ตอนที่ 15
“คุณพาวน์เรียกแน่ะ พี่เต้ง” เลยทำให้คนรถนั้นต้องรีบชะงักกับสายยางฉีดน้ำที่ใกล้จะเสร็จแล้ว จากนั้นรีบปิดก๊อกน้ำทันที
“เอ้อให้ไปไหนแต่เช้าล่ะนี่”
“อ้าวลืมไปแล้วหรือพี่ก็ไปอำเภอนะสิคุณพาวน์น่ะมีธุระด่วนเร็วหน่อยนะตอนนี้คุณพาวน์กำลังอาบน้ำแต่งตัวเดี๋ยวเธอก็ลงมา”
จากนั้นนายเต้งก็ถอยรถออกมาหยุดจอดคอยสิบห้านาที และผู้จัดการโรงแรมสาวก็ก้าวลงมา จากนั้นจึงออกรถ เพียงปัทม์นั่งตัวตรงอยู่เบาะหลัง ถึงที่ว่าการอำเภออีกสิบนาที นั่งรถไม่นานก็ถึง
ภาพบนที่ว่าการอำเภอเจ้าหน้าที่ข้าราชการเริ่มทำงานอย่างนี้แลดูพลุกพล่านวุ่นวายและนั่นก็เป็นจังหวะที่กัลย์กฤษณ์แวะมาที่ว่าการอำเภอเช่นกัน เพราะว่าบัตรประชาชนใกล้หมดอายุ
เมื่อเห็นหล่อนเดินเข้ามาดวงตาของเขาเบิกกว้างพร้อมจ้อง จนแทบไม่เชื่อสายตามองยังไงก็เป็นหล่อนคนที่เขาอยากจะเจอนัก นี่หรือว่าเป็นเพราะพรหมลิขิตสงสารเขา เลยอยากให้มาเจอกับหล่อนอีกครั้ง
วันนี้หล่อนก็สวยแม้จะแต่งหน้าเพียงนิด ดูอ่อนหวานตามธรรมชาติ กับใบหน้าที่สดใส ยิ้มแย้มเหมือนเดิมในบุคลิกที่มาดมั่น
กัลย์กฤษณ์คิดว่าเขานั้นต้องหาโอกาสเพื่อจะคุยให้ได้และบอกกับตัวเอง ก่อนที่โอกาสจะหลุดลอยไปอีกครั้ง ตั้งใจจะถามซื่อแซ่ ที่อยู่ให้ครบถ้วนเขาจะได้ไม่ต้องปวดหัวหรือมึนกับตามหาหล่อนโดยไม่รู้ทิศทาง
และในวันนี้เขามาถึงก่อนหล่อนเพียงห้านาทีเท่านั้นทันพอได้รู้ว่าหล่อนก็มีคนขับมาด้วยและไม่ได้ขับรถเองก็แล้วนี่หล่อนเป็นลูกเต้าเหล่าใคร เพราะความเรียกร้องถามหานั่นเอง กัลย์กฤษณ์ถึงได้ใจกล้าถึงขนาดนี้ เขาตรงเข้าไป
“คุณครับวันนี้ถือว่าโชคดีอีกครั้งที่เราได้เจอกันอีกนะครับเอ้อผม กัลย์กฤษณ์ หรือกิ้นไงครับที่ร้านอาหารบึงดอกรักโน่นไงที่ผมไปทานกับเพื่อนๆแล้วได้เจอคุณ”
และฝ่ายของเพียงปัทม์เหลือบมองคนทักทายเสียงคล่องแคล่วแจ่มใส ชัดเจนน้ำเสียงนุ่มๆ หล่อนพอจะจำได้แล้วอ้อ เขาคนนั้นไง เล่า ที่มีมาดกวนๆหล่อนหน่อยๆฮึนี่คงพยายามแสดงออกเพื่อให้หล่อนสนใจในตัวเขาแบบเรียกร้องความสนใจนะหรือแต่คิดว่าหลังจากที่เพียงปัทม์ทำธุระเสร็จนั้น ใช้เวลาไปไม่ถึงสิบห้านาทีด้วยซ้ำ เพราะธุระช่องของหล่อนนั้นเป็นแค่ติดต่อเรื่องเอกสารและมีคิวไม่มากเหมือนเปลี่ยนชื่อสกุล หรือคัดสำเนาเอกสาร
และฝ่ายของกัลย์กฤษณ์นั้นการถ่ายบัตรใหม่ก็ใช้เวลาห้านาทีก็เสร็จสรรพ คิดว่าจะต้องกลับเข้าไร่เมื่อเสร็จแล้ว เห็นทีก็จะต้องเปลี่ยนใจเสียแล้วเพราะเจอสาวสวยนี่หนอเขาจะต้องหาทางคุยกับหล่อน อีก และจีบหล่อนให้ได้เลย ส่วนงานการก็ไม่ได้เสียหายอะไรเพราะมีเพื่อนสนิทอยู่ช่วยเหลืออยู่แล้ว
หากแต่เหมือนหล่อนนิ่ง และเขาต้องย้ำทวนคำเพราะกลัวจำเขาไม่ได้ต้องบอกอีกครั้ง
“เอ้อคุณครับผมชื่อกิ้นและคุณเอ้อจำได้แล้วคุณชื่อคุณพาวน์” เพียงปัทม์รู้ว่าเขาจำชื่อเล่นหล่อนได้จึงพยักหน้า
“ใช่ค่ะ”
“งั้น ยินดีที่ได้รู้จักครับ ผมเป็นคนหนองบัวแดงแต่กำเนิด”
“ค่ะ” เลิกคิ้วเล็กน้อยหากแต่ก็ไม่ยอมตอบมากกว่านี้ จนเขาต้องถามอีก เพราะอยากรู้
“แล้วคุณ เป็นคนที่ไหนครับ อยากรู้จริง”
เพียงปัทม์เงยหน้าขึ้นมองเขาเหมือนสังเกตด้วยดวงตา เขาเป็นคนที่หน้าตาดีอย่างมาก แต่ชอบสอดรู้สอดเห็นเรื่องคนอื่นแบบนี้ จึงตอบกลับด้วยคำเลี่ยง
“เอาเป็นว่า ฉันไม่ใช่คนที่นี่ก็แล้วกันค่ะคุณ”
ก็ถือว่ากัลย์กฤษณ์ยังพึงพอใจหากแม้หล่อนไม่ตอบตรงคำถามของเขาก็ตาม มันก็ยังดีกว่าหล่อนเป็นใบ้และไม่โต้ตอบเขาหากเท่านี้พอจะทราบว่าหล่อนนั้นคงไม่ต้องการจะเปิดเผยและเอาเถอะกัลย์กฤษณ์คราวหน้าคิดว่า นายจะต้องรุกหล่อนให้หนักกว่านี้เลยนะ
“ขอตัวก่อนนะคะเพราะดิฉันมีธุระ” คำเอ่ยนั้นรีบร้อนที่จะจากไปเหลือเกิน กัลย์กฤษณ์รีบเอ่ยเสียงประท้วง และไม่สนใจสีหน้าของหล่อนในเวลานี้
“เดี๋ยวก่อนสิครับผมว่าเพิ่งสิบโมงกว่านี่เองขอคุยด้วยหน่อย นะครับ เพราะผมก็จะกลับไปที่รถเหมือนกัน” หมายถึงนั้นคือเขาอยากจะฆ่าเวลา เพื่อเดินไปกับหล่อน และเขาก็ไปที่รถ ในระหว่างนั้นก็เพื่อจะได้คุยกับหล่อนบ้าง แบบคนตามตื้อ
“ก็ได้ค่ะ” เพราะสีหน้าที่รำคาญของหล่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงตึง
“คุณมาอยู่ที่นี่ นานแค่ไหนแล้วครับเอ้อ แล้วพักอยู่ที่ไหนกัน”
คำถามของเขาเลยทำให้สาวสวยขมวดคิ้วเรียวก่อนตอบและก็นึกในใจด้วยนี่เขามีสิทธิ์อะไรกันที่จะมาเที่ยวรับรู้เรื่องส่วนตัวของหล่อนและไม่เคยมีใครเคยกล้าถามหล่อนอย่างนี้มาก่อน ก็ความหมายโดยนัยนั้นก็พอจะรู้การที่พยายามเข้าใกล้หล่อนนั้นก็เพื่อจีบหล่อนเลยตัดบท เพื่อไม่ต้องเอ่ยกับเขาในประโยคต่อไปอีก
“ที่รีสอร์ทเพิ่งเปิดใหม่ค่ะชื่อภูเพียงฟ้าดิฉันเพิ่งเข้ามาทำงาน เพิ่งจะครบเดือนค่ะคงตอบคำถามคุณได้แค่นี้ล่ะดิฉันจะต้องขอตัวก่อนค่ะ” หล่อนทิ้งคำพูดนี้เป็นประโยคสุดท้าย และพอคนรถเปิดประตูเหมือนเชื้อเชิญให้หล่อนก้าวเข้าไปนั่งข้างใน ฝ่ายของกัลย์กฤษณ์ได้แต่ยืนงง และยกมือขึ้นเกาหัวแกรกเริ่มได้สติเออหนอนี่จะยากอะไรกันล่ะ กิ้น นายก็ตามไปถึงที่สิ อย่าโง่
และในทันทีที่รถคันหรูที่หญิงสาวนั่งมาด้วยแล่นออกจากที่ว่าการอำเภอ รถของเขาอีกคันก็ไม่รอช้า แล่นตามไปในทันที ไม่ต้องพะวงกับการงานในวันนี้หรอก แค่ขอให้เขาตามไปพบที่พักอาศัยของสาวสวยคนนี้ก่อน ดังนั้นจึงได้กดเบอร์ไปหาสัตวแพทย์หนุ่มเพื่อนรัก
“เฮ้ยหมอเราฝากงานช่วงบ่ายให้นายด้วยและเสร็จธุระกันจะรีบเข้าไป” ซึ่งจามิกรรับคำอย่างคนว่าง่ายสำหรับธุระปะปังของเพื่อนสนิทที่เป็นลูกชายเจ้าของฟาร์ม เพื่อนรักและก็ไม่ได้ซักถามอะไร
มองจากกระจกด้านหลังหล่อนมีความรู้สึกว่ารถกระบะแค้บสีน้ำตาลที่วิ่งตามหลังแค่ร้อยห้าสิบเมตร ดูเหมือนจะสะกดรอยตาม มานาน สังเกตจากท่าทีพิรุธของอีกฝ่าย ที่หล่อนรู้ นั่นคือ เจ้าของรถคือคนที่หล่อนได้คุยสนทนาด้วย นี่เขาตามหล่อนมาทำไมกัน หรือต้องการพิสูจน์คำพูดกันล่ะ คิ้วเรียวสวยขมวด และเมื่อใกล้ถึงช่วงทางโค้ง