ตอนที่ 1
เสียงกดชัตเตอร์ดังทั่วสนามหญ้าขนาดใหญ่ ญาติพี่น้องต่างพากันแสดงความยินดีกับบัณฑิตจบใหม่ นิลลนา วาดวิจิตร หญิงสาววัยยี่สิบสองปี อดีตดาวมหาวิทยาลัยด้วยใบหน้ารูปไข่ ริมฝีปากบางเป็นกระจับ ดวงตาเรียวสวย จมูกโด่งรั้น คิ้วเรียวยาว ผมหยักศกเคลียแผ่นหลัง ด้วยรูปร่างเค้าโครงทำให้มีชายหลายคนต่างขายขนมจีบเป็นทิวแถว แต่นิลลนาไม่อาจปักใจชอบใครเพราะมุ่งแต่ต้องการทำความสำเร็จให้พ่อแม่ชื่นใจ
นิราพรแย้มยิ้มยินดีกับความสำเร็จ ลูกยามสวมชุดครุยช่างดูมีสง่า คนเป็นแม่โอบกอดแนบแน่นเพื่อถ่ายรูปโดยมีช่างภาพถูกว่าจ้างมาโดยเฉพาะ วิชยุทธมองภรรยาแล้วอดอมยิ้มเสียไม่ได้ เห็นใบหน้าแสนสุขแล้วอิ่มเอมอีกคน ลูกสาวเพียงคนเดียวไม่ทำให้ผิดหวังเลย ชายผู้ได้ชื่อว่าพ่อหิ้วดอกไม้มาส่งให้ถึงมือบุตรสาว
“ยินดีด้วยนะนิล ลูกทำสำเร็จแล้วนะ”
นิลลนารับมาน้ำตาคลอกอดบิดาแน่น ที่สำเร็จมาได้เพราะพ่อคอยส่งเสียให้เรียน
“ขอบคุณมากนะคะพ่อ”
คนเป็นพ่อลูบศีรษะลูกแผ่วเบา ก่อนเพื่อนร่วมงานและญาติสนิทคนอื่นจะมาแสดงความยินดี เวลาล่วงเลยจนกระทั่งเข้าสู่หกโมงเย็น นิลลนาแข้งขาสั่นด้วยรองเท้าส้นสูงแถมยืนถ่ายรูปกับคนนั้นที คนนี้ทีทั้งวัน
“นิล!”เสียงตะโกนเรียกพร้อมสาวร่างสูงโปร่งในสภาพสวมชุดครุยวิ่งเข้ามา
“ยัยดาอย่าวิ่งน่าเกลียด!”นิลลนารีบปราม
เพื่อนสาวตรงเข้าสวมกอด “เป็นไงเหนื่อยไหมนิล ยินดีด้วยวะแก”
“แกก็เหมือนกันแหละยัยดา ยินดีด้วยนะ!”
สองสาวกอดกันอีกครั้ง แล้วคลายอ้อมแขนออก ดาริการู้สึกตัวรีบยกมือกระพุ่มไหว้บิดามารดาเพื่อนแล้วยิ้มแห้งๆ
“สวัสดีค่ะคุณพ่อคุณแม่ ขอโทษด้วยนะคะที่ดาไม่ได้ทักทายก่อนพอดีดีใจมากไปหน่อย”
“ไม่เป็นไรหรอกลูก”นิราพรบอก
“มาทำไมล่ะแก ไม่ไปถ่ายรูปกับญาติๆ เหรอ”นิลลนาเอ่ยถาม
“พอดีกำลังจะกลับเลยมาทักทายก่อน หาตัวกันยากชะมัดเลย ดีนะที่เห็น”ดาริกาบ่นอุบ
“จะกลับแล้วเหรอ”
“ใช่จ้ะ แม่กับพ่อจะพาไปเลี้ยงที่ร้านอาหารน่ะ”
นิลลนาหันมองบิดามารดา เห็นพูดคุยกับญาติๆ อยู่ ทางนี้คิดว่าคงไปเลี้ยงฉลองเหมือนกัน ร่างบางสาวเท้าหาผู้ให้กำเนิดทั้งสอง
“พ่อกับแม่คะ เดี๋ยวนิลไปไหว้พ่อแม่ดาก่อนนะคะ แล้วจะรีบกลับมา”
“จ้ะลูก”วิชยุทธตอบ
สองสาวจูงมือกันไปอีกทางหนึ่ง นิลลนามาถึงกลุ่มญาติของเพื่อน
“พ่อคะแม่คะนี่นิลค่ะ เพื่อนดาเอง”
คนถูกแนะนำยกมือไหว้ท่าทีนอบน้อม มารดาและบิดาเพื่อนยกมือรับแล้วยิ้มอ่อนโยนเป็นกันเอง นิลลนาลากเพื่อนสาวไปยังกลุ่มชายหนุ่มที่เยื้องออกไป
“พี่นัท นี่เพื่อนดาชื่อนิล”เธอแนะนำเพื่อนให้พี่ชายรู้จัก
“สวัสดีค่ะ”นิลลนายกมือไหว้อีกครั้ง
เขารับไหว้แล้วจ้องมองใบหน้าสวยหวานไม่วางตา ดาริกามองพี่ชายแล้วใช้มือแตะเบาๆ ที่ท่อนแขน
“พี่นัท!”
“ว่าไงดา”
“เป็นอะไร ยืนนิ่งเชียว”
“เปล่าพี่ไม่ได้เป็นอะไร”ชายหนุ่มรีบปฏิเสธ แต่สายตายังคงจับจ้องอยู่ตรงเพื่อนของน้อง
ดาริกาหันมาทางเพื่อน ความจริงหากพี่ชายเธอกับนิลรู้จักกันมากกว่านี้คงดีไม่น้อย แต่เพราะพี่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศก่อนเธอรับปริญญาไม่กี่วัน ไม่อยากนั้นอาจสนิทสนมคบหากันก็ได้ พี่ชายไม่ได้หน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่เลย
นิลลนาตกประหม่าเพราะรับรู้ถึงสายตาของพี่ชายเพื่อน ปกติมักพบสายตาเช่นนี้มาตลอด แต่กับชายคนนี้ค่อนข้างเกรงใจไม่กล้าเดินหนี กลัวเพื่อนเสียความรู้สึกเลยทำแค่ยืนต่อหน้าแล้วเมินมองทางอื่นเหมือนไม่รับรู้
“แหม... ไม่ได้เป็นอะไรแต่จ้องเพื่อนดาตาไม่กระพริบเลยนะ”ดาริกาแซวพี่ชายทันที นัทพลรีบหลุบตามองพื้นด้วย
“ก็... เพื่อนดาสวย”เขาอ้อมแอ้มตอบ
ดาริกาหัวเราะแล้วโอบไหล่เพื่อนสาว
“นิลว่าไง พี่ชายบอกว่านิลสวย”
นิลลนาหันมองเพื่อน แล้วช้อนสายตามองชายหนุ่ม
“ขอบคุณค่ะ”
“พี่พูดจริงนะครับ”ชายหนุ่มรีบแก้ตัวเพราะคิดว่าคนถูกชมอาจเข้าใจว่าตนโกหก
“นิลไม่ได้คิดมากกับคำชมหรอกค่ะ”เธอตอบแล้วหันมองเพื่อน “ดาเดี๋ยวนิลไปก่อนนะ พ่อกับแม่รอนานแล้ว”
ดาริการะบายลมหายใจ แบบนี้หมดสนุกเลย อุตส่าห์เชียร์พี่ชายแต่สุดท้ายเพื่อนก็ไม่ยอม ขนาดพี่นัทออกจะหล่อยังไม่ชายตาแล ทำไมเพื่อนคนนี้ถึงไม่สนใจหนุ่มไหนเลย
“โอเคนิล ไว้เจอกันนะแก”
“ไว้เจอกันดา”
เธอปลีกตัวออกมาจากวงศาคณาญาติและหลีกเลี่ยงสายตาพี่ชายเพื่อนยามมองมาเหมือนต้องตาต้องใจ มาถึงกลุ่มของตนเองบิดารีบโอบไหล่บุตรสาวพากันขึ้นรถเดินทางไปยังร้านอาหารไทยชื่อดัง อดีตเอกอัคราชทูตประจำประเทศเดนมาร์กมายังโต๊ะไม้สักขนาดใหญ่ มีเก้าอี้ไม้บุนวมสีครีม ตรงกลางวางแจกันดอกกุหลาบขาว สามจุด ผ้าปูลูกไม้สีขาว ทุกคนนั่งประจำที่โดยมีวิชยุทธอยู่หัวโต๊ะ
ไม่นานอาหารถูกลำเลียงมาเสริฟ์เพราะทางลูกค้าทำการสั่งไว้ล่วงหน้าเรียบร้อย อาหารอิตาเลี่ยน ฝรั่งเศส ญี่ปุ่นและอาหารไทยหน้าตาน่าทานจนทุกคนน้ำลายสอ นิลลนามองบิดาแล้วยิ้มกว้างคิดไม่ออกว่าควรตักจานไหนทานก่อนดีเพราะมันล้วนแล้วแต่เรียกน้ำย่อยให้ทำงาน
“น่าทานมากเลยค่ะพ่อ”นิลลนาชมเปราะ ก่อนตักยำสามกรอบใส่ปาก
“น่าทานก็ทานมากๆ นะลูก วันนี้เป็นวันของนิลเลย”คนเป็นพ่อบอก
หญิงสาวไม่รอช้ารีบตักอาหารโปรดของตนใส่จานเพิ่ม ญาติพี่น้องเลยจัดการตาม ในวงมีการพูดคุยกันตามประสาจนเลยไปถึงการหางานหลังจบการศึกษาของนิลลนาด้วย คนถูกเอ่ยถึงนั่งเงียบกริบช่วงเวลาสำหรับการเล่าเรียนมันยาวนานมากแล้ว ตอนนี้สิ่งที่ต้องการทำคือท่องเที่ยวประเทศที่ใฝ่ฝันมานาน