บทที่7
ของขวัญจากเเม่สามี...
ตำหนักกุ้ยเฟย
หวังหลวง
"ฮือๆๆๆเหตุใดฝ่าบาทถึงทำกับหม่อมฉันเเบบนี้ ฮือๆๆๆๆ"เสียงร่ำไห้ดังสนั่นตำหนัก เหล่าข้ารับใช้ต่างหมอบกราบ
"กุ้ยเฟยต้องเข้มเเข็งนะเจ้าค่ะ ไทจื่อยังต้องพึ่งพระนางนะเพคะ"ฟงมาม่ากล่าวเตือนเจ้านายตนอย่างขมขื่น
"ฮือๆๆๆๆๆๆ ไม่เหลืออะไรเเล้วไม่เหลือเเล้วจริงฮือ"พระนางยังโวยวายไม่เลิกลาด้วยเสียความโปรดปรานจากพระสวามีเเล้ว
"พระองค์ต้องตั้งสตินะเพคะ หากเป็นเช่นนี้ไทจื่อจะไปพึ่งใครเพคะ"เสียงมาม่ารับใช้คนสนิทเอ่ยเตือนสติอีกครั้งทำให้กุ้ยเฟยหยุดชะงัก
"ใช่ลูกข้าหยงเล่อ ยังเป็นองค์ชายใหญ่"พระนางเอ่ยออกมาเมื่อได้สติอีกครั้ง
" ใช่เพคะ"
" ขอบคุณฮุ่ยมาม่านะที่คอยเตือนเรา"
" หม่อมฉันรับใช้พระนางมานานพระนางควรตั้งสตินะเพคะ"
" ต้องหาต้นตอก่อนถึงจะเเก้ไขปัญหาได้ ไปเรียกหัวหน้าขันทีประจำตำหนักเเละบ่าวรับใช้คนสนิทขององค์ไทจื่อมาหาข้าเดี๋ยวนี้"พระนางเริ่มไตร่ตรองถึงต้นเหตุที่เกิดขึ้นเหตุใดโอรสของต้นถึงคิดค้าเกลือต่างเเคว้นกันเบี้ยเลี้ยงตำเเหน่งไทจื่อช่างมากมายนักถึง3000ตำลึงทองต่อเดือน ไม่รวมถ้าทำความดีความชอบฝ่าบาทพระราชทานเพิ่มให้อีกโอรสของพระนางอีก ต้องมีสาเหตุที่โอรสของตนหาเงินเพิ่มสินะ พระนางคิดในใจ
ใช้เวลาไม่นานหัวหน้าขันทีเเละองครักษ์คนสนิทของอดีตไทจื่อหยงเล่อก็วิ่งกระหืดกระหอบทำความเคารพต่อหน้ากุ้ยเฟย
กุ้ยเฟยที่เปลี่ยนฉลองพระนางใหม่เก็บผมเรียบร้อยเเต่งหน้าตาปกปิดร่องรอยช้ำที่ถูกฝ่าบาทตบไว้เนียนกริบนั่งจ้อง2บุคคลที่ถวายความเคารพอย่างนอบน้อม
"เจ้าสองคนรู้เรื่องอะไรมาบ้างเกี่ยวกับไทจื่อบอกมาให้หมด"
"กระหม่อมเป็นหัวหน้าขันทีให้วังไทจื่อพะยะค่ะ ทั้งหมดนี้เป็นบัญชีรายรับรายจ่ายของทั้งจวนพะยะค่ะ" พลางยื่นสมุดไปถึง5เล่ม.กุ้ยเฟยยิ่งเปิดบัญชีรายจ่ายสีหน้าครึ้มถึง8ส่วน
"บัดซบเบี้ยเลี้ยงรายเดือนองค์ไทจื่อ3000ตำลึงถูกจ่ายออกทุกเดือนเหลือเงินคงคลังไม่ถึง2000ตำลึงได้อย่างไร"กุ้ยเฟยตวาดด้วยพระนางเป็นบุตรสาวพ่อค้ามาก่อนเพียงมองบัญชีก็รู้ว่าไม่มีปัญหา เเต่เหตุใดเงินในตำหนักถึงขาดสภาพคล่องเช่นนี้ขึ้นหากพรุ่งนี้เรื่องนี้ถึงฝ่าบาทโอรสของพระนางต้องโดนลงโทษอีกครั้งเป็นเเน่ ค้าเกลือต่างเเคว้นต้องได้กำไรโอรสของนางนำเงินไปซุกไว้ที่ใดอีก
" กราบทูลกุ้ยเฟย กระหม่อมได้จ่ายเบี้ยเลี้ยงเเก่ อนุเเละข้ารับใช้ในเรือนองค์ไทจื่อตามที่ไทจื่อกำหนดไว้โดยรวมทั้งหมดคือ420ตำลึงทองพะยะค่ะ เเต่องค์ไทจื่อได้เบิกเงินทุกครั้งที่ออกไปทำภารกิจพะยะค่ะ"หัวหน้าขันทีประจำตำหนักองค์ไทจื่อเอ่ยเเจกเเจงรายละเอียกสิ่งที่เกิดขึ้น
กุ้ยเฟยเเววตาครุ่นคิดโอรสของตนไปทำภารกิจที่ไหนกันนะถึงใช้เงินมากมายเพียงนี้ หากว่านำไปซื้อเกลือต่างเเคว้นก็ใช่ว่าจะใช้เงินมากมายนักเพราะเกลือต่างเเคว้นนั้นถูกมากเพราะไม่สะอาดดั่งเช่นเกลือเเคว้นหลง ดังนั้นพระนางจึงเริ่มจับจุดใหม่
" ชุนอี้เปิ่นกงให้เจ้าอยู่ข้างองค์ไทจื่อมีอะไรจะรายงานเปิ่นกงหรือไม่"
เสียงทรงอำนาจเจ้าของตำหนักทำให้อีกหนึ่งข้ารับใช้ที่ถูกพูดชื่อเหงื่อไหลโทรมกาย
"กระหม่อม..รู้เรื่อง...เงินไทจื่อ...ขอรับ"คำพูดติดอ่างข้ารับใช้คนสนิทของโอรสทำให้กุ้ยเฟยเริ่มสงสัย
"ก็พูดสิหรือไม่อยากพูดเเล้ว เปิ่นกงจะสงเคราะห์ให้"
" ไทจื่อเริ่มจ่ายเงินสุรุ่ยสุร่ายเมื่อประมาน8เดือนที่เเล้วพะยะค่ะ หลังจากที่พบเจอคุณหนูหนิงเล่อเยียนบุตรสาวเจ้าเมืองหนิง ก็เริ่มเข้าออกจวนเจ้าเมืองไม่เคยขาด
บ่อยครั้งจะมีของกำนัลให้คุณหนิงยามพบเจอ หรือไม่ก็ไปที่ร้านอาภรณ์เครื่องประดับคุนหนูหนิงมักเลือกอาภรณ์ที่เเพงที่สุดเครื่องประดับที่หายากภายในร้านไทจื่อจ่ายให้ทั้งหมดพะยะค่ะ.จนกระทั่ง... "
สีหน้ากุ่ยเฟยมืดครึ้มเต็มสิบส่วนสตรีนางนั้นกล้าดีอย่างไรถึงมาปอกลอกองค์ไทจื่อเเทบเหลือเเต่ตัวเช่นนี้
" จนกระทั่งอย่างไร รีบว่ามาให้หมด หากเล่าความเท็จหรือตกหล่นเเม้เเต่น้อย หัวบิดามารดาเจ้าเปิ่นกงคงมิเอาไว้เเน่"
" พะยะค่ะบ่าวมิกล้าพูดเท็จเป็นเเน่ จนกระทั่งคุณหนูอวี้ล่วงรู้ว่าองค์ไทจื่อหลงรักคุณหนูหนิงจึงตามไปเอาเรื่องหลายต่อหลายครั้ง ทุกครั้งองค์ไทจื่อจะไล่คุณหนูอวี้กลับ เเล้วพาคุณหนูหนิงขึ้นรถม้าไปส่งถึงจวนท่านเจ้าเมือง.. "
" พอๆๆเข้าประเด็นเสียทีเปิ่นกงรู้ว่าโอรสช่างโง่งม คุณหนูอวี้ต้องทนมานานสินะ ถึงถอนหมั้น"กุ้ยเฟยถอนหายใจยอมรับไม่น้อยว่าไทจื่อโง่เง่าพะเน้าพะหนอสตรีอื่นที่ไม่ใช่คู่หมั้น หากเป็นพระนางคงทำดั่งเช่นคุณหนูอวี้ยิ่งกว่า
" ต่อนะพะยะค่ะ พอไปส่งที่จวนเจ้าเมืองจึงปลุกปลอบจนข้าวสารเป็นข้าวสุกครานี้ยิ่งหลงไหลไม่ว่าคุณหนูหนิงเอ่ยปากเรื่องอันใดพร้อมเชื่อทุกอย่าง กระทั่งยอมตกลงร่วมมือกับเจ้าเมืองในการค้าเกลือพะยะค่ะ"
"บัดซบ ช่างน่านัก" สิ้นเสียงรายงานบ่าวรับใช้คนสนิทของโอรสตน กุ้ยเฟยเเทบจะไปบีบคอคุณสตรีนางนั้นให้ตายคามือเสีย
" หลงสตรีทิ้งคู่หมาย ถูกเป่าหูให้หลงทำผิด ช่าง!!! ช่างหัวมันเจ้าลูกโง่"
เสียงด่าตวาดเต็มตำหนักไม่ได้ทำให้ผู้ส่งเสียงลดความโกรธเเม้เเต่น้อย เหล่าข้ารับใช้ต่างก้มหน้าไม่กล้าหายใจเเรง
"ชุนอี้เจ้ารู้หรือไม่ทุกสิ่งที่องค์ไทจื่อให้สตรีนางนั่นมีอะไรบ้าง"
กุ้ยเฟยเอ่ยถามอย่างเดือดดาล
" กระหม่อมมีบางส่วนพะยะค่ะ"
หัวหน้าขันทีตำหนักเอ่ยขึ้นพลางยื่นกระดาษปึกใหญ่ให้ฟงมาม่าเพื่อส่งให้กุ้ยเฟยต่อ
"นี่คือ"
"เหล่าองครักษ์ได้เล่ากระหม่อมให้จดไว้เเต่ไม่บอกสิ่งใด เเต่พอหลังๆๆเป็นของสตรีเช่นนี้ เกรงว่าจะเป็นของคุณหนูหนิงคนเดียวพะยะค่ะ เพราะของที่มอบให้คุณหนูอวี้ถูกลงรายการไว้เพียง120ตำลึงเมื่อ9เดือนก่อนพะยะค่ะ"
หัวหน้าขันทีเห็นกุ้ยเฟยจ้องกระดาษรายชื่อเครื่องประดับ อาภรณ์ เครื่องเเต่งหน้า สมุนไพรทำถุงหอม สมุนไพรดูเเลผิวพรรณ เอยเต็มทุกหน้ากระดาษ
" ด้วยกระหม่อมเห็นจำนวนยอดที่มากมายนักจึงรวบทั้งหมดไว้ประมาน2หมื่นตำลึงทองไม่รวมของเดือนนี้นะพะยะค่ะ" สิ้นเสียงหัวหน้าขันที กุ้ยเฟยเเทบหน้ามืด เหตุใดโอรสของนางช่างโง่เง่าส่งของให้คู่หมาย120ตำลึงเพื่อเอาใจคนที่ช่วยให้ได้เป็นไทจื่อเเต่ไปปรนเปรอสตรีชั่วนั่นกว่า2หมื่นตำลึงเพื่อเอาใจ
"เอ่อ... คือ..." ชุนอี้เอ่ยขึ้นเสียงตะกุกตะกัก ขณะที่กุ้ยเฟยคิดเคียดเเค้นคุณหนูหนิงที่เป็นตัวการทำให้ไทจื่อถูกปลด เเก้ปัญหานำเงินตำลึงพระนางไปใส่ไว้ที่ตำหนักไทจื่อ
" หากไม่สำคัญไม่ต้องพูดเปิ่นกงกำลังคิดอยู่"
"คุณหนูหนิงตอนนี้คืออนุหนิงอยู่ที่ตำหนักไทจื่อตามราชโองการของฝ่าบาทพะยะค่ะ"
"ใช่สินะ เจ้าชุนอี้ถือว่าฉลาดไม่น้อย นี่20ตำลึงข้าให้เจ้าไปทำงานกับบิดาเปิ่นกง หากไทจื่อหายดีเเล้วค่อยกลับมา"
"ขอบพระคุณกุ้ยเฟยพะยะค่ะ"
กุ้ยเฟยยิ้มขมขื่นนางคิดเเก้ไขปัญหาไทจื่อได้เเล้ว เเละวางเเผนการต้อนรับลูกสะใภ้ชั่วเเม้จะไม่ได้ไปเองเเต่หากส่งฟงมาม่าไปคงสะใจไม่น้อย
" ฟงมาม่าเจ้าตามหัวหน้าขันทีไปตำหนักไทจื่อเก็บเครื่องประดับทุกสิ่งของอนุเล่อเหยียนไปเเลกเป็นเงินตำลึงใส่ไว้ในคลังตำหนักไทจื่อ เจ้าอยู่ที่นั่นให้นางทานข้าววันละมื้อ สั่งสอนนางให้รู้จักที่ต่ำที่สูงเสียบ้างนางจะได้เจียมตัว
" ได้เจ้าค่ะ"
ตำหนักไทจื่อ
เพี๊ยะ!!!
เสียงตบหน้าดังสนั่นเหล่าอนุขององค์ไทจื่อต่างมุงดูฟงมาม่าตบอนุเล่อเยียน
"เจ้ากล้าดีอย่างไรมาตบหน้าข้า"
สิ้นเสียงอนุเล่อเยียนฟงมาม่าไม่ตอบอันใดเเล้วตบต่อ พยักหน้าให้สาวใช้ที่มาจากตำหนักกุ้ยเฟยขนของอนุเล่อเยียนออกมา
เพี๊ยะ!!!
"อย่าเอาของของข้าไปนะ มีสิทธิ์อันไดมาเอาของข้าไปเช่นนี้" เเม้จะมีเสียงอนุเล่อเยียนดังขึ้นเรื่อยๆๆเเต่ไม่มีใครกล้าช่วยด้วยรู้ว่าคนที่ตบนั้นคือมาม่าคนสนิทของกุ้ยเฟย
เพี๊ยะ!!!!
"ข้าจะฟ้องไทจื่อฮือๆๆๆๆพวกเจ้าต้องตายฮือๆๆๆ" เล่อเยียนจากโวยวายเริ่มร้องไห้ นางเจ็บเเก้มไปหมดเเล้ว เหตุใดบ่าวเเก่ๆคนนี้จึงตบนางไม่ยั้งเช่นนี้หากไทจื่อต้องมาช่วยนางเเน่ๆๆ
เพี๊ยะ!!!!
"ร้องต่อสิเจ้าค่ะ อนุเล่อเยียนเจ้ามันตัวบัดซบเข้าตำหนักไทจื่อไม่ถึงวันองค์ไทจื่อโดนปลด บิดาเจ้าต้องโทษประหารชีวิต นี่คือของขวัญจากเเม่สามีเจ้าเข้าใจหรือไม่"
เพี๊ยะ!!!!
ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเช้าเล่อเยียนเเต่งตัวหมดจดด้วยชุดเจ้าสาวสาวสีเเดงมงคล เเต่งหน้าปราณีตงดงาม มีเกี๊ยวเเดงมารับคนหามเกี้ยวใส่ชุดเเดงสดทั้งสี่ไร้เงาเจ้าบ่าวดั่งเช่นงานเเต่งผู้อื่น เล่อเยียนเเทบกรีดร้อง มีเเม่สื่อคอยบอกกล่าวขนบธรรมเนียมขั้นต้นอยู่ด้านข้าง มีชิงชิงสาวใช้คนสนิท คอยประคอง
พอลงจากเกี้ยวสี่คนหามหน้าตำหนักองค์ไทจื่อ มีสตรีทั้ง4คนยืนเรียงรายส่งสายตาร้อนเเรงริษยาให้นางยิ่ง
ข้าเป็นสตรีที่ไทจื่อรักยิ่ง...
พวกเจ้าเเค่ของประดับตำหนักไทจื่อเท่านั้น ใบหน้างามยกยิ้มเเววตาเย้ยยันผู้ที่ยืนรออยู่หน้าตำหนัก
พอเข้าเรือนหอซึ่งไทจื่อได้มอบเรือนหอที่ใหญ่โตเเละกว้างขวางเทียบเท่าผู้เป็นพระชายา เครื่องเรีอนประดับตกเเต่งเหมาะสมเกินฐานะ..
ชายคนรักของนางช่างใส่ใจ เล่อเยี่ยนยกยิ้มพึงพอใจ...
ผ่านไปกว่าสองชั่วยาม
ใบหน้างามที่ตกเเต่งเป็นอย่างดีเพื่อพิธีมงคลเริ่มฉุนเฉียวไม่ได้ดั่งใจนางทำได้เพียงเเต่นั่งรอ ไหนการกราบไหว้ฟ้าดิน ไร้งานเลี้ยงฉลองนางทำได้เพียงอดทน หนทางการเป็นไทจื่อเฟยอยู่เพียงเเค่เอื้อม
เเต่เเล้ว...
เหมือนฟ้าผ่าลงกลางวันเเสกๆๆ
นางต้องฝันสลายเมื่อมีราชโองการประกาศหน้าตำหนักให้ปลดองค์ชายใหญ่หย่งเล่อจากการเป็นองค์ไทจื่อ เล่อเยียนเป็นลมหมดสติไปหน้าตำหนักมีสาวใช้คอยประคองไว้
พอพักฟื้นจนได้สติกลับพบเจอหญิงชราผู้หนึ่ง เข้ามาลากนางออกจากห้องหอ ตบนางซ้ำเเล้วซ้ำอีกนับไม่ถ้วน
ใบหน้างามในชุดมงคลสีเเดงถูกตบบวมช้ำ
อีกทั้งขนเครื่องประดับเเละสมบัติที่นางพกมาไปเเล้วสิ้น นางทำได้เพียงต่อว่าต่อขานเเละร้องไห้เหตุใดไม่มีผู้ใดช่วยนางกันองค์ไทจื่อได้โปรดช่วยนางด้วย เสียงสุดท้ายของหญิงชราได้บอกกว่า
"นี่คือของขวัญจากเเม่สามี"
เเม่สามี หวงกุ้ยเฟยเช่นนั้นหรือ
พระนางช่างต้อนรับลูกสะใภ้ได้โหดเหี้ยมยิ่งนัก
จากนั้นสติก็ดับวูบไปอีกครั้ง
เล่อเยียนกำลังตื่นจากฝันเมื่อฟื้นคืนสติ
นางฝันช่างงดงามเเละเเปลกยิ่งนางฝันว่าร่วมฝ่าฝันพิสูจน์รักเเท้กับองค์ไทจื่อจนคนทั้งเเคว้นต่างกล่าวขานถึงรักเเท้ที่บริสุทธิ์ของนางเเละไทจื่อ นางฝันเรื่องราวนางได้เป็นไทจื่อเฟยมีคุณหนูอวี้สตรีร้ายกาจคู่หมั้นคู่หมายของไทจื่อคอยขัดขวางทุกวิถีทาง นางเเละไทจื่อได้ส่งคนไปกำจัดโดยการส่งคุณหนูอวี้ไปหอนางโลมบุปผาให้นางเป็นคณิกาให้บุรุษมาเสพสมนับสิบคนทั้งคืน ยัดเยียดข้อหากบฏต่อเสนาบดีอวี้บิดานางเพื่อให้เสนาบดีอวี้ไม่สามารถหาทางช่วยบุตรสาวของตนได้
โทษฐานกบฎ..ตัดสินประหารทั้งตระกูล
ทุกอย่างเป็นไปตามเเผน..ช่างง่ายดายนัก
หลังจากนั้นไม่นานฮองเต้จึงสวรรคต ไทจื่อชายคนรักของนางกลายเป็นฮองเต้องค์ใหม่ นางได้เป็นฮองเฮาของเเคว้นผู้คนต่างเคารพบูชานางทั้งสิ้น ความฝันนี้นางฝันช่างสวยงามเหมือนจริงยื่งนัก หรือเหตุการณ์จะเป็นลางบอกเหตุจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า นางต้องรีบบอกองค์ไทจื่อ มองรอบกายนั้นมืดมิดเต็มสิบส่วน ชุดสีเเดงมงคลที่สวมเริ่มอับชื้นเปอะเปื้อนยิ่ง อาการเจ็บตามข้างเเก้มมีไม่น้อย ที่นี่ที่ไหนกันนะนางทำได้เพียงร่ำร้องอยู่ในใจ
'ท่านพี่หยงเล่อ ท่านพี่อยู่ที่ใด?? เยียนเออร์หวาดกลัวยิ่งนัก'
รุ่งเช้าของอีกวัน
เรือนคุณหนูอวี้ จวนท่านเสนาบดี
"ท่านพ่อเจ้าค่ะลูกอยากไปเดินตลาดเจ้าค่ะ" อีอีเอ่ยขึ้นเมื่อรับสำรับกับบิดาเสร็จเรียบร้อยแล้ว
"พ่อเตรียมคนคุ้มกันให้เรียบร้อยเเล้ว" เสนาบดีอวี้เอ่ยเอาใจบุตรสาวนางอยากไปเที่ยวก็ให้นางออกไปเปิดหูเปิดตาบ้าง มิใช่อุดอู้อยู่เเต่จวนมิได้พบป่ะผู้คน
"ขอบคุณท่านพ่อมากเจ้าค่ะ ท่านพ่อใจดีเป็นที่สุด"อีอเอ่ยขึ้นอย่างเอาใจนางอยู่ในจวนอึดอัดยิ่ง อยากไปตลาดยุคโบราณ นางคือเด็กยุค2020เชียวนะของเก่าเเก่หายากที่น่าดูมีไม่น้อย
"ซื้อขนมอร่อยมาฝากพ่อด้วย นี่ตั๋วเงิน200ตำลึงพ่อให้เจ้า" เสนาบดีอวี้เอ่ยอย่างใจดี
บุตรสาวเขาเขาเลี้ยงได้ เลี้ยงไปตลอดชีวิตก็ยังได้..
"อีอีรักท่านพ่อที่สุดเจ้าค่ะ"
เสียงหัวเราะสองพ่อลูกเเห่งจวนเสนาบดีท่ามกลางบรรยากาศเเห่งความสุขที่เริ่มมีขึ้นบ่อยครั้ง เพราะเจ้านายทั้งสองต่างกลับมารักใคร่มิได้ทะเลาะเมินเฉยเช่นกาลก่อน
อีอีขึ้นรถม้าด้วยใจที่เปี่ยมสุข
นางเเง้มรถม้าดูบ้านเรือนสองข้างทางช่างเเปลกตาไม่น้อย รถม้าผ่านทั้งจวนเล็กใหญ่ห้องหับบ้านช่องตามฐานะความเป็นอยู่ ผู้คนใบหน้ายิ้มเเย้มสองฟากฟั่งเด็กน้อยวิ่งเล่นกันไปมาสนุกสนานยิ่ง
พอเข้าใกล้บริเวณตลาดเสียงจอกเเจกตึงตังมีไม่น้อย รถม้าเริ่มมีมากขึ้นจนเบียดเสียด
"ลงเถอะอิงอิง ข้าเดินไปเองได้" นางอยากซึมซับบรรยากาศนี้ไว้ด้วยไม่รู้จะอยู่ในร่างนี้อีกนานเท่าไหร่ เจ้าของร่างเดิมจะมาทวงคืนร่างนี้ไหมนางเองยังไม่มีคำตอบ
"อีกไกลนะเจ้าค่ะ"
"ไม่เป็นไร เชื่อข้าเถอะ" สาวใช้คนสนิทพยักหน้าลงจากรถม้าเดินตามเจ้านายตน ผู้คุ้มกันต่างทำหน้าที่อย่างเเข็งขัน
เดินมาได้ไม่ไกลมากนัด
" ไม่ทราบว่าคุณหนูผู้งดงามมีคู่หมายหรือยังขอรับ"!!!!!
บ่าวชายผู้หนึ่งก้าวเท้าพาร่างของตนมาหยุดตรงหน้าอีอี พลางเอ่ยวาจาผลุสวาทน่ารังเกียจ