ตอนที่ : 9 คืนที่สอง

1592 Words
4 คืนที่สอง          “ไหม สนุกไหมลูกไปเที่ยวกับคุณคินมา” ไพลินเปิดประตูห้องพักของหลานสาวซึ่งอยู่ติดกันเข้ามา พร้อมกับสอบถามด้วยความเป็นห่วง ไหมฟ้าเงยหน้ามองผู้เป็นป้าเนือยๆ            “เหนื่อยมากกว่าค่ะคุณป้า”            “ดูไม่สดชื่นเลย”            “ค่ะคุณป้า...เป็นเมียเก็บเมียลับมันให้ความรู้สึกแบบนี้นี่เอง ไหมเพิ่งเข้าใจ”            มันหมดหวังไร้ค่าและไม่รู้จะใช้ชีวิตแบบไหนต่อไปดี            “ไหม อดทนนะลูกแค่ปีเดียวเอง จากนั้นไหมก็จะเป็นอิสระแล้ว คุณแสงจะมอบเงินก้อนใหญ่ให้ไหมได้ใช้ไปจนชั่วลูกชั่วหลานเลยเชียวล่ะ” ไพลินพยายามงัดข้อดีของเรื่องนี้ขึ้นมาพูด            “คุณป้าก็รู้ว่าไหมไม่เคยต้องการแบบนั้น ช่างเถอะค่ะ ในเมื่อตัดสินใจทำไปแล้วไหมก็ต้องยอมรับมันให้ได้ คุณป้าเองก็เลิกห่วงไหมได้แล้วนะคะ พี่คินเขาดีกับไหมเกินคาดเสียอีก” ไหมฟ้าพยายามพูดให้ไพลินสบายใจ เพราะว่าตั้งแต่ตอนเช้าแล้วที่เห็นหน้าของผู้เป็นป้าค่อนข้างเศร้าหมองคงเป็นห่วงตัวเธออยู่ไม่น้อย            “พี่คิน?”            “อ๋อ ค่ะคุณป้า พี่คินให้เรียกแบบนี้” คนพูดก้มหน้าเอียงอายเล็กน้อย ไม่ค่อยชินกับถ้อยคำที่เรียกขานเขาจริงๆ ออกเสียงทีไรก็ใจหวิวแปลกๆ ทุกที            “ได้ยินแบบนี้ป้าค่อยสบายใจหน่อยจะได้หมดห่วง นึกว่าแกจะไม่ชอบไหมเสียแล้ว ปกติเห็นเฉยๆ ไม่เคยสนใจไหมเลย ว่าแต่คืนนี้คุณคินเรียกไหมอีกหรือเปล่า”            “ค่ะ พี่คินเรียกไหมไปหาคืนนี้ด้วย”            “งั้นเหรอ นับว่าเป็นเรื่องดีคุณแสงจะได้หมดห่วง”            “ค่ะคุณป้า” คุณแสงระวีของไพลินอาจจะหมดห่วง แต่มันจะกลายเป็นบ่วงรัดคอไหมฟ้าไปอีกหนึ่งปี อนาคตหลังจากการเป็นเมียเก็บนคินทร์จะเป็นอย่างไรก็สุดจะรู้ได้            “งั้นป้าไปทำงานก่อนนะ ไหมก็พักผ่อนเถอะ”            “ค่ะคุณป้า” ไหมฟ้าฝืนยิ้มให้ผู้เป็นป้า ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปปิดประตูห้องพักตามหลัง            ดูหนัง กินข้าว เลือกเสื้อผ้า ช่างเป็นพฤติกรรมปกติของคู่รักทั่วไป แต่ระหว่างเธอกับนคินทร์มันไม่ใช่ จะเรียกแบบไหนดีล่ะ ไหมฟ้าแทบจะหัวเราะให้กับสถานะที่ยากแก่การเข้าใจของตนเองได้ เขาจะทำตัวเป็นคนรักเฉพาะหนึ่งปีนี้หรือยังไง หรือว่าเพราะเธอยังใหม่ยังสด ก็เลยได้รับการปฏิบัติแบบนี้            บนชั้นสองของบ้านทยารัย คนตัวโตที่กำลังอารมณ์ดีเดินฮัมเพลงเข้าไปในห้องนอนของตัวเองอย่างสบายใจ เขาจัดการนำเสื้อผ้าของไหมฟ้าแขวนเข้าตู้ ยกชั้นในสีหวานแสนเซ็กซี่และชุดนอนสุดเร้าใจขึ้นพินิจดูด้วยความพอใจ กิจกรรมรื่นเริงบนเตียงบางครั้งก็ต้องพึ่งสิ่งเหล่านี้ แต่ถึงจะไม่มีสิ่งของเหล่านี้ ไหมฟ้าก็เรียกเลือดลมให้แล่นพล่านได้ไม่ยาก แค่ได้เห็นผิวสีชมพูระเรื่อทั้งตัว ทรวงอกสวยอร่ามทั้งสองข้างที่ประดับด้วยเม็ดสีชมพูสด รสชาติก็หวานละมุนกลิ่นกายสาวหอมอบอวลชื่นใจ คิดมาถึงตรงนี้บางอย่างในร่างกายก็ตื่นตัวขึ้นมา            “บ้าเอ๊ย” เขาส่ายหน้าแล้วหัวเราะเบาๆ กับตัวเอง แค่คิดจินตนาการก็เตลิดเพริดไปไกล รีบคว้าผ้าขนหนูเข้าไปอาบน้ำชำระร่างกายให้เรียบร้อย เพราะว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงดวงอาทิตย์จะลับเหลี่ยมฟ้า นั่นหมายความว่าเขากำลังจะได้ใช้ค่ำคืนที่สองกับไหมฟ้า แค่คิดรอยยิ้มก็ผุดพรายเต็มใบหน้าแสนหล่อเหลา            และเมื่อได้เวลามื้อค่ำ นคินทร์ก็ต้องผิดหวังเมื่อไม่เห็นไหมฟ้าบนโต๊ะอาหาร เขาคาดหวังว่าหญิงสาวจะอยู่ร่วมวงกับเขาและมารดาในทุกมื้อ เพราะว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหญิงสาวนั้นได้เปลี่ยนไปแล้ว            “คุณแม่ครับ ทำไมไหมไม่มาร่วมโต๊ะกับเรา” เขาถามด้วยความสงสัย มารดายิ้มรู้ทันคนเป็นลูก            “หนูไหมเขาก็กินข้าวในห้องครัวของเขาทุกวันอยู่แล้ว คินจะไปยุ่งอะไรกับน้องเขาล่ะลูก”            “ก็ผมอยาก...” เขายั้งคำพูดเอาไว้ทัน ใครจะกล้าบอกว่าอยากเห็นหน้ากระทั่งตอนกินข้าว คิดแล้วก็เกิดกลัวในความรู้สึกนี้ของตัวเอง นคินทร์ไม่เคยรู้สึกต้องการใครรุนแรงอย่างนี้มาก่อน และไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับ ไหมฟ้า หลานสาวแม่บ้านที่เคยเห็นกันมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย            “อยากอะไร” คุณแสงระวีจ้องเข้าไปในดวงตาของบุตรชาย นคินทร์กลับเป็นฝ่ายไม่กล้ามองสบสายตากับผู้เป็นแม่ เขานึกกระดากอายขึ้นมาที่เผลอแสดงอาการอยากเห็นหน้าสาวต่อหน้าท่าน            “ไม่มีอะไรหรอกครับคุณแม่” เขาบ่ายเบี่ยงจะพูดความจริง            “งั้น...ก็กินข้าวไปสิลูก”            “ครับคุณแม่”            คุณแสงระวีมองบุตรชายด้วยความรู้สึกโล่งใจ แต่ก็ยังมีบางอย่างติดค้างอยู่ลึกๆ ข้างใน หากนคินทร์พอใจไหมฟ้าและไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงอื่นอีกก็นับว่าเป็นเรื่องดี แต่หากว่าติดใจไหมฟ้าจน...คงไม่ หวังว่าจะไม่เป็นแบบนั้น            พอรับประทานอาหารเสร็จแทนที่นคินทร์จะออกไปเดินเล่น หรือนัดเพื่อนสังสรรค์ในวันหยุดเหมือนเช่นเมื่อก่อน เขากลับสถิตอยู่ที่ห้องนั่งเล่น สายตาก็มองไปยังประตูห้องเผื่อว่าจะเห็นใครบางคนเดินผ่านมา            ‘ทำไมยังไม่มาอีก’ เขามองนาฬิกาที่แขวนอยู่ตรงผนังห้อง หนึ่งทุ่มกว่าแล้วไหมฟ้ายังไม่มา ไปทำอะไรอยู่หรือว่าลืมที่เขาสั่งเอาไว้หรือเปล่าก็ไม่รู้            คนรอเดินวนไปเวียนมาอยู่ภายในห้องนั่งเล่นหลายตลบ ขืนออกไปตามหญิงสาวที่ห้องพักก็จะตกเป็นที่น่าสงสัยของทุกคน ว่าเขาหลงไหมฟ้าจนหัวปักหัวปำอย่างแน่นอน เจ้าของร่างสูงจึงเลือกที่จะทิ้งสะโพกลงนั่งตามเดิม พยายามอ้างเหตุผลว่า ‘ก็แค่ช่วงแรก สักพักก็คงเบื่อ’ เขาหยิบรีโมตเปิดทีวีดูรายการโปรด ซึ่งดูเหมือนมันจะไม่ค่อยโปรดเสียแล้วในเวลานี้            จากหนึ่งนาทีเป็นสิบนาทีจากสิบนาทีเป็นชั่วโมง กระทั่งสามทุ่มกว่าไหมฟ้ายังไม่มา ความอดทนของเขาก็ขาดสะบั้นลง นคินทร์ลุกขึ้นยืนแววตานิ่งจนน่ากลัว คำพูดของเขามันไม่น่าเชื่อถือ หรือว่าไหมฟ้าอยากจะลองดีกันแน่ คนโกรธเดินออกจากตัวตึกใหญ่ผ่านประตูด้านหลัง ตรงไปเคาะประตูห้องพักของไหมฟ้า เสียงเคาะรัวและเร็วทำให้ไพลินที่อยู่ห้องด้านข้างต้องเปิดประตูออกมาดูด้วยความสงสัย            “คุณคิน”            “ป้าไพลินเห็นไหมไหมครับ” เขาถามด้วยน้ำเสียงบ่งบอกว่าไม่สบอารมณ์ ไพลินมองประตูห้องหลานสาวสลับกับใบหน้าของคนโกรธ            “ไหมไปหาคุณคินที่ห้องแล้วนี่คะ”            “อะไรนะครับ...ไปหาผม”            “ใช่ค่ะคุณคิน ป้าเห็นไหมออกไปหาคุณคินตั้งแต่สองทุ่มแล้วค่ะ” คำตอบย้ำของไพลิน ทำให้นคินทร์ฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เขาหันหลังแล้ววิ่งกลับเข้าไปอย่างรวดเร็ว            “อะไรของคุณคินเนี่ย” ไพลินส่ายหน้าไม่เข้าใจ ดันบานประตูห้องปิดลงแล้วทิ้งตัวลงนอนตามเดิม            ส่วนคนที่วิ่งกลับขึ้นตึกใหญ่ ก็นึกอยากจะเขกหัวตัวเองสักสิบหน ลืมไปได้อย่างไรกันว่าไหมฟ้ามักจะเข้าทางประตูหลังตรงห้องครัว ส่วนเขามารออยู่ที่ห้องนั่งเล่น แม้จะเปิดประตูเอาไว้เพื่อมองว่ามีคนเดินผ่านมาหรือไม่ ก็จะมองเห็นเฉพาะคนที่เดินมาจากประตูหน้าบ้านเท่านั้น คนที่เข้าจากหลังบ้านเขาจึงไม่เห็น            ชายหนุ่มเร่งฝีเท้าจนเหนื่อยเหมือนคนบ้า ดีที่ว่าคนในบ้านเริ่มเข้านอนกันหมดแล้ว เหลือไว้เพียงนิดาที่คอยปิดประตูบ้านให้เรียบร้อย ซอยฝีเท้ามาหยุดนิ่งอยู่หน้าห้องนอนของตัวเอง พร้อมกับสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ก่อนจะหมุนลูกบิดแล้วเปิดประตูเข้าไปเบาๆ            อารมณ์พลุ่งพล่านเมื่อครู่พลันต้องสงบลง เมื่อเห็นร่างอรชรของใครคนหนึ่งนอนหลับสนิทอยู่บนเตียงนอนใหญ่ของเขา ไหมฟ้าไม่ได้ผิดคำพูดหรืออยากลองดี แต่เป็นเขาเองที่คิดฟุ้งซ่านมากเกินไป ชายหนุ่มเดินอย่างเบาเสียงไปนั่งบนเตียงนอน ไล้ปลายนิ้วบนพวงแก้มอิ่มของคนหลับเบาๆ สภาพของไหมฟ้ากำลังบอกเขาว่าเธอต้องการนอน มากกว่าการปรนเปรออารมณ์ใคร่ให้เขา จะปฏิเสธตรงๆ ก็ไม่ได้จะไม่มาก็ยิ่งไม่กล้า แม้มาแล้วไม่เจอเขาก็ยังนอนรออยู่บนเตียง            ‘แกมันโง่นคินทร์’            เขาเอนตัวลงนอนเคียงข้าง สูดกลิ่นกายสาวจากซอกคอหอมกรุ่นเข้าเต็มปอด คนหลับย่นคอหนีด้วยความรู้สึกเหมือนถูกรุกราน            “ไหมจ๋า” เสียงทุ้มดังขึ้นข้างหู ไหมฟ้าลืมตาโพลงขึ้นทันที หญิงสาวรีบผลักร่างของเขาออก แล้วหันหน้ามาเผชิญกับเขาตรงๆ 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD