ตอนที่15

1239 Words
"ขอบใจหนูมากนะบัว ตลอดเวลาหลายเดือนที่ผ่านมานี้ตารันต์เปลี่ยนไปมากแม่เลือกคนไม่ผิดจริงๆ" คุณบุษบาแม่ของสามีของเธอเอ่ยขึ้นในตอนเย็นของวันหนึ่งหลังจากที่ทั้งคู่มารับประทานข้าวเย็นที่บ้าน โรจน์ภูรินทร์ และในขณะที่สองคนพ่อลูกกำลังนั่งหารือเรื่องงานกันอยู่ในห้องทำงาน ปล่อยให้ลูกสะใภ้กับแม่สามีนั่งคุยอยู่ด้วยกันตามลำพังที่ห้องนั่งเล่นรับแขก "ไม่ใช่เพราะบัวหรอกค่ะคุณแม่ จริงๆแล้วพี่การันต์เก่งอยู่แล้วค่ะ แต่แค่ไม่ค่อยมีคนรู้เพราะคนก็มัวฟังแต่ข่าวลือในด้านลบๆของพี่การันต์ค่ะ แต่ถ้าได้สัมผัสอีกมุมหนึ่งที่ไม่มีใครรู้จักจะรู้ว่าพี่การันต์เป็นอย่างไร...บัวรู้จักพี่การันต์มาตั้งแต่เด็กๆบัวรู้จักมุมดีๆของพี่การันต์ค่ะคุณแม่" บอกด้วยน้ำเสียงที่ดูภูมิใจในตัวสามีมาก แววตาของเธอนั้นมีแต่แววเทิดทูนและรักใคร่เมื่อเอ่ยถึงการันต์ "หนูบัวนี่คงจะรักตาการันต์มากจริงๆนะถึงมองเห็นมุมดีๆของพี่เค้าได้ ยิ่งคิดแม่ก็ยิ่งอยากได้หลานแล้วสิ" กอบัวแก้มแดงเป็นลูกตำลึงสุกอีกครั้งเมื่อได้ยินเรื่องนี้ เพราะหลังๆเธอแทบจะไม่ค่อยได้มีอะไรกันแล้วจะเอาลูกที่ไหนมาให้คุณแม่ "คงอีกไม่นานแล้วล่ะครับคุณแม่" เสียงทุ้มของการันต์โพล่งขึ้นมากลางวงสนทนา ในขณะที่ทั้งคู่กำลังนั่งคุยกันอยู่อย่างออกรส "ให้มันจริงเถอะตารันต์แม่รอนานหลายเดือนแล้วนะ" ยิ่งพูดเรื่องนี้กอบัวก็ยิ่งหน้าแดงทำอะไรไม่ถูก คุณบุษบามองลูกสะใภ้ด้วยสายตาเอ็นดูเพราะรู้ว่าลูกสะใภ้กำลังเขินอายอยู่เมื่อเอ่ยถึงเรื่องการมีบุตร "งั้นคืนนี้เดี๋ยวกลับไปทำเลยครับคุณแม่" การันต์ปรายสายตาเจ้าชู้หันมามองทางกอบัวอย่างไม่ได้สนใจว่าไม่ได้อยู่ด้วยกันตามลำพังเพราะตอนนี้มีผู้ใหญ่นั่งอยู่ด้วย แต่ดูเหมือนแม่สามีของเธอจะยิ่งยิ้มกว้างรู้สึกมีความสุขกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ที่มีแววจะไปในทิศทางที่ดีขึ้น "พี่การันต์!" กอบัวอดที่จะหันมาค้อนเขาไม่ได้ ที่พูดเรื่องทะลึ่งๆออกมาต่อหน้าผู้ใหญ่ "ครับ..." ขานรับอย่างหน้าตายแล้วนั่งลงโอบเอวคอดต่อหน้ามารดา คุณบุษบาได้แต่คิดในใจ 'เมื่อหลายเดือนก่อนใครกันนะที่ปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่ยอมแต่งานแล้วดูตอนนี้สิ' กล่าวออกมาในใจพร้อมกับอมยิ้มมองลูกของตนกับลูกสะใภ้ด้วยแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความสุขที่ในที่สุดการันต์ก็กลับมาเป็นลูกชายที่น่ารักของตระกูลโรจน์ภูรินทร์ สักทีคราวนี้จะได้นอนตายตาหลับ ระหว่างที่นั่งอยู่ในรถเพื่อกลับบ้านทั้งคู่ต่างก็เงียบกริบไม่มีใครพูดอะไร แต่สำหรับกอบัวแล้วมีความสุขความอบอุ่นใจทุกครั้งที่ได้มาบ้านของบิดาและมารดาของแม่สามี "อ่ะนี่ สมุดบันทึกของเราอ่ะ เห็นมันตกอยู่ในรถเมื่อเช้า" "ห้ะ!พี่การันต์ได้อ่านบ้างหรือเปล่าคะ?" กอบัวอดที่จะตกใจไม่ได้เพราะว่าสมุดเล่มนี้เธอบันทึกไว้ทั้งแต่อยู่มอต้นแล้วเรื่องราวทั้งหมดก็มีแต่เรื่องราวของเขา "เปล่า" กอบัวถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกที่เขาไม่ได้อ่าน "ในไดอารี่มีอะไรหรือเปล่าถึงกับถอนหายใจออกมาแบบนั้น" การันต์ปรายตาหันมาถามกอบัวอย่างสงสัยว่าในสมุดบันทึกสีชมพูเล่มนั้นมีอะไรสำคัญมากน้อยแค่ไหนเธอถึงดูหวงแหนมาก "เปล่าค่ะ บันทึกส่วนตัวบัวไม่อยากให้ใครเปิดอ่าน" "เดี๋ยวนี้ใครเขาเขียนอะไรแบบนี้กัน มีอะไรเขาก็โพสต์กระทู้ลงในอินเตอร์เนตหรือไม่ก็โลกโซเชียลหมดแล้วไม่ใช่เหรอ? " "บัวไม่ชอบโพสต์ลงโซเชียลค่ะ ในแอคเคาท์ของบัวก็มีแต่รูปหมารูปแมวทั้งนั้น" "อืม เป็นคนทันสมัยแต่ไม่ตามกระแสสินะ เห็นเวลาถามข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้รู้หมด แต่ไม่ได้เอาตัวเองเข้าไปในกระแสแบบนั้นหรือเปล่า?" การันต์ขับรถไปปรายตาถามคนข้างๆไปไม่รู้เพราะอะไรถึงอยากจะอยู่แบบนี้กับเธอไปนานๆ อยากเรียนรู้นิสัยใจคอว่าเธอชอบอะไรไม่ชอบอะไร ถ้าเป็นเหล่าผู้หญิงของเขาก่อนหน้านี้เขาไม่สนใจหรอกว่าพวกหล่อนจะสนใจหรือชอบอะไร แค่บอกมาเขาก็จ่ายให้แค่นั้นจบ "บัวเล่นทุกอย่างแหละค่ะ หาข้อมูลในทวีตเตอร์บ้างว่าวันนี้กระแสโลกของเราไปถึงไหนแล้วมีอะไรอะไรที่อัพเดตบ้าง แต่แค่ไม่ได้ร่วมแสดงความคิดเห็นในโลกโซเชียลแค่นั้นเอง...ผู้หญิงแบบบัวแปลกใช่มั้ย?" "ไม่แปลก แต่แค่ไม่ค่อยมีในสังคม...ไม่เหมือนคนอื่นไม่ได้หมายความว่าเราจะเป็นคนแย่สักหน่อย" การันต์พูดออกมาแบบนี้ให้ความรู้สึกย้อนไปถึงอดีต ความทรงจำสมัยเด็กๆ ค่อย ๆ ผุดขึ้นมาทีละเล็กละน้อย เวลาเธอมีเรื่องทุกข์ใจ เหตุการณ์ในครั้งหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวของเธอ 'ไม่เป็นไรนะหนูบัว ไม่มีพ่อแม่ก็ไม่ได้แปลว่าเราเป็นคนไม่ดี ในโลกนี้มีคนมากมายที่ไม่มีพ่อแม่ แต่เติบโตมาเป็นคนดีในสังคมมากมาย' 'จริงๆเหรอคะพี่การันต์' สายตาไร้เดียงสาของเด็กหญิงเริ่มฉายแววแห่งความหวังความดีใจขึ้นมา เมื่อได้ยินพี่การันต์พูดออกมาแบบนั้น หยดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มก็หยุดไหลทันที รอยยิ้มแห่งความสุขเริ่มปรากฏอยู่บนใบหน้ากลมๆแก้มยุ้ยๆของสาวน้อย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเธอนั้นรักและเชื่อฟังการันต์แค่ไหน 'จริงๆสิ และพี่การันต์ก็จะอยู่ข้างๆหนูบัวเสมอนะ'พูดพรางเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาอาบแก้มให้สาวน้อยเพราะโดนเหล่าเด็กเกเรแกล้งมา กอบัวเผลอยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ในตอนนั้น พี่การันต์ดูเหมือนเป็นผู้ใหญ่ที่คอยปลอบโยนเธอเสมอ และหลายต่อหลายครั้งที่เขามาช่วยเช็ดน้ำตาสาวน้อยที่หน้าตามอมแมมคนหนึ่ง "ถามอะไรหน่อยสิ" "อะไรคะ?" "ที่คุณแม่บอกว่าเรารักพี่มากนั้นเรื่องจริงหรือเปล่า?" การันต์กะว่าจะไม่ถามแล้วเชียว แต่ เรื่องนี้มันก็รบกวนจิตใจเขามาตลอดอยากรู้ว่าเธอคิดอย่างไรกับเขากันแน่ เพราะกอบัวไม่เคยบอกอะไรเขาเลย "คือว่า...." กอบัวอึกอักขึ้นมาไม่คิดว่าการันต์จะถามตรงๆออกมาแบบนั้น แล้วเธอจะตอบอย่างไรหญิงสาวบีบมือของตัวเองจนรู้สึกเจ็บ หัวใจก็เริ่มสั่นระรัวขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อเขายังคงปรายตาหันมามองเธอไม่หยุด เพราะยังรอคำตอบของเธออยู่ "ไม่เป็นไร อยากบอกวันไหนก็บอกแล้วกันนะ"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD