EP.9 สามแสบแห่งตรีธาร

1231 Words
EP.9 สามแสบแห่งตรีธาร “มาแล้วครับนายเหนือ” “ขวัญข้าวไปไหน!” สมภพนิ่งอึ้งราวกับไม่มั่นใจในสิ่งที่ได้ยินจนต้องทวนถามอีกครั้ง “อะ...อะไรนะครับนาย ผมได้ยินไม่ถนัด” “ฉันถามว่าขวัญข้าวไปไหน” ชายหนุ่มกัดฟันกรอดจนสันกรามนูนโปนราวกับว่าความอดทนที่มีอยู่น้อยนิดกำลังจะขาดผึงในอีกไม่กี่เสี้ยววินาที “อะ...เอ่อ ขวัญข้าวลาหยุดหนึ่งวันครับนายเหนือ” สมภพตอบออกไปอย่างไม่เข้าใจนัก จะว่าเอ่ยถามถึงคนงานใหม่ด้วยความเป็นห่วงอย่างที่เคยถามไถ่ถึงพนักงานคนอื่นๆ ก็ไม่ใช่ เพราะท่าทางของเจ้านายดูกรุ่นโกรธและจ้องจับผิดอย่างน่าประหลาด “ฮึ! วันแรกก็ลางานซะแล้ว ขี้เกียจ เก่งแต่ปาก!” นาเหนือเค้นเสียงลอดไรฟันแล้วหันหลังเดินกลับออกไป “ดะ...เดี๋ยวครับนายเหนือ” สมภพอึกอักพยายามจะเดินตามเพื่อบอกแก่เจ้านายว่า ขวัญข้าวลาเพราะบุตรสาวของเธอเป็นไข้ขึ้นสูงตลอดทั้งคืน ไม่ได้ขี้เกียจอย่างที่เจ้านายเข้าใจ แต่ดูเหมือนว่าเจ้านายจะกระโจนขึ้นโฟร์วีลขับหายไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งไว้เพียงฝุ่นควันจากแรงเร่งเครื่องยนต์ให้ดูต่างหน้า “เกิดอะไรขึ้นเหรอคะพี่ภพ นายเหนือไปโมโหใครมา” นักบัญชีสาวเพิ่งกลับจากไปซื้อชานมไข่มุกที่ตลาด จอดจักรยานไว้ในซองจอดแล้วมองตามหลังรถของเจ้านายด้วยความแปลกใจ “สงสัยจะโกรธคนงานใหม่” “คนงานใหม่ที่ชื่อขวัญข้าวน่ะเหรอพี่” หญิงสาวถามทันควัน แน่นอนว่าไม่มีทางที่เธอจะไม่รู้จักสาวสวยที่มาสมัครงานในตำแหน่งคนงาน ความจริงผู้หญิงหน้าตาสวยหยาดฟ้าขนาดนั้นนายเหนือน่าจะให้ทำงานเป็นฝ่ายต้อนรับหรือประชาสัมพันธ์ แต่กลับส่งให้ไปเป็นคนงาน เสียของชะมัดเลย “พี่ก็ไม่แน่ใจว่าใช่หรือเปล่า” สมภพยังคงมีอาการมึนงง ไม่แน่ใจกับคำตอบของตนเองเท่าใดนัก “อ้าว!” สุกัญญาส่ายหน้าน้อยๆ เดินขึ้นไปบนออฟฟิศพลางบ่นอุบ “สงสัยนายเหนือจะโกรธพี่ภพนั่นแหละ พูดจาไม่รู้เรื่องเอาเสียเลย” อาหารพื้นบ้านง่ายๆ เน้นน้ำพริกผักแนมถูกจัดเรียงบนโต๊ะอย่างสวยงาม ชายสูงวัยเดินมาโอบเอวภรรยาแล้วหอมแก้มฟอดใหญ่ก่อนจะมองอาหารบนโต๊ะแล้วลอบกลืนน้ำลาย ยื่นมือออกไปทำท่าจะหยิบเนื้อแดดเดียวมากินแต่กลับถูกภรรยาตาไวตีมือเข้าเสียก่อน “ไปล้างมือก่อนสิคะคุณ เดี๋ยวลูกๆ มากันครบก็ได้กินแล้ว ทำเป็นเด็กๆ ไปได้” จันทร์แรมหันไปบ่นสามีอย่างไม่จริงจังนัก พลางหันไปพยักหน้าให้แม่ครัวยกสำรับอาหารที่เหลือออกมา เพราะได้ยินเสียงรถยนต์ของบุตรชายคนโตแล่นกลับเข้ามาด้วยความเร็วราวกับพายุ ส่วนบุตรชายคนกลางและคนเล็กนั้นยืนคุยกันอย่างเงียบเชียบอยู่ในสวนหลังบ้าน ไม่รู้ว่าหนุ่มๆ กำลังปรึกษาเรื่องหัวใจกันหรือวางแผนกลั่นแกล้งใครอยู่กันแน่ ถ้าเป็นอย่างแรกก็ดีสิ เธออยากอุ้มหลานเต็มแก่แล้ว แต่เจ้าลูกชายทโมนทั้งสามกลับไม่มีใครยอมสละโสดเลยสักคน เธอทั้งบ่น ทั้งบังคับขู่เข็ญ แต่ลูกชายกลับทำตัวเป็นพ่อพวงมาลัยลอยไปลอยมาไม่ตกลงใจที่ผู้หญิงคนไหนสักคน ไม่กี่อึดใจต่อมาภายในห้องอาหารก็คับแคบไปถนัดตา เมื่อมีชายหนุ่มตัวโตสูงกว่าหนึ่งร้อยแปดสิบเซนติเมตรถึงสามคนเข้ามาร่วมรับประทานอาหารกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา แต่ละคนมีใบหน้าหล่อเหลาโดดเด่นแตกต่างกันออกไป ‘นาเหนือ’ นั้นหน้าตาไปทางคุณปู่ซึ่งลาลับจากโลกนี้ไปแล้ว คือมีดวงตาดุ ใบหน้าไทยแท้เห็นสันกรามเด่นชัด ตัวสูงที่สุดในบรรดาสามพี่น้อง ไหล่กว้าง ผมหยักศก มีดวงตาที่ดูเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่ภายในใจตลอดเวลา เจ้าระเบียบ บ้างาน น้องชายทั้งสองตั้งฉายาว่า ‘นายยักษ์’ นั่นเพราะไม่ค่อยยิ้มนั่นเอง ‘นาวา’ เป็นหนุ่มหน้าหวานที่มีใบหน้าคล้ายไปทางคุณตาซึ่งเป็นชาวฝรั่งเศส มีผิวขาว ดวงตาสีน้ำตาลอ่อน มีงานอดิเรกชอบซ่อมเรือโบราณ มักขลุกตัวอยู่ที่โรงต่อเรือริมท่าน้ำ ไม่ชอบสุงสิงกับใคร แต่กลับมีผู้หญิงมากหน้าสับเปลี่ยนเข้ามาในชีวิตไม่เคยขาด ถูกตั้งฉายาจากเหล่าพี่น้องว่า ‘เรือเร่’ เพราะผู้หญิงแต่ละคนที่ผ่านเข้ามานั้นจัดได้ว่าเด็ดจนต้องยกนิ้วโป้งเลยทีเดียว ‘นาบุญ’ น้องเล็กคนสุดท้อง เจ้าของรอยยิ้มกระชากใจ มีดวงตากะล่อนแพรวพราว ใบหน้าออกไปทางเชื้อจีนตามคุณย่าแต่มีรูปร่างสูงใหญ่ จันทร์แรมตั้งชื่อให้ว่านาบุญด้วยหมายใจว่าลูกชายคนเล็กคือความหวังและความชื่นใจของมารดา หลังจากผิดหวังจากลูกชายทั้งสอง ทว่า...ความหวังก็พังทลาย เพราะนาบุญทำทุกอย่างสวนทางกับสิ่งที่มารดาต้องการ เล่นการพนัน ดื่มสุรา ไม่เคยเข้าวัด ชอบชกต่อย และอารมณ์ร้อนหัวรุนแรง จึงโดนบิดามารดาและพี่ชายทั้งสองพร้อมใจกันตั้งฉายาว่า ‘นาบาป’ โดยพร้อมเพรียง “อาหารน่ากินจังเลยครับ” ลูกชายคนเล็กแสนทะเล้นเดินนำพี่ๆ เข้ามาในห้องอาหาร แล้วปราดเข้าโอบเอวของมารดาเอาไว้แน่นอย่างออดอ้อน ทว่าจันทร์แรมกลับหันไปตีแขนบุตรชายอย่างแรง “เดี๋ยวเถอะ! อย่ามาทำเป็นอ้อนกลบเกลื่อนความผิดหน่อยเลย เมื่อคืนวานแม่รู้นะว่าเราแอบหนีไปปาร์ตี้ที่กรุงเทพฯ เพลาๆ หน่อยไม่ได้หรือไงลูก จะดื่มจะเที่ยวให้ตับแข็งตายไปเลยหรือไง” “อย่าให้ผมรู้นะว่าใครคอยเป็นสายรายงาน ผมจะเล่นงานให้หนักเลย คอยดู!” นาบุญบ่นอุบเดินคอตกไปนั่งประจำที่ ทว่าจันทร์แรมกลับหยิบมือถือแล้วยื่นไปตรงหน้าบุตรชายคนเล็ก “ไม่มีใครบอกแม่ทั้งนั้นแหละ ก็เพื่อนร่วมก๊วนแท็กรูปภาพมาไม่พอยังเช็กอินผับชื่อดังแถวทองหล่ออีกด้วย แบบนี้ทำไมแม่จะไม่รู้ล่ะ” “นะ...นี่แม่เล่นโซเชียลด้วยเหรอครับ” นาบุญหน้าถอดสีเมื่อมารดาโชว์หลักฐานชนิดดิ้นไม่หลุด เพราะไม่เคยระแคะระคายมาก่อนเลยว่ามารดาที่ชอบปลูกดอกไม้ ทำกับข้าว จะเชี่ยวชาญการเล่นโซเชียลราวกับเด็กยุคใหม่เช่นนี้ จันทร์แรมหัวเราะหึในลำคออย่างผู้ชนะ เธอสร้างแอกเคานต์ปลอมโดยตั้งรูปโปรไฟล์เป็นสาวสวยทรงโตนุ่งน้อยห่มน้อยชวนวาบหวิว เพียงเท่านี้เจ้าลูกชายตัวแสบทั้งสามคนก็รับแอดโดยไม่ระแคะระคาย สมัยนี้แล้วไม่ต้องไปจ้างนักสืบคอยดูความประพฤติให้เปลืองเงิน แค่นั่งกด นั่งคลิกหน้าจอสี่เหลี่ยมเล็กๆ ก็รู้ทุกอย่าง ที่สำคัญและเป็นความลับขั้นสุดยอดก็คือ เธอติดตั้งแอปพลิเคชันติดตามในมือถือของสามีและบุตรชายทั้งสาม ไม่ว่าทั้งสี่คนจะไปที่ไหนเธอรู้หมด แต่ไม่กระโตกกระตากให้รู้ตัวเดี๋ยวจะเสียการใหญ่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD