ตอนที่ 5

1087 Words
ร่างบางชะงักดวงตาเรียวสวยเบิกกว้าง สะบัดข้อมือสุดแรงกระชากออกจากเขา เพียะ! ฝ่ามือเธอตวัดลงบนใบหน้าหล่อเหลา เห็นแววตาเขาวาวโรจน์ กัดฟันแน่นจ้องมองมา นิลลนารู้สึกตัว เธอไม่ได้ตั้งใจ เขาผิดที่ทำราวกับเธอเป็นผู้หญิงหากิน “นี่เจ้า กล้าดียังไงมาตบข้า รู้หรือเปล่าว่าข้าเป็นใคร!” เขาตวาดจนเธอสะดุ้ง ไม่คิดว่าน้ำเสียงจะทรงพลังขนาดนี้ ปกติเธอไม่เคยกลัวใครเลย แต่ชายแปลกหน้าคนนี้กลับทำให้เธอรู้สึกถึงอำนาจที่ไม่มีทางต่อกร “ฉันไม่รู้หรอกว่าคุณเป็นใคร แล้วฉันก็ไม่สนด้วย โดนแค่นี้ยังน้อยไป ฉันไม่ใช่ผู้หญิงหากิน คุณไม่มีสิทธิ์มาทำรุ่มร่าม!” หญิงสาวต่อว่าน้ำเสียงสั่น แม้กายจะสะท้านแต่จำต้องหาทางปกป้องศักดิ์ศรีตนเอง อัสลันรีบเข้าห้าม พร้อมส่งสายตาไปถึงหญิงเอเชียเพื่อส่งสัญญาณให้หนีไป เรื่องนี้ไม่จบง่ายๆ แน่ ลิลลนารีบหนีออกมาจากตรงนั้นทันที สายตาของเขาน่ากลัวมากเหลือเกิน ที่ต่อปากต่อคำก็เล่นเอาแทบยืนไม่อยู่ “เจ้าจะหนีไปไหน ข้าไม่มีวันให้อภัยเจ้า ไม่เคยมีใครกล้าตบหน้าข้า!” นิลลนาได้ยินเสียงตะโกนไล่หลังเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งเธอเข้าใจมันดี แต่คำพูดแบบนี้ราวกับผู้รากมากดีเก่า แต่ตอนนี้เธอไม่อยากมัววิเคราะห์เรื่องไร้สาระ หาทางหนีจากชายแปลกหน้าคนนั้นดีกว่า “ดีลใจเย็นก่อน ที่นี่ท่านไม่ควรเปิดเผยตัว” อัสลันเตือน กางมือกั้นไม่ให้ดีลไล่ตามหญิงไทย “อัสลันฉันต้องการผู้หญิงคนนั้น!” ดีลเข่นเขี้ยวกำมือแน่น คนถูกสั่งชะงัก เขาไม่อยากทำร้ายเธอ ผู้หญิงคนนั้นแค่ไม่รู้ว่าชายที่ยืนต่อหน้าเขาคือใคร เธอเลยเผลอทำสิ่งผิดพลาดครั้งใหญ่ “จะดีเหรอดีล ผมว่าอย่าทำอะไรเธอเลย” “ฉันต้องการผู้หญิงคนนี้!” ดีลไม่ยอมลดละ “หาเอาใหม่ดีกว่าดีล คุณแค่ปรายตามองสาวๆ ก็ตามเป็นทิวแถวแล้ว แค่ผู้หญิงไทยคนเดียวอย่าไปยุ่งเลย ปล่อยให้เธอท่องเที่ยวที่นี่ดีกว่า เผื่อคนเอเชียจะมาอีก” ดีลหันมองอัสลัน สีหน้าฉายฉัดว่าไม่รับฟังความคิดเห็นใดๆ “ข้าต้องการผู้หญิงคนนั้นหาทางเอาตัวนางมาให้ได้อัสลัน กล้าหยามกันขนาดนี้ สตรีนางนั้นต้องได้รับโทษ!” “แต่...” อัสลันอ้าปากจะค้าน “ทำตามคำสั่งแค่นั้น” ดีลตัดบท “ครับ” ดีลสาวเท้าออกจากโรงแรม พนักงานต่างทำความเคารพ รถกันกระสุนเคลื่อนจอดติดกันสามคัน อัสลันเปิดประตูเพื่อให้เขานั่ง ส่วนตนเองประจำด้านหน้าคู่คนขับ “พระองค์จะกลับวังเลยหรือเปล่าพะยะคะ”สรรพนามเปลี่ยนไปทันทีที่อยู่ในรถ กษัตริย์มาซาฮาฟทรงครุ่นคิดครู่หนึ่ง แล้วรับสั่ง “พรุ่งนี้มีประชุมที่ไฮดริก กลับวังเสียเวลาเปล่าๆ ไปแคนยาสแทนก็แล้วกัน” “พะยะค่ะ” แคนยาสสถานที่อันร่มรื่นอุดมด้วยแมกไม้นานาพรรณ มันคือที่พักผ่อนส่วนพระองค์ของกษัตริย์แห่งซากวัย อันที่จริงพระองค์ไม่ค่อยออกสื่อเพราะเกรงต่ออำนาจมืด การเมืองที่นี่ไม่รุนแรงแต่บรรดาผู้ต้องการแย่งชิงบัลลังก์มีไม่น้อยเลยเลยทำให้ กษัตริย์แห่งประเทศซากวัย มาซาฮาฟ จาเมียร์ จำต้องทำงานในรูปนักธุรกิจรูปงามผู้ประสบความสำเร็จในการบริหาร รถเคลื่อนผ่านถนนผู้คนสัญจรขวักไขว่ พระเนตรสีอำพันทรงทอดมองประชาชนด้วยความภูมิใจ พระองค์ทรงพัฒนาประเทศจนเจริญก้าวหน้า ผู้คนมีความเป็นอยู่ดีขึ้นกว่าเดิมมากนัก อัสลันชำเลืองมองประมุขของประเทศด้วยความชื่นชม เขาเป็นราชองค์รักษ์ประจำพระองค์ ตั้งแต่วัยเยาว์ถูกสอนให้ฝึกศิลปะการต่อสู้ การใช้อาวุธในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการลอบสังหารเพื่อคุ้มครองกษัตริย์ในอนาคต เคยพบท่านมาซาฮาฟบ่อยครั้งเพราะพระองค์ชอบหนีมาเที่ยวเล่นกับบรรดาลูกของข้าราชการ ไม่ยอมอยู่ในวังเหมือนพี่ชายต่างมารดา เลยทำให้สนิทสนมกับเด็กๆ วัยเดียวกัน ในตอนนั้นไม่มีใครรู้จักเจ้าชายมาซาฮาฟ เด็กคนอื่นเลยคิดรุมรังแกแต่พระองค์กลับสู้จนเอาชนะมาได้ ถึงถูกรุมทำร้ายก็ตาม สำหรับเขาชื่นชมมาตั้งแต่ตอนนั้นและอยากให้เจ้าชายมาซาฮาฟเป็นกษัตริย์ ช่วงที่กษัตริย์คายานีสสิ้นพระชมน์มีการถกเถียงกันมากมาย เมื่อกษัตริย์ทรงมีราชโองการให้เจ้าชายมาซาฮาฟในวัยยี่สิบชันษาเป็นผู้ปกครองประเทศซากวัยต่อ ช่วงจังหวะเกิดเหตุโจรปล้นฆ่าชาวเมืองทำให้พระองค์ตัดสินใจปราบโจรจนสำเร็จ บรรดาข้าราชบริพารเลยยอมรับและเจ้าชายมาซาฮาฟกลายเป็นกษัตริย์นักบริหารที่เก่งกาจที่สุดองค์หนึ่งเลยก็ว่าได้ รถจอดเทียบด้านหน้าบ้านพักสไตล์ฝรั่งเศสผสมผสานกลิ่นอายอารยธรรมของเมืองไฮดริก ด้านในตกแต่งด้วยพรมสีแดงปักลวดลายดอกไม้งดงาม เฟอร์นิเจอร์กำมะหยี่ดูหรูหรา เครื่องเรือนเป็นทองเหลือง โคมไฟระย้าไล่ระดับ บันไดวนราวจับสีทอง พาขึ้นสู่ห้องนอนราวยี่สิบห้อง มีข้ารับใช้คอยดูแลทำความสะอาดรวมถึงดูแลสวนไปจนขับรถ กษัตริย์มาซาฮาฟถอดสูทแล้วส่งให้คนรับใช้ดูแล ปลดเนคไทเพื่อคล้ายความอึดอัด พับแขนเสื้อเชิ้ตเสยผมเล็กน้อยแล้วสาวเท้าขึ้นสู่ชั้นบนของบ้านพัก “พระองค์ไม่เสวยก่อนหรือพะยะค่ะ”อัสลันทักไว้เสียก่อน ทำให้พระองค์ทรงชะงักพระบาท “ยังก่อนอัสลัน” ทรงหยุดคิดครู่หนึ่ง “อย่าลืมเรื่องที่ข้าสั่งเจ้าก่อนหน้าด้วยล่ะ เรื่องหญิงไทยคนนั้น” อัสลันสะอึก นึกว่าพระองค์คงลืมไปเสียแต่ที่ไหนกลับจดจำแม่นยิ่งกว่าอะไร ไม่น่าเลยจริงๆ คงถึงคราวเคราะห์ ช่วยไม่ได้เช่นกันเขาเองต้องทำตามหน้าที่ของราชองครักษ์ผู้ภักดี “กระหม่อมรับทราบแล้วพะยะค่ะ”องครักษ์หนุ่มคุกเข่าแล้วรับคำ ก่อนลุกยืน กษัตริย์หนุ่มโบกพระหัตถ์สีพระพักตร์ติดรำคาญ “อยู่ที่นี่ไม่ต้องพิธีรีตองหรอกอัสลัน ความจริงเรียกฉันว่าดีลเหมือนเดิมดีกว่า ทำตามขนบธรรมเนียมประเพณีมากแล้วมันอึดอัด” “เกล้ากระหม่อมคงทำตามความต้องการของพระองค์มิได้พะยะค่ะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD