“กรี๊ด!” เสียงกรีดร้องดังลั่นบ้านใหญ่เมื่อบรรดาลูกน้องของเสี่ยอำนาจต่างช่วยกันฉุดกระชากลากถูกร่างของปลายฟ้าให้เข้าไปในบ้าน แม้ว่าจะใช้ปืนขู่อยู่เป็นระยะก็ยังดูท่าว่าจะไร้ผล “ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะเว้ย! ฉันจะไปหาแม่ ฉันบอกให้ปล่อย กรี๊ด!”
“เอาไงดีครับเสี่ย ร้องดังขนาดนี้คุณ ๆ ต้องตื่นแน่ ๆ” หนึ่งในลูกน้องคนสนิทเสนอขึ้นในขณะที่ยังคงช่วยกันหิ้วปีกหญิงสาวให้เข้ามาในบ้านอย่างยากลำบาก เสี่ยอำนาจมีสีหน้าร้อนใจอย่างเห็นได้ชัด ขนาดเลือกเวลากลับมาถึงบ้านให้ดึกแล้วแท้ ๆ แม่ตัวดียังมิวายก่อเรื่อง
“หาอะไรปิดปากมันไว้สิวะ”
“ครับเสี่ย” ลูกน้องรับคำแต่ในเมื่อไม่มีอะไรอยู่ใกล้ตัวจึงใช้มือปิดปากบางของหญิงสาวไว้แทน ปลายฟ้าไม่รอช้างับเข้าที่ฝ่ามือหยาบกร้านนั้นเต็มแรงจนพวกมันดิ้นพล่าน “อ้าค!”
“แม่ แม่ฉันอยู่ไหน ฉันจะไปหาแม่”
“ก็ออกไปสิวะ ไม่งั้นฉันยิงแกทิ้งแน่” เสี่ยอำนาจขู่ทว่ากลับไม่ทำให้ปลายฟ้าหวาดกลัวเลยสักนิด ตั้งแต่เล็กจนโตหล่อนมีแม่คอยดูแลมาโดยตลอดไม่นึกเลยว่าจะต้องมาพลัดพรากห่างไกลกันแบบนี้ได้
“ยิงเลยสิ ให้ฉันตายยังดีกว่ายอมเป็นเมียเสี่ยบ้ากามอย่างแก”
“ว่าไงนะ เมียอย่างนั้นเหรอ” เสียงแหลมเล็กดังขึ้นจากชั้นบนของบ้านไม้สัก ก่อนที่ร่างบางระหงซึ่งอยู่ในชุดนอนเนื้อบางเบาจะก้าวลงบันไดไม้เงาวับมายืนประจันหน้ากับหญิงสาว ไม่เพียงเท่านั้นไฟทุกดวงในบ้านก็สว่างพรึ่บขึ้นมาโดยพร้อมเพรียงกัน ถึงเวลานั้นลูกน้องที่ตามติดเสี่ยอำนาจมาก็รีบถอยออกไปจากบ้านกันถ้วนหน้าแทบจะทันที
“เมื่อกี้นังนี่มันบอกว่าเสี่ยจะเอามันมาเป็นเมียเหรอคะ” เจ้าของร่างบางระหงปรายตามองผู้มาเยือนคนใหม่ด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์
“เอ่อ...” ประมุขของบ้านนิ่งเงียบไม่กล้าตอบคำถาม ปลายฟ้าเริ่มเห็นทางหนีทีไล่จึงรีบก้าวไปยืนหลบด้านหลังของหญิงวัยสามสิบปลาย ๆ นั้นทันที
“ใช่ค่ะ เขาจับตัวหนูมา หนูไม่อยากเป็นเมียเขานะคะ หนูอยากกลับบ้าน”
“ได้ไงคะเสี่ย ไหนเสี่ยบอกจะให้ดวงใจเป็นคนสุดท้ายแล้วไง” อีกเสียงดังขึ้นไล่ตามหลังมาพร้อมกับหญิงสาวหน้าตาสระสวยเดินลงมาจากชั้นสองอีกสามคน หนึ่งในนั้นเข้ามาเดินสำรวจรอบ ๆ ร่างที่ยืนตัวสั่นอยู่อย่างพิจารณา
“ยังเด็กอยู่ด้วย นี่เสี่ยคงจะเบื่อพวกเราแล้วใช่ไหมคะ ถึงได้ไปคว้านังเด็กนี่มาอ่ะ”
“ไม่ใช่แบบนั้นนะจ๊ะ” เสี่ยอำนาจพยายามอธิบาย ภาพตรงหน้ามันทำให้ปลายฟ้าตระหนักแล้วว่าทั้งสี่คนคงจะเป็นบรรดาเมีย ๆ ของเสี่ยบ้ากามอย่างอำนาจ แม้อายุจะเข้าเลขห้าแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ายังดูดีไม่แก่ลงเลยสักนิด เรื่องอย่างว่าก็คงไม่ต้องพูดถึง
“ไม่ใช่แบบนั้นแล้วแบบไหน อธิบายมาสิคะ”
“บอกไว้ก่อนนะคะถ้าเสี่ยต้องการกินแค่ชั่วคราวพวกเราไม่ว่าหรอก แต่ถ้าจะให้มาอยู่ยาวเห็นทีคงจะไม่ได้ พวกเราไม่ยอมแน่ ๆ “
“ว่าไงล่ะคะ ถ้าเสี่ยไม่ตอบ แขจะไล่นังนี่ออกไปเดี๋ยวนี้เลย” แขไข เมียคนที่สามเริ่มฉุนจัดพยายามฉุดกระชากคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ด้วยให้ออกจากบ้านไป เสี่ยอำนาจเห็นท่าไม่ดีจึงรีบห้ามเอาไว้ เมื่อเห็นว่าของเล่นชิ้นงามกำลังจะหลุดมือไป
“เดี๋ยวก่อนสิจ๊ะ ใจเย็น ๆ ก่อน”
“ก็เสี่ยบอกแล้วไงว่าจะมีพวกเราแค่ห้าคน ทำไมเสี่ยต้องผิดคำสัญญาด้วย แบบนี้ให้ตายยังไง เดือนก็ไม่ยอม” เดือนเพ็ญ เมียคนแรกที่เป็นคนเปิดไฟในบ้านค้านเสียงแข็ง
ปลายฟ้าได้แต่ยืนอึ้งกับภาพที่เห็นตรงหน้า เมียของเสี่ยอำนาจจริง ๆ แล้วมีด้วยกันทั้งหมดห้าคน คิดไม่ออกเลยจริง ๆ ว่าถ้าเธอตกลงมาเป็นคนที่หกแล้วจะรับมือกับความวุ่นวายนี้ได้ไหวยังไง
“อธิบายมาสิคะ”
“อธิบายมาสิ ยังไงวันนี้เราก็ต้องคุยให้รู้เรื่อง”
คนมาใหม่อาศัยช่วงชุลมุนแอบย่องออกไปทางประตูใหญ่ ขืนอยู่ต่อไปคนที่กำลังจะกลายเป็นศพต้องเป็นเธออย่างแน่นอน
“เห้ย! นังนั่นมันหนีออกไปแล้ว” บรรดาลูกสมุนที่เฝ้าอยู่หน้าประตูเห็นเข้าจึงรีบวิ่งตามออกไปในขณะที่ผู้เป็นเจ้านายยังตกลงกับบรรดาเมีย ๆ ไม่ได้เสียที
ปลายฟ้าตาลุกวาวเมื่ออกมาด้านนอกแล้วพบกับความมืดมิดจากทั่วทิศทาง เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสถานที่นี่คือที่ไหนรู้แต่ว่าสมองมันสั่งการให้สองเท้าต้องวิ่งหนีออกไปจากบ้านหลังใหญ่นี่ให้เร็วที่สุด
เสียงฝีเท้าของลูกน้องเสียอำนาจวิ่งตามไล่หลังมา หญิงสาวร้องไห้ปานจะขาดใจ นึกแต่หน้ามารดาที่พลัดพรากจากกันมา เท้าทั้งสองยังคงก้าวออกไปท่ามกลางความมืดมิดตรงหน้า อดคิดไม่ได้ว่านี่คงเป็นผลจากการที่เธอทำร้ายข่มเหงรังแกปรานปราลินน้องสาวนอกไส้มาตลอดหลายสิบปีจนมันกลายมาเป็นเวรกรรมที่ทำให้เธอต้องหนีจากการถูกข่มเหงรังแกมาเสียเองแบบนี้
“จับตัวมาให้ได้ ถ้ามันหนีไปเสี่ยเอาพวกเราตายแน่ ๆ ”
“แล้วมึงคิดเหรอวะว่าถ้าจับตัวไปได้แล้วบรรดาคุณ ๆ เขาจะยอม” พวกมันหยุดปรึกษาหารือกันอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่เสียงมือถือจะดังขึ้น
“ครับเสี่ย”
(พวกมึงอยู่ไหน)
“พวกผมออกมาตามหาตัวนังนั่นอยู่ครับ มันอาศัยช่วงชุลมุนหนีออกมา” หัวหน้าพวกมันกล่าวรายงาน
(มึงตามหาตัวมันให้เจอ ไม่เจอไม่ต้องกลับมา) เสี่ยอำนาจลั่นวาจาทิ้งท้ายก่อนวางสายไป หลังจากที่ตกลงกับบรรดาเมีย ๆ อยู่พักใหญ่ด้วยการโป้ปดว่าจะปล่อยตัวปลายฟ้าไป แล้วค่อยนำตัวหญิงสาวไปขังไว้ที่อื่นเพื่อปิดบังไม่ให้พวกหล่อนรับรู้
ใครจะโง่ปล่อยตัวช้างเผือกงาม ๆ ไปล่ะ
เสี่ยอำนาจยิ้มย่องให้กับความคิดของตัวเอง แล้วเดินหายไปในห้องของเดือนเพ็ญภรรยาสาววัยสามสิบกะรัตเพื่อแก้ขัดไปก่อนแล้วค่อยไปหาปลายฟ้าในวันพรุ่งนี้ก็คงไม่สาย คืนนี้พวกลูกน้องคงจะจับตัวได้สำเร็จเพราะหญิงสาวคงไม่มีทางรู้ว่าไร่อำนาจแห่งนี้มันกว้างใหญ่มหาศาลแค่ไหน
“แม่จ๋า ช่วยฟ้าด้วย” คนที่เพิ่งหนีมาภาวนากับความมืด เหลือบมองไปยังต้นทางด้วยการอาศัยแสงจันทร์ที่สาดส่องลงมาเป็นระยะ เมื่อแน่ใจแล้วว่าพวกมันคงจะตามมาไม่ทัน ร่างบางระหงจึงทรุดกายนั่งลงหลังต้นไม้ใหญ่อย่างหมดเรี่ยวแรง รู้สึกเจ็บปวดจากการโดนหนามเกี่ยวฟาดไปทั่วร่าง
ดวงตากลมโตเปียกรื้นไปด้วยน้ำตา พยายามหาทางออกไปจากป่าแห่งนี้โดยที่หญิงสาวไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้วมันเป็นไร่และป่าไม้ในอาณาเขตของเสี่ยอำนาจทั้งสิ้น
“หนูอยากไปหาแม่ ฮือ ๆ แม่อยู่ไหน แม่จ๋า...” เสียงสะอื้นร่ำไห้ล่องลอยไปกับสายลม ทำให้พวกที่วิ่งตามออกมารู้ทิศทางการหลบหนีของเจ้าหล่อน
ความอ่อนล้าและเหนื่อยหอบทำให้ปลายฟ้าไม่สามารถวิ่งหนีได้อีกต่อไป หญิงสาวนั่งตัวสั่นอยู่ตรงที่เดิม จับจ้องไปยังป่ารอบกายด้วยความหวาดกลัว ตั้งแต่เล็กจนโตไม่เคยต้องมาตกระกำลำบากแบบนี้เลยสักครั้ง แม้จะเรียนจบปริญญาตรีด้วยน้ำพักน้ำแรงของประวีร์แต่ผู้เป็นแม่ก็ไม่ยอมให้ออกไปตรากตรำทำงานที่ไหนเลย ไม่คิดสักนิดว่าจะต้องมาตายในป่าแบบนี้
“คุณลุงขา ฟ้าขอโทษ ฟ้าน่าจะช่วยคุณลุงหาเงินมาใช้หนี้ ไม่งั้นฟ้าคงไม่ต้องถูกจับมาแบบนี้ คุณลุงช่วยฟ้าด้วยนะคะ ฮือ...” มือเรียวพนมขึ้น หลับตาพริ้มด้วยความหวาดกลัว ในขณะที่เสียงเหยียบย่ำใบไม้แห้งยังคงดังขึ้นต่อเนื่องจนรับรู้ได้ว่ามันมาหยุดอยู่ตรงหน้า
หญิงสาวได้แต่เม้มปากแน่น ขาทั้งสองข้างอ่อนแรงลงจนไม่อาจจะลุกหนีได้ เมื่อสัมผัสได้ถึงมือที่เย็นยะเยือกของคนตรงหน้าซึ่งยื่นมาจับแขนของหล่อนเอาไว้ อาการหวาดกลัวเมื่อครู่ก็เหมือนจะยิ่งทวีมากยิ่งขึ้นจนต้องร้องออกมาไม่เป็นภาษา
“อย่าทำอะไรฉันเลยนะ ฉันกลัวแล้ว ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันคิดถึงแม่ ฉันจะหาเงินมาคืนให้ ปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันขอร้องล่ะ ฮือ ๆ ”
“ผมไม่ทำอะไรคุณหรอก” น้ำเสียงนุ่มทุ้มผิดแผกไปจากเดิมทำให้คนที่กำลังจะสติแตกค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมอง ก่อนจะพบกับร่างสูงโปร่งของใครบางคนกำลังนั่งชันเข่าอยู่ตรงหน้าเธอ เมื่อลองอาศัยแสงจันทร์จ้องมองไปที่ร่างนั้นอีกครั้งจึงรู้ว่าเขาไม่ใช่ลูกน้องของเสี่ยอำนาจ แต่ถึงกระนั้นหญิงสาวก็ยังไม่ไว้ใจอยู่ดี
“นาย...นายเป็นใคร” ปลายฟ้าถอยหนีทันทีที่เห็นใบหน้านั้นชัดเจน เจ้าของร่างสูงใหญ่ตามแบบฉบับชายไทย เนื้อตัวสะอาดสะอ้านแต่ใบหน้าที่รกครึ้มไปด้วยหนวดเครามันทำยิ่งทำให้หล่อนต้องขยับหนี
“ผมชื่ออคินเป็นคนงานในไร่นี้ไง แล้วคุณล่ะเป็นใคร ดึก ๆ ดื่นถึงได้มานั่งร้องไห้อยู่แบบนี้”
“ไร่...ไร่อะไร ตอนนี้ฉันอยู่ที่ไหนนายรู้ใช่ไหม”
“ก็ไร่อำนาจไง ไร่องุ่น ไร่ชา รีสอร์ท หลงทางมารึไงคุณ” ชายหนุ่มเอ่ยถามเมื่อเห็นอาการหวาดกลัวของสาวเจ้ากับเนื้อตัวที่ถูกหนามฟาดก็อดสงสารเสียไม่ได้
“เปล่า” หญิงสาวตอบกลับไปแต่เพียงสั้น ๆ พลางลุกขึ้นเพื่อจะออกไปจากที่นี่ หากสถานที่นี้คือไร่อำนาจแล้วชายหนุ่มตรงหน้าเป็นคนงานของไร่ก้เท่ากับว่าเป็นลูกน้องของเสี่ยบ้ากามนั่นด้วย ดังนั้นหล่อนไม่มีวันเชื่อใจเขาอย่างแน่นอน
“จะไปไหนล่ะคุณ”
“ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน” ปลายฟ้าตวาดกร้าว รวบรวมเรี่ยวแรงที่เหลือวิ่งหนีต่อเพื่อเอาตัวรอด แต่แล้วสองเท้าก็ต้องชะงักกึกเมื่อได้ยินประโยคหนึ่งซึ่งดังไล่ตามหลังมา
“ป่าแถวนี้มันติดชายแดนพม่านะคุณ เดินออกไปสุ่มสี่สุ่มห้าเจอเสือเจอระเบิดอย่าหาว่าผมไม่เตือนก็แล้วกัน”
“นายว่าไงนะ ชายแดนพม่างั้นเหรอ” หญิงสาวหันหลังกลับมาแทบจะในทันที เธอถูกฤทธิ์ยาสลบของพวกมันเล่นงานจนหลับไปไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยหรือนี่
“อืม ที่นี่...เชียงราย”
“ฮะ! เชียงราย” จู่ ๆ ก็รู้สึกเหมือนกับว่าเรี่ยวแรงตรงขามันจะหายไปอีกครั้งเสียดื้อ ๆ “แล้วฉันจะกลับบ้านยังไงเนี่ย”
“หาให้ทั่ว มันน่าจะอยู่แถวนี้แหละ” เสียงลูกสมุนที่ไล่ตามมาดังขึ้นในระยะใกล้ ๆ ทำให้หญิงสาวรีบหลบเข้าไปซ่อนตัวอยู่ตรงพุ่มไม้ใหญ่ทันที อคินจึงเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย
“ลูกน้องของเสี่ยตามหาตัวคุณทำไม”
“ก็ไอ้เสี่ยบ้ากามนั่น มันจะจับฉันมาทำเมียไงล่ะ แก่จะลงโลงอยู่แล้วยังดับตัณหาไม่ลง” ปลายฟ้าสวนกลับด้วยความคับแค้นใจที่ถูกพาตัวมาไกลแบบนี้ อคิน ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเสนอให้หญิงสาวตามเขาไปหลบตัวที่บ้าน
“ตามผมมา”
“ฉันไม่ไปกับนายหรอก นายเป็นลูกน้องของมัน ทำไมนายต้องมาช่วยฉันด้วยล่ะ”
“งั้นก็เลือกเอาว่าจะถูกจับไป หรือจะให้เสือมันจับกิน” คำขู่ของเขาเหมือนจะได้ผลเมื่อปลายฟ้ายอมออกจากที่ซ่อนแล้วเดินตามชายหนุ่มไปที่บ้านหลังเล็กใกล้กับน้ำตก
“ทำไมนายต้องช่วยฉันด้วย เสี่ยอำนาจเป็นเจ้านายของนายไม่ใช่เหรอ”
“เพราะว่าผมเป็นคนดีไง” เขาตอบกลับมาแต่เพียงสั้น ๆ ก่อนจะเดินขึ้นไปบนบ้านผ่านบันไดขนาดเล็กเพียงสองสามขั้น
ปลายฟ้ามองตามขึ้นไป ความหวาดกลัวยังไม่จางหาย ถ้าเกิดเธอเข้าไปด้านในแล้วเจอกับเสี่ยอำนาจจะทำยังไง จะหนีทันหรือเปล่า
“ขึ้นมาสิคุณ ผมไม่ทำอะไรคุณหรอกน่า”
“ฉันจะแน่ใจได้ยังไงว่านายจะช่วยฉันจริง ๆ ”
“งั้นก็ยืนตรงนั้นแหละ อีกไม่นานลูกน้องของเสี่ยก็คงจะตามมา ถึงตอนนั้นคุณค่อยกลับไปพวกมันก็แล้วกัน” น้ำเสียงนุ่มทุ้มตอบอย่างใจเย็น เมื่อไม่มีทางเลือกหญิงสาวจึงต้องยอมตามเขาขึ้นไปอย่างเลี่ยงไม่ได้
ดวงตมกลมโตเบิกกว้างเมื่อเห็นข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านที่มีขนาดเล็กคล้ายกระท่อม ไม่คิดเลยว่าเฟอร์นิเจอร์ด้านในจะสะดวกครบครันถึงขนาดนี้
“นั่งก่อนสิ เดี๋ยวจะหาผ้ามาให้เปลี่ยน จะอาบน้ำไหมล่ะ”
“ไม่ ไม่ต้อง ฉันจะรอให้ถึงเช้าแล้วจะไปจากที่นี่” ปลายฟ้าปรายตามองไปรอบ ๆ สังเกตเห็นตู้เย็นและทีวีจอใหญ่ยักษ์ถูกวางไว้ใกล้กับโต๊ะทำงานขนาดย่อมซึ่งมีแล็บท็อปวางอยู่บนนั้น ถัดไปมีบันไดลิงวางพาดขึ้นไปยังชั้นสองซึ่งน่าจะเป็นห้องนอน จนอดคิดไม่ได้ว่าเขาคงจะไม่ใช่คนงานธรรมดาถึงมีปัญญาสร้างของพวกนี้ได้
“ไปไหนล่ะ กลับบ้านเหรอ”
“ไปหาแม่ต่างหาก ป่านนี้แม่คงเป็นห่วงฉันมากแน่ ๆ ” คิดแล้วน้ำตาบ่อน้อยก็ไหลเอ่อออกมาอีกครั้ง ก่อนจะนึกบางอย่างขึ้นมาได้ “นายมีมือถือไหม ฉันขอโทรหาแม่หน่อยสิ”
“อืม” เขาว่าพลางหยิบสมาร์ตโฟนในกระเป๋ากางเกงส่งให้
ปลายฟ้ารีบกดเบอร์หาพิมพิลาผู้เป็นแม่ทันที แต่ก็ไม่มีสัญญาณตอบรับ
“ทำไมโทรไม่ติด แม่ไปไหนนะ” หญิงสาวบ่นพึมพำผ่านหน้าจอ พยายามโทรออกอีกหลายครั้งแต่ก็ยังไร้ผล
“ผมว่าคุณพักผ่อนเอาแรงก่อนดีกว่าไหม”
“ไม่ ฉันจะแน่ใจได้ยังไงว่าฉันอยู่ที่นี่กับนายแล้วจะปลอดภัย”
“คุณปลอดภัยแน่ถ้ายังมีผม” ชายหนุ่มให้คำมั่นสัญญา พลางโยนเสื้อผ้าของตัวเองวางไว้ให้ ผายมือไปที่ประตูห้องน้ำเพื่อให้หญิงสาวเปลี่ยนเสื้อผ้า ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันที่ประตูบ้านดังขึ้นพอดิบพอดี ปลายฟ้าจึงต้องหอบหิ้วเสื้อผ้าพวกนั้นเข้าไปด้านใน ได้แต่ภาวนาอย่าให้เขาบอกที่ซ่อนของเธออยู่ในใจ
“มาหาฉันดึก ๆ ดื่น ๆ มีธุระอะไรด่วนงั้นเหรอ” อคินเอ่ยถามเมื่อประตูบ้านถูกเปิดออก
“คุณอคินเห็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ใส่กางเกงขาสั้นเสื้อยืดสีดำผ่านมาแถวนี้บ้างไหมครับ”
“ไม่เห็น” เขาตอบกลับไปแต่เพียงสั้น ๆ “ธุระแค่นี้ใช่ไหม ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันจะได้พักผ่อน”
“เอ่อ...ครับ ๆ ” หนึ่งในนั้นดูเหมือนจะยังไม่ปักใจเชื่อแต่พอเห็นเจ้าของบ้านทำท่าอ้าปากหาวหวอดจึงต้องพากันกลับไป เมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้วปลายฟ้าจึงรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วออกมาหาอคินทันที
“นายบอกว่านายเป็นคนงานแล้วทำไมพวกนั้นถึงเรียกนายแบบนั้นด้วย”
“ก็หัวหน้าคนงานไง ” ชายหนุ่มตอบอย่างใจเย็น ปิดล็อคประตูลงกลอนอย่างแน่นหนาแล้วหมุนตัวกลับมาที่ตู้เย็นเพื่อหาของกินส่งให้หญิงสาว “ทานซะสิ จะได้นอนพัก วิ่งมาเหนื่อยแล้วนี่”
“ฉันกินไม่ลงหรอก ถ้ายังไม่ได้โทรหาแม่”
“งั้นก็ตามใจ ผมขอตัวนอนก่อนละกัน พรุ่งนี้ต้องเข้าไปในไร่แต่เช้า” เมื่อเห็นว่าหญิงสาวยังไม่ยอมทานอะไร อคินจึงคร้านที่จะพูดอะไรต่อ เขาหยิบผ้าห่มผืนหนาและหมอนใบใหญ่มาวางไว้ตรงแคร่ไม้ไผ่กลางบ้านเพื่อให้หญิงสาวนอนพักแล้วจึงหมุนตัวปีนบันไดลิงขึ้นไปยังชั้นสองซึ่งห้องนอนของตัวเอง
ปลายฟ้าขบกรามแน่น ปาดน้ำตาที่ไหลรื้นออกมาอย่างคนหมดหนทาง ตั้งแต่เล็กจนโตไม่เคยต้องพลัดพรากจากอกมารดามาไกลถึงขนาดนี้ ไม่คิดเลยว่าจะต้องมาหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้านหลังเดียวกับคนแปลกหน้า หนทางกลับบ้านก็แทบจะมองไม่เห็น