เมียลับยอดรัก บทที่3.

1576 Words
ประเมินที่นั่งหุบปากมานานเปรยลอยๆ เขาวางมือจากการขับรถยนต์ตั้งแต่พื้นที่กรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ แออัดไปด้วยผู้คน ชายสูงวัยรู้ตัวเองดี เขาใจไม่เย็นพอ “คงยาก...ไม่ว่ารัฐบาลไหนก็คงทำไม่สำเร็จหรอก หากยังมีนักการเมืองที่ตั้งใจเข้ามาเพื่อคอรัปชั่นเป็นงานหลัก” ทั้งประเมิณและวรรณนาเห็นด้วยกับความคิดของโฉมฉาย ประเทศใดก็ตาม หากคนที่เข้ามาบริหารประเทศ มุ่งแต่จะยักยอกทรัพย์สินส่วนกลางเข้าพก เข้าห่อ ความเจริญก็จะไม่เยี่ยมกลายเข้ามา การพัฒนาก็จะถอยหลังลงคลองไปเรื่อยๆ เพราะมีเห็บ หมัด คอยสูบเลือดสูบเนื้อประเทศ คนที่ซวยก็คือ ประชาชนที่ต้องทำงาน และเสียภาษีให้ภาครัฐ เอาไปผลาญ แบบไม่เกิดประโยชน์เต็มเม็ดเต็มหน่วย “คุณแม่กะจะให้ตาวัตรนั่งแทนคุณแม่จริงเหรอครับ?” “ถ้าแกฉลาดได้ครึ่งนึงของตาวัตร ฉันก็คงไม่ต้องรอจนตาวัตรโต” เป็นคำตอบที่ประเมินน่าจะน้อยใจมารดา แต่เขารู้ตัวดี เขาไม่แกร่งพอที่จะขึ้นแท่นกุมบังเ**ยน ดังนั้น หากมารดายกตำแหน่งสำคัญให้บุตรชาย เขาก็ไม่เสียใจ “คงเป็นเพราะ ความฉลาดในยีน ส่งต่อไปที่ตาวัตรจนหมด ผมเลยได้รับยีนเด่นนั้นมาแค่นิดเดียว” คนเป็นลูกตอบแบบไม่คิดเล็ก คิดน้อย ดีเสียอีกเขาจะได้ไม่ปวดหัว เมื่ออยู่จุดสูงสุดนั้น ต้องรับผิดชอบหลายอย่าง “แกไม่คิดมากก็ดีแล้ว ต้องเข้าใจนะ สมบัติของตระกูล ส่งต่อมาหลายรุ่น ฉันไม่อยากให้เทพศิริมาล่มจมในมือของคนรุ่นฉัน” นางเองก็เคลียดเพราะปัญหารุมเร้า งานในมือมากมายจนทำไม่หมด บุตรชายก็ไม่เป็นโล้เป็นพาย ดีที่ไม่เกเร และไม่สร้างปัญหาเพิ่ม “ฉันคงไม่มีหน้าไปพบพ่อแก ตอนฉันตาย” โฉมฉายเปรย ก่อนจะนิ่งไป นางคิดอะไรในใจเงียบๆ ประเมินกับวรรณนา เลยไม่กวน บทที่3.ยอดดวงใจ วันที่รอคอยมาถึงจนได้... เมื่อตื่นขึ้นมาในตอนเช้า สิ่งแรกที่อรอุษารู้สึก คืออาการเสียดท้องเบาๆ มันเริ่มต้นขึ้นครั้งแรก หลังกินมื้อเช้า และถี่ขึ้นเรื่อยๆ จนหญิงสาวเก็บอาการไม่ไหว ภูมิกัทรสังเกตเห็นมาพักใหญ่ๆ ในที่สุดเขาก็อดรนทนไม่ไหว เอ่ยปากถามในที่สุด “อุษา เจ็บท้องใช่ไหม?” หญิงสาวเงยหน้าขึ้น ส่งยิ้มแหยๆ ให้ “ค่ะพี่หมอ!!” “กระเป๋าล่ะ ที่พี่สั่งให้เตรียมไว้” หมอหนุ่มกวาดตามองหากระเป๋าฉุกเฉินที่เขาสั่งให้อรอุษาเตรียมไว้ ของใช้ของเด็กแรกเกิด เมื่ออรอุษาเพิ่งท้องเป็นครั้งแรก อาจจะมีเหตุการณ์ปุบปับ จนตั้งตัวไม่ทัน แม่ลูกหนึ่งยิ้มอ่อน ทุกครั้งที่ย้อนคิดถึงความทรงจำวันที่บุตรชายลืมตาดูโลก สิ่งที่เธอเรียนมา และท่องจำไว้ กระเด็นหายไปทันทีที่รู้สึกเจ็บ อาการเตือนถี่ๆ นั้นทำให้สติเธอแตก และหากวันนั้นไม่มีภูมิภัทร เธอคงมืดแปดด้าน “ยิ้มอะไรจ้ะอุษา?” เพื่อนร่วมงานรุ่นพี่เอ่ยถาม เมื่อเดินกลับมานั่งประจำที่ แล้วเห็นเพื่อนร่วมงานรุ่นน้องนั่งยิ้มค้าง “คิดถึงตาณัติค่ะ” “ไม่ได้เจอนาน กี่ขวบแล้วล่ะ?” “4ค่ะ จะไปเตรียมอนุบาลเดือนหน้านี่แล้วค่ะ” อรอุษามาทำงานที่โรงพยาบาลเอกชนในเมืองเกือบ4ปี เท่ากับอายุของบุตรชายเลยทีเดียว ความจำเป็นทำให้เธอต้องทิ้งงานที่มั่นคง เพราะรายจ่ายของบุตรชายมากจนเงินเดือนน้อยนิดของพยาบาลผู้ช่วยในอนามัยเล็กๆ ไม่พอใช้จ่าย เธอทำงานหนัก รับควงเวรบ่อยๆ เนื่องมาจากอยากมีทุนสักก้อนเก็บไว้ให้บุตรชายสำหรับเรื่องเรียน ตอนที่เขาโต โชคดีที่มีภูมิภัทร เขาช่วยอรอุษาหลายอย่าง รวมทั้งงานใหม่นี่ด้วย แถมยังรับหน้าเป็นพ่อของลูกเธอ โดยที่ครอบครัวของเขา ไม่มีปัญหา ทุกวันนี้เธอก็ยังอาศัยใบบุญของภูมิภัทรอยู่เลย นิ่มนวล มารดาของหมอหนุ่มรับภาระเป็นคนเลี้ยงดูอาณัติ ตั้งแต่วันแรกคลอด ท่านเมตตาบุตรชายของเธอประหนึ่งเป็นหลานในไส้ โชคดีของเธอกับลูก ที่มีแต่คนเมตตาสงสาร รวมถึง พิมพา แฟนสาวของภูมิภัทรด้วย ในตอนแรก พิมพาก็ระแวงเธอ แต่เมื่อภูมิภัทรอธิบายให้ฟังถึงปัญหาที่อรอุษาแบกรับไว้ ความระแวงนั่นเลยกลายเป็นความสงสารแทน หลายครั้งที่พิมพา อาสาดูแลอาณัติ ในยามที่นิ่มนวลติดธุระสำคัญ บุตรชายของเธอเลยมีแม่อุปถัมภ์เพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน “แม่ครับ? ทำไมณัติมีแม่สองคนล่ะครับ?” นั่นคือสิ่งที่บุตรชายมักจะถามบ่อยๆ มันเป็นเรื่องแปลกที่เขามีมารดาสองคน “ไม่ดีหรือไงจ้ะ จะได้มีคนรักณัติเยอะๆ ไงครับ” อรอุษาตอบพร้อมกับยกมือขยี้ผมบนศีรษะบุตรชาย “มีแม่สองคน ทำไมมีพ่อแค่คนเดียวล่ะครับ?” คำถามนี้ ทำเอาอรอุษาอึ้งไปเหมือนกัน เธออยากบอกความจริงบุตรชาย เรื่องบิดาของเขา แต่คงยังไม่ถึงเวลา เพราะเขายังเด็ก ดีทว่าบุตรชายหมดความสนใจไปเสียก่อน “คุณย่าชอบว่าณัติผ่าเหล่าผ่ากอ” เด็กฉลาด มักจะช่างซัก ช่างถาม และความซนที่เป็นเอกลักษณ์ประจำตัว อาณัติจึงมักจะถูกดุ และคำพูดติดปากของท่าน คือเรื่องที่เขาซนไม่เหมือนภูมิภัทร “ลูกก็ซนน้อยๆ หน่อยสิจ้ะ” อรอุษาพยายามเตือน เธอรู้ดี บุตรชายไม่ฟังหรอก เขาอยากรู้อยากเห็น เหมือนกับใครบางคนที่เธอยากจะลืม เสียงคนไข้โวยวายดั่งลั่น อรอุษาเข็นรถอุปกรณ์ทำแผลเข้าไปจอดด้านข้าง เธอพยายามไม่สนใจเสียงโวยวายนั่น เพราะรู้ดีว่า อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะคนเมาเป็นเหตุ ชายคนที่กำลังนั่งเลือดอาบหน้า และโวยวายเสียงแหลมนั้น เพราะเกิดการชกต่อยกันในหมู่นักเที่ยวที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ตามที่เธอได้รับแจ้งมา “ช่วยพี่หน่อยสิอุษา!” ปานตาพยาบาลอาวุโส มือหนึ่งแล้วในโรงพยาบาลแห่งนี้ยังถอย เพราะคนไข้รั้นกว่าที่คิด แถมยังพูดเหมือนผีเจาะปาก ก่นด่านานนับครึ่งชั่วโมง เท่าที่เธออดทนฟัง “ค่ะ เดี๋ยวเคสนี้อุษารับผิดชอบเอง พี่ปานไปดูคนไข้รายอื่นเถอะค่ะ” หญิงสาวรับมือกับคนไข้จอมโวยมาหลายคน เธอรู้ดีว่าจะปราบพยศคนเหล่านี้แบบไหนดี ความจริงเธอควรกลับตั้งแต่เมื่อ2ชั่วโมงก่อน แต่เพราะพยาบาลเวรคนหนึ่งติดธุระ เธอเลยจำเป็นต้องอยู่ต่อ มือเรียวขาวสะอาด เตรียมอุปกรณ์ทำแผล ก่อนจะหมุนตัวมาจ้องหน้าคนไข้จอมโวยตรงๆ สิ่งแรกที่เธอเห็นคือลิ่มเลือดมากกว่าที่คิด คงเป็นเพราะมีแอลกอฮอล์ผสมอยู่ในเลือดเยอะ เลือดที่ควรแห้งจึงยังไหลอยู่ เธอได้กลิ่นเหม็นหืนที่ระเหยออกมาจากลมหายใจคนตรงหน้า “คุณควรหยุดโวยวายนะคะ เลือดจะได้หยุดไหล” เพราะความโกรธจะกระตุ้นให้เลือดหมุนเวียนดีขึ้น มันไม่ดีเลย หากแผลที่เขาบาดเจ็บนั้นเป็นแผลเปิดขนาดใหญ่ ปริวัตรชะงัก เขามองหน้าคนตรงหน้า แม้จะเมาจนครองสติไม่อยู่ แต่เค้าหน้าแบบนี้ เขาจะลืมได้ยังไง ‘อรอุษา’ ผู้หญิงที่เขาเคยมีความสัมพันธ์ด้วย อรอุษาชะงักตาเบิกโต!! เมื่อเห็นคนตรงหน้าชัดขึ้น มือเธอสั่นระริกทีเดียว ตอนที่ยื่นออกไปจับแขนแข็งแรง เธอเช็ดคราบเลือดบริเวณนั้น คนไข้จอมโวยหุบปากเงียบ เหมือนกับว่าลืมตัวไปชั่วขณะ เขาชำเรืองมองหน้าด้านข้าง และมั่นใจว่าตนเองตาไม่ฝาด 5ปีที่ผ่านมา ไร้ข่าวคราวของหล่อน เขาอุตส่าห์หวัง เมื่อเรียนจบกลับบ้าน หล่อนคงยังรอคอยเขาอยู่ที่นั่น แต่มันไม่ใช่อย่างที่เขาคิด... ที่เทพศิริ...ไม่มีเงาของอรอุษาอีกต่อไป คนในบ้านพยายามเลี่ยงที่จะไม่พูดถึง และเขาก็ขลาดเขลาเกินกว่าจะอ้าปากถามคนอื่น มีเพียงความคิดถึงในบางครั้ง จนในที่สุด ปริวัตรก็กดเงาร่างของอรอุษาเก็บไว้ในใจลึกๆ ในเมื่อหล่อนตีจากเขาไป แล้วทำไมเขาจะต้องจำ “ไม่ควรให้แผลโดนน้ำ3วันนะคะ และอยากหายเร็วๆ ควรล้างแผลทุกวันด้วยค่ะ” แผลที่เกิด เกิดเพราะถูกแก้วบาด เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมคนดังอย่างปริวัตรถึงมาปรากฏตัวที่จังหวัดลำปางได้ เขาเป็นนักธุรกิจชื่อดัง งานของเขากำลังไปได้สวย เธอเห็นข่าวของเขาผ่านตาตามสื่อสิ่งพิมพ์ พยายามที่สุดที่จะไม่สนใจ เพื่อตนเองจะได้ไม่ฟุ้งซ่าน ที่ไหนได้...ตัวเป็นๆ โผล่มาประจันหน้า และอรอุษาเลี่ยงไม่ทัน เธอเลยเลือกที่จะทำเป็นไม่เคยรู้จักเขา เพื่อปกป้องสิ่งที่ตนเองซุกซ่อนไว้ ปริวัตรหลุดออกมาจากภวังค์ เขายกมือขึ้นจับเรียวแขนของอรอุษา “อุษา?” พร้อมกับพึมพำเรียกชื่อเธอออกมา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD