรู้ดอก"
อยู่กับตน ยังจะเอ่ยห่วงใยจิตใจอีกคนอยู่เป็นนิจ มะยงน้อยใจนัก แต่ไม่อยากแสดงออกให้เขารำคาญเสียก่อน จึงข่มอารมณ์เสีย
"มิใช่เรื่องนั้นดอกขอรับ"ยังว่าเสียงหวานออดอ้อน
"หือ? แล้วห่วงพี่เรื่องกระไรรึ"
"ก็เรื่องที่พี่หมิงข่มคุณฤาอยู่เนืองๆอย่างไรเล่าขอรับ มะยงไปซื้อของที่ตลาด ยังเคยได้ยินคนนินทาว่าร้ายคุณฤาว่าไม่เด็ดขาดกับเมียบ่าว ปล่อยให้กำแหงแผลงฤทธิ์ อยู่เหนือกว่าผู้ที่เป็นถึงลูกเจ้าลูกนาย"
"หาว่าไปนั่น ไร้สาระสิ้นดี" ฤาชาไม่สนใจคำลือนี้ เพราะเห็นเป็นเรื่องเล็กนัก แลพะวงกับโมงยามที่ล่วงไปนี่มากกว่า
"เอาล่ะ พี่จะกลับเข้าเรือนก่อน พ่อก็เดินเล่นในตลาดรอสัก3ชั่วยาม ค่อยกลับเรือน"
"คุณฤาทำเช่นนี้ หากไม่โง่ พี่หมิงก็คงรู้"
"หากจับไม่ได้คามือ พี่ไม่มีทางยอมรับดอก"
"แล้วเช่นนี้ เมื่อใดเรื่องของเราจักเปิดเผยเล่าขอรับ ใจคอจักให้มะยงอยู่เรื่องบ่าวไปตลอดเทียวหรือ"
"พ่อก็อดทนไปก่อน พี่กำลังหาจังหวะ เจ้าก็อย่าไปยั่วยุสมิงเขาให้มาก อ่อนน้อมเข้าไว้เขาจักได้เอ็นดู เอาล่ะ พี่ต้องเร่งกลับแล้ว ประเดี๋ยวจะผิดสังเกตเอา" ว่าจบ ร่างสูงก็ผละไปไม่รีรอ มะยงมองตามหลัง สายตาแค้นเคืองไม่ปิดบัง
ไอ้อ่ำซุ่มดูอยู่นาน เห็นควรว่าได้เพลากลับเรือนไปเสียที จึงผละจากดงพลับพลึงที่หลบซ่อน ลงเรือนแจวลำน้อยที่จ้ำพายตามเรือคุณฤาชามา วกกลับไปทางตลาด ชายหนุ่มตัวสูงที่เพิ่มออกจากเรือน จึงทันได้เห็นหลังไวไวคุ้นตาของบ่าวเด็กหนุ่มในเรือนของเมีย แต่ไม่ใคร่แน่ใจว่าเป็นมันหรือไม่ หากแต่กลับถึงเรือนเมื่อใด คงได้คำตอบแน่ชัดในดวงหน้าเมีย
"ฉิบหายเอ๊ย!!!"