Chapter​ 6 เจ็บกว่าคือฉัน​ (2)​

1104 Words
Chapter​ 6 เจ็บกว่าคือฉัน​ (2)​ เหมือนเขาจะกังขาจึงคาดคั้นเอาให้ได้ มองไปยังร่างบนเตียงก่อนเมินหนี ถอนหายใจยาวอย่างกลัดกลุ้ม ตอนนี้ความคิดเตลิดไปไกล เขาอดคิดไม่ได้ว่าตอนเมานั้นทำอะไรบ้า ๆ ลงไปบ้าง เขากลัวเรื่องความสัมพันธ์แสนลึกซึ้ง คิดต่อไปว่าถ้ามันเกิดขึ้นแล้วบังเอิญพลาดทำหล่อนท้อง เมื่อท้องก็ต้องรับผิดชอบด้วยการแต่งงาน เมื่อคิดมาถึงตรงนี้เขาแทบบ้า และเขาจะปล่อยให้เป็นแบบนั้นไม่ได้ เขาไม่ได้รักนันท์ภัสสร ไม่เลยสักนิดเดียว ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้วภัคภัสสรจะอยู่อย่างไร ยามนี้เขาแคร์ความรู้สึกหล่อนเหลือเกิน "ถามตรง ๆ นะปลายฟ้า เมื่อคืนเรา...เรามีอะไรกันมั้ย!" นันท์ภัสสรนั่งนิ่ง​เก็บท่าที​ อารมณ์บางอย่างทำให้นึกอยากปั่นให้เขาหัวหมุนเล่น​ ๆ "ทำไมพี่เสือถึงคิดแบบนั้นคะ" "ก็...นอนด้วยกันทั้งคืนแบบนี้​ ร้อยทั้งร้อย..." "ทำไมคะ?" "ไม่น่ารอด!" นั่นแสดงว่าเขามีนิสัยแบบนั้น​ ใครมาถวายตัวถึงเตียงก็คงกินไม่เลือ​ก​ หากเมื่อคืนเขาเมาไม่มากและหล่อนเป็นคนอื่น​ ก็คงจะเกิดละครฉากอีโรติกในห้องนี้อย่างไม่ต้องสงสัย นันท์ภัสสรมองหน้าคนที่ยืนรอคำตอบอย่างไม่เข้าใจ​ ไม่รู้เขาคิดอะไรกันแน่ ยอมรับว่าตลอดสิบกว่าปีมานี้ยังรู้จักคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพี่ชายได้ไม่ดีพอ​ หากแต่แววตาและสีหน้าของคนบนเตียง​ เริ่มทำให้ธามไทใจคอไม่ดี "อย่าเงียบสิปลายฟ้า​ พี่จะบ้าตายอยู่แล้วนะ!" ทันใดนั้น​ หล่อนก็ยกสองมือขึ้นปิดหน้า​ สะอึกสะอื้นออกมาจนน่าตกใจ​ เสียงสะอื้นทำให้ธามไทเลิ่กลั่ก​ เขามองซ้ายแลขวา​ วิ่งไปสำรวจตัวล็อกประตู​ เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครพรวดพราดเข้ามาตอนนี้ "ฮือ​ ๆ​ มัน...มันน่าอาย​ ฟ้าขอโทษ​ ฟ้าไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดขึ้น​ พี่เสืออย่าโกรธฟ้าเลยนะคะ​ ฮือ​ ๆ" โว้ยยยย...นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน​ ยามนี้ความเครียดถาโถม จนธามไทต้องเดินพล่านไปทั่วห้อง​ ความวัวไม่ทันหาย​ ความควายก็มาแทรก​ จนเขาอยากนึกหายตัวไปจากโลกนี้ หากแต่ด้วยนิสัยส่วนตัวของนันท์ภัสสร​ ก็ทำให้ธามไทยังคงกังขา "เธอล้อเล่นใช่มั้ยปลายฟ้า​ พี่ไม่เชื่อจนกว่าจะพาเธอไปตรวจร่างกาย" “ฮือ​ ๆ​ แล้วจะตรวจยังไงคะ​ พี่เสือใจร้าย​ ทำลงไปแล้วก็ไม่รับผิดชอบ" "ก็...ก็ไปตรวจหาเยื่อพรหมจรรย์​ ถ้ามันยังไม่ขาด​ล่ะก็ เธอตายแน่!" "ไอ้พี่เสือบ้า!​ แค่ออกกำลังกายมันก็ขาดแล้วมั้ยคะ​ เยื่ออะไรนั่นมันจะมองเห็นง่าย​ ๆ​ ขนาดนั้นเชียว​ ​ฮือ​ ๆ" หล่อนซุกหน้ากับหมอน​ ที่เอาหมอนปิดหน้าเพราะกำลังหลุดขำ​ ใช้เสียงสะอื้นข่มเสียงหัวเราะ​ ทำทีเป็นฟูมฟายตีโพยตีพายเพื่อกลบเกลื่อน​อาการ เขาช่างทำตัวดึกดำบรรพ์​ที่เรียกหาเยื่อพรหมจรรย์​ สมัยนี้ใคร​ ๆ​ ก็รู้ว่ามันใช้วัดความบริสุทธิ์ของผู้หญิงไม่ได้ การที่หล่อนร้องไห้ไม่หยุด ทำให้เขาชักจะคล้อยตาม​ นึกไปถึงเมื่อคืนเขาจำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง​ ลากหล่อนเข้าห้องตอนไหนนั้นจำไม่ได้จริง​ ๆ "ที่มันเกิดขึ้น​ ก็เพราะเธอหาเรื่องใส่ตัว​ พี่คงไม่เมาจนเคาะห้องผิด​ แล้วลากเธอออกจากห้องมาที่นี่หรอกนะปลายฟ้า" เขายังคงไม่โทษตัวเอง​ เพราะพฤติกรรมที่ผ่านมาของอีกฝ่าย​ ทำให้เขาคิดเป็นอื่นไม่ได้จริง​ ๆ "แต่ในเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว​ พี่เสือจะรับผิดชอบยังไงคะ​ ฮือ​ ๆ" "....." เมื่อหล่อนถามหาความรับผิดชอบ​ เขาก็นิ่งอึ้ง​ ยอมรับว่ามันตื้อตันจนหาทางออกไม่เจอ เตียงนอนที่ไหวยวบเหมือนมีอะไรหนัก​ ๆ​ ทาบทับ​ ทำให้นันท์ภัสสรค่อย​ ๆ​ เงยหน้าขึ้นมาจากหมอนนุ่ม​ เห็นเขานั่งกุมขมับสลับกับถอนหายใจ​ ใบหน้าคมคร้ามที่เคร่งเครียด​ ทำให้เกิดความรู้สึกหลากหลายขึ้นในห้วงอารมณ์ นึกสงสารเขาอยู่ไม่น้อย​ แต่ความรู้สึกนั้นมาพร้อมกับใจที่เจ็บลึก​ มันเจ็บจากการที่เขาทำเครียดหนักเพราะต้องมารับผิดชอบในสิ่งที่กระทำลงไป ยิ่งตอกย้ำ​ ต่อให้ตายจากกันเขาก็ไม่มีวันรักเธอ เมื่อความสงสารมีอำนาจเหนือจิตใจ​ หล่อนก็เลิกเล่น​ เก็บความรู้สึกเจ็บปวดเอาไว้จนลึกสุดใจ​ ก่อนจะยื่นมือไปเขย่าท่อนแขนแกร่ง "เครียดเลยเหรอคะ" ยังจะมีหน้ามาถาม​ นาทีนี้เขาอยากตะโกนใส่หน้าหล่อนเหลือเกิน​ เมื่อเงยหน้ามามอง​ เขาก็เห็นรอยยิ้มหน้าเป็นลอยอยู่ตรงหน้า คนที่ฟูมฟายเมื่อสักครู่นั้นหายไปแล้ว เป็นนันท์ภัสสรคนที่สดใสเข้ามาแทน "ยิ้มอะไร​ มันเครียดรู้มั้ย​ ฮึ! " "ตกใจใช่มั้ยล่ะ" "....." "ฟ้าล้อเล่น​น่ะ เลิกเครียดได้แล้ว" "ปลายฟ้า​ มันไม่ตลก!" ปลายนิ้วเรียวจับมุมปากสองข้างของอีกฝ่ายเอาไว้​ บังคับให้เขายิ้มด้วยการดึงรั้งขึ้นไป​ ในขณะที่เขาไม่เล่นด้วย "ฟ้าแค่อำเล่น​ ยิ้มหน่อยนะคะ​ นะ​ ๆ" หล่อนหัวเราะใส่ตาคนที่กำลังถูกปั่นประสาท​ ใครเล่าจะรู้​ ภายใต้ความสดใส​ หล่อนต้องทนเก็บอะไรเอาไว้บ้าง ธามไทยังคงนั่งนิ่งอยู่บนเตียง​ ในขณะที่หล่อนก้าวลงไปยืนอยู่ข้างล่าง​ "ไม่ต้องคิดมากนะคะ​ ไม่มีอะไรจริง​ ๆ​ พี่เสือสบายใจได้" หล่อนคลี่ยิ้มเพื่อตอกย้ำถ้อยคำ​ พยายามปรับแววตาให้เป็นปกติ​ ไม่ให้เขาเห็นถึงความน้อยเนื้อต่ำใจ​ ก่อนจะขอปลีกตัวออกไปจากตรงนี้​ ทำเหมือนกับว่าทุกอย่างเป็นปกติ​ เพื่อให้เขาสบายใจ เพียงบานประตูปิดสนิท​ ความคิดบางอย่างก็เริ่มสุมเข้ามาในหัวธามไท​ หล่อนทำให้เขาเริ่มสับสน​ เขาชักไม่แน่ใจเสียแล้วว่าเรื่องไหนคือเรื่องจริง​ เรื่องไหนคือการโกหก​ บางที...หล่อนอาจโกหกเพื่อให้เขาสบายใจก็เป็นได้ ชายหนุ่มนอนหงายหลังลงไปบนที่นอน​ แขนข้างหนึ่งก่ายหน้าผาก​ รู้สึกปวดหัวตุบ​ ๆ​ จากเรื่องราวที่รุมเร้า​ เขาไม่รู้เลยว่าระหว่างเครียดเรื่องบริษัท​ กับเครียดเรื่องนันท์ภัสสร​ ยามนี้เรื่องไหนทำให้เขาว้าวุ่นมากกว่ากัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD