ตอนที่ 3 ชื่อตอน ป้ายหยกลึกลับ

1685 Words
ผิงม่านหรงทำหน้าเสียและเร่งเอ่ยสารภาพความออกไป ท่านแม่และท่านพ่อของพวกนางยิ่งตีลงไปที่แขนขาของนางมิหยุด จนนางนั้นร้องโวยวายขึ้นมา “โอ๊ย ท่านแม่ โอ๊ย ท่านพ่อ ท่านอย่าตีข้าเจ้าค่ะ” “ฮึ่ม จะตีเจ้าให้ตาย เจ้ารู้หรือไม่โทษขโมยหยกประจำการนั้นหนักหนานัก อีกทั้งหากว่าท่านผู้มีคุณผู้นั้นนั้นกล่าวโทษพวกเราอาจจะมิได้ตายดี เหล่านักรบนั้นอารมณ์มิคงที่ พวกเราทำเรื่องมากมายเฉกเช่นนั้น ย่อมมิอาจจะได้รับความเมตตาอย่างแน่นอน” “โถ่ ท่านพ่อ แต่ท่านผู้นั้นช่วยท่านและท่านแม่ออกมาจากใต้กองหินนะเจ้าคะ มิมีคนเหล่านั้น พวกเราจะมีชีวิตรอดตายเช่นนี้ได้อย่างไร เสียดายท่านย่านั้นเสียไปแล้ว หากมิเช่นนั้น ท่านย่าจะต้องคิดเห็นตรงกันกับข้าแน่ โอ๊ย ท่านพ่ออย่าตีข้า โอ๊ย ข้าเจ็บเจ้าค่ะ” ผิงม่านหรงถูกท่านพ่อของนางทุบตีอยู่หลายครา ก่อนที่ท่านพ่อของนางจะคลายโทสะลง แล้วมองสิ่งของในรถม้า คิดแล้วก็เร่งขับรถม้าผ่านทางไปให้ว่องไวเสีย หยกประจำการนั้นหากมีการใช้งานแล้ว ย่อมต้องมีการรายงานออกไปอย่างแน่นอนเรื่องนี้มิดีแน่ ผิงอันเหอเร่งขับรถม้าหนีไปเสียก่อน แล้วนำสิ่งของที่มีราคาออกไปขายเสีย เพื่อแลกเปลี่ยนเป็นเงินทองออกไป ยามที่ถึงร้านค้าที่ร้านแลกเปลี่ยนเงินตรา คนเหล่ตาขึ้นมาอีกครั้ง แล้วแบมือขอหยกประจำการ ผิงม่านหรงใบหน้าเบี้ยวขึ้นมาและเร่งส่งออกไปในทันที นึกว่าต้องตายแล้ว แต่ทว่าคนกลับพลิกดูคราหนึ่งแล้วเอ่ยขึ้นมาในทันที “สาวใช้ของท่านแม่ทัพเช่นนั้นหรือ เจ้านำครอบครัวไปทำสวนที่หลังจวน แล้วตัวเจ้าก็ไปอยู่ที่หน้าจวนเสีย จวนใหม่ของกองทัพสกุลโจวที่ทิศเหนือนั่น ที่สร้างใหม่นั่นล่ะ อยู่ดูแลจวนไปก่อน หลังจากที่เสร็จศึกที่หนานตงมิแน่ว่าท่านแม่ทัพอาจบาดเจ็บยังต้องรักษากายอยู่อีกนาน เจ้าก็จัดเตรียมทำความสะอาดจวนเอาไว้ให้ดี อย่าให้ผู้ใดรู้ว่านั่นคือจวนลับของท่านแม่ทัพเล่า” ครอบครัวสกุลผิงนั้นตาโต แล้วก็ต้องบังคับตนเองให้ไปในทิศทางที่ผู้คนเหล่านั้นกล่าวออกมา ยามที่มาถึงจวนแห่งหนึ่ง ก็พบว่าในจวนนั้นรกครึ้ม ผิงอันเหอถอนหายใจขึ้นมาสิ้น เข้าไปที่ภายในรื้อค้นหาสิ่งของที่ในเรือนร้างๆ แล้วเริ่มต้นถางหญ้าออกไป ส่วนผิงอวี่จินผู้เป็นภรรยาก็เร่งพาบุตรสาวไปทำความสะอาดในครัว จุดไฟต้มน้ำร้อนราดพื้นทำลายสัตว์มีพิษเล็กๆ ก่อน ในครัวมีน้ำร้อนแล้ว ข้างบ่อน้ำถางหญ้าแล้ว มินานผิงม่านหรงผู้เป็นบุตรสาวผู้เดียวก็ต้องเริ่มต้นถูพื้นปัดกวาดเรือนเล็กๆ ไปเสียก่อน ราตรีนั้นพวกนางมีเรือนนอนแล้ว ในยามถัดมาท่านพ่อของนางถางหญ้า นางปัดกวาดจวน ท่านแม่ของนางเร่งนำผ้าห่มนอนในเรือนต่างๆ ออกมาซัก บ้านร้างมานานเช่นนี้ หากว่าเจ้านายจะมาอยู่ได้ พวกนางก็ต้องเร่งทำความสะอาดไปเสียให้จบสิ้น ที่นอนเก่าๆ และเสื่อปูพื้นถูกนำออกไปทิ้ง ท่านพ่อของนางนำน้ำมันสนมาทาขัดชักเงาลงไปในพื้นไม้ แล้วปรับปรุงจวนเก่าๆ ผุพังซ่อมแซมขึ้นมา ป้ายหน้าจวนที่ผุพังเหมือนศาลเจ้าร้าง ก็ถูกสับเปลี่ยนขึ้นใหม่เขียนอักษรทาลงไปจนงดงาม ยามที่ขบวนเกวียนเก่าๆ ขนาดใหญ่มาถึงที่จวน คนขับเกวียนด้านหน้าขยี้ดวงตาของตนเองไปในหลายๆ ครา แล้วมองขึ้นมองลง ก่อนจะลงไปเคาะห่วงเหล็กบนประตูในทันที “ผู้ใดกันมายึดจวนของนายท่าน พวกเจ้าซื้อมันมาจากผู้ใด” “อร่า ข้าน้อยผิงอันเหอและครอบครัว ได้รับคำสั่งให้มาดูแลจวนเพื่อรอคอยนายท่านผู้หนึ่งอยู่ขอรับ นี่คือป้ายประจำการขอรับ” บุรุษตัวโตเบิกตาโตขึ้นมาเท่าไข่ห่าน ทุบตีคนกดลงไปที่บนพื้น แล้วคว้าป้ายหยกสีแดงชาดในมือของคนออกไป แล้วร้องเรียกคนในเกวียนออกมาในทันที “พบหยกประจำการอีกแล้วขอรับ” ผิงอันเหอเร่งร้องสารภาพความออกมาในทันที เร่งเอ่ยความจริงออกไป “ข้าน้อยผิดไปแล้ว ข้าน้อยผิดไปแล้ว โปรดอภัยด้วยขอรับ สิบปีก่อนที่ซานเสวี่ยพวกท่านมีพระคุณช่วยเหลือครอบครัวของพวกเราเอาไว้ บุตรสาวของข้ามิรู้ความ จึงดึงหยกของท่านทหารผู้หนึ่งกำเอาไว้ในมือและเก็บซ่อนมันมานานแล้ว จนถึงเมื่อวานนางนำมันออกมาห้อยเอาไว้ที่เอวเป็นคราแรก พวกเรามาพบทหารเข้า ก็ได้รับคำสั่งให้เติมเสบียงและมาเก็บกวาดจวนที่นี่แล้วขอรับ พวกเราเพียงหวังพบผู้มีคุณจึงเดินทางมาขอรับ โปรดเมตตาด้วย ข้าคือผู้ประสบภัยที่ซานเสวี่ย มีนามว่าผิงอันเหอขอรับ” ในเกวียนไม่มีเสียงตอบรับแต่คนร้องโอยดังออกมา ผิงอันเหอตื่นตกใจขึ้นมา จึงเงยหน้าขึ้นไปมองสอดความอย่างตระหนก คนมากมายลงมาจากขบวนเกวียนและประคองบุรุษตัวโตผู้หนึ่งลงมาจากเกวียนนั้น “ค้นพบหยกประจำการอีกแล้วหรือ ครานี้มาจากที่ใดกันอีกเล่า “ บุรุษผู้หนึ่งเอ่ยคำพูดออกมา เดินลงมาและจับใบหน้าคนพลิกไปมาและส่งมันคืนกลับไปเสียที่ผิงอันเหอ มองไปรอบจวนของท่านแม่ทัพแล้วคิดสิ่งใดอื่นมิได้ นอกจากเอ่ยคำสั่งออกไป “เจ้าคนผู้นี้ทำงานได้ เรื่องสืบความใดๆ ชั่งมารดาของพวกมันไปก่อนเถิด พวกเรามิมีคนดูแลมานานแล้ว รบราออกไปด้านนอกก็เหนื่อยนัก ต่อไปแต่งตั้งเจ้านี่เป็นพ่อบ้านของสกุลโจว ให้เจ้านั้นติดตามงานดูแลจวนของพวกเรา และจัดการงานทั่วไปของพวกเราทั้งหมดเสีย” “ขอรับ ขอบคุณท่านแม่ทัพที่เมตตา” “ฮึ่ม แม่ทัพอันใดกัน ข้ามิใช่แม่ทัพ ข้าเป็นนายกองของสกุลโจว ข้านั้นถูกปลดออกจากกองทัพมานานแล้ว หยกนี้ก็มีทั่วไปกันในกองทัพ ในแผ่นดินไหวครานั้น มีผู้คนมากมายไปที่นั่น มิแน่ว่าหยกชิ้นนี้อาจมิใช่ของข้าก็เป็นได้ “ ” เอ๋ “ ” มีผู้คนทำหยกประจำการหายไปมากมายในปีนั้น ช่างน่าแปลกประหลาดมาก ในทุกๆ ปีหลังจากนั้น หยกชนิดนี้จะโผล่ออกมาทำงานแปลกประหลาด ต้องให้ติดตามสืบค้นอยู่มากมาย เช่นนั้นเมื่อหยกเหล่านี้โผล่ขึ้นมาในคราใด พวกเราย่อมต้องหาทางสืบความกันไปในทุกครา แต่ข้านั้นจำเจ้าได้ว่าเป็นผู้ประสบภัยในครานั้น และจวนนี้ก็ดูดีขึ้นมามากจริงๆ พวกเราเหนื่อยล้ามีงานมาก เจ้าก็เป็นพ่อบ้านของพวกเราไปก่อนเถิดนะ พ่อบ้านผิง ต่อไปท่านใช้นามพ่อบ้านโจว อย่าให้ผู้ใดรู้ชื่อแซ่เล่า” “ขอรับ” ผิงอันเหองุงงงมากและเร่งไปเรียกหาภรรยาและบุตรสาวออกมาเสีย ยามแรกผิงม่านหรงดีใจมากที่จะได้พบผู้มีพระคุณ แต่ทว่าในยามที่จะเอ่ยอันใดออกไป บิดาของนางก็ถอนหายใจออกมาและเอ่ยบอกนางอีกครั้ง “ม่านเอ๋อร์ หยกที่เจ้าหยิบติดมือมานั้น มีเรื่องราวเร้นลับเกิดขึ้นมาแล้ว” “เอ๋ เกิดเรื่องใดขึ้นมาหรือเจ้าคะท่านพ่อ เป็นความผิดของข้าผู้เดียวนะเจ้าคะ มิมีผู้ใดนั้นมาเกี่ยวข้องในเรื่องนี้เลยเจ้าค่ะ ขอท่านทหารโปรดเมตตาด้วย ขอท่านทหารโปรดเมตตาด้วย ยามนั้นข้าเพียงมีอายุมิกี่หนาว มิรู้ความใดๆ เลยเจ้าค่ะ “ ผิงม่านหรงตื่นตกใจ เร่งรีบโขกหัวลงไปอย่างเกรงกลัว ” เฮ่ย มิเป็นอันใดน่า ข้าจำบิดาของเจ้าได้ ด้วยหน้าตาที่มิเปลี่ยนไปนัก แต่เหตุในครั้งนั้นมีคนมาก และในยามถัดมานั้น ป้ายหยกของพวกเราต่างหายไปกันจนหมดสิ้นทั้งกองทัพ และในทุกๆ ปีนับจากนั้น ป้ายหยกเหล่านี้จะออกมาทำความผิดหรือช่วยคนแตกต่างกัน และจะมีคนทิ้งมันออกมาในทุกปี พวกเราจึงต้องติดตามมันอยู่ตลอด ช่างน่าเวียนหัวนัก มิรู้เหตุใดป้ายของพวกเราจึงหายไปพร้อมๆ กันในเหตุการณ์ในครานั้นทั้งหมดสิ้น และเรื่องราวที่ติดตามมานับจากนั้น ทำให้กองทัพและฝ่าบาทนั้นลงโทษพวกเรามิจบสิ้น เบี้ยหวัดของสกุลโจวก็ถูกตัดมานานแล้ว เมืองหลวงก็มามิได้ถ้ามิมีคำสั่ง เพิ่งจะได้กลับมาก็เพียงเพราะว่าข้านั้นปลดประจำการแล้ว ส่วนผู้อื่นก็ย่อมต้องลากองทัพมาเป็นบางคราว จะยกมาทั้งกองทัพมิได้ มีโทษถึงตายเลยทีเดียว “ ” เอ๋ มีคนขโมยของหรอเจ้าคะ “ ” ใช่ แต่ป้ายเหล่านั้นมิได้หายในหมู่บ้านที่ซานเสวี่ยของพวกเจ้า และโชคดีที่มันมิใช่หยกประจำการนี้ แต่เป็นป้ายของเหล่าทหารสกุลโจวทั่วไปเท่านั้น และมันหายไปทั้งหมดสิ้น จากยามที่พวกเรานั้นค้างแรมอยู่ที่กลางหุบเขา บิดาของเจ้าพวกเรานั้นจดจำได้ แต่ป้ายของพวกเราทุกคนและถุงเงินต่างๆ ล้วนหายไป และมันถูกนำออกมาใช้ในภายหลัง น่าเวียนหัวนักจริงๆ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD