ตอนที่ 4 ชื่อตอน พบนางแล้ว

1480 Words
ในเรือนทหารของสกุลโจวนั้นมีกฎระเบียบมาก บุรุษทหารเดินถือดาบติดกายไปตลอดทุกยาม ทำดวงตาดุใส่นางและมิใคร่จะสนทนานัก ทหารเริ่มเข้ามาอยู่ที่จวนและเรียกหานางดั่งกับว่านางนั้นคือบุรุษทหารด้วยกันแล้ว ผิงม่านหรงถอนหายใจและหัวเราะขึ้นมาเบาๆ “เจ้าคนพวกนี้ก็นิสัยมิเลวเลย ตลอดมานางเคยแต่ถูกบุรุษนั้นรบกวนคิดว่าบุรุษนั้นมิค่อยเข้าท่านัก แต่ทว่าน่าแปลกที่ทหารในจวนนี้นั้นมิสนใจนาง และมองเห็นนางเป็นเพียงสตรีรับใช้เท่านั้นเอง ผิงม่านหรงเข้าไปช่วยท่านแม่ของนางทำกับข้าวและนำตักออกไปใส่ถังไม้มีหูหิ้ว ส่งให้ทหารตัวโตผู้หนึ่งที่ยืนกอดอกทำตาโตจดจ้องนางอยู่อย่างมิวางตา” “ท่านทหารเจ้าคะ อาหารได้แล้วเจ้าค่ะ” “ฮึ่ม ข้าคือพี่ใหญ่ซูเรียกข้าว่าพี่ซู ที่นี่ใครทำผิดกฎให้มารายงานข้า” “เจ้าค่ะซูต้าเกอ ข้าน้อยผิงม่านหรง หรืออาม่านเจ้าค่ะ” “อืม ข้าเรียกเจ้าเสี่ยวผิงก็แล้วกัน” ผิงม่านหรงดีใจมากนางเสมือนได้ครอบครัวกลับคืนมา นางถึงกับน้ำตารื้นขึ้นมาเลยทีเดียว “เอ้า เป็นอันใด เหตุใดจึงร่ำไห้ ข้ามิได้รังแกเจ้าเลยนะเสี่ยวผิง” “มิใช่เจ้าค่ะ ข้าดีใจที่ท่านนั้นเมตตาข้าและครอบครัวเจ้าค่ะ พวกเราสูญเสียครอบครัวไปในยามแผ่นดินไหว และมีกองทหารของพวกท่านนั้นผ่านทางไปช่วยทัน อีกทั้งตลอดมาได้อพยพย้ายไปที่ต่างถิ่น บุรุษมากมายล้วนรังแกข้าจนมิอาจอยู่อาศัยได้ ท่านพ่อนั้นต้องออกอุบายนำฝ้ายออกมาขาย แล้วขายที่ดินไปที่หมู่บ้านอื่น แล้วหนีออกมาในยามราตรีกาลเจ้าค่ะ” “ฮร้า มีเรื่องน่าอับอายเช่นนั้นด้วย ช่างน่ารังเกียจนัก บุรุษในกองทัพสกุลโจวมิเคยทำเช่นนั้น เพราะต่างล้วนได้รับการอบรมกันมาแทบทั้งสิ้น ต่อไปผู้ใดทำร้ายเจ้าเร่งมาบอกพวกเราเสีย พวกเรานั้นจะตามไปจัดการมัน” “เจ้าค่ะ ซูต้าเกอ” ผิงม่านหรงทำหน้าดีใจขึ้นมา ก่อนที่นางจะเร่งนำอาหารออกไปส่งให้ผู้อื่นที่มารอรับถังอาหาร และทุกผู้คนก็นำมันไปตักแจกจ่ายกัน มินึกว่าในจวนสกุลโจวนั้นมินานก็มิมีที่ว่างแล้ว คราแรกที่คิดว่าใหญ่โต มินานก็แออัดและยัดเยียดกันขึ้นมา ม่านหรงนำผ้าของเหล่าทหารที่เหม็นเหงื่อไคลออกไปช่วยซัก นางซักไปก็ร้องด่าคนออกมา “อร้า เหม็นนัก พวกท่านเคยซักผ้ากันบ้างหรือไม่” “ฮ่า ฮ่า พวกเรานั้นมิใคร่อาบน้ำในระหว่างที่เดินทางไกล ทั้งยังนอนตามดินไปอีกเสียด้วย เจ้ามิต้องใส่ใจมากนักหรอก ขอเพียงทำกับข้าวให้ในยามแรกก็พอแล้ว ต่อไปจะมีทหารรับใช้มาทำหน้าที่เอง มินานจะมีทหารหญิงและสาวใช้ติดตามมา มิแน่ว่าอีกสามราตรีนั้น ท่านแม่ทัพจะกลับมาจากในสนามรบแล้ว ถึงยามนั้นเจ้าก็ไปรับใช้ท่านแม่ทัพเถิด หยกคำสั่งนั้น หากมิใช่ของท่านแม่ทัพโจวก็ย่อมเป็นท่านรองแม่ทัพ แต่ข้าคิดว่าผู้ที่ช่วยเจ้าในยามนั้นคือแม่ทัพโจว ในยามที่ท่านแม่ทัพนั้นกลับมา เจ้าก็ไปไต่ถามเอาเองเถิด อย่างไรป้ายคำสั่งโผล่ขึ้นมาในคราใด ก็ย่อมต้องมีหายนะ พวกเจ้าก็ต้องถูกสอบสวนอีกคราโดยท่านแม่ทัพโจวอย่างแน่นอน เช่นนั้นในยามนี้ เจ้าก็พกมันติดกายไว้ก่อนเสียดีกว่า “ ซูต้าเกอเอ่ยบอกนางอย่างใสซื่อ แต่ทว่าในใจนั้นรอชมดูเรื่องตลกของท่านแม่ทัพแล้ว ด้วยหลังกลับจากที่ซานเสวี่ยสกุลโจวถูกลงทัณฑ์เพราะป้ายคำสั่งนั้นหายไปทั้งหมด แต่ทว่าได้แจ้งต่อราชสำนักในนกสื่อสารไว้ได้ทัน ก่อนที่หลังจากนั้น ท่านหญิงลั่วอี้ชิงบุตรสาวของลั่วหยางหวาง ก็ได้ไต่ถามถึงป้ายคำสั่งนั้นอีกครา ในคราที่นางนั้นถึงคราวในยามที่ปักปิ่น ท่านแม่ทัพมิชอบนางจึงโป้ปดออกไปว่า ได้ให้สตรีผู้หนึ่งไว้แทนใจไปเสียแล้ว เช่นนั้นในยามนี้ท่านแม่ทัพจึงยังค้นหาสตรีใดมาปลอมแปลงเป็นคู่หมั้นมิได้เลย แล้วคล้ายว่าท่านหญิงลั่วก็จะเดินทางติดตามกลับมาด้วย เช่นนี้ซูต้าฉายจึงเตรียมเรื่องสนุกเอาไว้รอคอยท่านแม่ทัพแล้ว “ฮ่า ฮ่า นางห่างจากท่านแม่ทัพตั้งสิบปี ท่านหญิงลั่วนั้นยามที่ได้พบนางเข้าจะต้องอกแตกตายแน่ๆ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ซูต้าฉายหัวเราะงอหาย มิคิดว่าการที่ท่านแม่ทัพนั้นที่หาทางรอดตาย ในเรื่องที่ทำป้ายคำสั่งนั้นหาย จะมาพบจุดจบที่น่าสนุกมากมายเช่นนี้ ผู้ใดเล่าจะคิดว่าที่แท้ก็มีแม่นางน้อยผู้หนึ่ง ครอบครองป้ายคำสั่งของท่านแม่ทัพได้จริงๆ ครานี้ท่านหญิงลั่วย่อมพ่ายแพ้ เพราะป้ายคำสั่งนั้นมิออกขึ้นมาให้อีก เพราะท่านแม่ทัพโป้ปดเช่นนั้นออกไป การแต่งงานของท่านแม่โจวก็ได้เลื่อนออกไป และในยามนี้ผู้คนต่างรอคอยว่าหากมีป้ายคำสั่งนั้นโผล่ขึ้นมา ท่านแม่ทัพโจวจะว่าอย่างไร หลายครามีของเลียนแบบขึ้นมา ท่านแม่ทัพโจวก็เตรียมตัวตายไปทุกครา แต่ทว่าทุกครานั้นก็เป็นของปลอมแปลงไปได้ ท่านแม่ทัพจึงสงสัยขึ้นมา ว่าในเมื่อศัตรูมิมีมัน แล้วเจ้าหยกนั้นมันไปหายที่ใด คิดยามใดก็ปวดหัวไปทุกครั้ง แม้แต่ทหารย้อนกลับไปแอบรื้อหมู่บ้านที่ซานเสวี่ยก็มิพบ การโกหกออกไปในยามแรก จึงทำให้ท่านแม่ทัพโจวย่อมปัดความรับผิดชอบออกไปได้ หากว่ามีป้ายคำสั่งปรากฎขึ้นมา มันจะต้องออกมาพร้อมคู่หมายของท่านแม่ทัพในทันที ท่านแม่ทัพยังโป้ปดไปอีกว่า ที่นางยังมิมีให้ผู้คนพบนั้นก็เพียงเพราะว่านางยังเด็ก มิเหมาะสมที่จะเร่งแต่งงาน ยิงเกาทัณฑ์คราหนึ่งได้นกมาหลายตัว แต่ทว่าก็ทำให้ท่านแม่ทัพนั้นยังแต่งสตรีใดๆ มิได้ นี่มันน่ากลุ้มใจนัก คราแรกแม่ทัพโจวนั้นรู้สึกมีความหวังในการค้นหาหยกประจำการมาก แต่นานไปนั้นความหวังก็ริบหรี่ ดีที่มีสงครามมากางกั้น มิเช่นนั้นคงหัวขาดตายกันไปแล้ว แต่ทว่าทำอย่างไรก็หาป้ายของตนเองยังมิพบ ยามที่พบป้ายของผู้อื่น ก็เป็นแค่ป้ายประจำการทหารไร้ราคาที่จะโผล่มาปล้นสะดมคนทุกๆ ปี ซึ่งก็มิยิ่งใหญ่อันใดนัก สกุลโจวกลัวแต่มันจะตกไปอยู่ในมือของพวกกบฎ เพราะหากมีการกบฎแล้วใช้ป้ายประจำการของแม่ทัพโจวขึ้นมา ห้าม้าแยกร่างคงมิพอ ดังนั้นกองทัพสกุลโจวจึงป่าวร้องออกไปว่าใช้มันไปเป็นของแทนกาย เพราะมิรู้ว่าตนเองจะได้กลับมาจากการรบหรือไม่ พอผ่านมาครบสิบปี ป้ายก็ยังหามิพบ เจ้าสาวตัวปลอมก็ยังหามิได้ ในปีนี้แม่ทัพโจวต้องกลับมาที่เมืองหลวงแล้ว นี่คือเรื่องที่แม่ทัพโจวนั้นคิดมิตกเลยเสียที มิคิดว่าอยู่ๆ ในทางกลับมาที่เมืองหลวงนั้น นกสื่อสารจะแจ้งกลับมาว่า ป้ายประจำการอยู่กับสาวน้อยชาวซานเสวี่ย แม่ทัพโจวคิดว่าจะเพียงพบนางแล้วยึดป้ายคืนกลับไปก็เท่านั้น แต่ในยามนี้ ยามที่สาวน้อยแสนงามมายืนรอคอยอยู่กับผู้คนของกองทัพสกุลโจว ท่านแม่ทัพโจวที่ทำหน้าตาขึงขังในคราแรก แทบจะน้ำลายหยดย้อยลงมาไปเสียแล้ว ดวงตาคมมองขึ้นมองลงมิวางตา ขยับกายลงจากม้าอย่างโง่เง่าแล้วขยับไปกอดรัดนางเข้าในอกแล้วหัวเราะดังขึ้นมา “อร่า ก็งดงามถึงเช่นนี้ล่ะหน่ะ ผู้ใดจะปล่อยไป” เอ่ยจบเท่านั้นก็อุ้มร่างนุ่มไปบนม้าแล้วกระโดดขึ้นไปกอดรัดนาง ชูป้ายประจำการของตนเองอย่างหน้าทน ผิงม่านหรงหน้าแดงซ่านขึ้นมา ตัวสั่นไหวระริก มิคิดว่าแม่ทัพโจวจะรุ่มร่ามเช่นนี้ อีกทั้งคนผู้นี้ถึงจะแก่กว่านางมาก แต่ทว่าก็หน้าตาดีอยู่มิน้อย ม่านหรงใจเต้นตึ่กตั่ก หัวใจกำลังกระเด็นออกมาแล้ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD