ห้องมืด
พรึ่บ!!
“ทำให้มันตื่น” ผมสั่งลูกน้องพร้อมนั่งลงที่เก้าอี้และมองไปที่ไอ้มือปืนกระจอกที่กล้าลองดีกับผม ผมมองมันที่ตอนนี้โดนมัดไว้ตามร่างกายมันเต็มไปด้วยบาดแผลที่โดนซ้อมเพราะว่ามันพยายามหนี
ซ่า!!!
ลูกน้องของผมเอาน้ำสาดมันเพื่อเรียกให้มันตื่นระหว่างนั้นผมก็อ่านประวัติของมันไปด้วยชื่อไม่มีประวัติไม่มีแม้จะพยายามหาเท่าไหร่ก็ตาม แต่ในวงการมืดผมเองก็ไม่เป็นรองใครหรอกนะเป็นนายกไม่จำเป็นต้องใสสะอาดนี่น่าแต่แน่นอนว่าเรื่องเลว ๆ แบบนั้นก็เพื่อจัดการคนที่พยายามทำเลวกับผมก่อนก็เท่านั้นมันเป็นนักฆ่าที่โดนจ้างมาจากวงการมืดมันไม่มีประวัติอะไรนอกจากโตมาในแก๊งนักฆ่าที่ค่อนข้างมีเสียงชื่อคนพวกนั้นมันจะไปขโมยเด็กมาเพื่อเอามาฝึกเป็นนักฆ่ารู้อย่างเดียวคือมันชื่อสิบแน่นอนว่ามันต้องมีหมายเลขอื่นด้วย
“แค่ก ๆ”
“คำถามง่าย ๆ ตอบก็รอด ไม่ตอบก็ตาย” เมื่อมันลืมตาผมก็พูดกับมันทันทีเอาประวัติที่ไม่มีประโยชน์เผาไฟทิ้งไป
“แค่ก ๆ กะกูจะตอบยังไงมึงก็จะต้องฆ่ากูอยู่แล้ว!!” มันบอกแบบนั้นแต่ก็จริงนะแต่แล้วทำไมผมต้องเก็บมันเอาไว้ด้วยละ??
ให้มันกลับมาฆ่าผมอีกหรือไงเหอะ?!
“ใครส่งมึงมาล่ะ?”
“ไปหาเองสิ!!เก่งนักไม่ใช่หรือไง?!” มันยอกย้อนวะ หึ ปากดีจริง ๆ
“มันเสียเวลาเพราะงั้นมึงพูดมาซะก่อนกูจะค่อย ๆ ตัดแขนตัดขาของมึงทิ้งไปทีละชิ้น...” หมับ! ผมแบมือรับมีดยาวจากไอ้มอนก่อนจะลุกไปหามัน
“สิ่งที่ทรมานที่สุดคือการมีชีวิตอยู่แต่เจ็บปวดนี้แหละ...เพราะงั้นถ้าไม่อยากมีชีวิตแบบนั้นก็ตอบมาทั้งหมดที่มึงรู้” ฉึก!!ผมวางมีดลงที่แขนของผมและลงแรงกดเพื่อให้ความคมบาดแขนของมัน
“ฮึก! กูไม่รู้อะไรทั้งนั้น” ฉึก!!
“กูไม่ใช่คนไร้สัจจะถ้ากูบอกว่าปล่อยคือปล่อยเพราะงั้นถ้าไม่อยากต้องทรมานก็บอกมาทั้งหมดที่มึงรู้...” ผมพูดและมองหน้าของมันการฆ่ามันไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดสำหรับผมเพราะงั้นผมเลยไม่ฆ่าพร่ำเพรื่อ
“เหอะ!!นี่น่ะเหรอนายกรัฐมันตรีคนดี คนเก่งสุดท้ายมันก็เลวเหมือนกันหมดแหละวะ!!!!” มันตะโกนออกมา
“ไม่เคยบอกนะว่ากูเป็นคนดี ส่วนเก่งมึงก็ดูเอาเองจากที่กูมาทำทั้งหมดไม่ใช่ทุกคนที่จะได้รับความเลวจากกู คนที่เลวใส่กูก่อนต่างหากที่จะได้รับเพราะงั้น...มึงก็บอกมาได้แล้วว่าไอ้เลวที่ส่งมึงมาเป็นใคร?!” หมับ!!! ผมเปลี่ยนจากวางมีดเป็นกระชากคอของมันแทน
“ฮึก!!!กูจะรอดใช่ไหมถะถ้ากูบอกไป”
“อืม...” ผมตอบรับมันทันที
“ทะท่านอดีตนายกประสิทธิ์...” หึ ไอ้แก่เอ๊ย!!! หลังจากนั้นมันก็เล่าทุกอย่างที่มันรู้ให้ฟังทั้งหมด
“ปล่อยมันไป...” ผมบอกลูกน้องก่อนจะเดินออกมาจากห้องมืด แต่ว่าผมไม่ได้ปล่อยมันไปเฉย ๆ หรอกนะ แต่ผมจะส่งลูกน้องให้ตามไปด้วยซึ่งไอ้มอนรู้ดีว่าต้องทำยังไงต่อ...
บ้านนายกรัฐมนตรีจอมทัพ
แกร๊ด!!
“พ่อไปไหนมาครับ?” ผมกำลังเปิดประตูห้องนอนของตัวเองแต่ก็ต้องชะงักเมื่อเจอเจ้าจอมยืนกอดตุ๊กตาอยู่หน้าห้องตัวเอง
“ยังไม่นอนอีกเหรอ?” ผมถามกลับ
“หาววววว~เจ้าอยากไปนอนกับพี่พักพิง”
“ไม่ได้” ผมตอบเจ้าจอมทันทีอย่างไม่ต้องคิดไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมลูกผมต้องอยากไปนอนกับเธอด้วย
“ทำไมละฮะ? เจ้าเหงาอ่ะนอนคนเดียว” พูดพร้อมเอามือขยี้ตาสงสัยต้องให้เด็กขนมปังนั่นมานอนที่นี่ซะแล้วสิ
“ปกติไม่เห็นเหงา?” ก็เห็นนอนได้ทุกวันแต่วันนี้เหงาขึ้นมาซะงั้น
“ก็วันนี้เหงา...เจ้าไปห้องพี่พักพิงดีกว่า” รู้สึกเหมือนกำลังโดนลูกกวนตีน
หมับ! ผมไปคว้าตัวของเจ้าจอมมาก่อน
“ไม่ได้!” ผมบอก
“ทะทำไมฮะ?!” เบะปากเตรียมร้องไห้แล้วสินะ เฮ้ออออ~ แม่งอยู่กับพักพิงมากเกินไปหรือเปล่าเนี่ยเริ่มเหมือนกันละ
“เพราะพักพิงไม่สบายถ้าเจ้าไปนอนด้วยจะติดไข้มาด้วยและที่นี่เจ้าก็ต้องกินยาแล้วหาหมอจะเอาแบบนั้นไหม?” ผมขู่นิดหน่อยเพราะเจ้าจอมไม่ชอบกินยาและไม่ชอบหมอ
“ไม่อยาก!”
“งั้นก็อย่าไปนอนกับพักพิง แล้วเธอจะได้พักผ่อนด้วย”
“แต่วันนี้เจ้าเหงา...” ซึมเลยแหะท่าทางจะเหงาจริง
“งั้นก็ไปนอนกับพ่อแล้วกัน” หมับ!! ผมอุ้มเจ้าจอมขึ้นมาเพื่อพาเข้าห้อง
“จริงเหรอฮะ?!” แววตาเป็นประกายเชียว
“พาเข้าห้องขนาดนี้แล้วไม่จริงมั้ง?” ผมแกล้งพูด
“เย้ ๆ ดีใจจังได้นอนกับพ่อ *0*” สงสัยต้องพาไปนอนด้วยบ่อย ๆ ละมั้ง เพราะทำงานหลายอย่างทั้งงานที่บริษัทและงานบริหารประเทศเพราะงั้นเลยไม่มีเวลาให้เจ้าจอมเท่าไหร่ ขาดแม่แล้วยังต้องมีพ่อที่ไม่มีเวลาดูแลอีก เฮ้ออออ
พ่อขอโทษนะเจ้าจอม....
(พักพิง)
วันต่อมา...
ฝัน...
เมื่อคืนนี้ฉันฝันแปลกมากฉันฝันว่าโดนคุณจอมทัพจูบอยากจะบ้าตายคิดแบบนั้นได้ยังไงกัน นั่นเจ้านายแกนะพักพิง!! อยากจะกระชากหัวตัวเองและเอามาตบ ๆ สักสองทีจะได้ตาสว่างสักที
“เฮ้อออ~ยัยลามกเอ๊ย!” บ่นตัวเองไม่หยุด
“มายืนประสาทอะไรอยู่ตรงนี้?” เสียงของคุณจอมทัพดังขึ้นข้างหลังของฉันซึ่งในประโยคนั้นไม่มีอาการพิศวาทอะไรฉันทั้งนั้นเพราะงั้นเขาไม่มีทางมาจูบฉันแน่นอน ชิ!! แล้วทำไมฉันต้องรู้สึกเสียดายด้วยละที่มันเป็นแค่ความฝัน
“มะไม่มีอะไรคะ” ฉันตอบไป
“พี่พักพิงหายแล้วเหรอครับ?” คุณเจ้าจอมที่อยู่ข้าง ๆ คุณจอมทัพถามขึ้น
“คะ?” ฉันงงนิดหน่อย
“ก็คุณพ่อบอกว่าพี่พักพิงไม่ฉบายหายแย้วเหยอฮะ?”อ๋อ เรื่องนั้นเองตื่นเช้ามาก็ไม่ปวดไหนแล้วแต่ตุบ ๆ ที่แผลนิดหน่อยก็ไม่มีอะไรแล้ว
“ค่ะ พี่หายแล้วขอบคุณนะคะที่เป็นห่วง^^” ฉันยิ้มให้กับความน่ารักของคุณเจ้าจอม ทั้งที่พ่อดูดุขนาดนั้นแต่กลับเลี้ยงลูกได้น่ารักชะมัดเลย
“ไปกินข้าวกันได้แล้ว และถ้าหายแล้วก็ไปทำงานไม่ต้องลา”
“ฉันก็ไม่คิดจะลาอยู่แล้วค่ะ!” ฉันตอบกลับไปโหดเหลือเกินพ่อคุณเอ๊ย
ทำเนียบรัฐบาล
กึก! กึก!
“เอ่อ ไม่ทราบว่าคุณมีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ?” หลังจากทานข้าวเช้าเสร็จเราก็มาทำงานเหมือนเดิม แต่วันนี้คุณจอมทัพใช้ให้ฉันเอาเอกสารไปให้รัฐมนตรีกระทรวงการคลังเซ็นนิดหน่อย แต่ก็เจอกับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งฉันจำได้ว่าเธอเกือบจะได้มาเป็นเลขาของคุณจอมทัพแล้วและตอนนี้เธอก็มายืนขว้างทางของฉันอยู่ด้วย
“มี...”
“ว่ามาสิคะ?” ฉันเปิดโอกาสให้เธอมองดูก็รู้ว่าเธอไม่ชอบฉันและกำลังเกลียดฉันแบบสุด ๆ แต่แล้วไงใครแคร์ละคะ?
“มีข้อสงสัยน่ะว่าเธอ...มีอะไรดีไม่ทราบก็แค่เด็กจบมหาวิทยาลัยธรรมดา ๆ เกรดก็ต่ำ หน้าตาก็...ไม่แย่แต่ก็ไม่ได้ดี ทำท่านนายกถึงเลือกเธอมาทำงาน!” ดูถูกกันเกิ๊น!!
“แม้จะมหาวิทยาลัยธรรมดาแต่ฉันก็เรียนจบตามหลักสูตร แม้จะเกรดต่ำแต่ฉันก็พูดได้หลายภาษาฉันเน้นแค่ผ่านไม่ได้เอาคะแนนสูง ถามว่าทำได้ไหมทำได้ค่ะแต่ฉันไม่ทำกลัวเก่งเกินน่ะค่ะ นี่ขนาดยังไม่ได้ดีมากยังได้เป็นเลขานายกรัฐมนตรีของประเทศ ถ้าเก่งกว่านี้ฉันไม่ไปเป็นเลขาของมนุษย์ต่างดาวเลยเหรอคะ?” ฉันแค่อยากปั่นประสาทคน
หมับ!!!
“นี่!!เธออย่าได้ใจไปหน่อยเลยนะเพราะอีกไม่นานเธอก็คงโดนไล่ออก!!” เธอกระชากแขนของฉันก่อนจะตะโกนใส่หน้าเสียงดัง
“งั้นก็ให้ฉันโดนไล่ออกไปก่อนนะคะ ค่อยมาเยาะเย้ย^^” พรึ่บ!!ฉันปัดมือเธอออกไปกระชากข้างไหนไม่กระชากดันมากระชากข้างที่เป็นแผล!!
เจ็บ!!แต่เก็บอาการ
“...!!”
“แต่ว่าคุณอาจจะได้ออกก่อนนะคะ เพราะมัวแต่หาเรื่องคนอื่นงานการไม่ทำ” ฉันบอกแค่นั้นก่อนจะเดินผ่านเธอออกมาทันทีเพราะกลัวว่าเลือดจะไหลตามแขนออกมาจนเธอสังเกตุเห็นมัน