เมื่อไหร่ก็ไม่ได้ต้องการ

2526 Words
(อันดา) "อันดา...เที่ยงแล้วไปกินข้าวกัน" เสียงของทับทิมทำให้ฉันที่นั่งเหม่อรีบดึงสติคืนมา ก็จะไม่เหม่อได้ยังไงล่ะ ก็ก่อนหน้าที่เจอพี่แผ่นฟ้า ที่เขามาวอแวจนฉันนึกรำคาญ แถมยังหน้าด้านเดินตามฉันมาอีก เขาต้องการอะไร? นี่คือสิ่งที่ฉันกำลังคิด คิดจนเรียนไม่รู้เรื่อง "อ่อ โอเคไปสิ" ฉันยิ้มให้กับทับทิม จัดเก็บของแล้วก็พากันเดินไปโรงอาหาร ส่วนเรื่องนั้นที่ทับทิมสงสัยเกี่ยวกับสกี ฉันก็คลี่คลายให้เธอเรียบร้อยแล้วล่ะ กรี๊ดกร๊าดหนักกว่าเดิม เมื่อรู้ว่าสกีเป็นใคร ส่วนคนอื่น ๆ ฉันไม่สนใจหรอก แม้จะพยายามถามก็ตาม ฉันบอกไปตรง ๆ ว่าเป็นญาติแค่นั้น คือมันวุ่นวายต่อชีวิตประจำวันฉันมาก ตั้งแต่วันที่สกีโผล่หัวมา ฉันต้องการอยู่อย่างสงบสุข "อันดาเป็นอะไรหรือเปล่า" "เปล่าจ้า" สงสัยทับทิมเห็นฉันเงียบเกินไป ซึ่งมันผิดจากวิสัยของฉัน ที่ต้องพูดเยอะในแต่ละวัน ก็วันนี้ฉันไม่มีอารมณ์จะพูดนี่นา มันมีเรื่องให้ฉันคิดทวนเยอะแยะจนไม่มีสมาธิอยู่กับตัว เราสองคนเดินมาตามทาง จนเกือบจะถึงโรงอาหาร แต่ว่าฉันต้องชะงักขาหยุดเดิน เมื่อมีคนที่ฉันนึกรำคาญมาหยุดตรงหน้า "....." ฉันเงยหน้ามองเขานิ่ง ๆ และเบี่ยงตัวเดินหลบหนี แต่เขากลับคว้าข้อมือฉันไว้ ฉันจึงใช้สายตามองไปที่มือ อย่างสื่อความหมายว่าเขานั้นควรปล่อย "จะไปกินข้าวเหรอ" เขาถามฉันเหมือนคนโง่อะ ก็เห็นอยู่ว่าจะถึงโรงอาหารอยู่แล้ว ถามไม่คิด! "ก็เห็นอยู่ว่าทางไปโรงอาหาร หน้าตาพี่แผ่นฟ้าก็ดูฉลาดนะคะ....ไปกันเถอะทับทิม" ฉันพูดแค่นั้น แล้วจับมือทับทิมเดินหนีเลยค่ะ ก็คนบอกว่าจะไม่วุ่นวาย แต่เขาคิดไงมาวอแวกับฉันไม่หยุดหย่อน "เดี๋ยวสิ" เขาวิ่งมาดักหน้าฉัน ส่วนทับทิมนั้นก็ได้แต่มองนิ่ง ๆ อยู่ข้างตัวฉันนี่แหละ "อะไรคะ?" ฉันย้อนถามเขาด้วยสีหน้าเรียบ "เดี๋ยวพี่ไปกินข้าวด้วย" "ใครชวนเหรอคะ?" "ไม่มีครับ" "หน้าด้านจังเลยนะคะ" เขาพูดเสนอตัวหน้าตาย ทั้งที่ยังไม่มีใครเอ่ยปากชวนสักนิด ได้ทีฉันก็เลยเถียงต่อเลยค่ะ เพราะเขามาตามฉันไม่หยุด เจออันดาด่าไปสักที เพราะฉันน่ะไม่ค่อยด่าใครง่าย ๆ แบบนี้คงหายหัวไปแน่ ๆ หึหึ "ไปครับ เดี๋ยวพี่ไปซื้อข้าวให้" อ้าวเฮ้ย!! ทำไมไม่เป็นแบบที่ฉันคิดวะ โอ๊ย!! หน้าด้านจริง ๆ ด้วย "พี่แผ่นฟ้า!! ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ" ฉันตีมือเขาที่จับลากฉันไปยังโรงอาหาร ฉันเริ่มเสียงดังด้วยความไม่พอใจ จนคนรอบข้างเริ่มมองมา ฉันจึงต้องผ่อนเสียงลง และจำยอมเดินตามเขานิ่ง ๆ ชีวิตอันดาเริ่มวุ่นวาย เพราะผู้ชายที่ชื่อแผ่นฟ้า! "นั่งตรงนี้ เดี๋ยวพี่ไปซื้อข้าวให้" ลากฉันมาไม่พอ บังคับฉันและกดไหล่ฉันนั่งอีก ไอ้คนขี้บังคับ! "จิ๊!!" ฉันชักสีหน้าใส่ ด้วยความไม่พอใจ จะโวยวายก็เดี๋ยวกลายเป็นเป้าสายตาหนักไปอีก แต่ดูเขาสิกลับยิ้มหน้าตาเฉย "น้องทับทิมเอาอะไรครับ เดี๋ยวพี่อาสาเองวันนี้" ลามปามไปยันเพื่อนฉันละ "เอ่อ ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวทับทิมไปเอง อันดาเอาอะไรเพิ่มไหม?" ทับทิมพูดกับพี่แผ่นฟ้า แล้วจึงหันหน้ามาถามฉัน ที่ตอนนี้หน้านิ่งไม่สบอารมณ์ เพราะผู้ชายคนเดียวที่ฉันเคยตื้อ แต่ตอนนี้ไม่อยากตื้อแล้ว ฉันเริ่มรำคาญเขาละ "อันดาไปด้วยสิ" "นั่ง!!" ฉันกำลังลุกค่ะ แต่อีพี่แผ่นฟ้าเขาเสียงดัง จนฉันต้องนั่งลงตามเดิม หึ๋ย~~อยากกระโดดกัดหูให้ขาด "ชิ!!" สะบัดเสียงสองใส่เลย ฉันไม่ได้กลัวหรอกนะ แต่ฉันรำคาญ! และอายสายตาคนอื่น ๆ ด้วย "เดี๋ยวพี่เอามาเสิร์ฟเอง นั่งรอตรงนี้ ห้ามดื้อด้วย" สั่งเก่งจริง ๆ ฉันก็ได้แต่นิ่งไม่มองหน้า อยากทำอะไรก็ทำไปเลย ดี! ฉันจะได้ไม่เมื่อย "เมื่อไหร่คะ?" ฉันถามขึ้น ในขณะที่เขากำลังก้าวขาเดิน "อะไรเมื่อไหร่" เขาหันมาแล้วย้อนถาม คิ้วขมวดชนกันเชียว "เมื่อไหร่จะเลิกวุ่นวาย แล้วอยู่ใครอยู่มันสักที น้องอันดารำคาญ!" ฉันเงยหน้าแล้วตอบออกไปตามความจริง ในสิ่งที่ฉันรู้สึก "วันที่ 32 ธันวาคม วันนั้นมาถึงเมื่อไหร่พี่ถึงจะเลิกวุ่นวาย" พูดจบเขาก็เดินไปเลยค่ะ คำตอบที่ได้ยินถึงกำหนดทำให้ฉันยิ้ม "จำคำพะ....วันที่ 32 ธันวาคม ?....เดี๋ยวนะ!! มันมีที่ไหนเล่า โอ๊ย!! เจ็บใจ อันดาพลาด!!" ปัง!!! ทุบกำปั้นลงโต๊ะอย่างเจ็บใจ กำมือแน่นอย่างสุดแค้น ไม่สนใจแล้วใครจะมองมา ตอนนี้อันดาโมโห! "ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะอันดา" ทับทิมทักท้วง เมื่อเธอเดินมาพร้อมกับถาดอาหารในมือ "เจ็บใจ! หงุดหงิด อยากฆ่าคน!" ฉันบอกออกไปอย่างประชดประชัน เมื่อสายตาเหลือบเห็นพี่แผ่นฟ้ากำลังเดินเข้ามาใกล้ ฉันตั้งใจพูดให้เขาได้ยิน "อยากฆ่าใครเหรอครับ พี่ช่วยไหม" เสนอหน้ามากเลยค่ะ "หึ" ฉันยกยิ้มอย่างเสียประสาท เมื่อพี่แผ่นฟ้าทำสีหน้าไม่สะทกสะท้าน "ทานข้าวครับ ไม่รู้ว่าชอบอะไร เลยให้แม่ค้าตักมาให้หมด" เขาวางจานอาหารมากมายลงตรงหน้าของฉัน ซึ่งมันหลายอย่างมาก มันจะกินหมดได้ยังไงกันเนี้ย! "ซื้อมาถมที่เหรอคะ" ฉันสวนขึ้นทันที เมื่อเขาวางอาหารทุกอย่างเรียบร้อย ส่วนทับทิมก็ได้แต่มองฉันสองคนสลับกันไปมา เธอไม่ได้สงสัยกับการมาของพี่แผ่นฟ้าหรอกค่ะ แต่เธอคงนึกรำคาญแทนฉัน "ที่ที่เรารักกันเหรอครับ" เขาพูดแล้วยิ้ม ในขณะที่นั่งลงข้าง ๆ ฉัน เพราะตรงข้ามนั้นคือทับทิม เธอยิ้มและส่ายหัวประกอบกับคิ้วข้าวไปพลาง คงระอาคำพูดอีพี่แผ่นฟ้าแน่ ๆ "แหวะ~~~อ้วก!" ฉันถึงกับแสดงอาการเลี่ยนทันที ทำไมอีพี่แผ่นฟ้ามันลิเกได้ขนาดนี้ หรือฉันเข้าใจผิดว่าเขาน่ะเรียนบริหาร แต่ที่จริงแล้วเขาเรียนคณะลิเก "เอ้า!! ท้องแล้วยังไม่ได้เริ่มทำอะไร แค่ซื้อข้าวมาให้เองนะเนี้ย" เขายิ้มกวน ๆ ซึ่งมันชวนให้ฉันอารมณ์ขึ้น! "นี่พี่แผ่นฝ้า" "แผ่นฟ้าครับ กรุณาเรียกว่าที่แฟนให้ถูกด้วยนะ" ฉันเรียกชื่อเขาแบบอ้อน ๆ (อ้อนอวัยวะเบื้องล่าง) ก่อนที่เขาจะรีบขยายให้ชัดเจน ทับทิมนี่ก็เอาแต่ยิ้ม และมองมาทางฉันกับอีพี่แผ่นฟ้าสลับกัน "ขี้มโน!" ฉันกระแทกเสียงใส่ต่อว่า "ไม่หรอก สักวันมันต้องเเบบนั้นแน่ ๆ...กินข้าวครับเดี๋ยวไม่อร่อย" เขามั่นหน้าเกินไปแล้ว ช่างกล้า!! ฉันจะฟ้องคุณป๊า! "ไม่มีวัน!" ฉันตอบออกไปด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "คอยดู!" "นี่พี่ไม่มีเรียนหรือไง ตามน้องอันดาอยู่ได้ น่ารำคาญ!" ฉันต่อว่าอย่างหัวร้อน ก็เพราะว่าอีพี่แผ่นฟ้าเล่นเดินตามฉันแทบตลอดเวลา และตอนนี้ก็ตามฉันไม่หยุด ทั้งที่ฉันกำลังจะเดินไปรอสกี ว่าแล้วก็โทรหาดีกว่า "จะรำคาญอะไรนักหนา พี่ก็อยู่ของพี่เฉย ๆ" พูดออกมาตาใสมาก ตามยิ่งกว่าเงานี่นะเฉย ๆ "เฉยมาก~~" ฉันลากเสียงยาวอย่างประชด พร้อมกับมองจิกเลยค่ะ ฉันไม่เข้าใจผู้ชายคนนี้จริง ตอนฉันสุงสิงวิ่งเข้าหา ทำมาเป็นปากดีด่าและไล่สารพัด พอฉันตีตัวห่างก็มาวุ่นวายกับฉัน "อะไรของอันดาอะ ก็แค่จะตามแฟนเฉย ๆ" "อย่ามาปากพล่อยนะ!" ฉันหันประจันหน้าเขา แววตาขึงขัง เริ่มหัวร้อนแล้วค่ะ กล้ามาพูดแบบนี้กับฉันได้ยังไงกัน ฉันชักสีหน้าแสดงถึงความไม่พอใจทันที เขาที่เห็นก็สีหน้าเปลี่ยนไป เหมือนจะเพิ่งรู้ตัวว่าพูดไม่เข้าหูฉัน "อันดาคือพี่..." เขาคงไม่เคยเห็นฉันในมุมนี้ เพราะเวลาที่ฉันโกรธหรือไม่พอใจ มันไม่ค่อยมีใครเห็นสักเท่าไหร่ แสดงว่าพี่แผ่นฟ้าโชคดีแล้วล่ะ คำว่าแฟน หรือ คนรัก ไม่ต้องมีใครมายัดเยียดให้ เพราะฉันไม่ชอบ! หากฉันต้องการฉันจะยัดเยียดให้คน ๆ นั้นเอง แต่นี่ฉันไม่ต้องการไง เลยไม่ชอบที่พี่แผ่นฟ้าพูดออกมา แล้วฉันก็ชักเกลียดขี้หน้าผู้ชายคนนี้แล้วด้วย "ถ้าพี่แผ่นฟ้าว่างมาก ก็เอาเวลาไปทำงานช่วยที่บ้านเถอะค่ะ จะมาตามเป็นเงาแบบนี้ไม่ได้ มันเสียเวลาเปล่า ๆ เอาหนังสือกับกระเป๋าน้องอันดามาค่ะ" ฉันพูดตัดบทเลยค่ะ ไม่ต้องคิดรักษาน้ำใจคนฟังด้วย เพราะตอนนี้ฉันเริ่มไม่สบอารมณ์กับผู้ชายที่ชื่อ แผ่นฟ้า "ก็ยังไม่ได้กลับ เดี๋ยวพี่ถือให้นะ" แม้เขาจะสีหน้าไม่ค่อยดี แต่ก็ยังรั้นที่จะทำต่อ ส่วนฉันก็ได้แต่ถอนลมหายใจออกมาอย่างระอาใจ "คือพี่จะเอายังไงกันแน่พี่แผ่นฟ้า พอตอนน้องอันดาพยายามพูดคุยกับพี่ พี่ก็ไล่ ด่าสารพัด แถมยังมาผลักน้องอันดาล้มจนเป็นแผล แล้วพอน้องอันดาเลิกวอแว พี่ก็มาวุ่นวาย บอกให้น้องอันดาเลิกตาม บอกน้องอันดาว่าน่ารำคาญอย่างนั้นอย่างนี้ เลิกตามแล้วนี่ไง สรุปจะเอายังไงอีกคะ บอกมาสิ บอกมา!!" สุดจะทนแล้วค่ะ อันดาจะไม่ทนแล้ว ปล่อยออกมาหมดแม็กเลย ตลอดเวลาที่ฉันพูดสายตาที่เอาเรื่อง ทำเอาพี่แผ่นฟ้าถึงกับนิ่งและมีสีหน้าตกใจ เขามองฉันด้วยแววตาที่ดูสั่นไหว จะเสียใจหรืออะไรฉันไม่สนใจแล้วตอนนี้ "ทำไมอันดาถึง..." "ไม่ต้องพูดมากแล้วค่ะ เอาของน้องอันดามา แล้วก็ไม่ต้องเดินไปส่งด้วย น้องอันดาไม่ได้ต้องการ" ฉันพูดดักทางเขาเลยค่ะ จะพูดอะไรก็ช่างฉันไม่สนใจ แม้จะร้องไห้ต่อหน้าฉันก็ไม่สน "แล้วนี่จะกลับยังไง" เขาไม่ยอมคืนของให้ฉัน เบี่ยงหลบไปด้านหลัง "เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ น้องอันดามีคนมารับ" "ใคร!?" "ไม่ใช่เรื่องของพี่" ฉันพูดออกไปมากมายด้วยน้ำเสียงที่ติดรำคาญ สีหน้าของพี่แผ่นฟ้าดูเศร้า ดวงตาก็เหมือนจะแดง แต่ฉันไม่คิดสนใจ ร้องไห้ต่อหน้าฉันก็ไม่แคร์แล้ว ก็ตอนที่ฉันแคร์เขาไม่เห็นจะดูดำดูดีฉันสักนิด ฉันไม่สนใจกดสายหาสกีทันที ยืนรอสัญญาณอยู่นานก็ไม่รับสาย ฉันยืนกอดอกแนบหูโทรศัพท์มองรอบ ๆ เรื่อยเปื่อย โดยมีพี่แผ่นฟ้าประกบหลัง ด่าขนาดนี้ก็ยังจะมาตามอีก (อันดา) เสียงเรียกชื่อทำให้ฉันลดมือถือลง หันมองตามเสียงเรียกนั้น แล้วฉีกยิ้มให้ทันที เมื่อรู้ว่าเป็นสกี "ขอหนังสือคืนด้วยค่ะพี่แผ่นฟ้า" ฉันวางสีหน้านิ่ง ๆ ไปหาอีกคน แล้วยื่นมาขอหนังสือจากเขา ที่อาสาเสนอหน้าถือให้ "......" พี่แผ่นฟ้ายืนนิ่งมองฉันด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไปกว่าเดิม มองบางทีก็ดูเศร้า มองอีกทีก็เหมือนว่างเปล่า เดาความรู้สึกไม่ออกจริง ๆ รอบนี้ "พี่แผ่นฟ้า เอาหนังสือน้องอันดามาค่ะ" เมื่อไม่ให้ฉันจึงแย่งจากมือ จากนั้นฉันก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าไปหาสกี ไม่สนใจพี่แผ่นฟ้าที่ยังยืนที่เดิมนิ่ง ๆ ชิ!! น่ารำคาญจริง "มานานยัง ไหนบอกว่าให้อันดาโทรหาก่อนไง" ฉันยิ้มแล้วถามออกไป เมื่อเดินมาถึงรถยนต์ที่จอดอยู่ "ไม่นาน ๆ ไปกันยัง บ่นเก่งจริง ๆ...เรียนเหนื่อยไหม เดี๋ยวจะพาไปกินข้าว" สกียีหัวฉันเบา ๆ แล้วบอกเล่าในสิ่งที่ฉันก็คิดพอดี เพราะฉันกำลังหิว! "ไปสิ...อันดาอยากกินปลานึ่ง น้ำจิ้มแซ่บ ๆ สกีเลี้ยงได้ปะ" ฉันฉีกยิ้มกว้าง ๆ ส่งสายตาอ้อน ๆ เพื่อให้สกีใจอ่อนเลี้ยงข้าว ไม่ได้เห็นแก่กินนะ ไม่เลยจริงเจร๊ง !! "ตาไฟให้ตังค์มา บอกว่าให้พาอันดาไปกินข้าว แล้วค่อยเข้าบ้าน" ยิ้มแก้มแทบแตกเลยจ้า คุณป๊าสุดที่รักของอันดา อย่างน้อย ๆ คุณป๊าต้องให้มาเป็นหมื่นแน่ ๆ งานนี้เสร็จอันดา "คุณป๊าให้มาเท่าไหร่เหรอ" ฉันเขย่งขึ้นสุดปลายเท้า แล้วกระซิบถามใกล้ ๆ แต่ก็ได้สูงสุดเท่าปลายคางสกีนั่นแหละ ก็สกีตัวสูงมาก~~ อาศัยเงยหน้าเอาค่ะ "หมื่นหนึ่ง" สกีตอบแล้วยิ้ม ยิ้มอย่างกับรู้ทันฉันแหน่ะ "Yes!...จะรอช้าทำไมล่ะไปกันเลย" "เด็กน้อยอันดาเอ๊ย!" ฉันทำท่าเยสดีใจ ก่อนจะเดินคล้องแขนสกีไปขึ้นรถ สกีนี่ส่ายหัวแล้วยิ้ม แล้วไงล่ะใครแคร์ แต่อันดาไม่แคร์มันคือความสุขของอันดาจ้า ตังค์ไม่หมดอันดาจะไม่กลับบ้าน! (แผ่นฟ้า) ผมได้แต่ยืนมองตามหลังของอันดา ผู้หญิงที่ผมเคยไล่เธอ และบอกว่าน่ารำคาญ แต่แท้จริงแล้วผมไม่ได้ต้องการแบบนั้น ที่พูดไปก็แค่ไม่อยากให้เพื่อนรู้สึกแย่ แต่แล้วหัวใจของผมมันก็ทนไม่ไหว จนผมต้องตัดสินใจและเริ่มเข้าใกล้เธอ แต่มันกลับเป็นเวลาที่โคตรจะทำใจผมร้าว เมื่อเธอนั้นเลิกสนใจผมแล้ว ผมยืนมองเธอขึ้นรถไปกับผู้ชายคนหนึ่ง ถ้าเทียบแล้วผมสู้รูปลักษณ์เขาไม่ได้สักนิด เธอดูสนิทกับผู้ชายคนนั้นมาก และเขาคงเป็นคนที่เธอสนใจด้วยสินะ "มึงช้าไปแล้วไอ้แผ่นฟ้า เธอมีคนของใจแล้ว" ผมแทบคอตกเลยครับ ยิ่งสีหน้าและแววตารวมถึงคำพูดที่เธอสะบัดเสียงใส่ รู้ไหมครับว่าผมน่ะเจ็บจี๊ดที่ใจแค่ไหน ผมรู้สึกเจ็บปวดมากกับคำว่ารำคาญ ที่ออกจากปากของเธอ มันทำผมถึงกับขอบตาร้อนทันที แทบน้ำตาไหลเลยครับ แต่ต้องกลั้นไว้ ผมเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างอ่อนไหวต่อสิ่งที่ทำให้บีบหัวใจ แต่มันก็ไม่ใช่ง่าย ๆ หรอกครับนอกจากคนที่ผมมีใจให้ *****(12)
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD