Chapter 4 รักต้องห้าม (1)

1394 Words
Chapter 4 รักต้องห้าม (1) “อะ​ อูยยย…" เพียงสำลีชุบยาแตะลงบนรอยแผลที่แตก​ แทนไทก็สะดุ้งเพราะความเจ็บแสบที่แล่นพล่านไปตามกระแสเลือด​ แววตาขุ่นเคืองตวัดมองคนที่ทำให้เขาเจ็บซ้ำซ้อนอย่างเอาเรื่อง...เฟื่องลดา พยาบาลภาคดึกที่มาเปลี่ยนมือกับอีกคนที่กลับบ้านไปแล้ว ฝั่งตรงข้ามคือธามไท เขายืนกอดอกพิงผนังดูอยู่ห่าง​ ๆ​ แม้จะเห็นน้องชายโดนเล่นงานซะอ่วมอรทัย​ แต่ถ้าให้พูดความจริง​ เขาไม่นึกสงสารเลยสักนิด​ สภาพของภัคภัสสรยามวิ่งมาฟ้องยังคงติดตา...ให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว​ สุภาษิตนี้ยังคงใช้ได้เสมอ "ถ้าเธอทำฉันเจ็บอีกทีละก็​ ฉันจะไล่เธอไปรับจ๊อบที่อื่น​ ไม่ต้องมาที่นี่แล้ว!" "อยู่นิ่ง​ ๆ​ สิคะ​ อยู่เฉย​ ๆ​ ทำใจให้สบาย​ เฟื่องจะดูแลคุณสิงห์เอง" เสียงหวาน​ ๆ​ มาพร้อมกับการที่เจ้าหล่อนขยับเข้ามาใกล้มากขึ้น...ใกล้เสียจนกลิ่นกายหอม​ ๆ​ ลอยมาแตะจมูกคนเจ็บ​ หล่อนคงคิดว่านั่นจะทำให้ผู้ชายหลงใหลจนติดกับดัก​ แต่ไม่ใช่เขา​ เขาขอแหกความน่าจะเป็นทั้งหมด​ เพราะจะว่าไปแล้ว​ เขาไม่ได้อดอยากขาดผู้หญิงขนาดจะหน้ามืดใส่ทุกคน "เจ็บนิดเดียวนะคะ" เฟื่องลดาทำเหมือนแทนไทเป็นเด็กชายแทนไทที่ต้องใช้เล่ห์ล่อหลอกให้อยู่นิ่ง​ ๆ​ ​ขณะที่กำลังทายาให้ทั่ว​รอยแผล​ หล่อนต้องชะงักเมื่อเขาโวยวายฉุนเฉียว "นี่! ช่วยเอานมของเธอออกไปจากหน้าฉันได้มั้ย​ มันอึดอัดหายใจจะไม่ออกอยู่แล้ว!" คนเจ็บใช้ขายันกับพื้นแล้วไถลเก้าอี้ให้ถอยห่างจากเฟื่องลดา​ แล้วโบกไม้โบกมือทำเหมือนไล่แมลงหวี่แมลงวัน...การที่เขาโพล่งออกมาต่อหน้าธามไท​ ทำให้สีหน้าของพยาบาลสาวถึงกับเจื่อนลงไปด้วยความอับอาย 'ปากหมาชะมัด​ ก่อนไปอยู่เมกาปากหมาแบบนี้มั้ยเนี่ย'​ หล่อนได้แต่คิดในใจแล้วก็ช่างแม่ง...แผลติดเชื้อเลือดไม่หยุดไหลก็ช่างหัวแทนไท​ ตอนนี้หน้าที่ของหล่อนจบแล้ว "เสร็จแล้วใช่มั้ยเฟื่อง" ธามไทเดินเข้ามาชะโงกมองไปบนหัวน้องชาย​ เมื่อเห็นพยาบาลเก็บอุปกรณ์ทำแผล "ค่ะ​ แผลไม่ใหญ่มาก​ ไม่ต้องปิด​ ไม่ต้องเย็บ​ แต่เพื่อความสบายใจ​ จะไปโรงพยาบาลเพื่อเอ็กซเรย์ดูก็ได้นะคะ" "อืม...ขอบใจนะ" ธามไทพยักพเยิดให้เฟื่องลดาออกไปก่อน​ ตอนนี้เขาอยากอยู่เพียงลำพังกับน้องชาย "จริง​ ๆ​ น่าจะแตกมากกว่านี้​ แค่นี้ยังน้อยไป" เสียงกระแนะกระแหนที่ลอยมาตามลม​ แทนไทพยายามไม่ใส่ใจ​ เวลานี้เขาไม่มีอารมณ์มานั่งทะเลาะกับใครทั้งนั้น หากไม่เห็นใจน้องชายที่แย่งกันมาเกิด​ ก็อย่าซ้ำเติม​ เขาแค่คิดแต่ขี้เกียจพูดออกไป "นายจะไปเอ็กซเรย์ที่โรงบาลมั้ย​ เผื่อกระทบกระเทือนทั้งหัวล่างและหัวบน" แทนไทตวัดมองคนพูด เมื่อเห็นอีกฝ่ายทำท่าปิดปากขำ​ เขากำลังถูกเยาะเย้ยจากพี่ชายแท้​ ๆ​ คิดอย่างแค้นเคืองที่ยามนี้เขาเหมือนหมาหัวเน่าผู้โดดเดี่ยวเดียวดายในบ้านหลังนี้ หากเขาว่ายน้ำเร็วกว่านี้อีกสักนิด​ ก็คงจะได้เข้าเส้นชัยก่อนธามไท​ หากเป็นเช่นนั้น​ อีกฝ่ายไม่ได้มายืนว่าเขาปาว​ ๆ​ อยู่เช่นนี้แน่​ ก็แค่ให้เกียรติที่พี่ชายชิงออกมาก่อนแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้นเอง "หากไม่อยากให้เกิดเรื่องอีก​ ต่อไปก็ต่างคนต่างอยู่​ อย่าไประรานปลายฝนอีก" "สุดท้ายพี่ก็เข้าข้างยัยเด็กเก็บมาเลี้ยง​ หึ เข้าข้างจนน่าแปลกใจ​ สรุปมันมีอะไรมากกว่านี้มั้ย" คนพาลหาเรื่องมาทะเลาะจนได้​ จนธามไทถึงกับส่ายหัวออกมาด้วยหมดคำที่จะตอบโต้ "พูดกับหมามันยังเข้าใจ​ แต่พูดกับนายบอกตรง ๆ​ ฉันเหนื่อยใจว่ะ" ก่อนที่จะบานปลายใหญ่โต​ ธามไทถอนหายใจแรง​ ๆ​ ใส่หน้าคนที่ไม่คิดจะสำนึกผิด​ ชายหนุ่มเดินหนีออกไปเพื่อแยกไปอยู่คนละมุม​ ปล่อยให้แทนไทนั่งจมจ่อมอยู่ที่เดิม เมื่ออยู่กับตัวเอง​ เขาหวังว่าน้องชายจะคิดอะไรได้บ้าง ยามสามทุ่มเศษ​ อากาศเริ่มเย็นลงเรื่อย​ ๆ​ จนน่านอนซุกกายอยู่ภายใต้ผ้าห่มอุ่น​ หากแต่เสียงเคาะประตูก็ดังก่อกวนช่วงเวลากิจกรรมส่วนตัว...แทนไทนั้นอาบน้ำเสร็จพอดี​ ชายหนุ่มอยู่ในสภาพผ้าขนหนูผืนเดียวพันกาย​ โชว์ซิกแพคท้าลมหนาวราวกับตายด้านไม่สะทกสะท้านกับอากาศที่หนาวเย็น ที่หน้าห้อง...เขาเห็นนันท์ภัสสรยืนยิ้มรออยู่​ หล่อนถือถาดเล็ก​ ๆ​ มาด้วย​ บนนั้นมีแก้วเครื่องดื่มวางอยู่ "มีอะไร​ ฉันจะนอน" เสียงนั้นแสนห้วน​ นันท์ภัสสรอาศัยยิ้มหวานเข้าสู้​ แววตาซุกซนไล่มองไปทั่วแผงอกกว้าง​ ก่อนหยุดนิ่งยังปมผ้าขนหนูที่ขมวดอยู่ตรงสะโพกสอบ​ ไรขนอ่อน​ ๆ​ ที่ไล่ลงมาตั้งแต่ใต้สะดือ​ มันหายลับเข้าในผืนผ้าสีขาวสะอาดที่ปกปิดความเป็นชายเอาไว้​ ชวนให้จินตนาการต่อยิ่งนัก "เพิ่งอาบน้ำเสร็จ​ จะนอนจริง​ ๆ​ เหรอคะ" แทนไทไม่ตอบ​ เขาไล่มองไปทั่วร่างอิ่ม​ ก่อนกระตุกยิ้มหยัน​ หล่อนมาในชุดนอนเผยผิวเนื้อนวลเนียน​ ไร้ซึ่งเสื้อคลุมทับไว้อีกชั้น นี่ก็อีกคน​ คิดว่าเขาจะชอบแบบนี้จนกระโจนเข้าใส่​ แต่เสียใจ​แผนนี้ล้มเหลว​ ไม่เนียนไปเรียนมาใหม่​ อยากบอกหล่อนแบบนั้น "แต่งตัวโชว์นมมาเคาะห้องผู้ชายกลางดึก​ แถวบ้านฉันเรียกว่าแรด!" โดนด่าขนาดนี้ใครไม่รู้สึกก็บ้าแล้ว​ นันท์ภัสสรยืนนิ่งหน้าชา พยายามเรียกสติที่กระเจิดกระเจิงกลับคืน "แต่พี่สิงห์เป็นพี่ชายฟ้า​ ไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นเลยนะ" "เหรอออ" เขาลากเสียงยาวทำตาเย้ยหยัน​ ก่อนจะโฟกัสไปยังสิ่งที่หล่อนถือมา​ "แล้วนี่อะไร​ เธอกะจะมอมเหล้าฉันใช่มั้ย​ปลายฟ้า" "ฟ้าแค่จะมาขอโทษแทนพี่ฝน​ ที่เธอทำให้พี่สิงห์เจ็บตัว" 'โถๆๆๆๆ​ แม่คนดีศรีสมร'​ คิดแล้วก็หัวเราะออกมาราวได้ฟังเรื่องตลก​ หากจะมาไม้นี้​เพื่อญาติดีด้วย เขาบ​อกได้เลยว่าหล่อนคิดผิดถนัด "ยังไงก็...ขอบใจนะ" เขาหยิบแก้วมาถือไว้​ ยิ้มแปลก​ ๆ​ แบบไม่น่าไว้ใจ...สักพัก นันท์ภัสสรก็ร้องลั่น "ว้าย! ไอ้พี่สิงห์!" ค็อกเทลในแก้วถูกสาดซัดใส่หน้าสวย​ ๆ​ เข้าเต็ม​ ๆ​ นันท์ภัสสรเต้นเร่า​ ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะทำกันถึงเพียงนี้ "ไป! ทีหลังอย่ามายุ่งวุ่นวายกับฉันอีก​ ถ้าไม่อยากเจ็บตัว!" “ปัง!” ตามมาด้วยเสียงปิดประตูใส่หน้า​อย่างไม่ใยดี หล่อนคงลืมไป​ ว่าเขาเกลียดหล่อนสองพี่น้องมากแค่ไหน "เสียเวลาชะมัด!" แทนไทสบถออกมาอย่างหัวเสีย​ เขาเดินพล่านไปมาอยู่ภายในห้อง​ คิดแต่ว่าจะเอาคืนภัคภัสสรอย่างไร​ หล่อนทำให้เขาเกือบสูญพันธุ์​ หัวแตกไม่เท่าไหร่​ แต่กล่องดวงใจแตกนี่เคลียร์กันยาวแน่นอน แต่จู่​ ๆ​ เทพก็ชนะมารเสียอย่างนั้น​ ขณะที่กำลังวางแผนอย่างหนักเพื่อหาเรื่องเอาคืนภัคภัสสร​ ก็มีเสียงกระซิบสั่งให้เขาเปิดประตูออกไปดูดำดูดีคนที่อยู่ข้างนอก​ ป่านนี้หล่อนอาจยืนร้องไห้ตกใจอยู่หน้าห้อง...ส่วนลึกร้องบอกแบบนั้น แต่เมื่อเปิดประตูออกไปก็พบเพียงความว่างเปล่า​ ทุกอย่างเงียบสงัดเหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น...หล่อนไม่อยู่ให้เขาถากถางรอบสอง​ แต่ก็ไม่เห็นต้องใส่ใจ​ จะเสียใจจากคำพูดของเขาจนไปผูกคอตายก็เรื่องของหล่อน​ สิ่งที่เขาต้องใส่ใจคือการคิดหาทางเอาคืนภัคภัสสร​ แค้นนี้ฝังรากลึก​ เขาสาบานกับตัวเอง​ หล่อนจะไม่ได้อยู่เป็นสุขในบ้านหลังนี้อีกต่อไป +++++++++
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD