พยาบาลสาวตัวแข็งทื่อ เธอฝืนต้านแรงรั้งไว้ แสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน และ “ขอตัวก่อนนะคะ...คุณไปติดต่อชำระเงินและรับยาที่เจ้าหน้าที่ด้านนู้นได้เลยค่ะ”
อาการของปริวัตรไม่ได้หนักหนาถึงขั้นที่จะต้องนอนโรงพยาบาล
แผลของเขามีขนาดใหญ่ แต่ก็ไม่ได้หนักหนาอะไร เขาคงไม่อยากนอนในโรงพยาบาลที่มีแต่กลิ่นยาที่เขาเกลียดหรอก
“อรอุษา!!” เสียงปริวัตรเข้มขึ้น จนการ์ดของเขาต้องรีบเดินเข้ามาใกล้
“คุณควรพาเพื่อนของคุณไปชำระค่ายาด้านนู้นค่ะ เสียงของเขากำลังรบกวนคนอื่น ที่นี่โรงพยาบาลค่ะ ไม่ใช่ผับ บาร์ที่เขาเพิ่งไปเที่ยวมา”
พยาบาลสาวตอบเสียงนิ่ง เธอข่มใจแทบแย่ ทั้งที่เรียวขาสั่นพั่บๆ
“เดี๋ยวสิ เดี๋ยวอย่าเพิ่งไป กลับมาคุยกันก่อนอรอุษา!!”
อรอุษาเข็นรถเข็นที่บรรทุกอุปกรณ์ทำแผลห่างมา เธอได้ยินเสียงปริวัตรร้องเรียก จึงออกแรงมากขึ้น จนกระทั่งพ้นจากบริเวณนั้น และไม่ได้ยินเสียงอะไรอีก
น้ำตาเม็ดเล็กๆ ร่วงพรู ความช้ำใจที่ห่างหายไปนานกระแทกหัวใจของเธอจนเจ็บร้าว
“อุษาอยากลืมคุณ คุณกลับมาทำไมคะ?”
เสียงแหบปนเสียงสะอื้นดังผ่านปากอิ่มที่สั่นระริก
อรอุษาอยากกดความเจ็บปวดนี้ไว้ และแสร้งทำเป็นไม่รู้สึกรู้สา เมื่อเธอเป็นแค่คนไร้ค่าในสายตาของพวกเขา ผู้หญิงเนรคุณที่ทรยศผู้อุปการะ ข้าวแดงแกงร้อนที่ริดรด ไม่ได้ทำให้เธอสำนึก อรอุษาจึงเดินจากมา และไม่เคยคิดกลับไปทดแทนบุญคุณ เธอเป็นคนเลวในสายตาของพวกเขา แต่มีแต่เธอเท่านั้นที่รู้ดี เธอจากมาเพราะอะไร!!
พยาบาลสาวไม่คิดว่า ปริวัตรจะจำเธอได้
เขาเปลี่ยนไปมาก จากหนุ่มน้อยขี้เล่น กลายเป็นคนหนุ่มทรงภูมิ ท่าทางของเขาดูดี จนเธออดไม่ได้ที่จะถวิลหา ช่วงเวลาครั้งน้ำต้มผักยังหวาน ช่วงเวลาที่อรอุษาคิดว่าตัวเองเป็นซินเดอเรลร่า เจ้าชายผู้สูงส่ง เมตตาและมอบความรักให้ ในอ้อมแขนของเขา คือพื้นที่ที่ทำให้หัวใจของเธออบอุ่น อุ่นจนร้อนเพราะไฟปรารถนาของปริวัตรเช่นกัน
เมื่อปรับอารมณ์ ความหวาดกลัวให้สงบลง อรอุษาปั้นหน้าเฉยชากลับมาทำงานตามหน้าที่ตนเอง
ห้องฉุกเฉินที่เต็มไปด้วยคนไข้ ยิ่งเป็นเวลาดึกดื่นเช่นนี้ หมอ และพยาบาลยิ่งวุ่นวาย
“อุษาๆ ทางนี้ๆ” ทันทีที่เธอโผล่เข้าไปในห้องกว้าง ปานตาก็กวักมือเรียก
อรอุษายิ้มแหยๆ ส่งคืนให้ เธอกวาดตามองจนแน่ใจ...คนที่เธอไม่ต้องการพบ หายไปจากที่ที่เขาเคยนั่งอยู่แล้ว
หญิงสาวรอบระบายลมหายใจ เดินตรงไปช่วยงานของพยาบาลสาวรุ่นพี่
คืนนี้เป็นคืนที่วุ่นวายเป็นพิเศษ คนไข้นอกมีเข้ามาเกือบตลอดเวลา เธอทำแผลแทบไม่มีเวลาหยุดพัก จนกระทั่งลืมเรื่องชายผู้นั้นไปเสียสนิทใจ
ช่วงพักเบรก ก่อนจะถึงเวลาเลิกงาน
บทที่4.คนในอดีต
หลังล้างมือจนสะอาด ความง่วงเกิดขึ้นเพราะอากาศเย็นๆ อรอุษาจึงเดินไปชงกาแฟ เพื่อใช้คาเฟอีนในกาแฟปลุกให้ตนเองเกิดความกระฉับกระเฉงขึ้น
“คนหล่อๆ คนนั้นน่ะเธอ เพื่อนของลูกชายท่านผู้ว่าฯ เชียวนะ”
อรอุษาไม่ได้ตั้งใจแอบฟัง แต่พยาบาลสาวสองนาง นั่งคุยกันในบริเวณที่เสียงของเขาทั้งสอง ลอยมาเข้าหูเธอพอดี
“ตอนแรกว่าจะไม่แอดมิดนี่นา ทำไมเปลี่ยนใจได้”
เสียงอีกคนบ่น แต่เสียงบ่นนั่นไม่ได้ปนเปไปด้วยความไม่พอใจ มันเหมือนกับว่าสองสาวมีความหวังบางอย่าง เพราะน้ำเสียงที่ใช้ อ่อนหวานเสียเหลือเกิน
“ไม่เคยคิดเลยนะว่าคุณปฐวีจะมีเพื่อนหน้าตาดีขนาดนี้”
อรอุษาขมวดคิ้ว เธอคุ้นหูพิกลกับชื่อของบุคคลที่สาม ที่สองสาวเพื่อนร่วมงานเอ่ยถึง
แต่เมื่อภารกิจของตนเองเสร็จลง อรอุษาเลยไม่สนใจ เธอเดินผ่านพยาบาลสาวทั้งสองคนไป แต่ทว่า...โดนหนึ่งในสองคนนั้น รั้งไว้เสียก่อน
“อุษา”
“หือ...” เธอเลิกหัวคิ้วเป็นเชิงถาม
“เธอเข้านอก ออกในบ้านท่านผู้ว่าฯ หลายครั้ง เธอรู้จักเพื่อนคนนี้ของคุณปฐวีหรือเปล่า?”
นิ่มนวลสนิทกับภริยาท่านผู้ว่าฯ มันเลยทำให้เธอพลอยรู้จักมักจี่คนในบ้านหลังนั้นด้วย แต่เธอไม่ได้สนิทสนมจนกระทั่งต้องรู้จักทุกคนนี่ แม้แต่ตัวปฐวีเอง เธอก็แค่เคยเห็นผ่านๆ ไม่ได้สนิทกันเป็นการส่วนตัว
หญิงสาวเลยส่ายหน้าแทนคำตอบ
“ว้า...น่าเสียดายจัง...หล่อพอๆ กับพระเอกหนังฮ่องกงเลย”
เสียงบ่นลอยตามหลังมา อรอุษาเลยพลอยอมยิ้มตาม
แต่แล้วเธอก็ต้องสะดุดเกือบหัวทิ่ม ทันทีที่พยาบาลสาวอีกคนเอ่ยถึงชื่อ คน คนนั้น
“ในประวัติที่ลงไว้ เขาชื่อปริวัตร เทพศิรินะเธอ”
อรอุษาเดินเซ เธอต้องเกาะพนังกำแพงไว้ ก่อนที่ตนเองจะหน้ามืด
“แผลแค่นั้น ทำไมถึงนอนโรงพยาบาลไม่รู้นะ”
หญิงสาวสูดลมหายใจลึกๆ กลืนน้ำลายฝืดๆ ลงคอ เธอคงไม่โชคร้าย จนต้องเผชิญหน้ากับปริวัตรอีกครั้ง หลังจากที่เลี่ยงมาได้แบบหวุดหวิด
เขายังอยู่ที่นี้ ใต้หลังคาเดียวกันกับเธอ
พยาบาลสาวแม่ลูกหนึ่งเดินละห้อยละเหี่ยกลับไปทิ้งตัวนั่งที่เดิม ยังไม่ถึงเวลาเลิกงาน มีความเป็นไปได้50% ที่เธอจะได้พบกับเขาอีกครั้ง
พอคิดมาถึงจุดนี้ หัวใจที่เคยเต้นเป็นจังหวะปกติ ก็เริ่มเต้นถี่
เธอเคยทำได้ ที่จะรักษาอาการไว้
และหากเจอกับปริวัตรอีกครั้ง...เธอก็น่าจะทำได้เหมือนเดิม
“มันคงไม่โชคร้ายขนาดนั้นมั้ง”
หญิงสาวเปรยเสียงอ่อยๆ เธอคงไม่โชคร้าย จนต้องไปยืนเผชิญหน้ากับปริวัตร เมื่อเธอรับผิดชอบห้องฉุกเฉินในค่ำคืนนี้
แต่ดูเหมือนว่า...โชคชะตาจะกลั่นแกล้ง
กรี้งงงงงง...
เสียงโทรศัพท์ดังลั่น ท่ามกลามความเงียบจนอรอุษาสะดุ้ง!
ไม่มีเพื่อนร่วมงานคนอื่นอยู่ในบริเวณใกล้ๆ นี้ อรอุษาเลยจำใจเดินไปรับสาย ก่อนที่ปลายสายจะอารมณ์ไม่ดี
“ใครก็ได้ วานไปดูคนไข้ห้องพิเศษให้หน่อย?”
เสียงสั่งดังห้วนๆ แสดงว่าคนไข้ห้องพิเศษที่เจ้าตัวเอ่ยถึงคงฤทธิ์เดชไม่น้อย
“เดี๋ยวอุษาตามพยาบาลให้ค่ะ”
“อุษาเองเหรอ ขอบใจจ้ะ”
พอมีคนรับปาก คนปลายสายก็เลยคลายความกังวล นับตั้งแต่คนไข้รายนั้น เข้าพักรักษาตัว เกือบสองชั่วโมงมานี่ เธอสติแทบแตก
อรอุษาวางสาย เธอเดินออกไปมองพยาบาลสาวสองนางที่นั่งอยู่ประจำที่...แต่...ทั้งสองคนนั่น หายไปเสียแล้ว คนไข้ที่เข้ารับการรักษาตัวคงเรียกใช้บริการ อรอุษาเดินไปกดคอมพิวเตอร์ เธออยากรู้ว่า ห้องพิเศษนั้นอยู่ตรงไหน เธอคงต้องไปแทน ก่อนที่คนไข้รายนั้นจะอารมณ์เสียมากไปกว่านี้
มันหาไม่อยากเลย เพราะห้องพักฟื้นที่เป็น VIP สำหรับค่ำคืนนี้ มีแค่ห้องเดียว
อรอุษาชะงัก เธอเอะใจ...
แต่มันคงไม่บังเอิญขนาดนั้นหรอก เธอพยายามปลอบใจตัวเอง
หญิงสาวรีบเดินเร็วๆ ไปยังห้อง VIP ที่ต้องการใช้บริการของพยาบาล
ปัง!
หมอนใบใหญ่ลอยเฉียดหน้าตนเอง และหล่นลงบนพื้นแทบเท้าเธอนั่นเอง อรอุษาสูดลมหายใจลึกๆ เธอก้มลงเก็บหมอนใบนั้น พยายามทำใจให้สงบ ไม่เต้นตามภาวะอารมณ์ไม่คงที่ของคนป่วย
“มีอะไรให้ช่วยดิฉันช่วยคะ คุณไม่สบายตัวตรงไหน เจ็บแผลหรือเปล่าคะ?”
ไฟฟ้าในห้องมีเพียงแสงสลัวๆ
กับเงาทะมึนของคนป่วยที่นั่งอยู่กลางเตียง เธอมองเห็นไม่ชัดเพราะสายตายังไม่ชินกับความมืด
อรอุษาเอื้อมมือหมายจะเปิดไฟ...
“อย่าเปิดนะ” เสียงแหบห้าวคุ้นหูร้องสั่ง
“ค่ะ คุณต้องการอะไรคะ หรือว่าเจ็บแผล?” พยาบาลสาวถาม พยายามสำรวมที่สุด เพราะหากเธอเต้นไปตามอารมณ์โกรธของคนป่วยด้วยแล้ว ห้องพักฟื้นคงลุกเป็นไฟ
“เจ็บ!” คนป่วยตอบเสียงห้วน
“งั้นฉันจะเอายาให้คุณทานนะคะ อาการเจ็บจะได้ทุเลา”
อรอุษามองเห็นถาดยา พยาบาลประจำคงเอายามาวางไว้ แต่ทานอารมณ์ของคนไข้ไม่ได้ เลยเผ่นออกไปก่อนที่จะทำหน้าที่ของตัวเองให้เสร็จ
ถาดยาวางอยู่ไม่ไกลเตียง อรอุษาสืบเท้าเข้าไปใกล้ เธอรินน้ำสะอาดใส่แก้ว หยิบถ้วยใส่ยาเดินไปหาคนป่วย
“ทานยาค่ะ คุณจะได้พัก”
ปริวัตรมองตามทุกอิริยาบถของคนตรงหน้า เขาชินกับความมืดเสียแล้ว พอคนมาใหม่โผล่เข้ามา เขาเลยมองเห็นหล่อนชัดๆ ชายหนุ่มไม่ทันคาด พยาบาลที่เดินเข้ามาคือคนที่ตนเองต้องการเจอ หล่อนหลบหน้าเขา ครั้งที่เจอกันแบบฉุกละหุก เพราะความเร่งรีบ และตนเองกำลังติดพัน ปริวัตรจึงไม่ทันรั้งอรอุษาไว้
ในตอนนี้ หล่อนอยู่ห่างแค่มือเอื้อม...