"นี่อย่างไรเล่าพ่อ กำไลนาคที่สั่งพี่ไว้"ฤาชาหยิบเอากำไลวงงามขนาดพอดีข้อสมิง ออกมาจากกระเหน็บเอว ดวงหน้าชายหนุ่มร่างสูงดูมีความสุขนัก หากแต่กำลังมีความสุขในห้วงความคิดอันไกล หาใช่ยิ้มให้คนตรงหน้าไม่
สมิงรับรู้ถึงความผิดปกตินี้ได้อย่างแจ่มชัด ภาพกำไลนาควงเหมือนกันนี้บนข้อมืออ้ายไพร่คนใหม่ สังหรณ์ใจประหลาดไม่ใคร่จะสู้ดี จักบังเอิญกระไรถึงเพียงนี้หนอ
บ่าวเยี่ยงมันหรือจักมีปัญญาซื้อใส่ คงเก็บได้จากโคนต้นมะขามกระมัง หมิงว่าประชดตนเองในใจ สายตากลมโตคมปราบ มองดูผัวใจสั่นมือสั่น คนเคยค้าม้าเคยขี่ ผัวเปลี่ยนไปแม้เพียงนิด มีหรือเมียจะไม่รู้
ก่อนหน้ามีเขา ฤาชาก็หนุ่มสำราญคนหนึ่ง ไอ้บ่าวใหม่ก็งามอ่อนหวานนัก สมิงขอบตาเรื่อน้ำ กล้ำฝืนกลืนก้อนร้อนลงคอ
นิ่งเงียบเพื่อปรับอารมณ์ให้สงบอยู่นาน ผัวยังมิทันสังเกต มันน่าน้อยใจนัก
"ฝึกปรือเชิงมวยทั้งวัน เหนื่อยหรือไม่รอรับ"สมิงถามเสียงสั่น
ฤาชาหัวร่อขัน เมื่อนึกถึงการ 'ฝึก' ในวันนี้
"ดีเทียว ได้เหงื่ออยู่มาก แต่พี่ไม่เหน็ดเหนื่อยกระไรดอก" ตอบด้วยน้ำเสียงเปี่ยมสุข แลแววตาพรายกรุ่น คนเมียได้เห็นเช่นนั้น ก็เกิดสะท้านในใจนัก หยาดน้ำตาร่วงกราวยากจักข่ม
ฤาชาเห็นดังนั้นก็ให้ตกอกตกใจนัก
"เป็นกระไรหรือพ่อ"
"สนุกมากเทียวหรือ" ข้อความแฝงความนัย ฤาชานึกเอะใจ ผนวกกับความวัวสันหลังหวะด้วยแล้ว แววตาคมจึงดูลกลั่ก ผิดแปลกจากที่เคยนัก
"ก กระไรกันพ่อ" หลบตาเมียพร้อมถาม นั่นยิ่งตอกย้ำสิ่งที่สมิงคิด
"คุณฤามิได้ลืมคำมั่นที่ให้แก่หมิงดอกหนา ที่บอกจะมีหมิงแค่คนเดียว"
ฤาชาใจหายวาบ ก็ว่าวางแผนดีแล้วหนา ไฉนเมียมาจับได้ไวนัก แต่ตราบใดที่ยังจับไม่มั่น ก็คั้นไม่ตายดอก เช่นไรเขาจะยอมรับแต่โดยง่ายเล่า
"มันเรื่องกระไรเล่าพ่อ"
"เมื่อวานมีอ้ายบ่าวมาใหม่ หมิงเพิ่งเห็นมันวันนี้ งามนัก"
"งามก็เรื่องของมันซี เกี่ยวกระไรกับพี่ด้วย"
"บังเอิญจริงเชียว ว่ามันกลับจากตลาดด้วยเรือแจว โดยมีลูกน้องพี่เป็นคนมาส่ง"
"คนเรือนเดียวกัน มันคงจะถูกเรียกสอยไว้วานกันกระมัง"
"แถมไอ้บ่าวผู้นั้น ยังมีกำไลนาคเหมือนกับวงนี้เป็นพิมพ์เดียวอีก"
"พี่ไม่รู้ไม่เห็นด้วยดอก เช่นไรพ่อจึงมาสงสัยพี่ เพียงมันมีกำไลเหมือนกันนี่หนา ของขายก็ไม่ได้มีชิ้นเดียวเสียหน่อย โถ่เอ๋ย กลับเรือนมาเหนื่อยๆ แทนที่เมียจะหาน้ำท่ามาต้อนรับ กลับมีแต่ความระแวงให้กันเสียนี่" ฤาชาแสร้งทำเป็นมีน้ำโหกลบเกลื่อน แต่ก็ยังเหงื่อตก ให้นึกว่าไม่น่าใจอ่อนซื้อให้มะยงด้วยเลย เจ้าหนุ่มนั่นรู้อยู่ว่าเมียเขาสั่งซื้อ ยังจะมาอยากได้ตามกันให้เกิดเรื่องอีก ชายนี่ก็เล่ห์ไม่ต่างจากสตรียอมหึงหวงช่วงชิงผัวเลยหนา เห็นแววจะเกิดปัญหาในภายหลัง ว่าคงมิใช่ย่อย มิใครยอมใครกันทั้งสอง ไม่แคล้วเป็นไม้เบื่อไม้เมาไม่ลงกัน ที่จะหาช่อง ขอมีเมียอีกคน เห็นทีจะพูดเอายาก
ท่าทางขึงขัง ผนวกกับความไว้เนื้อเชื่อใจผัวอยู่เนื่องๆ ทำให้สมิงใจอ่อนลง
"หากหมิงคิดมากเกินควร ทำให้คุณฤาไม่สบายใจ หมิงก็ขออภัยด้วยหนาขอรับ"
ฤาชาโล่งใจเมื่อได้ฟัง ยิ้มแลกอดเมียรักแนบอก ปากก็ปะเหลาะคำหวาน
"พี่รักพ่อมากหนา ทิ้งสิ้นแล้วความเจ้าชู้ก่อนเก่า เจ้าก็เห็น"
"ขอรับ แต่หากวันใด คุณฤาได้พบเจอผู้อื่นที่ตรงใจกว่าหมิง ก็โปรดบอกกันตามตรง อย่าได้ปิดบัง" หมิงทวงคำที่เคยพูดคุยกันแต่หนหลัง เมื่อคราเกี้ยวพากันใหม่ๆ
"แล้ว…ถ้าพี่มีเล่า พ่อจักทำเช่นไร"ฤาชาโยนหินถามทาง
"ก็ต่างคนต่างไปน่ะซีขอรับ คุณฤาก็ไปอยู่กับเมียใหม่ หมิงก็อยู่ขอหมิง ไม่ข้องเกี่ยวกัน"
ฤาชาแอบทำหน้าไม่พอใจ
"เรือนอื่นไม่มีดอกที่ผัวจะมาฟังคำเมีย มีเมียเดียว"
"ก็แล้วคราเกี้ยวหมิง คุณฤาตกปากรับคำทำไมเล่า!!" สมิงขึ้นเสียงเอาแต่ใจด้วยรู้สึกฉุน เห็นดังนั้นฤาชาจึงเป็นฝ่ายปรับอารมณ์ให้เบาลง
พ่อก็เป็นเสียอย่างนี้ เอะอะกระไรก็ให้เลิกรา เป็นเมียบ่าวเสียเปล่า หาได้เกรงกลัวอำนาจผัวไม่ ฤาชาก็ไม่กล้าหักเมียเสียด้วย จึงยังคงจะลักซ่อนมะยงไว้เช่นนี้ต่อไป ทางนั้นดูจะโอนอ่อนเชื่อคำผัว คงกำราบได้ไม่อยาก ไม่สร้างความเดือดร้อนสักเท่าใด
"พี่ไม่ทำดอก มีพ่ออยู่ทั้งคน" ว่าด้วยแววหน้ามีพิรุธ
"หรือขอรับ เช่นนั้นก็ดีแล้ว"หมิงมองหน้าผัว พยายามไม่คิดในทางร้าย แต่ยังไม่คลายใจลงได้สักที "หากวันใดคุณฤาเกิดรักชอบผู้อื่น หมิงก็ไม่ว่าดอกหนา แค่บอกมาตามตรง อย่าได้หักหาญน้ำใจกันเป็นพอ"