ตอนที่ 14
แม้ทั้งที่รู้ว่ากัลย์กฤษณ์นั้นยังมีความผูกพันและสัมพันธ์ต่อตระกูลของย่าและบิดา ที่นางได้ตัดใจจากทุกสิ่งทุกอย่างมา เพราะคิดว่านี่ดีที่สุดแล้วทรัพย์สมบัติแท้จริงเป็นของใครก็ควรจะตกเป็นของผู้ครอบครองอย่างสมบูรณ์ คือคุณธิดาภรรยาหลวง ซึ่งตอนเมื่อก่อนในระหว่างที่นางอยู่กินกับนายโกสีย์ นั้นก็โดยไม่ทราบเรื่องว่าเขามีภรรยามาก่อน จนมาคลอดลูกชายเรื่องจึงแดงขึ้นหากว่าสำหรับนางมณีพิณในชีวิตนี้ก็ไม่เคยถูกตราหน้าว่าแย่งของคนอื่นแต่คราวนี้ต้องพบเจอกับตัวเอง รวมทั้งมันก็ไม่น่าแปลกใจที่นางกลับถูกพิษพยาบาทและอาฆาตปองร้ายจากภรรยาหลวงอย่างคุณธิดา
ทั้งๆที่นางมณีพิณก็เป็นฝ่ายขอราถอยทุกอย่างออกมามันน่าจะจบลงด้วยดีแต่ไม่เลยแต่นั่นเป็นเพราะมีลูกชายด้วยกันนั่นเองกับสามี ที่ถือว่าเป็นคนของตระกูล เหมือนเสี้ยนหนามบ่งใจให้ฝ่ายตรงกันข้ามผูกใจเจ็บอาฆาต ดังนั้นกัลย์กฤษณ์จึงไม่ถูกละเว้นในการติดตามปองร้ายหมายเอาชีวิตของคนเหล่านี้
“เพราะตอนนี้เรามีกันสองแม่ลูกนะลูกกิ้นและแม่มีความสุขเสมอที่สุดนะกิ้นลมหายใจของแม่ก็คือลูกจะไม่ยอมให้ใครมาพรากจากไป”
คำเอ่ยของมารดานั้นซึ้งและเต็มไปด้วยความหมาย กัลย์กฤษณ์ก็ขอให้สัญญากับตัวเองว่าเขานั้นจะทำให้ได้ตามที่มารดาต้องการและปรารถนา
และในบ้านหลังใหญ่ที่จังหวัดชัยภูมินางนิรมลหรือย่านิรมลนั้นได้ถามหาหลานชายคนโปรดจากนายโกสีย์ ผู้เป็นบุตรชาย
“เจ้ากิ้น นี่หนอมันก็ช่างไม่คิดถึงย่าเลยนะ ฉันได้ข่าวว่ากลับมาจากกรุงเทพแล้วเป็นเดือนไปตามให้แม่หน่อยซิโกสีย์ไม่รู้แบบนี้ไปเอานิสัยใครมาใช้กัน”
หากว่านางแขวะไปทางลูกชายที่นั่งอยู่บนวีลแชร์ใกล้ๆ สุขภาพของนายโกสีย์ไม่เอื้ออำนวย ทั้งโรคประจำตัว และล้มลงมีบาดแผลเจ็บปวดที่เกิดจากอุบัติเหตุก็เกือบทำให้เขาเป็นอัมพาตแต่หมอบอกว่ามีสิทธิ์จะหาย แต่ก็ต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร
และมีคุณธิดานั่งอยู่ไม่ไกลซึ่งนางรู้สึกขัดหูในคำพูดของมารดาสามีนักที่ยกย่องและยังชื่นชมกัลย์กฤษณ์ว่าเป็นหลานคนโปรดทั้งๆที่มีหริรักษ์ หลานชายอีกคนอยู่ใกล้จึงเก็บความไม่พอใจในสีหน้าเอาไว้
แต่ว่าการที่คุณนิรมลมักจะนึกถึงหลานชายคนโตมากกว่าคนหลัง เพราะสาเหตุเนื่องจากคิดว่า หริรักษ์หรือรุจน์ มีครอบครัวที่พร้อมสรรพอบอุ่นและธิดาก็เป็นแม่ที่ดีปัจจุบันรุจน์ เป็นหมอทำงานอยู่ในโรงพยาบาลของจังหวัด นางนิรมลก็ไม่ห่วงเท่าหลานชายคนโตที่ใจแข็งไม่แพ้แม่ ส่วนอดีตลูกสะใภ้นั้นแม้จะหย่าขาดจากลูกชายไปแล้ว แต่คุณนิรมลยังถือว่ามณีพิณเป็นลูกสะใภ้
เพราะหลานชายอยู่ที่นี่แม่มณีพิณไม่ค่อยจะมาวอแวที่นี่และมายุ่งเกี่ยวกันสักเท่าใด นอกจากธุระจำเป็นที่คุณนิรมลเป็นคนขอร้องและให้คนขับรถไปรับถึงที่คุณนิรมลไม่สนใจใครทั้งสิ้นแม้แต่สะใภ้อย่างธิดาซึ่งถือว่าเป็นเมียเอก
“นี่แกฟังหรือเปล่าแม่คิดถึงหลานกิ้น”
คำนี้นายโกสีย์พยักหน้าและรับรู้
ก็มารดาของเขานั้นท่านรักและเป็นห่วงหลานชายหรือลูกชายคนโตของเขาที่เกิดกับมณีพิณภรรยาอดีตนางงามซึ่งเป็นคนหนองบัวแดง ถึงแม้ชีวิตแต่งงานของเขาและเธอจะจบสิ้นในระยะสั้น
และนายโกสีย์ซึ่งปัจจุบันนี้สุขภาพไม่เอื้ออำนวยต้องไปพบหมอตามนัด เพื่อที่ร่างกายจะกลับคืนมาเป็นปกติทุกวันนี้รับฟังพูดคุยได้แต่เดินเหินไม่สะดวก เพราะอุบัติเหตุจากรถยนต์คราวนั้น
“ผมก็คิดถึงลูกเหมือนกันแต่คิดว่าแม่เขาคงไม่อยากให้มาที่นี่หรอก”
“ฉันก็พอจะรู้จักนิสัยของแม่มณีเขาดีเขาไม่ใช่คนอย่างนั้นสักหน่อย นี่ถ้าฉันโทร.ไป เขาก็คงมาล่ะแต่งานแซยิดของฉันในเดือนถัดไป ฉันต้องให้แม่มณีกับหลานมาร่วมงานด้วยไม่รู้ล่ะฉันต้องการพบเจอหลานชายและอีกอย่างตากิ้นเองก็เรียนจบแล้วนี่”
หากนายโกสีย์ไม่ได้ตอบมารดาอีกอย่างการขยับตัวเคลื่อนไหวอย่างเชื่องช้าร่างกายของท่านในปัจจุบันไม่ได้ครบสามสิบสองประการ ได้แต่อยู่กับบ้านเพียงอย่างเดียว ส่วนอาหารการกินได้คนใช้คอยดูแลอย่างใกล้ชิด และคุณธิดาภรรยาหลวงเธอนั้นรู้ว่าเมนูเช้าเย็นของแต่ละวันนั้นควรจะทำอะไรให้สามีทาน
และในที่สุดนั้นเพียงปัทม์ก็มาพักอยู่ที่ชัยภูมิจนถือว่าครบเดือนแล้ว หากแต่ก็ยังทำอะไรไม่เรียบร้อยและการปรับตัวเริ่มเข้ากับสภาพแวดล้อมที่นี่และคนงานทุกคนนั่นเพราะเพียงปัทม์ทำหน้าที่เป็นผู้บริหารที่หล่อนต้องใช้ถ้อยทีถ้อยอาศัยพึ่งพากัน หากแต่บางครั้งบทจะเข้มแข็งเด็ดเดี่ยว หรือเด็ดขาดหล่อนก็ทำได้ฉับไวในทันที จนบรรดาลูกน้องให้ความเกรงขามและเคารพในคำสั่งอำนาจของหล่อน
ที่ไม่มีใครนั้นกล้าหือแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นบรรดาพวกลูกน้องก็ต้องทำตามกรอบและกฎระเบียบด้วยถึงแม้ดูว่าเหล่าคนงานทั้งหมดจะมองเห็นหล่อนออกอาการเฮี้ยบก็ตาม หากแต่หล่อนก็น่ารักสำหรับทุกคน และใบหน้าหวานของเพียงปัทม์ชวนเกลียดไม่ลงอีกทั้งเจ้าเสน่ห์ หล่อนรู้จักวางตัวแก่ผู้ใหญ่ให้เป็นที่น่าเอ็นดู
หากว่าในยามเช้าตรู่ของวันนี้ทำให้หล่อนเกิดความรู้สึกแบบครั่นเนื้อครั่นตัวไปหมดเหมือนอาการของคนจะเป็นไข้เพราะรู้สึกแปลกๆตั้งแต่อยู่บนที่นอนตอนนี้เพียงปัทม์เหมือนจะลุกจากเตียงไม่ไหว ดังนั้นเพียงปัทม์เลยต้องทิ้งตัวหลับต่อ และก็มาตื่นอีกครั้ง เมื่อมีเสียงปลุกอยู่หน้าห้องเป็นแม่บ้านคนสนิทของหล่อนที่คุณป้าส่งให้มารับใช้ คือแก้วนั่นเอง ที่นึกเป็นห่วง
“ตื่นได้แล้วค่ะคุณพาวน์นี่จวนจะเก้าโมงแล้วนะคะเอ้อวันนี้คุณพาวน์มีนัดธุระไปที่ว่าการอำเภอ จำไม่ได้แล้วหรือคะ”
ตื่นเพราะน้ำเสียงแม่บ้านที่ปลุกเตือนอีกครั้ง และเพียงปัทม์จึงผงกศีรษะและจริงด้วยที่หล่อนจะต้องไปติดต่อในที่ว่าการอำเภอแล้วก็แวะไปยังหน่วยงานอ.บ.ต.กับประปาของตำบลที่นี่ ยังรู้สึกเบื่อ แต่จำต้องตื่นถึงแม้อยากหลับต่อ ภาระหน้าที่นั้นสำคัญ เพราะคุณป้าฝากให้หล่อนนั้นทั้งดูแลจัดการหมดทุกอย่าง
“ไปเรียกนายเต้งให้พาวน์หน่อยพี่แก้ว”
แก้วพยักหน้าและก็รีบเดินตามหาคนขับรถให้ ก็มาพบว่านายเต้งยืนรดน้ำต้นไม้อยู่ข้างตึกนี่เอง