“อ่าส์ ยัยบ้าเอ๊ย!” พอเดินออกมาจากผู้หญิงคนนั้นฉันก็บ่นนิดหน่อยเพราะว่าเจ็บแผลที่แขนเนื่องจากโดนกระชากเมื่อกี้
“สงสัยต้องไปห้องพยาบาลหน่อยละมั้ง?” เมื่อคิดได้อย่างนั้นฉันก็เดินไปที่ห้องพยาบาลเพื่อทำแผลเพราะคิดว่ามันน่าจะฉีกแล้วละมันกำลังจะหายแล้วแท้ ๆ
หมับ!!
“นี่!!ทำบ้าอะไรเนี่ย?!” ฉันร้องถามอย่างตกใจเมื่อจู่ ๆ ก็โดนชายในเครื่องแบบมาจับตัวอย่างรุนแรง
“อยู่นิ่ง ๆ ถ้าไม่อยากเจ็บตัว!!” ตำรวจนายหนึ่งพูดตอนนี้ก็เจ็บอยู่นะ
“พวกคุณนี่มันเรื่องบ้าอะไรปล่อยเดี๋ยวนี้นะ!!ไม่อย่างงั้นจะหาว่าฉันไม่เตือน!!” ฉันมองหน้าพยายามข่มสุดฤทธิ์
“หน้าอย่างกับแมวคิดว่าพวกเราจะกลัวหรือไง?”
“คนที่ควรกลัวคือเธอต่างหากที่ต้องไปนอนคุก!!มานี่!!” หมับ!!และพวกมันก็กระชากลากฉันไปเดินห้องทำงานของคุณจอมทัพ
“ปล่อย!!ฉันเดินเองได้!” ฉันบอกและพวกมันก็จับตรงแผลฉันพอดีเลยแม่งเอ๊ย!!!เจ็บฉิบหายเลยโว้ย
“หึ บอกแล้วว่าอีกไม่นานแกจะต้องโดนไล่ออก”เมื่อกำลังผ่านเข้าไปในห้องทำงานผู้หญิงคนนั้นก็มาเยาะเย้ยฉันแปลกว่าเธอรับรู้ว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับฉันสินะ เหอะ!!!
พลั่ก!!
ตุบ!!!และเมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้องทำงานของคุณจอมทัพก็พบว่าภายในห้องมีคนอยู่จำนวนมากภายในนี้ มาทำห่าอะไรกันวะ?! แถมไอ้ตำรวจสองคนนั้นก็โยนฉันลงกับพื้นอย่างรุนแรง ฉันมองไปรอบก็พบว่ามีรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงอยู่ด้วย
“นี่ละครับท่านนายกคนที่พยายามลอบทำร้ายท่านที่งานเลี้ยงรับตำแหน่ง”
“ฮะ?!” ฉันถึงกับร้องออกมา นะนี่เขากำลังใส่ร้ายฉันอยู่นะเว้ย!!
ขวับ!!ฉันหันไปมองหน้าของคุณจอมทัพเขานิ่งมากจนฉันไม่รู้ว่าตอนนี้เขาคิดอะไรอยู่ ส่วนฉันก็ยังไม่ได้โวยวายอะไรออกไปเลยถ้าไม่ผิดฉันไม่ควรโวยวายเหมือนคนโง่ และแน่นอนว่าฉันไม่ได้โง่
“จะให้ผมลงโทษยังไงดีครับแต่แบบนี้คงต้องประหารชีวิต...” มานิตหรือรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงเอ่ยออกมา เรื่องนี้แทบไม่มีใครรู้แล้วเขารู้ได้ยังไงว่าคุณจอมทัพเกือบโดนพยายามฆ่า...
“หึ”
“กำลังตายแต่ยังขำออกมาอีกเหรอ?”
“ที่นี่...มันทำเนียบรัฐมนตรีหรือสลัมกองโจรกันแน่คะทั้งข่มขู่ทั้งใช้ความรุนแรงที่นี่คือทำเนียบอันศักดิ์สิทธิ์จริง ๆ เหรอคะ?” พรึ่บ!!ฉันพูดและพยายามยืนขึ้นแม้ว่าตอนนี้จะเริ่มชา ๆ ที่แขนงก็ตามรู้สึกว่ากำลังมีบางอย่างไหลตามแขนแต่เพราะว่าใส่แขนยาวเลยไม่มีใครเห็น
“เพราะเธอเป็นสิ่งสกปรกที่ควรกำจัด เธอ!!พยายามฆ่านายกรัฐมนตรีของประเทศ!!เธอมันภัยของประเทศชาติเพราะงั้นควรได้รับการกำจัด”
“ขอหลักฐานหน่อยค่ะ หลักฐานที่ว่าฉันเป็นคนทำร้ายท่านนายก” ฉันเอ่ยถาม
“เรื่องนั้นผมส่งหลักฐานให้ท่านนากยกทั้งหมดแล้ว!!เธอไม่จำเป็นต้องดูท่านครับผมขอตัวพาคนร้ายออกไปครับ จับตัว!!”
หมับ!!
“หลักฐานอะไรไร้สาระ!!ฉันอยู่กับท่านนายกตลอดจะเอาเวลาไหนไปทำร้ายท่าน...” พยายามอธิบาย
“เธอไม่ได้ลงมือเอง!!แต่เธอจ้างวานให้นักฆ่าทำ!!และเราก็จับมือปืนได้แล้วด้วยพร้อมกับรับสารภาพว่าเธอเป็นคนว่าจ้างให้มันไปฆ่าท่านนายก!!!” นักฆ่าที่ไหน?
ฉันไม่เคยรู้จักนักฆ่าที่ไหนทั้งนั้นแหละแล้วฉันจะไปจ้างวานได้ยังไง?!
“ลากตัวออกไป!!!ผู้หญิงคนนั้นอันตราย!!” อันตราย?! แกละสิอันตรายไอ้แก่เอ๊ย!!ดูก็รู้ว่าเขาต้องร่วมหัวกับใครบางคนเพื่อจัดการคุณจอมทัพแต่เมื่อไม่สำเร็จก็เลยมาโยนขี้ใส่ฉันน่ะสิ!!
แล้วคุณเจ้านายก็ไม่รู้ว่าจะนั่งแอคอยู่อีกนานไหม?
เลือดจะไหลหมดตัวอยู่แล้วเนี่ย!!
“เดี๋ยว!!” เสียงคุณจอมทัพดังขึ้นพร้อมกับเอกสารบ้างอย่างในมือคงจะเป็นหลักฐานที่ว่านั่นแต่กว่าจะอ้าปากได้ไม่รอให้ฉันไปนอนคุกสักสามละ?
“มีอะไรรับสั่งเพิ่มเติมเหรอครับท่านนายก” นายมานิตถาม
“ผมไม่ได้บอกว่าให้พาตัวเลขาของผมไปเลยนะ และคิดว่าผมจะเชื่อหลักฐานกระจอกพวกนี้เหรอ?” พรึ่บ!!เขาโยนเอกสารกระจายทั่วห้อง
“หมายความว่ายังไงครับ?!” ตาโตเป็นไข่นกกระจอกเทศเลยนะ
“ผมรู้ตัวคนทำแล้วเพราะงั้นคงไม่รบกวนคุณมานิตหรอกครับ และก็ช่วยปล่อยเลขาของผมด้วยเธอไม่มีความผิด” เขาบอกและส่งสายตาดุ ๆ จนตำรวจที่จับฉันเอาไว้ต้องยอมปล่อย เมื่อเป็นอิสระฉันก็เดินไปหาเขาทันที
“ใครกันครับที่ท่านคิดว่าเป็นคนทำร้าย เพราะเราได้หลักฐานมาจริง ๆ และมีพยานด้วยว่าผู้หญิงคนนั้นหรือเลขาของท่านเป็นผู้จ้างวาน!!”
“ผมไม่ได้โง่เหมือนท่านนะครับที่จะเห็นหลักฐานแค่นั้นแล้วจะเชื่อ และผมก็ทราบตัวคนร้ายก่อนท่านซะอีก”
“ระรู้ก่อนเหรอครับ?”
“ครับ...แต่ที่ผมสงสัยก็คือพวกคุณทราบได้ยังไงครับว่าผมโดนลอบทำร้ายเพราะเรื่องนี้ผมพยายามอย่างหนักเพื่อปกปิดมัน...”เขาพูดและเดินออกไปยืนตรงหน้าของคุณมานิต
“เรื่องนั้นเพราะว่าผมเป็นรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงต้องคอยดูแลความปลอดภัยของประเทศชาติยังไงละครับ”
“ไม่ใช่ว่าคุณก็สมรู้ร่วมคิดเหรอครับ?” หู้ยย~ถามแบบนั้นเลยอ่อเด็ดจริง ๆ เลยนะท่านนายก หึ
“นี่ท่านกำลังใส่ร้ายผมเหรอครับ?!”
“ก็เหมือนที่คุณพยายามใส่ร้ายคนของคนผมยังไงละครับ หึ เพราะงั้นถ้าไม่อยากเดือดร้อนก็รีบ ๆ ถอนตัวออกมาจากคน ๆนั้นเถอะครับเพราะอีกไม่นานคน ๆ นั้นคงไม่เหลืออะไร...แม้แต่ตัว” เหมือนว่าเขาจะรู้ตัวแล้วจริง ๆ สินะ เหอะ!!
รู้...แต่ไม่คิดจะบอกและปล่อยให้ฉันกลายเป็นผู้ต้องสงสัยเนี่ยนะ?
ขวับ! ฉันหันไปมองเขาตาขวางแต่เขาก็ไม่สนใจอะไรฉันเลยแน่สิ ฉันมันแค่เลขานิ
“นี่ท่าน!!ผมกำลังช่วยกำลังคนทรยศอยู่สินะ!!” คุณมานิตโวยวาย
“ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือผมเองก็กำลังเตือนท่านเหมือนกันว่าคนที่รับใช้อยู่กำลังจะจบแล้วครับ ถ้าไม่รีบถอนตัวจะหาว่าไม่เตือน...เชิญออกไปได้แล้วครับทั้งหมดและทุกคน” เขามองไปที่เจ้าหน้าที่ทีละคนสายตาน่ากลัวมากเป็นฉัน ฉันก็ไม่กล้าอยู่ต่อแล้วล่ะ
“เหอะ!!!แล้วท่านจะเสียใจท่านนายก!!” ปัง!!และพวกนั้นก็ออกไปพร้อมทั้งปิดประตูอย่างแรง
“ไอ้โง่” ฉันหันไปมองหน้าของคุณจอมทัพเมื่อเขาด่าขึ้นหลังจากพวกนั้นเดินออกไปแล้ว ปากร้ายจริงนะ
“ไอ้มอน”
“ครับท่าน”
“ส่งหลักฐานทั้งหมดที่เรามีให้ผู้การเพทาย...” ผู้การเพทายหรือผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่สินะได้ข่าวว่าทั้งเก่งและอายุน้อยน่าจะพอ ๆ กับคุณจอมทัพนี่แหละ
“ได้ครับท่าน”
“อืม ออกไปได้แล้ว” และคุณมอนก็ออกไปเมื่อได้รับคำสั่ง
“ท่านนายกทราบแล้วเหรอคะว่าใครเป็นคนทำ?” ถามเขา
“อืม” แต่เขาตอบกลับมาสั้น ๆ และนั่งทำงานต่อ
“ไม่คิดจะบอกกันบ้างเหรอคะ?”
“เธอรู้แล้วช่วยอะไรได้ละ?” กึก!ฉันชะงักไปกลับสิ่งที่เขาถามกลับมาฉันเม้มตัวเองแน่นและหน้าชาไปต่อไม่ถูก
“ยะอย่างน้อยฉันก็เป็นเลขานะคะควรทราบว่าใครที่กำลังจ้องทำร้ายท่านอยู่ ฉันจะได้ระวังถ้าคนนั้นเข้าใกล้ท่านไงคะ?”
“อืม...ก็ใช่แต่เธอเป็นแค่เลขาทำงานเอกสารทั่วไปแม้เวลาออกงานเธอจะต้องรับหน้าที่ดูแลฉันเหมือนบอดี้การ์ดอีกคนก็เถอะ แต่เธอไม่ได้มีหน้าที่อะไรสำคัญขนาดนั้นนะพักพิงงานของเธอคือเป็นเกาะกันกระสุนเวลาฉันออกงานเท่านั้น ส่วนเรื่องที่เหลือมอนจะเป็นคนจัดการเอง”
“กะเกาะกันกระสุน?” ไม่แรงไปหน่อยหรือไงฉันรู้ว่าหน้าที่ของฉันก็เหมือนตัวหลอกทุกคนไม่เก่งอะไรเหมือนคุณมอนแต่อย่างน้อย...อย่างน้อยฉันก็ตั้งใจทำงานให้เขานะ
“ใช่ เพราะงั้นทำหน้าที่แค่ฉันให้ทำไม่ต้องมาวุ่นวายเรื่องที่ไม่ใช่ของตัวเอง”
ฮึก! สะอึกเลยแหะ
“ทราบแล้วค่ะวันหลังฉันจะไม่แส่แล้วกัน” ฉันบอกแค่นั้นก่อนจะกลับไปที่โต๊ะทำงานของตัวเองเกือบโดนกล่าวหา โดนเจ้านายด่า และแผลยังฉีกอีกวันซวยอะไรวะเนี่ย?!