หลังจากที่ท่านนายกให้สัมภาษณ์เสร็จเราก็เดินเข้ามาในงานซึ่งเหล่านักข่าวก็ไม่ได้ถามเรื่องราวของฉันเท่าไหร่คงจะคิดว่าเป็นคู่ควงเหมือนไฮโซคนอื่น ๆ นั่นแหละ ซึ่งมันก็ดีแล้วแหละเพราะฉันเองก็ไม่รู้ว่าจะตอบอะไรออกไปเหมือนกัน
“ยิ้มเข้าไว้” เขาบอกกับฉัน
“บอกตัวเองเถอะคะเจ้านายทราบไหมคะว่าตัวเองหน้าตายแค่ไหน?” ขนาดตอนให้สัมภาษณ์เขายังไม่ยิ้มเท่าไหร่เลย
“เหอะ!!”
“สวัสดีครับท่านนายกรัฐมนตรีคนใหม่!!” ยังไม่ทันที่เจ้านายจะได้บ่นฉันต่อก็คนเข้ามาทักทาย
“สวัสดีครับคุณเมธาไม่ต้องเรียกแบบนั้นก็ได้ครับผมไม่ได้ซีเรียสอะไร” เขาบอกอย่างน้อมนอบ
“แหม ๆ จะไปเรียกเหมือนเดิมได้ยังไงเพราะว่าตอนนี้ท่านเป็นนายกบริหารประเทศไม่ได้บริหารแค่ระดับบริษัทแล้วนะครับ แต่ยังไงก็อย่าลืมผมนะครับทั้งบ้านผมน่ะเลือกท่านนะครับ” มาแนวนี้ไม่พ้นทวงบุญคุณและเกาะขอพึ่งใบบุญแน่ ๆ
“ขอบคุณสำหรับคะแนนเสียงนะครับ”
“และนั่นใครละ?”
“สะ...”
“ผมบอกแล้วว่าให้ลูกสาวผมมาเป็นคู่ควงให้จะได้ไม่ต้องไปจ้างให้เสียเงิน แต่ระดับท่านนายกพวกด้วยตำแหน่งท่านประธานแค่นี้มีปัญญาจ่ายอยู่แล้วใช่ไหมครับ ฮ่า ๆ” ไอ้แก่นี่เขาพูดแทรกขึ้นโดยที่ฉันยังไม่ทันได้ทักทายสวัสดีจบ ไม่มีมารยาทเอาซะเลยแถมยังชงลูกสาวตัวเองอีก เหอะ!!
“ขอบคุณสำหรับความหวังดีนะครับแต่ได้ยินว่าลูกสาวมีแฟนแล้วจะให้มาเป็นคู่ควงออกงานผมคงจะดูไม่ดีนะครับ”
“บ้าบอ!ใครบอกละครับว่าลูกสาวผมมีแฟนโสดดดดดด สนิทไม่เคยผ่านมือชายเลยครับ ^^” ขายแบบสุด ๆ
“ครับ งั้นผมขอตัวก่อนพอดียังมีอีกหลายคนที่ต้องทักทาย”
“เชิญครับ ผมเข้าใจว่าตอนนี้เราจะคงไม่ได้คุยกันนาน ๆ แต่ก็เสียดายอยู่ดีที่ไม่ได้ให้เมษามาเป็นคู่ควงป่านนี้ท่านคงจะได้ผู้หญิงที่เหมาะสมทั้งรูปร่างหน้าตาและฐานะจ้างมาแบบนี้ไม่รู้ว่าจะรู้จักมารยาททางสังคมหรือเปล่า...” แม้ปากจะด่าฉันแต่สายตาก็ไม่ละไปจากฉันเลยด้วยซ้ำ
หมับ!!
“เรื่องมารยาท...” กระชับแขนของเจ้านายก่อนจะพูดขึ้น
“...ขอบคุณนะคะที่เตือนแต่เตือนตัวเองก่อนดีกว่าเนอะ ไปกันเถอะค่ะเจ้านาย^-^” ฉันรีบตัดจบก่อนจะดึงคุณจอมทัพออกมาจากตรงนั้นเพราะกลัวโดนด่าเหมือนกันแหละพวกไฮโซนักธุรกิจบางคนก็อีโก้สูงงง จนน่ากลัวเลย บรื้อออ~
“หึ” แต่เหมือนคนข้าง ๆ จะชอบใจนิดหน่อย
“ไม่ว่าฉันเหรอคะ?” ฉันเงยหน้าถามไม่รู้ว่าจะสูงไปไหน
“คนแบบนั้นโดนตอกหน้าไปแบบนั้นบ้างก็ดีเหมือนกัน แต่อย่าทำบ่อย”
“รับทราบค่ะ”
เมื่อสั่งสอนฉันเรียบร้อยก็ได้เวลาไปพบปะผู้คนอีกครั้งฉันได้แค่เดินตามเขาไปทั่วงานเท่านั้นและไม่ลืมที่จะระวังตัวและคนที่เข้ามาหาเขา ตอนนี้เขายังเป็นนายกคนใหม่ผู้คนเลยสนใจเขามากกว่าเดิมและคิดว่าฉันเป็นเพียงผู้หญิงที่เขาจ้างมาแค่นั้นเลยไม่ได้สนใจและมองข้ามไปนั่นเอง
จ๊อกกกกก
แต่เมื่อเดินไปสักพักท้องฉันก็เริ่มร้องแล้วน่ะสิเพราะยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เช้ามัวแต่แต่งตัวอยู่เลยได้แค่ขนมปังไปเท่านั้น พอมางานฉันก็ปลีกตัวออกไปหาอะไรกินไม่ได้ด้วยได้แค่เครื่องดื่มไปแก้วเดียว รู้งี้หากินอะไรรองท้องมาก่อนดีกว่า
“ถ้าหิวก็ไปหาอะไรกินก่อน” เขาก้มมากระซิบข้างหูของฉัน
“แต่ว่า...”
“แต่อย่าไปไกลเธอต้องอยู่ในสายตาของฉันตลอดเวลา” ฉันพยักหน้าเข้าใจก่อนจะขออนุญาตออกมาจากวงสนทนา
“งั้นฉันขอตัวสักครู่นะคะ” ฉันพูดออกไปแต่ก็ไม่ได้มีใครสนใจ ฉันเลยเดินออกมาเงียบ ๆ และไปที่โต๊ะอาหารที่ทางงานเตรียมเอาไว้ ฉันกินไปและมองเจ้านายไปด้วยเพราะว่าไม่อยากใครเขาคาดสายตาถ้ามีอะไรแปลก ๆ ฉันจะได้เข้าไปได้ทัน
กึก!
และระหว่างที่ฉันกำลังกินและมองเจ้านายไปด้วยแต่ก็ไม่ใช่ว่ามองแค่เขาหรอกนะฉันต้องจับตาคนรอบตัวเขาด้วยแต่ก็พบว่ามีผู้ชายคนหนึ่งกำลังตรงเข้าไปที่ตรงคุณจอมทัพอยู่ฉันเลยวางของกินในมือและเดินกลับไปไม่รู้ผู้ชายคนนั้นมีอะไรในกระเป๋าหรือเปล่าเพราะเขาล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่ด้วย ฉันรีบเดินและเข้าไปแทรกระหว่างคุณจอมทัพและผู้ชายคนนั้น
พรึ่บ!!
“ฉันกลับมาแล้วค่ะ ^^” ฉันเกาะแขนเอาตัวเองบังเขาเอาไว้
“อืม”
ฉันหันไปมองผู้ชายคนนั้นนิดหน่อยเขาก็เดินออกไป ฉันไม่รู้ว่าเขาจะเข้ามาหาคุณจอมทัพหรือใครที่เป็น 1 ในบทสนทนานี้ฉันมองหน้าของทุกคนแต่ว่าคนที่ใกล้คุณจอมทัพที่หน้าตาเขาดูใจดีนะฉันไม่รู้ชื่อแต่เขาเป็นคนที่ยิ้มให้ฉันบ่อย ๆ
ชั่วโมงต่อมา...
ปึก!!
“เฮ้ออออ” ตอนนี้เรากำลังเดินทางกลับแล้วเพราะว่าคุณจอมทัพมีงานช่วงเช้าและพอขึ้นรถมาเขาก็ถอนหายใจออกมาแรง ๆ คงจะเหนื่อยมากสินะเพราะต้องคุยกับคนนู้นคนนี้เต็มไปหมดเลยนิ
“เหนื่อยเหรอคะ?” ฉันถาม
“อืม”
“งั้น....” ปัง!!
“ว้ายยยย!!”
“ท่านครับเราโดนไล่ตามครับ!!” และยังไม่ที่ฉันจะพูดจับรถของเราก็โดนยิงและคุณมอนที่เป็นคนขับก็บอกสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ฉันตั้งสติและหันมองคนข้าง ๆ ที่ต้องดูแลสีหน้าของเขาเหมือนไม่ได้ตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น คงจะชินแล้วละมั้ง?
“มีรถตามมากี่คันคะ?” ฉันถามคุณมอนและหยิบปืนที่ขาใต้กระโปรงขึ้นมา
“สามคันครับ แต่ตอนนี้รถอารักขาได้ทำการขัดขวางไปแล้วสองและกำลังตามเราอีกหนึ่งครับ”
ปัง! ปัง! และรถของเราก็โดนยิงมาอย่างต่อเนื่อง
“คุณพักพิงดูแลท่านนายกนะครับ!” คุณมานะที่นั่งด้านคนขับบอกกับฉันก่อนจะเปิดกระจกและยิงสวนพวกมันไป
ปัง! ปัง! ปัง!!
ฉันมองคุณจอมทัพนายกรัฐมนตรีคนสำคัญของเราก่อนจะพบว่ามีมอไซต์ขับมาข้างฝั่งของเขาฉันรีบลุกขึ้นและนั่งตักของเขาก่อนจะเปิดกระจกและยิงกลับไป
ปัง! ปัง!
เอี๊ยดดดดด!! ทำให้รถของพวกมันเสียหลักก่อนจะลงข้างทางไป
“ฟู่ววว!” ฉันพ่นลมหายใจออกมา
“คุณทัพเป็นอะไรไหมคะ?” ฉันหันไปถามเขาโดยลืมว่าตอนนี้ฉันกำลังนั่งตักของเขาอยู่
“คุณทัพ?” แต่เขากลับไม่ตอบแต่ดันไปโฟกัสกับสรรพนามที่ฉันเรียกเขาแทน
“เจ้านายเป็นอะไรไหมคะโดนตรงไหนหรือเปล่า?” ฉันเลยเปลี่ยนไปเรียกเหมือนเดิม
“จะเรียกก็ไม่ได้ว่า...”
เอี๊ยดดดดดดดด!!!
หมับ!!! และอยู่ ๆ รถของเรานั่งก็เกิดเบรกกะทันหันทำให้ฉันที่นั่งอยู่บนตักของคุณจอมทัพร่วงไปด้านหน้าแต่ว่าเขากอดเอวของฉันเอาไว้ได้ทัน
“เกิดอะไรขึ้น?!” คุณจอมทัพถาม
“เราโดนดักครับ!!” โดนดัก?!
พรึ่บ!! ฉันลุกจากตักของคุณจอมทัพก่อนจะมองไปด้านหน้าก่อนจะพบว่ามีรถจอดขวางทางอยู่สองคัน และไหนจะรถที่ตามมาอีกเป็นสามคัน
“จิ๊!!” ฉันจิ๊ปากอย่างหงุดหงิดก่อนจะมองหน้าของเขาที่ยังคงเรียบนิ่งอยู่ เขาเองก็คงมั่นใจในการ์ดรักษาความปลอดภัยของเขาเหมือนกันว่าจะสามารถรักษาชีวิตที่แสนสำคัญของเขาเอาไว้ได้
แกร๊ด!!
ฉันใส่กระสุนปืนเพื่อเตรียมความพร้อมฉันจะตายก็ช่างเถอะแต่เขาสำคัญกว่า...
“คุณอยู่บนนนี้ห้ามลงไปเด็ดขาดนะคะ” ฉันบอกกับเขาก่อนจะค่อย ๆ เปิดประตูลงไป
“จะทำอะไร?”
“เอ้า! ฉันมีหน้าที่ปกป้องคุณนี่คะถ้าฉันไม่ลงไปจัดการพวกนั้นคุณก็จะไม่ปลอดภัยไงคะ...”
ปัง! ปัง! ปัง!! และพวกมันก็เริ่มกระหน่ำเสียงเข้ามา
“คุณพักพิงจัดการรถข้างหลัง”
“ค่ะ!!” ปึก!! ฉันยอมรับคำสั่งจากคุณมอนก่อนจะเปิดประตูและยิงไปที่รถด้านหลังของเรา
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!!
ตู้มมมมมมม!! ฉันเลือกจะยิงที่เครื่องของพวกมันก่อนรถจะระเบิดทันที...