“เดีย!”
“ห๊ะ!”
“แกเป็นไรเนี่ย เหม่อนานแล้วปะ มีเรื่องอะไรในใจไหมอ่ะ”
“แก คือว่าฉัน…”
ครืด~ ครืด~
เสียงของลิเดียขาดห้วงเมื่อโทรศัพท์มือถือเครื่องหรูสั่นสะเทือนขึ้นมาขัดจังหวะ ลมหายใจอุ่นถูกพ่นออกมาเบาๆ มือเรียวยกขึ้นลูบใบหน้าของตัวเองน้อยๆ ก่อนจะตัดสินใจรับโทรศัพท์แทนการตอบคำถามปลายฟ้าออกไป
“ฮัลโหล…”
(ตอนนี้พายุกับไอ้ยักษ์มาถึงหน้ารถแล้วนะ ไอ้ยักษ์กำลังเช็กเพิ่มเติมอ่ะ แต่เหมือนจะมีปัญหา รู้งี้ไม่น่ามา อยู่กับเมียที่บ้านดีกว่า)
“รถเป็นไงอ่ะ ไม่ตรงปกเหรอ”
(ปัญหาเดิมอ่ะเดีย ผัวอยากขายแต่เมียไม่อยากขาย ดึงราคางี๊ เหมือนเด็กเล่นขายของ)
“อีกแล้วเหรอ รอบนี้เอาไงอ่ะ ตัวรถมันจบปะ”
(รวมๆ ก็โอแหละ อะไหล่แต่งทั้งคัน แต่ผัวเมียกำลังทะเลาะกันนี่ดิ โคตรเซ็งเลย)
“ใจเย็นๆ นะ มีอะไรก็ค่อยๆ คุยกัน”
(ครับ นี่เดียอยู่กับปลายฟ้าเหรอ)
“อือ ออกมากินกาแฟกันอ่ะ รอลูกค้าที่มัดจำรถกับพายุไว้มาถึงอยู่เหมือนกัน”
(ครับ ถ้ารถทางนี้จบเราจะกลับเลยนะ ดึกช่างมัน อยากกลับไปหาเดียมากกว่า)
“ง่วงต้องพักนะ ไม่ต้องฝืน พักผ่อนก่อนค่อยกลับก็ได้”
(เป็นห่วงเหรอ…) น้ำเสียงของพายุดูออดอ้อนจนคนฟังเผลอยิ้มตาม
“ก็ต้องห่วงสิ ไม่ห่วงนายแล้วจะให้เดียไปห่วงใคร”
(เดีย เราตัดสินใจแล้วนะ…)
“เรื่อง?”
(รับรถคันนี้เสร็จเราจะพาเดียเข้าบ้านไปเจอครอบครัวเรานะ) แทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองว่าจะได้ยินอะไรแบบนั้น ลิเดียกลืนน้ำลายเหนียวลงคอหนักๆ ดันตัวลุกจากที่นั่งด้วยความตื่นเต้นก่อนจะถามย้ำเพื่อฟังในสิ่งที่ไม่อยากให้เป็นแค่เรื่องที่คิดไปเอง
“พะ พายุว่าไงนะ”
(จะพาเดียเข้าบ้านครับ ที่จริงเราควรทำแบบนี้ตั้งนานแล้ว ขอโทษนะ เราช้าเกินไป)
“ไม่เป็นไรเลย สิ่งที่นายทำอยู่ทุกวันมันก็ดีที่สุดแล้ว เราต่างหากล่ะที่ต้องขอบคุณนาย ขอบคุณนะพายุ”
(อือ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเราจะอยู่ข้างเดียนะ รักเดียครับ)
“ให้มันจริงแบบที่พูดก็แล้วกัน”
(มันแน่นอนอยู่แล้ว ไอ้ยักษ์เรียกแล้วอ่ะ ยังไงถ้าจบไม่จบเดี๋ยวโทรหาอีกทีนะ)
“โอเค บ๊าย” ลิเดียวางสายด้วยรอยยิ้มและถูกแซวกลับทันทีเช่นกัน
“ผัวโทรหาแล้วร่าเริงขึ้นมาเชียวนะ เพื่อนฉันนี่เหมือนคนผีเข้าผีออกชะมัด”
“บ้า แกก็ว่าเกินไป”
“แล้วที่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่นี่คืออะไรจ๊ะ พายุว่าไงบ้าง”
“เขาจะพาฉันเข้าบ้าน”
“เข้าบ้าน!”
“อือ ก็อย่างที่รู้ๆ นั่นแหละว่าพายุเองก็เหลือแค่ป้าและญาติๆ ของเขา ที่จริงฉันกับเขาอยู่กันแค่สองคนก็ได้นะ อยู่แบบนี้มันก็ดีอยู่แล้ว ดีมากๆ เลยแต่พอได้ยินเขาบอกแบบนั้นมันก็ให้ความรู้สึกดีไปอีกแบบอ่ะฟ้า ฉันเองก็อธิบายไม่ถูก”
“อือ เข้าใจเลยแก ฉันดีใจด้วยนะ” ปลายฟ้ายิ้มกว้าง เธอกับลิเดียสนิทกันจนรับรู้เรื่องราวของกันและกันอยู่แล้ว ใครๆ ก็รู้ว่าพายุรักลิเดียที่สุด คู่นี้ไม่มีทางเลิกรักกันแน่ๆ เพื่อนสมหวังมันเป็นเรื่องที่ดีและโคตรดีใจอีกขั้นเมื่อเพื่อนได้รับโอกาสดีๆ
“เออฟ้า แต่มันยังมีอีกเรื่องนะที่ทำให้ฉันไม่ค่อยสบายใจ”
“เรื่องไรอ่ะ เรื่องที่ทำให้แกเหม่อก่อนหน้านี้ปะ” คนถูกถามพยักหน้าแทนคำตอบ มือเรียวรั้งแก้วเครื่องดื่มมาจิบก่อนจะเล่าเรื่องราวที่มันค้างคาอยู่ในใจ
“หลายวันก่อนฉันเจอใครก็ไม่รู้อ่ะ ฉันออกมาใส่บาตรหน้าบ้านแล้วดันเจอโดยบังเอิญ แบบคนนี้ฉันไม่เคยเจอเลยนะ”
“อ่าหะ เกิดไรขึ้นอ่ะ”
“เขาทักว่าฉันมีเคราะห์”
“มีเคราะห์? อยู่ๆ ก็มาทักงี๊เหรอ”
“อือ”
“บ้า ทำแบบนี้ได้ด้วยเหรอวะ”
“เขาบอกให้ฉันระวังเรื่องคดีความ จะมีเรื่องให้พลัดพรากด้วยนะเว้ย บอกตรงๆ ว่าฉันไม่สบายใจเลย”
“พวกหมอดูงี๊ปะ หมอดูก็หมอเดาปะ อย่าคิดมากน่าเดีย แกไม่เคยไปทำร้ายใครเขาก่อน แกไม่โวยวายด้วยซ้ำถ้าคนมันไม่มาหาเรื่องแก คนเราคิดดีทำดีชีวิตมันก็ต้องมีแต่เรื่องดีๆ ปะวะ”
“ฉันก็พยายามคิดแบบนั้นนะ แต่ลึกๆแล้วฉันก็ยังคิดมากอยู่ดี”
“แกได้บอกเรื่องนี้กับพายุปะ” คนถูกถามรีบส่ายหน้า
“ไม่กล้าอ่ะ กลัวพายุโวยวายแล้วไปหาเรื่องเขา”
“เออฉันก็ว่างั้น มนุษย์ป้าคนไหนกล้ามาแตะแก ผัวแกไปเผาบ้านเขาแน่ๆ ฉันฟันธงเลย” ปลายฟ้าพูดทีเล่นทีจริงสลับกับหลุดขำ แต่เพราะมีเรื่องดีๆ ที่พายุชโลมจิตใจไว้ก่อนหน้านี้พลอยทำให้ลิเดียสะบัดหัวแรงๆ ขับไล่ความรู้สึกบางอย่าง ปล่อยให้รอยยิ้มระบายออกมาแทน
“เออ ผัวฉันยิ่งโหดๆ อยู่”
4PM
(…อยู่หน้าบ้านแล้วครับ)
“หน้าบ้านแล้วเหรอคะ สักครู่ค่ะพี่” ลิเดียดีดตัวลุกจากเตียงแทบจะทันทีเมื่อลูกค้าที่นัดไว้มาถึงที่หมายโดยที่เขาไม่โทรถามทางด้วยซ้ำ
เท่าที่เจอมาอย่างน้อยๆ ก็มีโทรเช็กกันก่อนว่าถึงไหนแล้ว ไม่คิดว่าลูกค้ารายนี้จะโผล่มาถึงที่บ้านโดยไม่ได้โทรหาเธอล่วงหน้าเลย
“ขอโทษที่ให้รอนานนะคะ พอดีว่าเผลอหลับไป อ๊ะ…” ลิเดียขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อสบสายตากับลูกค้าเบื้องหน้า
คนตัวสูงใส่แค่เสื้อยืดสีดำกับกางเกงยีนส์สีฟ้าอ่อนและรองเท้าผ้าใบธรรมดา ดูธรรมดามาก ต่างกับหน้าหล่อๆ โดยสิ้นเชิง
“พี่ฮิว…ปะคะ” ลิเดียเอียงคอมองอย่างไม่ค่อยแน่ใจ
“พี่มัดจำรถไว้น่ะ” แล้วคำตอบของชายหนุ่มเบื้องหน้าก็เป็นคำตอบที่ทำให้รู้ว่า เขาคือ ฮิวโก้ รุ่นพี่ที่เธอเคยรู้จักจริงๆ
“อ่าค่ะ แฟนหนูบอกว่าจะมีลูกค้ามาดูรถ ไม่คิดว่าจะเป็นพี่”
“เขาไม่อยู่?” ลิเดียส่ายหน้าแทนคำตอบ หน้าหล่อๆ ของคนตรงหน้าดึงดูดสายตาอย่างบอกไม่ถูก ไม่ใช่ว่าชอบหรือคิดอะไรเกินเลยแบบนั้น เพียงแค่คิดว่าเขาเปลี่ยนไปมากจริงๆ
ไม่เหมือนพี่ฮิวโก้ที่เธอเคยรู้จักเลย!
“อ่า ขออนุญาตเช็กตัวรถนะครับ” เบสท์ หนุ่มหล่อคนสนิทของฮิวโก้เอ่ยขัดจังหวะ บนใบหน้าเผยรอยยิ้มบางๆ เมื่อแอบเห็นว่ารุ่นพี่ของเขาไม่กล้าสบตาสาวเบื้องหน้า
ที่ผ่านมาฮิวโก้ไม่เคยเสียอาการแบบนี้ การมีผู้หญิงตามตื้อทุกวันเป็นเครื่องการันตีว่ารุ่นพี่ของเขาเองก็มีความรู้สึก ไม่ได้เย็นชา ไม่ได้ไร้หัวใจแบบที่ใครต่อใครเขาคิดกัน
“นั่งก่อนนะคะเดี๋ยวหนูไปเอาน้ำให้”
“ขอเข้าห้องน้ำได้ไหม”
“ได้ค่ะ ห้องน้ำด้านในเลยค่ะ” ฮิวโก้ทอดสายตามองลิเดียเล็กน้อย ทันทีที่สบตากันก็เป็นเธอที่ส่งยิ้มกลับมา
“จะปล่อยให้คนแปลกหน้าเข้าบ้านคนเดียวเหรอ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พี่ไปเข้าเลย”
“ไม่กลัวของหาย?”
“คงไม่มีขโมยที่ไหนพูดแบบนี้หรอกค่ะ เดี๋ยวหนูไปหยิบเอกสารมาให้เช็กนะคะ” ลิเดียเดินเลี่ยงออกไปอีกทาง เบสท์เลยมีโอกาสได้เห็นว่าครั้งนี้รุ่นพี่ของเขามองตามสาวจริงๆ
“มองตาเป็นประกายเลยนะ สเปคเหรอ?”
“วุ่นวาย” ฮิวโก้ปรายสายตามองด้วยใบหน้าราบเรียบก่อนจะยอมเดินไปเข้าห้องน้ำแต่โดยดี
****************
พี่ฮิวเสียอาการหนักขนาดนี้ ตกลงเจอสาวในฝันหรืออาการมันเป็นยังไงบอกกันหน่อยซิ 555555