ไม่ต้องการ

2875 Words
(อันดา) ฉันวิ่งหนีออกมาทันที ตรงไปหาสกีเพื่อกลับบ้าน ตอนนี้ฉันไม่ตามตื้อเขาแล้ว สิ่งที่เขาทำกับฉันมันดูไม่ให้เกียรติกันสักนิด แม้ว่าหัวใจของฉันจะปลื้มชอบเขาแค่ไหน แต่การที่มาจูบฉันแบบนี้มันก็เกินไปไหม ฉันยังไม่อนุญาตด้วยซ้ำ ทำไมต้องมาทำแบบนี้กับฉันด้วย ขอพักเบรกก่อน และอีกอย่างฉันไม่อยากเจอหน้าเขาด้วย ถึงฉันจะแรดบ้างแต่ไม่ใช่ใครจะมายุ่มย่ามฉันได้! ฉันไม่ชอบ! ฉันไม่ใช่คนที่จะง่ายกับใคร? "อันดาเป็นอะไร" ฉันเดินหน้างอมาหาสกีที่ยืนรออยู่ด้านหน้าร้านอาหาร "เปล่า เรารีบกลับกันเถอะ" ฉันเลี่ยงไม่อยากจะตอบคำถามของสกีเลย "ไม่จริง สกีรู้ เป็นอะไรบอกได้ไหม? แล้วเข้าไปในนั้นหาใคร?" สกีนะสกีถามรัวมาเชียว ฉันยิ่งไม่อยากจะตอบตอนนี้ ไม่มีอารมณ์! "แค่คนรู้จักน่ะ ไม่มีอะไรหรอก...แต่สกียังไม่ตอบอันดาเลยนะว่าคนพิเศษที่บอกว่าไม่ได้มีอันดาคนดะ...." "พูดเยอะจัง กลับบ้านกัน" ฉันยังพูดไม่จบเลยค่ะ สกีก็เอามือมาปิดปากของฉันไว้ แล้วลากคอฉันเดินไปยังรถยนต์ที่จอดอยู่ เขาบ่ายเบี่ยง เขาเลี่ยงที่จะให้คำตอบของฉัน เขาต้องไม่ได้มีคนพิเศษแค่ฉันใช่ไหม? "สกีหลอกอันดา" ฉันพูดขึ้นอย่างตัดพ้อ แม้ว่าก่อนหน้าจะหยอกล้อกัน เพราะเขาพูดเล่นจนฉันลืม แต่พอได้นิ่งสมองเลยคิดได้ว่าฉันยังมีเรื่องคาใจไม่ได้สะสางกับสกี "สกีไม่ได้หลอกสักหน่อย" เขาเปิดประตูรถยนต์ให้ แล้วดันฉันเข้าไปในรถยนต์ ยืนยิ้มมือจับประตูด้วยท่าทางเท่ ๆ เริ่มเกลียดความหล่อของสกีละ เดินไปไหนก็มีแต่คนมอง แม้กระทั่งตอนนี้ที่เขาไม่ได้ทำอะไรสักนิด แต่คนที่เดินผ่านไปมากลับจ้องอย่างกับจะกลืนสกีกินทั้งตัว เห็นแล้วหมั่นไส้จริง ๆ ใครมองสกีของให้เป็นตากุ้งยิง ชิ!! "ไม่หลอกแล้วทำไมไม่ตอบให้ชัดเจน" ฉันจี้ประเด็นเลยค่ะ ฉันอยากรู้ว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ ฉันยังพิเศษสำหรับเขาไหม? "คนพิเศษยังไงก็คือคนพิเศษ" แนะ!! ตอบแบบเดิมอีกละ ฉันถึงกับกลอกสายตามอง ชักสีหน้าไม่พอใจ แล้วหันหน้ามองตรงไม่สนใจสกีละ น้อยใจต่อไปก็ได้ หลังจากกินอิ่มโดยมีสกีเลี้ยงอย่างอิ่มหนำสำราญ "หึ อันดา..." ยังมีหน้ามาหัวเราะฉันอีกค่ะ สกีเดินอ้อมมาฝั่งคนขับ เขานั่งอมยิ้มแล้วมองหน้าฉัน จะมองทำไมไม่อยากให้มอง น้อยใจอยู่จะรู้บ้างไหมเนี้ยสกี! "ปู่ ย่า ตา ยาย มัม แด๊ด ตาไฟ ยายน้ำอุ่น น้าปัง ทุกคนคือคนพิเศษของสกีทั้งนั้น" เมื่อเห็นว่าฉันนิ่งหน้างอไม่พอใจละมั้ง สกีเลยพูดขึ้น ไล่มาจนครบทุกคน แล้วทำไมไม่มีชื่อฉันล่ะ เชอะ!! "ใช่สิ อันดาไม่ได้พิเศษอะไร ไม่มีใครสนใจอันดาสักนิด เชอะ!!" น้อยใจหนักแล้วนะ ไม่พิเศษก็ไม่ต้องพิเศษ ไม่ง้อก็ได้ ฉันนั่งมือกอดอกแล้วนั่งหันหลังให้สกี ไม่รู้หรอกว่าตอนนี้สกีจะมีสีหน้ายังไง ไม่อยากสนใจ!! "แต่อันดาคือคนพิเศษที่สุดของสกีนะ" ".........." เงียบค่ะ เงียบหยั่งเชิง สิ่งที่ได้ยินทำฉันอมยิ้มเลยค่ะ สกีมันขี้แกล้ง ชอบทำให้ฉันเสียน้ำตาก่อนค่อยมาทำซึ้ง นิสัยเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยน "ไม่เชื่อเหรอ?" "..........." ไม่ใช่ไม่เชื่อหรอก แต่ยังไม่กลัาหันหน้ากลับไปมอง เพราะฉันกำลังอมยิ้มเขินกับคำว่า คนพิเศษที่สุด กำลังฟินกับการที่สกียังยกให้ฉันเป็นคนพิเศษที่หนึ่งเหมือนเดิม "ถ้ายังไม่เชื่อ งั้นสกีทำแบบตอนเด็ก ๆ ได้ไหม?" " 0.0 จะบ้าเหรอ!" ก็จะไม่ให้ฉันตกใจได้ยังไงล่ะ ก็การง้อของสกีคือการจุ๊บปาก ตอนเด็กเรารักกันมาก และมันเป็นการง้อที่น่ารักของวัยนั้น แต่ตอนนี้ฉันโตแล้ว จะไปทำแบบเด็ก ๆ ได้ยังไงกันล่ะ บ้าเหรอ!! "ทำไมล่ะ ตอนเด็กยังให้ทำเลย ทำไมตอนนี้ไม่ให้ทำ สกีอยู่กับปู่ย่ากับทำบ่อย" สกีชักสีหน้า อยากจะจิ้มตาจริง ๆ จะด่ายังไงดีนะ "ก็นั่นไม่ใช่เมืองไทย แต่ที่นี่เมืองไทย จะทำได้ยังไงเล่า!!" "หายงอนแล้วใช่ไหมอะ" สกีย้อนถามฉันค่ะ นี่คงเป็นแค่การแกล้งฉันอีกแล้วสินะ หึ๋ย!! หมั่นไส้นัก ขอสักทีเถอะพ่อฝรั่งรูปหล่อ "โอ๊ะ ๆ ๆ โอ๊ย อันดา เจ็บ ๆ ยอมแล้ว ปล่อยก่อนเจ็บพุง อันดา!!" ฉันบิดเลยค่ะ บิดให้สุดแรง หน้าท้องแกร่ง ๆ ของสกีฉันบิดจนแขนนี่หมุนเลย ฮ่าฮ่าฮ่า "สมน้ำหน้า แบร่!!" สะใจอยากแกล้งฉันดีนัก ต้องเอาให้เข็ด "เดี๋ยวเถอะ!! มือหนักเกินไปแล้วอันดาอะ ท้องแดงหมดแล้วมั้งเนี้ย" สกีไม่พูดเปล่าค่ะ เปิดเสื้อขึ้นแล้วลูบหน้าท้องสูดปาก โอ้ว!!! 0.0 แม่เจ้าทำไมมันแน่นแบบนี้ ฉันจ้องมองไปยังหน้าท้องของสกีที่แดงเป็นรอย บรือ!!! สลัดความมโนออกจากหัว คิดไปถึงไหนแล้วฉันเนี้ย "กลับบ้านเร็ว ป่านนี้คุณป๊ายืนรอจนเมื่อยแล้วมั้ง อันดาไม่ได้โทรบอกด้วยว่ากลับเย็นขนาดนี้" ฉันรีบบอกทันทีเลยค่ะ ก่อนที่จะสติหลุดลอยไปมากกว่านี้ "ก็มันเจ็บอะ เป่าให้หน่อยสิ" ทำไมสกีถึงทำตัวแบบนี้นะ สาว ๆ ไม่ติดแย่เหรอ เขาขี้อ้อนกว่าตอนเป็นเด็กเสียอีก แต่ก็น้อยคนนะที่เขาจะมีความน่ารักแบบนี้ ส่วนมากก็คนในบ้าน และที่เขาอ้อนบ่อย ๆ ก็เห็นเคยทำกับมัมของเขานั่นแหละ "สกีไปอยู่ออสเตรเลีย คงอ้อนสาว ๆ ให้เป่ามนตร์ให้บ่อยละสิใช่ไหม?" ฉันถามเลยค่ะ อยากรู้! "ทำไมจู่ ๆ ถามแบบนั้นล่ะ" เบี่ยงเก่งจริง ๆ สกีเนี้ย สีหน้าของสกีดูเปลี่ยนไปเมื่อฉันพูดแซว "ถามไม่ได้ไง แสดงว่ามีสาวจริง ๆ ..... ฟู่" ฉันพูดขึ้นแล้วจึงโน้มหน้าเป่าลงหน้าท้องของสกี การกระทำที่เหมือนวัยเด็ก แต่มันก็เป็นความสุขและเรียกรอยยิ้มให้แก่ฉันได้เสมอ รู้ทั้งรู้ว่ามันคือการลวงของเด็กที่เราเล่นกัน แต่มันก็ทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่น ฉันจึงเลือกที่จะทำตามที่สกีร้องขอ "...........ไม่มี" สกีเว้นคำพูดไปชั่วครู่ ก่อนจะพูดออกมาเสียงเรียบ สีหน้าของสกีดูนิ่งไป มันผิดปกติค่ะ ฉันสัมผัสได้! "กลับบ้านกันเถอะ" ฉันหยัดตัวนั่งตรงแล้วส่งยิ้มให้ จนสกีขับรถออกไปเพื่อกลับบ้าน แววตาของสกีเหมือนมีอะไรเก็บซ่อนเอาไว้ แต่ถ้าเขาไม่อยากเล่าหรือระบายฉันก็ไม่อยากเซ้าซี้ให้วุ่นวาย เพราะยังไงฉันกับสกีก็ย่อมมีเรื่องส่วนตัวไม่ต่างกัน  วันต่อมา... สกีอาสามาส่งฉันที่มหา'ลัย และไม่วายเป็นเป้าสายตาตามเดิม ทำไมทุกคนต้องมาสนใจกับสิ่งภายนอกแบบนี้ ซึ่งฉันไม่ชอบเอาซะเลย มันดูวุ่นวายมากเกินไป กับอีแค่คนหล่อถูกใจแค่เนี้ย!! "เลิกกี่โมงเดี๋ยวสกีมารับ" สกีถามฉัน เมื่อจอดรถนิ่งหน้าตึกบริหาร ที่เป็นสถานที่เรียนของฉันในวันนี้ "บ่ายสอง แต่ไม่ต้องมารับก็ได้นะ" "ก็จะมารับ และห้ามนั่งแท็กซี่กลับก่อน" ฉันตอบสกีออกไป เห็นไหมล่ะคะว่าเขาไม่ยอมจริง ๆ ด้วย เขาน่ะยืนยันที่จะมา แถมยังสั่งฉันไว้ด้วย และฉันก็ต้องทำตามอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นนะฉันโดนยำเละแน่ สกีมันร้ายนะฉันจะบอกให้ แค่เขาเข้าทางคุณป๊า ฉันก็โดนรุมแล้ว ก็อย่างที่รู้คุณป๊าหวงฉันยิ่งกว่าอะไร และการกลับมาของสกีรอบนี้ก็อยู่หลายวัน ไปจนถึงปีใหม่ แน่นอนว่าคุณป๊าคงต้องฝากให้เขาเทียวรับเทียวส่งฉันไปเรียนแน่นอน "ชิ!! ขู่เก่งจริง ๆ" ฉันสะบัดเสียงใส่ทีเล่นทีจริง "ถ้าไม่ฟังจะฟ้องตาไฟ" เห็นไหม ๆ ว่าสกีน่ะร้ายแค่ไหน ดูสิคะเอาคุณป๊ามาขู่จริง ๆ ด้วย "ขี้ฟ้อง!!" ฉันทำหน้าขึงขังใส่เลยค่ะ เกลียดความขี้ฟ้องของสกี แม้ฉันจะรู้ดีว่าสกีไม่ทำหรอก แค่เขาอยากแหย่ฉันเล่นเท่านั้น "ไปเรียนได้แล้วเดี๋ยวสายนะ มัวแต่พูดมาก เรียนเสร็จโทรหาสกีนะ เดี๋ยวจะมารับ" สกียิ้มเบา ๆ แล้วก็เอามือมาลูบหัวฉันค่ะ อบอุ่นดีจัง "โอเค ไปก่อนนะ" ฉันยิ้มให้แล้วลงจากรถโบกมือลา ยืนมองจนกว่ารถยนต์ของสกีขับออกไปไกล ฉันเดินเข้ามาในอาคารเรียน แน่นอนว่าหลายคู่สายตามองมาที่ฉัน สีหน้าของแค่ละคนมีความอยากรู้ไม่น้อย แต่ฉันเลือกที่จะไม่สนใจ วางสีหน้านิ่ง ๆ แล้วเดินหลบไปทางบันไดหนีไฟ เพราะถ้าหากขึ้นลิฟต์ก็คงไม่วายเป็นเป้าสายตา ฉันรำคาญ!! "บ้าจริง ๆ จะมองอะไรหนักหนา" ฉันเดินก้มหน้าก้าวขาขึ้นบันได อีกมือก็ถือกระเป๋าไว้ เดินบ่นพึมพำตามประสา "ไม่ชอบจริง ๆ ถูกมองแบบนี้" ฉันก็ยังคงค่อย ๆ ก้าวขา เดินก้มหน้าบ่นต่อไป ปึก!! "โอ๊ะ!!!" แล้วจู่ ๆ ก็หน้าผากกระแทกกับอะไรก็ไม่รู้ ฉันรีบเงยหน้าขึ้นมองทันที "ทำไมเดินไม่ดูทาง" "ขอโทษค่ะ" เขาที่ยืนอยู่สูงกว่าฉันทักขึ้น คนที่ฉันไม่อยากจะเจอหน้าเลยในตอนนี้ ก็เพราะว่าเรื่องเมื่อวานที่เขาจูบฉันโดยพลการ ทำให้ฉันไม่อยากเจอหน้าผู้ชายคนนี้อีก แม้แรก ๆ ฉันจะชอบและคอยตามตื้อเขาก็ตามที "เดี๋ยวสิ!" ฉันเบี่ยงตัวเดินเลี่ยง แต่เขาก็เรียกฉันพร้อมกับคว้าข้อมือของฉันไว้ "ปล่อย!" ฉันมองมือที่จับฉันด้วยสายตาที่เอาเรื่อง ฉันไม่พอใจกับการที่มาแตะเนื้อต้องกายฉันแบบนี้ "ทำไม? ขนาดมากกว่านี้ก็ยังทำมาแล้ว" ดูเขาพูดสิ หน้าไม่อายจริง ๆ ทั้งที่ฉันก็ไม่ได้ยอมให้ทำไหม? เป็นเขาเองที่ขี้โกงขโมยจูบของฉันไปหน้าด้าน ๆ "ก็พี่มันขี้โกงไงพี่แผ่นฟ้า ปล่อยน้องอันดาค่ะ จะรีบไปเรียน" ฉันพยายามบิดข้อมือให้หลุด แต่ก็ไม่มีทีท่าจะรอดพ้น เหมือนเขากำลังปั่นประสาทให้ฉันหัวเสีย "เดี๋ยวเดินไปส่ง" "เอาตรง ๆ เลยนะพี่แผ่นฟ้า คือน้องอันดาบอกจะไม่ยุ่ง ไม่ตามตื้อพี่แล้วไง แล้วพี่จะเอาอะไรอีก" ฉันพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจ ก็เหมือนเขาจะมาวุ่นวายกับฉัน ทั้งที่ก็พยายามหลบหน้าไม่เข้าหาเขาแล้ว มันคือความต้องการของเขาไม่ใช่หรือไง "หลบหน้าทำไม?" เขาปล่อยมือฉันค่ะ แล้วก็พูดขึ้นมาด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง "อะไร หลบตรงไหน ก็แค่จะไม่ไปวุ่นวายอีก อย่างที่พี่ต้องการไง" ฉันแย้งขึ้นแล้วบอกเหตุผลกับเขาไปด "ถ้าไม่พอใจเรื่องที่ผลักจนล้มวันนั้น ขอโทษเพราะไม่ได้ตั้งใจ" "คงไม่จำเป็นหรอกค่ะ มันผ่านมาแล้ว น้องอันดาลืมละ ขอตัวนะ!" แล้วเขาก็พูดขึ้นมาในเรื่องเดิมที่เคยทำ แล้วฉันก็ไม่อยากจะจำด้วยซ้ำ จะพูดทำไม? ฉันจึงรีบบอกและอธิบายเขาไป ก่อนจะกล่าวลาและเดินเบี่ยงซ้ายหวังขึ้นไปชั้นที่จะเรียน "จำเป็นสิ" "ยกโทษให้ค่ะ แต่น้องอันดาคงไม่เข้าใกล้พี่แผ่นฟ้าอีกแล้วล่ะ ต่อไปพี่สบายใจได้เลย ไม่ต้องมาคอยรำคาญ ไม่ต้องมาเปลืองน้ำลายด่าน้องอันดาอีก" ฉันพูดจบก็รีบวิ่งขึ้นบันไดไปเลยค่ะ ไม่สนใจที่จะมองเขาด้วยซ้ำ มันก็ดีแล้วไงเขาจะได้สบายใจ เพราะไม่มีใครคอยตามตื้อกวนใจเขาอีก "อันดา!..." ".........." ฉันไม่สนเสียงเรียกของพี่แผ่นฟ้า รีบก้าวขาวิ่งขึ้นบันได เสียงวิ่งที่ดังทำให้รู้เลยว่า เขากำลังตามฉันมาทุกฝีก้าว เริ่มจะเป็นเขาแล้วนะที่มาวุ่นวายกับฉัน "เดี๋ยว ๆ พี่ยังพูดไม่จบ มันยังไม่เคลียร์" เขาขายาวอ่ะ จนสุดท้ายก็วิ่งมาดักหน้าฉันไว้ "อะไรคือไม่เคลียร์ ก็บอกไปหยก ๆ ว่าจะไม่ตามกวนใจแล้วไงคะ หลบค่ะหลบจะรีบไปเรียน" ฉันเริ่มชักสีหน้าใส่ และใช้มือดันตัวเขาให้หลีกห่าง แต่ตัวเขาใหญ่กว่าฉันมากจึงผลักเขาไม่ขยับเลยสักนิด มีแต่ฉันเองนี่แหละที่จะตัวปลิว "เอ่อ......คือ....." เขาดูพิลึกคนจริง ๆ ค่ะ จะพูดอะไรก็ไม่พูด "รอฟังอยู่ค่ะ เพราะน้องอันดารีบ" ฉันเร่งให้เขาเข้าประเด็น เพราะตอนนี้ใกล้เวลาเข้าเรียนของฉันเต็มที หากฉันเข้าสายมีหวังได้อายเพื่อนแน่ ๆ และประวัติของอันดาไม่เคยมาสาย อย่าให้ฉันต้องมาอายและเสียการเรียนเพราะผู้ชายคนนี้เลย "คือว่า....เอ่อ....." ก็ยังเป็นเหมือนเดิมค่ะ จะพูดก็ทำอ้ำอึ้งอยู่ได้ "อะไรของพี่อะพี่แผ่นฟ้า จะพูดอะไรก็ไม่พูด อ้ำอึ้งอยู่ได้" ฉันเริ่มที่จะอารมณ์เสียแล้วค่ะ เงยหน้าพูดกระแทกเสียงอย่างหงุดหงิด ก็คนยิ่งรีบ ๆ เขาก็มัวแต่ยืนก้มหน้ามองฉันอยู่นั่นแหละ ปกติปากดีจะตาย แต่ไหนมาวันนี้ดูผิดแปลกไปได้ล่ะ ไม่เหมือนพี่แผ่นฟ้าที่ฉันเคยสัมผัสสักนิด "....ไม่มีอะไร แค่จะเดินไปส่ง" อันดาอยากจะเขาหัวโขกราวบันได้ให้รู้แล้วรู้รอด คำตอบที่ได้ยินทำเอาฉันถึงกับกลอกสายตามองบนทันทีเลยค่ะ อะไรของพี่เขาวะ!? "เสียเวลาจริง ๆ" ฉันพูดออกไปอย่างอารมณ์เสีย ปกติฉันไม่ค่อยจะพูดอะไรแบบนี้หรอก นอกจากว่าฉันจะรำคาญและหงุดหงิดจริง ๆ น้อยคนนักจะได้สัมผัส ถือว่าเป็นความโชคดีของคน ๆ นั้นก็แล้วกัน ฉันไม่สนใจพี่แผ่นฟ้า ผลักไหล่พี่เขาให้หลบ แล้วฉันก็รีบเดินหนีมาเลยค่ะ เวลาเรียนของฉันก็แทบใกล้เข้ามาเต็มที เขาทำให้ฉันเสียเวลาไปเยอะกับการยืนนิ่งอ้ำอึ้ง "ตอนเที่ยงไปกินข้าวด้วยกันนะ" เขาที่อยู่ด้านหลังของฉันพูดขึ้น "มีนัดแล้วค่ะ" ฉันตอบออกไปในขณะที่ขาก็รีบย้ำเดินด้วยความรีบร้อน เพราะปกติฉันกินข้าวกับทับทิมตลอด ฉันไม่อยากทิ้งเพื่อนให้เดียวดาย "เลิกเรียนกี่โมง" เขาถามฉันเสียงสุขุม "บ่ายสอง" ฉันไม่สนใจพี่แผ่นฟ้าที่เดินตามหลัง เขาก็มีถามบ้าง ส่วนฉันก็ตอบบ้างไม่ตอบบ้าง ทีตอนฉันวิ่งแจ้นเข้าหา ทำบอกว่ารำคาญอย่างนั้นอย่างนี้ ตอนนี้ฉันก็เริ่มรำคาญที่เขาแล้วเหมือนกัน ก็บอกว่าฉันจะไม่วุ่นวายเพราะความต้องการของเขาไม่ใช่หรือไง จนในที่สุดฉันก็มาถึงห้องเรียนแล้ว เฮ้อ ดีที่อาจารย์ยังไม่เข้ามา อันดารอดแล้วจ้า เพราะว่ามันเลยเวลาเรียนมานิดหน่อย "เลิกเรียนบ่ายสองใช่ไหม งั้นเดี๋ยวมารอ" เมื่อถึงหน้าห้องเรียนเขาก็ถามขึ้นอีก ครั้งแรกเลยนะที่เขามาคอยเดินตามฉันแบบนี้ ถ้าเป็นแต่ก่อนฉันก็อาจจะดีใจ แต่ว่าตอนนี้ไม่แล้ว เพราะอะไรที่ฉันได้ตั้งใจ ฉันสามารถทำมันได้ง่ายดายและทันที "ไม่จำเป็นต้องรอค่ะ เพราะน้องอันดาจะมีไปต่อ" ฉันที่กำลังจะเปิดประตูเข้าห้องเรียน รีบหันหน้ามาให้คำตอบแก่เขา ด้วยสีหน้านิ่งเรียบ "ใคร?" พี่แผ่นฟ้าย้อนถามฉัน พลางกับขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ถามมากอย่างกับเป็นคนของฉันงั้นแหละ ลามปาม!! "ไม่เกี่ยวอะไรกับพี่แผ่นฟ้าค่ะ ขอตัวนะคะ" นั่นแหละค่ะคำตอบของฉัน ตอบเสร็จก็เปิดประตูเข้าห้องเรียนทันที ไม่ได้สนใจหันมองหลังว่าเขาจะพูดอะไรต่อ อย่ามาวอแวกับฉันถ้าฉันไม่ต้องการ! *****(10)
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD