"บัวเดี๋ยวเรียกหัวหน้าแผนกต่าง ๆ เข้าห้องประชุมด่วน"
ท่านประธานสั่งงานเธอทันทีที่มาถึงห้องทำงาน แววตาคู่นั้นของเขาไร้ความเคร่งขรึมเย็นชามาหลายวันแล้วกอบัวก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะสาเหตุอะไร
"ค่ะท่านประธาน"
"อยู่กันสองคนเลิกเรียกท่านประธานเถอะ เรียกพี่การันต์เหมือนที่เธอเคยเรียกเมื่อตอนเด็กๆนั่นแหละ"
การันต์พูดออกมาสีหน้าและน้ำเสียงดูเรียบเฉยทำราวกับว่ามันเป็นคำปกติทั่วๆไป แต่คนฟังกลับรู้สึกหัวใจพองโต ได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้ข้างในว่าเขาเป็นอะไรไป
ทำไมพักนี้ถึงได้ใจดีจัง แต่...มีเรื่องเดียวที่กอบัวไม่ชอบใจนัก เขามักรอให้เธอหลับก่อนถึงจะเข้ามานอน ใจจริงเธอก็อยากจะลอง ปรนนิบัติเขาเรื่องบนเตียงบ้างขอเพียงแค่เขาอ่อนโยนกับเธอก็พอ
"เอะ! กำลังน้อยใจเรื่องอะไรอยู่ บ้าบอไปแล้วยัยบัว"
กอบัวสลัดความคิดฟุ้งซ่านออกไป แล้วรีบพิมพ์เข้าไปในไลน์กรุ๊ปของบริษัทเพื่อเชิญทุกคนเข้าห้องประชุมตามคำสั่งของท่านประธาน แต่เรื่องอะไรนั้นเธอก็ไม่รู้เหมือนกัน ท่านประธานไม่ได้บอกอะไรกับเธอเลย
ห้องประชุมใหญ่
ทุกคนเข้ามาในห้องประชุมใหญ่ที่มีเอกสารวางกองอยู่เต็มโต๊ะ พร้อมกับทีมทนายความ
"เกิดอะไรขึ้นคะท่านประธาน?"
กอบัวกระซิบถามเขาเสียงเบาหวิว
"เรียกผัวว่าท่านประธานอีกแล้วนะ"
การันต์กระซิบกลับมา ทำเอาคนฟังถึงกับอึ้งหน้าแดงก่ำไปหมดเขินกับคำพูดของเขา
"เอาล่ะมากันครบแล้วใช่มั้ย?...เชิญทุกคนนั่งลง"
ทุกคนต่างก็นั่งลงประจำที่ตามคำสั่งรวมทั้งกอบัวด้วย ยกเว้นคุณภานุและก็ท่านประธานที่ยังคงยืนอยู่หัวโต๊ะ
"ผมได้ทำการย้อนดูงบการเงินย้อนหลัง และผมเจอการโอนเงินให้บุคคลธรรมดาคนหนึ่งที่เป็นผู้รับเหมาในโครงการซ้ำๆและทำแบบเดียวกัน เอกสารก็ไม่มีการแนบอะไร ผมสืบทราบมาว่าบุคคลนี้แท้จริงไม่ได้มีการเปิดรับเหมาอะไรแค่เป็นการนำชื่อและบัญชีธนาคารมากล่าวอ้างเท่านั้น"
การันต์พูดขึ้นใขณะที่เขากำลังจ้องมองไปที่ศจี หญิงสาวถึงกับตัวเย็นวาบคาดไม่ถึงว่าจะมีการตรวจสอบระเอียดขนาดนี้
"และเงินทั้งหมดที่มีการโอนไปโดยที่เป็นโครงการทิพย์ทั้งสิ้น 100 ล้านบาท"
"100ล้านบาท!"
เสียงอุทานจากเหล่าพนักงานดังขึ้น ทุกคนต่างก็มองหน้ากันไปมาเสียงดังอื้ออึง สักพักก็หันไปมองที่ศจีกันทั้งหมด
"รันต์คะ ศจีขอคุยกับรันต์เป็นการส่วนตัวได้มั้ย?"อยู่ๆศจีก็ยืนขึ้นหน้าสวยของเธอภายใต้เครื่องสำอางหนาเตอะ ตอนนี้ปราศจากสีเลือดเพราะซีดไปหมดแล้ว และก็รู้ตัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้
"วันก่อนผมถามคุณแล้วว่ามีอะไรจะบอกผมมั้ย แต่คุณไม่บอกอะไรกับผมเลยศจี ไปคุยกับทนายเถอะและนอมินีของคุณก็คือสามีของคุณนั่นเอง "
ศจีถึงกับหน้าถอดสีคาดไม่ถึงแม้แต่นิดว่าการันต์จะทำกับเธอแบบนี้ได้ลงคอโดยที่ไม่บอกกล่าวอะไรก่อน
"รันต์คะ เราคนกันเองน่าจะคุยกันก่อน เราสนิทกันแค่ไหนคุณลืมแล้วเหรอคะ?"
ศจีลุกขึ้นมาจับแขนของการันต์ส่งสายตาเศร้าและอ้อนวอนเหมือนจะร้องไห้ขอร้องเขาไม่ให้เอาเรื่องเธอ
"กรุณาเกรงใจภรรยาผมด้วยครับ"การันต์สะบัดมือของเธอออกจากการเกาะกุม
"ใครคะ ใครเป็นภรรยาคุณ?"
"มีอีกเรื่องหนึ่งที่ทุกคนยังไม่รู้ ผมแต่งงานแล้วเมื่อสามเดือนก่อน และเลขานุการของผมก็คือภรรยาที่ถูกต้องตามกฏหมายกรุณาเคารพเธอด้วยครับ"
เสียงอื้ออึ้งยิ่งดังมากขึ้นกว่าเดิม กอบัวก้มหน้างุดไม่กล้าสบตาใครเมื่อถูกจ้องมาอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นพี่แต้วหัวหน้าฝ่ายบุคคล พอลลี่เพื่อนสาวสองคนสนิทของเธอ หญิงสาวแทบจะตั้งรับไม่ทันเพราะเขาไม่ได้แจ้งล่วงหน้าก่อนว่าจะเข้ามาประชุมเรื่องอะไร
ศจีมองกอบัวด้วยสายตาที่ค่อนข้างจะอับอายเพราะเธอมักจะไปเล่าเรื่องของการันต์สมัยก่อนกับกอบัวบ่อย ๆ ที่แท้เป็นภรรยาของเขาแล้วเธอจะเอาหน้าไปไว้ไหน ไหนจะเรื่องนี้อีกตอนนี้ขาข้างหนึ่งของเธอตอนนี้ไปอยู่ในคุกแล้ว
"สรุปเรื่องที่โกงเงินบริษัทไปหนึ่งร้อยล้าน มีใครร่วมมือกับคุณบ้างศจี"
ทุกสายตาหันมามองศจีอีกครั้ง แต่ละคนไม่มีใครกล้าถามอะไรเพราะรู้ว่าตอนนี้สถานการณ์ค่อนข้างจะตึงเครียดมาก ในห้องนี้มีแต่พนักงานระดับหัวหน้าเท่านั้นไม่ได้เชิญตำรวจหรือผู้ถือหุ้นเข้ามา เพราะเกรงว่าจะทำให้ชื่อเสียงของบริษัทเสียหายไปด้วย ก็ถือว่าการันต์ใจดีมากแล้ว
"ศจีทำคนเดียวค่ะ ศจีเดือดร้อนเรื่องเงิน จับศจีไปเถอะค่ะศจียอมรับแล้ว"
ศจีคุกเข่าทรุดลงบนพื้นอย่างอับอายและยอมจำนนต่อโชคชะตา น้ำตาแห่งความพ่ายแพ้ความจำนนต่อโชคชะตาค่อยๆไหลออกมาอย่างต้านไม่ได้ ศจีเชื่อแน่ว่าสามีเธอจะต้องไม่ช่วยเธอแน่นอกจากซ้ำเติม กอบัวกลับรู้สึกสงสารเธอขึ้นมาจับใจ
"พี่การันต์คะ ฟังเธอเป็นการส่วนตัวหน่อยเถอะค่ะ"
กอบัวอดที่จะพูดออกมาไม่ได้ เธอนั้นสัมผัสได้ว่าศจีไม่น่าจะตั้งใจ มันต้องมีเรื่องอะไรมากกว่านี้กอบัวก็อยากจะรู้เหตุผลที่ทำให้ศจีตัดสินใจทำอะไรแบบนี้ ทั้งๆที่รู้ว่ามันเสี่ยงมาก
"เอาอย่างนั้นเหรอ..อืม"
การันต์พยักหน้าฟังเลขานุการสาวเป็นครั้งแรก ภายในใจได้แต่คิดว่าใครกันนะวันก่อนที่ดูเดือดร้อนกับเรื่องนี้มากกว่าเขาพอเขาเอาเรื่องเข้าจริง ๆกลับน้ำตาซึมสงสารจำเลยขึ้นมาได้
"เอาล่ะทุกคนออกไปก่อน เดี๋ยวจะให้ฝ่ายเอชอาร์แจ้งผลไปอีกทีละกันว่าจะมีการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่หรือไม่อย่างไร"
"ค่ะ/ครับ!"
ทุกคนต่างก็ทะยอยออกไปตามคำสั่งของผู้บริหารยกเว้นทนายความ กอบัวก็ขอตัวออกไปด้วยเพราะเข้าใจว่าศจีคงไม่สะดวกใจให้เธอได้ยิน
"บัวไปก่อนนะคะ"
"ครับ เดี๋ยวเจอกันตอนเที่ยงนะ"การันต์ยิ้มให้กอบัวแล้วตอบเธอด้วยน้ำเสียงหวานซึ้ง จนกอบัวต้องหันไปมองรอบๆ แต่เหมือนกับว่าคนอื่นๆกำลังจะยิ้มเขินแทนเธอกับคำพูดของท่านประธานที่ไม่ค่อยจะได้ยินกันนัก
ศจีมองภาพที่เขาแสดงความรักกับกอบัวด้วยหัวใจที่เจ็บปวด การันต์เจอเพชรเม็ดแท้เข้าแล้วจริง ๆ เธอได้รับผลกรรมแบบนี้มันสมควรแล้ว ความสำนึกผิดชอบชั่วดีประดังเข้ามาในหัวใจและสมองของเธอ
เพราะแท้จริงแล้วศจีไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นแต่ที่เธอทำเพราะสถานการณ์บังคับทั้งนั้น แต่เธอก็ไม่สมควรยักยอกเงินของบริษัทแล้วมาอ้างความเดือดร้อนของตัวเอง
ศจีขลาดกลัวเกิดไปที่จะเผชิญหน้ากับความจริงว่าเธอนั้นเลือกเส้นทางผิดตั้งแต่แรกแล้ว ไม่งั้นจุดจบคงไม่ลงเอยแบบนี้