...รักนี้...อยู่ในใจ… บทที่6.

1549 Words
“ถ้าธารกลับบ้าน ผมคงเสียดายเพื่อนที่ดีแบบธารนะ” “ธารก็เสียดายค่ะ แต่ทำไงได้ ธารไม่ใช่คนที่นี่ สักวันก็ต้องไป” “ไม่สนใจทำมาหากินอยู่นี่เหรอธาร ผมพอช่วยได้นะ” “อย่าเลยค่ะ ธารไม่อยากรบกวน” ฉันอยากกลับบ้านวันนี้ พรุ่งนี้เลยด้วยซ้ำ ฉันไม่รู้ว่าตัวเองจะมองหน้าคนคนนั้นยังไง หากต้องเผชิญหน้ากัน “ไม่รบกวนอะไรเลย” “แน่นะคะงั้นธารขอร้องสักเรื่องได้ไหมคะ” ทางที่ดี ฉันควรหลบหน้าเขาสักพัก ถึงจะรู้อยู่แก่ใจว่าผู้ชายคนนั้นไม่แยแสฉันหรอก ฉันนั่นแหละที่จะหน้าแหกเสียเอง หากเผลอตัวแสดงพิรุธออกมา “อะไรล่ะ ถ้าช่วยได้ผมเต็มใจเลยนะ” ฉันยิ้มประจบ เจ้าของบ้านเช่าที่ฉันอาศัยอยู่ รวมทั้งสถานะเพื่อนร่วมวิทยาลัย’ ทำให้ฉันรู้จักผู้ชายคนนี้ดีพอ บรูโน่กว้างขวางและค่อนข้างมีฐานะ เขารู้จักคนใหญ่คนโตหลายคน และน่าจะช่วยเหลือฉันเรื่องงานได้ “ฝากงานให้ธารหน่อยได้ไหมคะ ธารต้องการเงินสักก้อนก่อนกลับ” ฉันทำงานอิสระแบบเดิมไม่ได้แล้ว นั่นเป็นการล่อเป้าเกินไป ถึงฉันจะมั่นใจเต็มร้อยว่าผู้ชายคนนั้นจะไม่เผลอปูดเรื่องลับๆ ที่เกิดขึ้นกับฉันให้คนอื่นฟัง แต่ฉันก็ควรเซฟตัวเองด้วย เขามันคนปากเสีย และชอบแขวะฉันอยู่แล้ว หากเขาเผลอตัวขึ้นมา มันจะพานทำให้ฉันมองหน้าคนอื่นไม่ติด มันเป็นเรื่องที่น่าอาย แถมฉันยังเป็นคนใกล้ชิดกับคู่ควงคนล่าสุดของเขา ฉันไม่อยากเสียเพื่อนที่มีน้อยนิดไปอีก “ได้สิ...” “ธารของานที่ทำประจำในเวลาสามเดือนได้และไม่ต้องเจอคนเยอะๆ งานใช้แรงก็ได้ค่ะ ไม่เกี่ยงเลย” ฉันยิ้มแผล่ รู้สึกมีความหวังมากขึ้น บรูโน่ใช้เวลาไม่นาน เขาก็นำข่าวดีมาบอกฉันตอนบ่ายวันเดียวกัน ฉันควานหาเอกสารที่ต้องใช้ ตรงดิ่งไปยังสำนักงานที่บรูโน่แนะนำมา ในที่สุดฉันก็ได้งานประจำทำ...ฉันเลือกงานที่พบคนน้อยที่สุด แม้จะเป็นแค่งานใช้แรงก็ตาม ฉันสบายใจได้แค่หนึ่งอาทิตย์ กับงานใหม่ เรื่องที่ทำให้ฉันผวาก็แวะมาเยือน ตอนที่ฉันเข็นรถบรรทุกอุปกรณ์ทำความสะอาดห้องพักในรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ที่ค่อนข้างมีแขกแน่นทุกวัน ไม่เคยคิดมาก่อนเหมือนกันว่าคนที่ฉันพยายามหลบหน้าจะโผล่มาให้เห็น และฉันหลบไม่ทันเสียด้วย เขาเดินตรงดิ่งมาหาฉัน ฉันเม้มปากชั่งใจ ฉันควรวิ่งหนีไปดื้อๆ ตอนนี้เลยดีไหม เขาไม่ปล่อยให้ฉันคิดนานๆ มือของเขาคว้าข้อมือฉันไว้ และจับไว้อย่างแน่นหนา “เธอหายหัวมาหลบอยู่ที่นี่เอง” เสียงของเขาแข็งและเต็มไปด้วยอารมณ์โกรธ ฉันเงยหน้ามองเขาพยายามดึงมือออกจากอุ้งมือร้อนผ่าวนั่น “ปล่อยค่ะ ธารกำลังทำงานอยู่” เขาลดตามองฉันขึ้นๆ ลงๆ ไม่พูดอะไรสักคำ ฉันเลยยิ่งตระหนกไปใหญ่ “ฉันอยากนอนกับเธอ” ฉันผงะ ยิ้มจืดๆ และมองหน้าคนคนนั้นตาค้าง สั่งลาให้ตราตรึง ฉันโมโหจนหน้าร้อนผ่าว...ถลึงตาใส่เขาก็แล้วเขาก็ยังไม่สลด ฉันหมุนมองรอบตัว ฉันกำลังตกเป็นเป้าสายตา ป่วยการเล่นเจ้าล่อเอาเถิดกับคนหน้ามึนที่พูดไม่รู้เรื่องนี่เสียที “ธารว่า...คุณลองไปถามคู่ควงคนอื่นของคุณก่อนดีไหมคะ บางที... อาจจะไม่เสียเวลาเลยก็ได้” “ไม่...ฉันจะเอาเธอ!” ผิวแก้มฉันร้อนวาบ คำพูดของเขาชวนให้ปอดสั่น “ธารไม่คิดว่าคนอย่างคุณจนสิ้นไร้ไม้ตอกจนต้องมาเคี่ยวเข็ญเอากับคนไม่เต็มใจอย่างธารหรอกนะคะ” ในที่สุดฉันก็ควานหาคำพูดแดกดันเจอ ตฤณตาลุกวาว “มันพูดยากนะ แต่ฉันอยากนอนกับเธอแทบใจจะขาดแล้วรู้ไหม” ฉันกำมือแน่น จ้องหน้าเขา หากตาฉันมีไฟเขาคงกลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว “ธารไม่ใช่คู่ขาคุณนะ” ฉันรู้ดีการที่ฉันพูดแบบนี้ เท่ากับยั่วยุให้ชายตรงหน้าโกรธจัด ฉันไม่เหลือศักดิ์ศรีมากพอให้เย่อหยิ่งอีกแล้ว ฉันถูกเขารังแกซ้ำมากกว่านี้ ฉันยอมตายดีกว่า ผมจิปากหรี่ตามองประเมินผู้หญิงตรงหน้าเสียใหม่ ธาริกาฉลาดพูด หล่อนไม่ได้เขลาเหมือนภายนอก “แน่ใจเหรอว่าไม่ใช่” ตฤณไหวไหล่ยิ้มหยัน หล่อนปฏิเสธหัวชนฝา แต่ความจริงแล้วตรงกันข้าม ผมกับเธอผ่านจุดนั่นมาแล้ว มีความทรงจำที่พิเศษเหนือใคร จนลืมไม่ลงทีเดียว ผมคิดถึงหล่อนมาหลายวัน ควานหาแทบตายก็ไม่เคยเจอ วันนี้เจอหน้ากันจังๆ แบบนี้ ไม่มีทางปล่อยให้หลุดมือไปได้หรอก ฉันเข็นรถบรรทุกอุปกรณ์ทำความสะอาดเดินเลี่ยงไปอีกทาง ยื้อเวลาอยู่ในห้องพักที่รับทำความสะอาดไว้นานจนแน่ใจว่าคนใจร้ายคนนั้นไม่มีความอดทนพอ พยายามคิดในแง่ดี ผู้ชายคนนั้นไม่ได้ยี่หระฉันนักหรอก เขามีผู้หญิงอีกหลายคนที่รอให้เขาไปเสพสุข ฉันที่เป็นทางผ่านครั้งเดียวไม่ได้สำคัญอะไรเลย เขาน่าถอดใจกลับไปเอง แต่ฉันคิดผิด... ตอนเดินออกมาหลังทำงานจนเสร็จ ผ่านไปเกือบชั่วโมงเต็ม ผู้ชายคนนั้นก็ยังอยู่ที่เดิม เขามีความอดทนมากเหลือเชื่อ ตฤณยิ้มมุมปาก ธาริกาคิดจะใช้แผนดึงเวลาเพื่อให้ผมยอมถอดใจ แต่แผนแบบนั้นใช้กับคนแบบตฤณไม่ได้ ผมไม่มีวันยอมถอนตัว หากยังไม่ได้สิ่งที่ตัวเองหวังไว้ “ธารคิดว่าคุณกลับไปแล้วเสียอีก” ฉันเปรย เข็นรถบรรทุกอุปกรณ์ผ่านหน้าเขาไป พยายามทำใจให้สงบ ไม่ตื่นตระหนกจนเขาหัวเราะเยาะ “ฉันยังไม่ได้คำตอบ” ฉันถอนใจแรงๆ ไม่คิดว่าผู้ชายคนนี้จะดื้อด้านถึงขั้นนี้ “จะให้ธารตอบแบบไหนคะ ถึงถูกใจคุณ” ฉันถามเสียงแห้ง คำตอบที่ฉันตอบไม่มีทางถูกใจเขาหรอก หากนั่นไม่ใช่ สิ่งที่เขาต้องการ “นอนกับฉันสิ ฉันจะได้ไม่ติดใจอะไรอีก” ตฤณตอบเสียงแข็งปรายตามองธาริกา เธอมีท่าทางลำบากใจ สีหน้านั่น ทำให้ผมสะใจพิลึก “ธารไม่อยากทำแบบนั้นค่ะ” ฉันกลั้นใจตอบ “ทำไมล่ะ แค่นอนกับฉันอีกครั้งเดียว เธอคิดว่าฉันจะพิศวาสเธออีกหรือไง!!” เสียงที่แฝงไปด้วยความยโส เขาโกรธฉัน ฉันรู้แก่ใจตัวเอง แต่หากฉันทำอย่างที่เขาต้องการ ฉันก็คงละอายใจ จนไม่มีหน้ามองใครอีก ฉันเถียงเขาในใจ มันไม่ใช่แค่ครั้งเดียวเหมือนที่เขาพูดปาวๆ หรอก ชายตรงหน้าบ้าพลัง ฉันสะบักสะบอมหลายวันหลังจากนอนกับเขาครั้งก่อน เรื่องนี้ไม่มีวันจบหรอก หากเขาจ้องจะรังแกฉันแบบนี้ “คุณต้องสัญญามาก่อนว่าคุณจะไม่ยุ่งกับธารอีก?” ฉันกลั้นใจถาม “เธอคิดว่าตัวเองมีดี ขนาดทำให้ฉันอยากกลับมาหาเธออีกงั้นเหรอ” “ธารแค่อยากมั่นใจ” ฉันยืนกรานไม่อยากให้เรื่องนี้มันเลยเถิดมากไปกว่านี้...และอยากจบเรื่องน่าอดสูนี่เสียที “ได้...นี่จะเป็นครั้งสุดท้าย” ผมหรี่เปลือกตาลง ไขว้นิ้วไว้ด้านหลัง ผมไม่ได้โกหก ผมไม่ได้สัญญาอะไรเลย ธาริกาไม่ใช่คนที่ควบคุมเกม คนที่คุมเกมได้ คือผมแค่คนเดียว และนี่คือสิ่งที่ตฤณคิดในใจ “ที่ไหนดีล่ะคะ ขอธารเลิกงานก่อนได้ไหม” ผมจิปาก ยกมือเกาคาง...ประเจิดประเจ้อที่นี่คงไม่ดีนัก แต่หากเป็นรังรักของหล่อน ก็คงไม่ไหว ผมอยากนอนกกหล่อนในบรรยากาศแสนโรแมนติก และไม่ร้อนอบอ้าวเหมือนคราวก่อน “เอาเบอร์เธอมา ฉันจองห้องได้จะโทร.บอก” เธอนิ่งคิด แถมใช้เวลานานจนผมอดทนรอไม่ไหว “ว่าไง?” ตฤณถามย้ำ มือสั่นๆ ยื่นนามบัตรที่เคยทำไว้สำหรับติดต่อหางานพาร์ทไทม์ให้คนตรงหน้าแล้วก็รีบถอยหลังหนี “ถ้าเธอเปลี่ยนใจ คงรู้นะว่าจะเจอกับอะไร” เสียงขู่ดังตามหลัง ฉันกัดริมฝีปากล่างจนชา เร่งฝีเท้าขึ้นอีก ฉันอยากไปจากนรกขุมนี้เสียจริงๆ นรกแสนหวาน ยิ่งใกล้เวลาเลิกงานฉันก็ยิ่งผวา ทุกครั้งที่เสียงโทรศัพท์ดังฉันรู้สึกเหมือนอากาศรอบตัวน้อยลงไปทุกที ฉันอยากหนีไปจากที่นี่ตอนนี้จริงๆ แต่คนอย่างฉันเลือกทางนั้นได้เหรอ ตืดดดดดดด... เสียงสั่นเตือนดังยาวๆ ฉันไม่กล้าแม้แต่จะล้วงโทรศัพท์ออกมาดูด้วยซ้ำ ฉันเลี่ยงไม่ได้อีกแล้วหากอยากจบจากสถานการณ์ชวนอึดอัดครั้งนี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD