บทที่ 6
ค้าเกลือเป็นเหตุ
ท้องพระโรง ราชวัง
ก่อนเวลาเข้าประชุม
เหล่าขุนนางขั้นต่างๆๆ ต่างพูดคุยกันก่อนฮองเต้เสด็จ
"ได้ข่าวว่าฮองเต้จะเขียนราชโองการถอนหมั้นบุตรสาวท่านเสนาบดีอวี้ ข้าเจ้าเมืองหนิงขอความเสียใจต่อเสนาบดีอวี้นะขอรับ" เจ้าเมืองหนิงเอ่ยขึ้นขณะเห็นท่านเสนาบดีอวี้เดินเข้ามา
"ให้มันน้อยๆๆ หน่อยท่านเจ้าเมือง บุตรสาวท่านเเต่งเข้าเป็นอนุตำหนักองค์ไทจื่อ หาใช่ไทจื่อเฟยไม่ อย่าอวดเบ่งถึงเพียงนั้น "ใต้เท้าลู่กรมคลังเอ่ยขึ้นด้วยหมั่นไส้ใบหน้ายิ้มเเย้มเยาะเย้นต่อบุคคลที่เขาเคารพรัก
"พวกเจ้ากล้ารุมข้าหรือทำไรเกรงใจตำเเหน่งพ่อตาไทจื่อบ้าง"เจ้าเมืองหนิงเอ่ยขึ้นอย่างกดข่มอารมณ์ไว้
" เหอะ"เสียงใต้เท้าลู่กำลังจะเถียงอีกครั้งเเต่ท่านเสนาบดีอวี้ห้ามไว้ก่อน
" อะไรเป็นอนุเเล้วอย่างไรไทจื่อทั้งรักทั้งโปรดปรานบุตรสาวข้าอนาคตต้องได้เเต่งตั้งเป็นไทจื่อเฟยเเน่นอน ถึงขนาดถอนหมั้นคู่หมายที่หมั่นกันมาถึง4ปี กลายเป็นคุณหนูที่ไม่มีใครกล้ามาสู่เสียเเล้ว555"เจ้าเมืองหนิงเอ่ยเยาะเย้ยเสนาบดีอวี้ที่น่าจะหลุดการเป็นว่าที่พ่อตาขององค์ไทจื่อไปเรียบร้อยเเล้ว
เสนาบดีอวี้ใบหน้าคล้ำถึง7ส่วนเเล้วเอ่ยขึ้น
"ข้าจะรอดูว่าหลังเลิกประชุมท่านจะกลับไปสภาพเช่นไร"เสนาบดีอวี้เอ่ยขึ้นเดินเลี่ยงไปอีกทางเหตุใดเขาต้องลดตัวไปต่อปากต่อต่อคำกับขุนนางขั้น5
องค์ไทจื่อ อยู่หลังม่านฉลุข้างท้องพระโรงถึงกับคิ้วกระตุก เหตุใดพ่อตาหมาดๆๆ คนนี้ช่างเหิมเกิมยิ่ง ขนาดเยาะเย้ยเสนาบดีขั้น1 ตำเเหน่งเจ้าเมืองขั้น5เอาความกล้าคิดว่าเยียนเออร์จะได้เป็นไทจื่อเฟย หากถามว่าเขารักเยียนเออร์ไหมเขารักนะ เเต่หากรักนี้ต้องลงจากตำเเหน่งไทจื่อเขาไม่มีทางยอมเเน่เช่นกัน
ฮองเต้เสด็จจจ.....
เสียงขันทีประกาศทำให้เหล่าขุนนางต่างรีบไปยืนประจำที่ยืนตนเพื่อถวายงาน
"ขอฝ่าบาทอายุยืนยาวนับพันปีนับหมื่นปี" เหล่าขุนนางต่างกล่าวพร้อมกันพร้อมเพรียง
"ลุกขึ้นได้" ฮองเต้หลงซือหยางเอ่ยขึ้นพร้อมกวาดสายตาไปทั่วทุกตำเเหน่ง
" ท่านเสนาบดีอวี้ เจิ้นได้รับสาสน์จากท่านลางาน3วันมิใช่หรือ หายดีเเล้วหรือยังคงคิดถึงงานไม่น้อยสินะมาๆๆ เจิ้นพร้อมเเล้ว"
สิ้นเสียงฮองเต้หลงซือหยางเสนาบดีอวี้คิ้วกระตุกหากเขาพาอีอีไปท้องเที่ยวทางใต้สัก3เดือนจะดีไหมนะเขานึกในใจ พลางเอ่ย
" ถวายบังคมฝ่าบาท กระหม่อมได้รับรายงานเรื่องที่มีผู้ลักลอบขนเกลือเข้ามาจากต่างเเคว้นเเล้วได้เตรียมหลักฐานเรียบร้อยพะยะค่ะ องค์ไทจื่อ เจ้าเมืองหนิงเเละขุนนางท้องถิ่นต่างรู้เห็นเป็นใจพะยะค่ะ"สิ้นเสียงเสนาบดีอวี้ ผู้ถูกกล่าวหาเริ่มร้อนรนขึ้น โดยเฉพาะไทจื่อที่เอ่ยขึ้นก่อนใคร
" บัดซบ! ท่านเสนาบดีอวี้โกรธเกลียดที่เปิ่นหวางถอนหมั้นบุตรสาวเจ้าใช่หรือไม่ ถึงได้กล่าวโทษเปิ่นหวางเช่นนี้"
" กระหม่อมมีหลักฐานพะยะค่ะเชิญฝ่าบาททอดพระเนตร " องค์ไทจื่อเห็นสมุดที่อยู่ในมือเสนาบดีอวี้ส่งต่อให้พระบิดาเเล้วหน้าซีดสมุดพวกนั้นเขาจำได้ดีว่าอยู่ที่จวนเจ้าเมืองในห้องลับ เสนาบดีอวี้เอามันมาได้อย่างไรพลางเหลียวมองเจ้าเมืองหนิงที่บัดนี้หน้าเเดงก่ำ เหงื่อไหลย้อยคิดไม่ถึงว่าหลักฐานจะอยู่ในมือเสนาบดีอวี้ได้
ปั้ง!!!!
เสียงสมุดฟาดลงโต๊ะหน้าพระพักตร์ พระขนงขมวดกันเเน่นหนาส่งสายตาผิดหวังไปที่ไทจื่อ
"หยงเล่อ!!! เจ้าจะเเก้ตัวว่าอย่างไร นี่คือลายมือเจ้า ทุกตัวอักษรที่เขียนเจิ้นเป็นคนสอนเจ้าเหตุใดจะจำไม่ได้ เจิ้นให้เจ้าไปดูเเลชาวบ้านหาใช่ไปเอารัดเอาเปรียบชาวบ้านเพิ่ม"สิ้นเสียงฮองพระโรงเงียบกริบ ไทจื่อคุกเข่าลงตรงหน้าพลางเอ่ย
"ลูกผิดไปเเล้วพะยะค่ะ เสด็จพ่อยกโทษให้ลูกด้วย ลูกพร้อมจะเเก้ไขพะยะค่ะ เสด็จพ่อ"องค์ไทจื่อเอ่ยอย่างขอโอกาส
" เจิ้นควรทำอย่างไรกับเจ้าดี"
เสนาบดียิ้มกริ่มการลอบเข้าจวนเจ้าเมืองเมื่อคืนนี้เป็นไปอย่างง่ายดายนัก ไม่มีคนเสียชีวิตเวรยามเฝ้าจวนหละหลวมยิ่ง เขาก้าวมาด้านหน้าหนึ่งก้าวพร้อมเอ่ย
"ไทจื่อหยงเล่อ ขาดคุณสมบัติการเป็นไทจื่อ สมควรให้ริบทรัพย์เพื่อเเจกจ่ายคืนเเก่ชาวบ้าน ส่วนโทษอื่นเชื้อพระวงศ์ทำผิดโทษเท่าสามัญชนพะยะค่ะ"
" ไม่นะพะยะค่ะ เสด็จพ่ออย่าปลดลูกเลยลูกทำผิดไปเเล้วลูกจะเเก้ไขอย่าปลดลูกเลยนะพะยะค่ะ"
ไทจื่อเอ่ยขึ้นอย่างลนลานขอร้องพระบิดา
" เจ้าทำตัวเจ้าเองหยงเล่อ ทหารลากตัวองค์ชายหยงเล่อไปโบย50ไม้ "ฮองเต้เอ่ยสั่งทหารเสียงเด็ดขาด ทรงปวดใจไม่น้อยที่โอรสของตนกระทำการเบียดเบียนชาวบ้านเช่นนี้
เเล้วจากนั้นทหารต่างมาคุมตัวเจ้าเมืองหนิงเเละขุนนางท้องที่ทั้งหลายที่เกี่ยวข้องกับคดีค้าเกลืออย่างอลหม่าน
" ส่งเจ้าพวกนี้ถึงกรมอาญา เจ้ากรมอาญารับผิดชอบด้วย"
" รับด้วยเกล้าพะยะค่ะ"
" มีอะไรเพิ่มเติมอีกหรือไม่ หากไม่มีเจิ้นจะพักเเล้ว"
" น้อมส่งฝ่าบาทพะยะค่ะ"เหล่าขุนนางต่างความเคารพเจ้าเเผ่นดิน
_______________________
ตำหนักองค์ไทจื่อ
" รับราชโองการ
ริบทรัพย์สินทั้งหมดคืนหวังหลวง เมื่อรักษาตัวจนหายดีให้ทำคุณถ่ายโทษทำงานตำเเหน่งหัวหน้านายกองประตูทิศเหนือ เป็นเวลา1ปี
เจ้าเมืองหนิงเเละขุนนางที่เกี่ยวข้องริบทรัพย์สินทั้งหมดเข้าหลวงประหารทั้งตระกูล จบราชโองการ" เสียงประกาศหน้าตำหนักองค์ไทจื่อเหล่าอนุ5นางรวมถึงเล่อเยียนก้มรับฟังเเล้วราชโองการเเล้วกรีดร้องหมดสติไป
เรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้นในท้องพระโรงต่างสงบลงอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ฮองเต้หยงซือหลางเสด็จออกไป ขันทีประกาศเลิกประชุม เหล่าขุนนางที่ตอนเเรกอยู่ข้างไทจื่อเเละเจ้าเมืองหนิงก็สงบเสงี่ยมเป็นอย่างมาก
"ต้องขอบคุณท่านเสนาบดีอวี้เป็นอย่างมากเเทนชาวบ้านที่เดือดร้อนจากการกระทำขององค์ชายใหญ่หยงเล่อ" เสียงบุรุษหนึ่งเอ่ยขึ้นอย่างสุภาพทำการขอบคุณเเทนชาวบ้านอย่างนอบน้อม
"หามิได้พะยะค่ะ กระหม่อมเพียงทำตามหน้าที่พะยะค่ะ อันอ๋องอย่าได้เกรงใจ"
"ผู้ที่ทำดีเปิ่นหวางย่อมชื่นชม ท่านเสนาบดีป่วยลางาน7วันเพียงได้3วันยังเข้าร่วมประชุมสร้างผลงานเเก้ปัญหาเกลือต่างเเคว้นไว้ไม่น้อย หากมีสิ่งใดที่ท่านเสนาบดีอวี้ลำบากหากเปิ่นหวางช่วยได้ให้รีบบอกกล่าวเปิ่นหวาง เปิ่นหวางยินดีช่วยเหลือเต็มที่"
" กระหม่อมขอบคุณน้ำใจอันอ๋องที่มอบให้พะยะค่ะ"
" หากไม่มีอะไรเเล้วกลับเถอะจะได้พักผ่อนให้เต็มที่กลับมาเเข็งเเรงโดยไว เปิ่นหวางจะสั่งให้คนส่งสมุนไพรที่ตำหนักไปให้ท่านเสนาบดีอวี้บำรุงร่างกาย หวังว่าท่านคงไม่รังเกียจ"
" ขอขอบคุณพระมหากรุณาธิคุณพะยะค่ะ กระหม่อมทูลลา"
เสนาบดีเอ่ยเเล้วเดินจากมา อันอ๋ององค์ชาย3ที่เกิดกับเต๋อเฟยสินะ เป็นบุรุษที่นอบน้อมยิ่งวางตัวเหมาะสมไม่เคยมีข่าวเสียหายเเม้เเต่น้อย เหมาะสมกับบุตรสาวเขายิ่ง
___________________________
จวนเสนาบดีอวี้
"ท่านพ่อกลับมาเเล้ว ชาโม่ลี่ชาโปรดของท่านพ่อเจ้าค่ะ"พอเห็นบิดากลับเข้าจวนอีอียกน้ำชาให้บิดาอย่างเอาใจ
"อีอีของพ่อช่างรู้ใจพ่อยิ่ง"เสนาบดีอวี้เห็นใบหน้ายิ้มเเย้มของบุตรสาวเเล้วสุขใจยิ่ง
"เเน่นอนเจ้าค่ะ วันนี้ในท้องพระโรงเป็นอย่างไรบ้างเจ้าค่ะ" อีอีเอ่ยเข้าเรื่องทันทีเพราะอยากรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น หากมีการเปลี่ยนตำเเหน่งของไทจื่อนางร้ายเช่นนางจะได้ไม่ตายอย่างอดสูเป็นเเน่
"อืม.. พ่อรายงานต่อหน้าพระพักตร์พร้อมหลักฐานเเล้วไทจื่อโดนปลดถูกริบทรัพย์ ถูกโบย50ไม้ลดขั้นจากองค์ชายเป็นนายกองเฝ้าประตูเมือง1ปี ลูกคิดเห็นว่าอย่างไร"
"ดียิ่งเจ้าค่ะ ครานี้นางร้ายเช่นลูกจะได้ไม่มีจุดจบที่อดสูมากนัก"
"ฮ่ะอีอีลูกว่าเช่นไรนะ"
"อ๋อ.. ลูกจะบอกว่าลูกจะได้เป็นอิสระไม่ต้องหมั้นหมายกับผู้ใดให้ท่านพ่อเลี้ยงจนแก่เฒ่าเจ้าค่ะ"อีอีเอ่ยขึ้นอย่างออดอ้อนบิดาตน
" เอ๊ะ! ลูกคนนี้! พ่อจะอยู่ถึงเจ้าเเก่เฒ่าได้อย่างไร เอาเถอะอีกไม่นานจะมีราชโองการถอนหมั้นเเละให้สิทธิเลือกคู่ครองเอง ค่อยๆๆ เลือกไปเเล้วกัน ถ้าเจ้าว่าดีพ่อก็ว่าดี"
" ดียิ่งเจ้าค่ะ" อีอีส่งเสียงตอบรับบิดาอย่างเเข็งขัน บิดาช่างเป็นบิดาดีเด่นเเห่งยุคจริงๆๆนะ
" งั้นช่วงบ่ายลูกไปเดินตลาดนะเจ้าค่ะ"อีอีเอ่ยขอบิดานางอยากไปนอกจวนบ้างอยากเห็นตลาดจีนโบราณคงงดงามไม่น้อย
" วันนี้อย่าเพิ่งไปเลยไว้วันหลังพ่อจะคัดคนคุ้มกันให้เจ้าเพิ่ม พ่อจะได้ไม่ต้องห่วงมากนัก"
" พ่อว่าดีลูกก็ว่าดีเจ้าค่ะ"เสนาบดีหัวเราะขึ้นเสียงดังด้วยบุตรสาวตอนนี้ช่างออดอ้อน ช่างพูดคุยเจรจา
"ลูกอยากได้เพิ่มสัก4คนเจ้าค่ะ"
" เอาไปทำอะไรเยอะฮึ.. ไหนบอกพ่อมาก่อน"เสนาบดีเอ่ยอย่างอยากรู้บุตรสาวต้องการคนเพิ่มไปทำอะไรมากมายกัน
" ลูกเอาไว้กลั่นเเกล้งผู้อื่นท่านพ่อจะว่าลูกไหมเจ้าค่ะ"อีอีเอ่ยออดอ้อนตาปริบปริบ
" หากผู้อื่นรังเเกลูกพ่อก่อน พ่อสนับสนุนให้เอาคืนให้สาสมยิ่ง เเต่ห้ามลูกไปกลั่นเเกล้งรังเเกผู้อื่นก่อนเข้าใจหรือไม่"
"ลูกเข้าใจเจ้าค่ะ"อีอีเอ่ยใบหน้ายิ้มเเย้มเต็มสิบส่วน ขอเเกล้งให้สมใจอยากเถอะนะ พระนางคู่นี้ช่างขวางคู่ขวางตานางยิ่ง
_____________________________
กลับมาที่วัง
หน้าห้องทรงงานของฮองเต้
" ฝ่าบาทเพคะ ทรงอภัยให้โอรสของเราด้วย ทรงถอนคำสั่งโบยเเละปลดจากตำเเหน่งไทจื่อเถอะนะเพคะ หม่อมฉันของร้องหม่อมฉันเจ็บปวดยิ่งเพคะ" เสียงร้องห่มร้องไห้ของกุ้ยเฟยมารดาอดีตไทจื่อที่คุกเข่าขอร้องหน้าห้องทรงงานตำหนักใหญ่ ทำให้ฮองเต้ที่ตอนนี้ทรงบรรทมอยู่ตื่นขึ้น หน้าพระพักตร์เต็มไปด้วยความมืดครึ้มเต็มสิบส่วน เดินอาดๆๆๆ ไปเปิดประตูเพื่อพบสตรีหน้าห้องทรงงาน เมื่อกุ้ยเฟยเห็นฮองเต้หลงซือหยางเดินออกมาจากตำหนัก ใบหน้าพระนางเริ่มยิ้มเข้าไปหาพระสวามี
" ฝ่าบาทเพค่ะ ลูกของเราสำนึกผิดเเล้วนะเพค่ะ ฝ่าบาทได้โปรดละเว้นโทษโบยคืนตำเเหน่งไทจื่อให้ลูกของเรานะเพค่ะ"
เพี๊ยะ!!!!!
เสียงตบหน้าดังสนั่น กุ้ยเฟยหันหน้าตามเเรงตบเลือดซึมไหลออกจากปาก
"เจิ้นให้เจ้าดูเเลโอรสของเราเพราะไว้เนื้อเชื่อใจเจ้าจะสอนให้โอรสของเราเป็นคนดีไม่เอาเปรียบผู้อื่น เเต่นี่อะไรไทจื่อค้าเกลือต่างเเคว้นคนจำนวนไม่น้อยที่ล้มตายเพราะเกลือนี้ เจ้าว่าไทจื่อจะรับผิดชอบอย่างไรไหว"
"ฝ่าบาท โอรสของเราได้ชดใช้ความผิดเเล้วนะเพคะ อย่าทรงโบยลูกอีกเลยเขาอาจทนรับไม่ไหว ลดโทษให้บุตรชายของเราด้วยนะเพคะ"กุ้ยเฟยฟูมฟายร้องไหกอดขาพระสวามีของตนไว้เเน่น
" เพราะมีมารดาคอยตามใจเช่นนี้สินะถึงได้เบาปัญญาเช่นนี้ ในเมื่อบุตรชายทำผิดมารดาต้องรับผิดด้วย"
กุ้ยเฟยถึงกับหน้าซีดเมื่อพระสวามีเอ่ยบทลงโทษของตน
" ฉินกงกงกักบวิเวณกุ้ยเฟยไม่มีกำหนดห้ามกุ้ยเฟยเข้าออกโดยเด็ดขาด ยกเลิกเบี้ยหวัด1ปี ยกเลิกป้ายตำหนัก1ปีเช่นกัน"
สิ้นเสียงฮองเต้ กุ้ยเฟยสีหน้าเเข็งค้างอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
" ฝ่าบาทเพคะ ฝ่าบาท"น้ำตาล่วงหล่นออกมาเป็นสาย กรีดร้องอย่างไม่สนใจผู้ใด มาม่าข้ารับใช้สนิทต้องรีบหามกลับตำหนักอย่างรวดเร็วหมดสภาพพระสนมผู้งดงามเเละได้รับความโปรดปราณที่สุดในวังหลัง
ฮองเต้เห็นสภาพคนรักเเล้วได้เเต่หนักใจ เขาตามใจนางเกินไปนางจึงคิดสั่งสอนบุตรชายว่าทำอะไรก็ไม่ผิด พลางเอ่ยขึ้น
" ไปตำหนักฮองเฮา"
___________________________