ตอนที่14

1350 Words
"บัว! เอ่อ คุณบัว" พอลลี่เดินมาหากอบัวที่โต๊ะเมื่อออกมาจากห้องประชุมพร้อมพี่แต้วหัวหน้าฝ่ายบุคคล เพื่อจะมาขอโทษขอโพยเธอเรื่องที่ผ่านๆมา "พี่่พอลลี่คะ เรียกบัวเหมือนเดิมเถอะค่ะ" กอบัวส่งยิ้มให้พอลลี่อย่างเป็นมิตรไมตรีเหมือนเดิมไม่ได้แตกต่างไปจากวันเก่าก่อน "น้องบัวจ้ะ..เอ่อที่ไม่เปิดเผยตัวนี้เพราะมาสืบเรื่องการโกงเงินของบริษัทหรือจ้ะ?" เสียงพูดของพี่แต้วดูอ่อนหวานเปลี่ยนไปจากเดิมมากและท่าทางก็เปลี่ยนเป็นนอบน้อมมากขึ้น กอบัวหัวเราะออกมาเล็กน้อยกับการคิดเยอะไปของพี่แต้ว "ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะพี่แต้ว บัวแค่ไม่อยากจะเปิดเผยตัวเอง จะได้ทำงานกันเต็มที่" "น้องบัวอาจจะอยากมาสืบพฤติกรรมของคนแถวนี้ก็ได้นะพี่แต้ว" เสียงพูดที่ดัดออกมาพร้อมจริตที่กรีดกรายประชดประชันของพอลลี่ทำให้พี่แต้วถึงกับหน้าซีด เพราะว่าชอบมาชวนกอบัวเมาส์บ่อย ๆ เวลาว่างๆ ถึงแม้ส่วนมากกอบัวจะเป็นฝ่ายนิ่งฟังมากกว่าแต่พี่แต้วก็ใส่ไว้เยอะเหมือนกัน "พี่..พี่ขอโทษนะคะคุณบัว" พี่แต้วกล่าวออกมาด้วยท่าทางที่เขิน ๆ และดูกังวลว่าจะถูกไล่ออกเพราะพฤติกรรมของเธอมันก็เยอะไปจริงๆ "ไม่เป็นไรค่ะ ทุกคนทำตัวกับบัวเหมือนเดิมสบายๆเถอะนะคะ " กอบัวพูดขึ้นเพราะตอนนี้เริ่มมีคนอื่นทะยอยกันเข้ามาขอโทษขอโพยเธอกันมากมาย เพราะช่วงหลังๆพากันนินทากระแทกกระทั้นเธอบ่อยๆ และยังปล่อยข่าวลือเรื่องที่ว่ากอบัวนอกจากเป็นเลขานุการแล้วยังเป็นเมียเก็บท่านประธานอีกด้วย แต่หญิงสาวไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจ เอาตรงๆทั้งบริษัทนี้ก็มีแต่พอลลี่เท่านั้นที่ช่วยเหลือเธอและคอยปลอบใจเธอตลอดมา ตอนนี้เจ้พอลลี่ก็ยืนเชิ่ดหน้าใส่ทุกคนเพราะว่าได้หน้าเต็ม ๆ "แยกย้ายกันไปทำงานกันเถอะค่ะ ไม่มีอะไรทั้งนั้นบัวไม่ได้ถือโทษโกรธใครเลยค่ะ คนไม่รู้ย่อมไม่ผิด..แต่ว่าไม่ควรทำแบบนี้กับพนักงานใหม่ที่เข้ามานะคะ" "ค่ะ/ครับคุณบัว!" หญิงสาวกล่าวเสร็จทุกคนต่างก็ทะยอยกันออกไปทำงานประจำตำแหน่งหน้าที่ของตัวเอง แต่ทว่าในวันนี้คงไม่ได้ทำงานกันดีๆแน่ เพราะแชทกลุ่มของแต่ละคนน่าจะแตก เรื่องเลขานุการคือภรรยาของท่านประธานคงจะกลายเป็นไวรัลที่ร้อนระอุในบริษัทไปอีกหลายวัน "พี่การันต์นะพี่การันต์ ไม่ยอมบอกอะไรบัวเลยปล่อยให้เข้าใจผิดไปซะหลายเรื่อง" กอบัวอดที่จะบ่นออกมาไม่ได้ หญิงสาวเอามือเท้าคางลูบแก้มตัวเองเบา ๆ เมื่อนึกถึงตอนที่เขาประกาศบอกทุกคนว่าเธอคือภรรยาของเขา กอบัวอดที่จะรู้สึกเขินไม่ได้ แต่ทว่าก็ยังอดเป็นห่วงศจีไม่ได้ เรื่องโกงเงินเป็นร้อยๆล้านไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ก็หวังว่าสามีของเธอจะหาทางออกให้ศจีได้โดยที่ไม่ต้องติดคุกกันใหญ่โต เพราะได้ข่าวว่าศจีมีลูกเล็กๆ พอคิดมาถึงตอนนี้เธอก็อดที่จะถอนหายใจออกมาไม่ได้ "เฮ้อ..อยากรู้จังว่าเหตุที่ทำให้ผู้หญิงคนนึงกล้าทำเรื่องแบบนี้ได้เป็นเพราะอะไร?" หญิงสาวได้แต่เก็บความสงสัยไว้ภายในใจ เธอหยิบงานออกมาทำต่ออย่างปกติ แต่สายตาก็อดที่จะปรายตาไปตรงทางเดินไม่ได้เพราะกำลังรอคนเป็นท่านประธานอยู่อย่างใจจดใจจ่อ หนึ่งชั่วโมงผ่านไป ร่างสูงโปร่งก็เดินกลับมาพร้อมกับผู้ช่วยภานุ "เอ่อ ท่านประธานครับ ขอโทษเรื่องที่เคย..เอ่อ.กับคุณบัวครับ" ภานุเอ่ยออกมาอย่างติดๆขัดๆและไม่กล้าสบตามืออีกข้างก็ยกขึ้นลูบท้ายทอย ก่อนจะก้มลงเล็กน้อยอย่างคนสำนึกผิดไปแล้ว "อ๋อ เรื่องที่นายเคยคิดจะจีบเมียชั้นน่ะเหรอภานุ?" การันต์ย้ำเสียงเข้มเพียงเพราะต้องการแกล้งภานุเล่นๆเท่านั้นแต่ทำเอาอีกคนขาสั่นแทบจะร่วงไปกองอยู่กับพื้น "ขะ ขอโทษครับท่านประธานพอดีนุไม่รู้จริง ๆ อย่าไล่นุออกเลยนะครับ" แทนตัวเองด้วยชื่อเล่นด้วยน้ำเสียงที่อ้อนวอนฟังดูน่าขำขันเสียมากกว่า เพราะปกติภานุเป็นคนตลกอารมณ์ดีตลอดเวลา "รู้ก็ดีแล้ว ที่ผ่านมาถือว่านายไม่รู้ก็แล้วกัน แต่ต่อไปนี้ถ้าคิดจะจีบเมียชั้นอีก.....ตาย!" "ครับ ๆ งั้นผมไปทำงานก่อนนะครับ" ภานุรับจ้ำอ้าวอออกไปอย่างเร่งรีบ เพราะถ้าขืนอยู่ต่อพูดอะไรไม่เข้าหูท่านประธานเงินเดือนเดือนนี้ไม่น่าจะเหลือติดบัญชีแล้ว "มีอะไรกันหรือเปล่าคะพี่การันต์ ทำไมคุณภานุเดินเหมือนจะวิ่งไปอยู่แล้ว" "กลัวโดนไล่ออกข้อหาจีบเมียท่านประธาน" "ห้ะ!จริงเหรอคะ มะ ไม่น่าจะผิดอะไรนะคะ ก็..คุณภานุไม่ทราบว่าเรา..." "ช่างเถอะ เดี๋ยวเข้ามาในห้องหน่อย" การันต์พยักพเยิดให้เธอตามเข้าไปในห้อง กอบัวยิ้มพยักหน้าแล้วก้มลงรวบรวมเอกสารบนโต๊ะเดินตามร่างสูงโปร่งของเขาเข้าไปทันที "เรื่องคุณศจีสรุปเป็นยังไงบ้างคะ?" การันต์เอนหลังทุ่มตัวลงบนเก้าอี้กระพริบตาถี่ๆสองสามครั้งก่อนจะเอ่ยออกมา "ก็ให้ทางทนายทำเป็นสัญญาเงินกู้โดยอ้างอิงจากหลักฐานให้ศจีหาเงินมาใช้คืนบริษัท" กอบัวยิ้มออกมาเมื่อรู้ว่าเขาไม่ได้ส่งศจีไปถึงมือตำรวจเพราะอดที่จะสงสารศจีไม่ได้ "พี่การันต์ใจดีจังค่ะ" กอบัวยิ้มกว้างจนตาหยีทำให้ใบหน้างามของเธอดูน่ารักน่ามองยิ่งขึ้นไปอีก การันต์จ้องเธอนิ่งราวกับถูกมนต์สะกดเพราะเป็นครั้งแรกที่แต่งงานกันแล้วเห็นเธอยิ้มออกมาแบบนี้ "เย็นนี้ไปบ้านคุณพ่อคุณแม่กันนะ" "จริงๆเหรอคะ พอดีเลยบัวก็อยากเจอคุณแม่" รอยยิ้มแห่งความสุขยังคงฉายอยู่บนใบหน้าของเธอไม่ต่างไปกับยัยหนูบัวตัวน้อยในอดีต "แล้วแซนวิชพี่ล่ะ วันนี้ทำมาให้มั้ย?" "ทำมาสิคะ เดี๋ยวบัวเอาเข้ามาให้พร้อมกาแฟนะ" "นึกว่าไม่ทำมา จะได้กินเลขาแทน"พูดพรางส่งสายตาคมวาววับไปลวนลามหญิงสาวแทนการกระทำกอบัวหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย "พี่การันต์อ่ะ..เดี๋ยวบัวไปชงกาแฟให้ค่ะ"ขอตัวออกไปอย่างเขิน ๆ เพราะถ้าขืนยืนอยู่ต่อมีหวังได้ร่วงไปกองอยู่กับพื้นเพราะความปวกเปียกแน่ก็ดูสายตาที่เขามองเธอสิ การันต์มองตามร่างเพรียวในชุดเดรสสั้นที่มีสูทสวมทับอีกที เขาเผลอยิ้มออกมาอย่างรู้สึกดี ยิ่งพาลให้นึกถึงเมื่อวัยเยาว์นานเท่าไหร่แล้วนะที่เขากับเธอจากกัน แล้วมาเจอกันอีกในฐานะสามีภรรยา "บางครั้งการมีเมียมันก็ดีนะ"การันต์เผลอพูดกับตัวเองหลังจากที่ลับตากอบัวแล้ว เมื่อความรู้สึกที่มีต่อเธอผิดแผกไปจากเดิม จึงทำให้การันต์รู้สึกมีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ๆเธอ กลายเป็นว่าเสือตัวนี้กำลังสิ้นลายแล้วจริงสินะ เพราะจากเคยไปเที่ยวทุกคืนก็ไม่ไป แถมตื่นมาตอนเช้าในบางวันยังไปช่วยเธอใส่บาตรอีก ตอนนี้การันต์ยังคงสับสนไม่เข้าใจกับความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อกอบัวนัก คงจะต้องใช้เวลาสักหน่อยถึงจะเข้าใจในเรื่องนี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD