"ลงมือสิปลายฝน ฆ่าฉัน เอาสิ เอาเลย.." เร่งเร้าเสียงกระเส่า แววตากรุ่นกระแสปรารถนามองสองมือที่กำลังปลดตะขอกางเกงด้วยลีลายั่วเย้า หล่อนทำให้เลือดในกายเขาพุ่งพล่าน เลือดร้อนวิ่งไปกระจุกรวมกันที่กลางกาย
+++++
เปรี้ยง! ซ่า.....
เสียงกึกก้องดังมาจากฟากฟ้าดำทะมึน สายฝนโหมกระหน่ำลงมาอย่างหนักราวโกรธขึ้งคนใต้ผืนฟ้า เม็ดหนักหน่วงสาดซัดลงบนร่างของคนที่กำลังวิ่งฝ่าสายฝนตามท้ายรถที่แล่นไกลห่างออกไปเรื่อย ๆ
รถคันนั้นใช้ความเร็วไม่มากนัก หากแต่หล่อนกลับไม่มีทางไล่ทัน ทั้งสายฝนก็ทิ่มแทงลงบนผิวเนื้อจนเจ็บแสบไปหมด ราวถูกเข็มนับร้อยจากเบื้องบนพุ่งใส่อย่างบ้าคลั่ง
"อย่า...อย่าไป...ฮือ ๆ"
หล่อนวิ่งตามจนเหนื่อยล้า เข่าอ่อนจนต้องทรุดลงนั่งคุกเข่ากับพื้นอย่างคนพ่ายแพ้ ชุดนอนสีขาวเปียกชุ่มจนแนบลู่ไปกับผิวเนื้อนุ่ม...ท่ามกลางม่านฝนจนภาพตรงหน้าพร่าเลือน แววตาฉ่ำน้ำพยายามเพ่งมองไฟท้ายรถที่ดูเหมือนแสงจะริบหรี่ลงไปเรื่อย ๆ
เขาไปแล้ว...ไปจริง ๆ และจะไม่มีวันหวนกลับมาแน่ หล่อนใจหาย มันหวิวโหวงจนต้องยกมือขึ้นทาบอก สัมผัสได้ถึงบริเวณนั้นที่สั่นสะท้านจากการสะอื้นจนตัวโยน...เสียงสะอื้นที่มาจากอารมณ์โหยไห้อาลัยอาวรณ์
"กลับมา...กลับมาได้ไหม...ได้โปรด...ฮือ ๆ"
มันคือความรักใช่ไหม ในที่สุดหล่อนก็รักผู้ชายใจดำที่ทิ้งกันไปได้ลง...หญิงสาวพยายามถามหัวใจที่กำลังปวดแปลบ ความเสียใจทำให้ลืมไปว่า ตัวเองกำลังนั่งปล่อยโฮอย่างบ้าคลั่งกลางสายฝนพรำ
เหมือนกำลังจะตาย บอกตัวเองเช่นนั้น สัมผัสได้ว่าใจกำลังเต้นเร็วจนผิดปกติ เหมือนร้อนรุ่มในอกทั้งที่ภาย นอกแสนหนาวเหน็บ และในจังหวะที่รู้สึกคับแน่นกลางทรวงอกจนอึดอัด แสงไฟก็สาดส่องมาที่ร่างของเธอ
"เธออยู่ตรงนั้น!"
น้ำเสียงที่เปล่งค่อนข้างดังนั้นคุ้นหูเหลือเกิน พร้อมเสียงฝีเท้าที่ดังใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ท่ามกลางความพร่าเลือนและหยาดน้ำตา เห็นเขาปราดเข้ามาหาร่างเปียกปอนของหล่อน และก่อนสติจะดับวูบไปนั้น หล่อนรับรู้ได้ว่าอ้อมแขนแกร่งได้รองรับร่างของตนเอาไว้ มาพร้อมเสียงสบถ
"เด็กโง่! ทำอะไรหัดคิดถึงคนอื่นบ้าง!"
เสียงนั้นคุ้นเคย หล่อนปล่อยใจดำดิ่งสู่ความมืดมิด ไม่สนใจสิ่งต่าง ๆ รอบกายอีกต่อไป