(พักพิง)
“เอาล่ะ งั้นหมายความว่าทั้งสองรู้จักกันสินะ?” คุณจอมทัพถามฉันหลังจากที่ฉันดีใจมากจนกระโดดกอดและหอมแก้มของขนมปังไปจนโดนคุณจอมทัพดุและให้นั่งลง
“ค่ะ ขนมปังเป็นรุ่นน้องต้องมหาวิทยาลัย”
“อืม งั้นตอนนี้นายพักอยู่ที่ไหน?”
“บ้านครับอยู่ถัดไปไม่กี่ซอยไม่มาสายแน่นอนครับ” ขนมปังบอกเมื่อก่อนขนมปังเป็นเด็กขยันมากต้องทำงานและเรียนไปด้วย แถมยังต้องเลี้ยงน้องอีกทั้งขยันและอดทนมาก ๆ เลยล่ะ
“โอเค งั้นก็มาทำงานพรุ่งนี้ได้เลย”
“ขอบคุณมากครับ!” ขนมปังยกมือไหว้ขอบคุณส่วนฉันก็ยิ้มอย่างดีใจที่ขนมปังได้งานทำแล้ว หลังจากเรียนจบฉันก็กลับไปอยู่บ้านเลยไม่ได้ติดต่ออะไรกันเลย
“เจ้าจอมต่อไปนี้พี่ขนมปังจะเป็นพี่เลี้ยงของเรา”
“ซาหวัดดีครับ” เจ้าจอมยกมือไหว้อย่างน่ารัก
“สวัสดีครับพี่ของฝากตัวด้วยนะครับ^^” ขนมปังบอกกับคุณเจ้าจอม
“ครับ!!”
บนรถ
“เด็กคนนั้นเป็นยังไงบ้าง?” หลังจากที่ตกลงรับขนมปังเข้าทำงานฉันกับคุณจอมทัพก็ออกมาทำงาน และระหว่างที่กำลังเดินทางเขาก็ถามฉันขึ้นมา
“หมายถึงขนมปังเหรอคะ?”
“ใช่สิ คิดว่าฉันจะถามถึงเจ้าจอมหรือไง?” แค่นี้ทำไมต้องดุด้วยเนี่ย?!
“ขนมก็น่ารักค่ะ ใจดีและรักเด็กขยันทำงานเพราะต้องดูแลน้อง ๆ อีกสองคนไม่มีพ่อแม่เสียเพราะอุบัติเหตุ ฉันรับรองเลยค่ะว่าขนมจะไม่ทำคุณผิดหวังแน่นอน” ฉันตอบออกไป
“หึ ถ้าเด็กนั่นทำงานได้ไม่ดีเธอจะโดนลงโทษไปด้วยเข้าใจไหม?” เขามองฉัน
“ค่ะ!!ฉันยอม” เพราะฉันมั่นใจว่าขนมปังจะทำงานได้ดีอย่างแน่นอน
“และที่สำคัญนะคะให้ขนมปังดูแลและอยู่ใกล้ ๆ คุณเจ้าจอมก็ดีแล้วล่ะคะเพราะขนมปังเองก็พอมีความสามารถด้านการต่อสู้อยู่เหมือนกันถ้าเกิดอะไรขึ้นมากับคุณเจ้าจอมขนมปังจะสามารถดูแลและปกป้องได้อย่างแน่นอนค่ะ”
“อืม หวังว่าฉันจะเลือกไม่ผิดคน”
หลายวันต่อมา
ใจกลางเมืองกรุงเทพ...
และแล้ววันนี้ก็มาถึงวันที่จัดการรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการไม่สิ...เหมือนเป็นงานเลี้ยงเพื่อขอบคุณมากกว่าคุณจอมทัพต้องการขอบคุณประชาชนที่เลือกเขามาเป็นนายกรัฐมนตรี เลยได้มีการจัดการประจำปีขึ้นทั่วประเทศและมันก็จะเป็นแบบนี้อีก 3 ปีหรือตลอดการรับตำแหน่งของเขานั่นเอง
เพราะงั้นวันนี้นอกจากงานที่ต้องประสานงานต่าง ๆ แล้ว ฉันยังต้องระวังเรื่องความปลอดภัยเป็นพิเศษเพราะว่าวันนี้นั้นคนเยอะมากและเขาก็ยังลงทำจัดการทุกอย่างเองอีก เพราะงั้นเลยอันตรายมาก ๆ ฉันไม่สามารถคาดสายตาของเขาได้เลยได้แม้แต่วินาทีเดียว
“สวัสดีครับประชาชนทุกท่าน...”
แปะ! แปะ! แปะ!!
วู้ววววววววว~
กรี๊ดดดดดดดดด~
เสียงกรี๊ดร้องอย่างดีใจเมื่อเขาขึ้นเวทีโดยมีฉันที่ยืนอยู่ด้านหลังยังตกใจเลยแต่เขานิ่งมากคงจะชินแล้วแหละ ก็นะเขาทั้งหล่อทั้งเก่งแถมยังรวยมากอีกคะแนนส่วนมากก็มาจากสาว ๆ นั่นแหละ แต่ส่วนสำคัญไม่ใช่หน้าตาของเขาหรอกแต่เป็นนโยบายต่าง ๆ ของเขาต่างหากที่เข้าถึงคนรุ่นใหม่
“เงียบกันก่อนนะครับผมขอพูดไม่นานและจะปล่อยให้ทุกคนทุกจังหวัดได้สนุกกันต่อในค่ำคืนนี้...” เขาบอกช่วงระยะเวลาที่เขาพูดจะได้รับการถ่ายทอดไปทั่วประเทศ
“...” ทุกคนต่างพร้อมใจกันเงียบ
“ที่ผมจัดงานนี้ขึ้นมาเพื่อขอบคุณประชาชนครับที่ได้เลือกผมมาดำรงตำแหน่งในครั้งนี้ ผมไม่อยากจัดและเชิญแค่คนในสภาเพราะว่าพวกเขาไม่ใช่ส่วนสำคัญของการชนะครั้งนี้เพราะมีทุกคนผมเลยมีวันนี้ครับ เพราะงั้นงานครั้งนี้ผมเลยจัดขึ้นเพื่อขอบคุณประชาชนทุกท่าน ขอบคุณทุกคะแนนเสียงครับ ผมกล้ารับรองเลยว่าตลอดระยะเวลาที่ผมดำรงตำแหน่งอยู่นี้ทุกท่านจะได้เห็นความพัฒนาของประเทศอย่างแน่นอนครับ...”
แปะ! แปะ! แปะ!!
วู้ววววววววว~
กรี๊ดดดดดดดดด~
“จอมทัพ!!จอมทัพ!!จอมทัพ!!จอมทัพ!!จอมทัพ!!จอมทัพ!!” ทุกคนต่างส่งเสียงเพื่อเรียกชื่อของเขา ขอบอกไว้เลยนะว่านี้ไม่ได้การเตียมอะไรทั้งนั้นทุกคนต่างพูดออกมาเพราะว่าพูดออกมาเอง
“ขอบคุณครับงั้นวันนี้ผมขอให้ทุกคนสนุกทุกจังหวัดนะครับ!!!!” เขายกมือไหว้และก้มหัวให้ทุกคนจากใจจริง ก่อนงานจะเริ่มดำเนินกันต่อมีทั้งพ่อค้าแม่ค้าเครื่องเล่นต่าง ๆ ที่เหมือนสวนสนุก มีหนังกลางแปลง ลิเก โขน การแสดงต่าง ๆ และวงดนตรีที่มีชื่อเสียงเพื่อเอาใจวัยรุ่น
“น้ำค่ะ” ฉันส่งน้ำให้เขาเพราะว่าพูดไปเยอะ
“บอกให้ทุกฝ่ายดูแลเรื่องความสะอาดและความสะดวกอย่าให้การจาจรติดขัดจนเกินไป บางคนเขาอยากกลับบ้านเร็วเพราะทำงานเหนื่อยมาทั้งวัน” เขารับน้ำไปก่อนจะสั่งงานอย่างต่อเนื่อง
“ได้ค่ะ” ส่วนฉันก็รับคำสั่งและทำตามอย่างดีเช่นกันตอนนี้ฉันเริ่มชินกับการทำงานกับเขาแล้วแหละ
“อยากเดินเล่นไหม?” จู่ ๆ เขาก็พูดขึ้นฉันหันมองซ้ายมองขวาว่าเขากำลังพูดกับใครอยู่?
ฉันเหรอ?
“...?”
“เธอนั่นแหละฉันถามว่าอยากเดินเล่นไหม?” ก็อยากเดินเล่นอยูเหมือนกันแต่ว่างานก็ต้องทำไหมอ่ะ?
“ถ้าท่านไปด้วยฉันก็ไปค่ะ”
“หึ งั้นก็ไปสิ” และหลังจากนั้นเขาก็เดินนำไปร้านนู้นร้านนี่ถามไถ่เรื่องการค้าขายแม่ค้าพ่อค้าก็ต่างดีใจให้ขนมให้ของมาเยอะแยะมากมาย แม้ว่าเขาจะพยายามปฏิเสธก็ตาม
“ไม่ต้องให้อะไรผมหรอกครับเอาไว้ขายดีกว่า” เขาบอกแบบนั้นแหละ
“ไม่เป็นไร ๆ เพราะท่านนายกทำให้เราได้ออกมาหารายได้กันแค่นี้เล็กน้อยน่าเอาไป ๆ” และสุดท้ายก็ปฏิเสธไม่ได้ต้องเอามานั่นเอง
“ขอบคุณมากนะครับ”
“จ้า!!”
เราเดินไปทั่วงานจนมาถึงโซนการละเล่นพื้นบ้านที่เรียกว่ารํากระทบไม้โดนเราจะกระโดดข้ามไม้ไผ่ไปมาตามจังหวะของดนตรีนั่นเอง
“สวัสดีค่ะ/ครับ” เสียงของเด็ก ๆ ที่กำลังเล่นอยู่ทักทาย
“ครับ สนุกไหม?”
“สนุกกกกกก”
“ท่านนายกเล่นด้วยกันไหมคะ?” เด็ก ๆ ถาม
“เอ่อ อาเล่นไม่เป็นหรอก” เขาแทนกับเด็ก ๆ ว่าอาแหะน่ารักดี ฉันอมยิ้มนิดหน่อย
“นะ ๆ เล่นเถอะค่ะไหน ๆ ก็จัดการงานนี้เพื่อพวกเราท่านนายกก็ควรมีความสุขและสนุกสิคะ^^” หมับ!! เขาโดนเด็ก ๆ ลากไปเล่นไปด้วย
“งั้นอาขอเอาเลขามาเล่นด้วยไหม?” เลขา?
หมายถึงฉันเหรอ?
“ท่านนายกเล่นเถอะค่ะ...”
“พี่คนสวยมาสิค่ะ” หมับ!! และฉันก็โดนลากไปอีกคนสุดท้ายก็ต้องยอมสินะ
“แล้วเล่นแบบไหนละ?” คุณจอมทัพถามอย่างเขิน ๆ คงจะไม่เคยเล่นอะไรแบบนี้สินะ ก็นะตามประวัติเขาเกิดที่นี่ก็จริงแต่ไปเรียนที่ต่างประเทศตั้งแต่เด็ก
“แบบนี้ค่ะแค่กระโดดตามจังหวะไม่ให้ไม้มาหนีบขาของเรา” เด็ก ๆทำให้ดูซึ่งเขาก็ยังทำหน้างง ๆ อยู่
“งั้นท่านนายกจับมือแล้วกันค่ะ” หมับ! ฉันเอามือของเขามาจับไว้
“เธอเล่นเป็น?”
“ฉันมันเด็กต่างจังหวัดอยู่แล้วค่ะ ท่านแค่ยกขาแบบนี้...แบบนี้และแบบนี้” ฉันทำให้เขาดูช้า ๆ
“พี่สาวสุดยอดดดด!!” แปะ! แปะ! เด็ก ๆ ตบมือกันใหญ่
“ขอบคุณค่ะ งั้นเรามาเล่นพร้อมกันเลยไหม?” ฉันถามก่อนจะจับมือของเขาแน่นและดนตรีก็เริ่มขึ้นเราจะกระโดดไปตามทำนองและจังหวะ
และขณะนั้นเอง...
ฉันก็สังเกตเห็นจุดแดงที่หน้าผากของเขาลอบยิงเหรอ...
หมับ!!!
ฟิ้ววววว!!จึก!!!!!ฉันพลิกตัวบังเอาไว้แทนและผลักเขาล้มไป
“ว้ายยยย!!!!”
“ขะขอโทษค่ะ!!ตึกด้านหลังมีคนลอบยินท่านนายกค่ะ!” ฉันรายงานผลที่หูฟังบลูทูธซึ่งมันเชื่อมต่อบอดี้การ์ดรอบงานอีกร้อยกว่าคน
“เป็นอะไรไหม?”
“เราออกไปจากที่นี่กันเถอะค่ะ!!” หมับ!!จับให้เขาลุกขึ้นพยายามไม่แสดงอาการใด ๆ ออกมา
“เด็ก ๆ เล่นต่อเลยนะพอดีพี่ขาพลิกแล้วอ่ะ” ฉันบอกก่อนจะรีบพาคุณจอมทัพออกมาและคุณมอนก็มาเสริมตอนนี้เราต้องออกจากที่นี่ไม่อย่างนั้นประชาชนจะได้รับผลกระทบไปด้วยและที่สำคัญถ้ามีข่าวออกไปต้องวุ่นวายแน่!!!