บทที่ 5

1729 Words
เช้าวันต่อมา ใบหน้าหล่อเหลาดูจะไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่นัก เมื่อเข้ามาบริษัทแต่เช้าด้วยความอารมณ์ดี แต่ต้องมาอารมณ์ขุ่นมัวเมื่อเจอมารดามาดักรอถึงที่พร้อมกับคู่หมั้นของเขา "พี่เรียว! ติน่าคิดถึงพี่เรียวจังค่ะ พี่เรียวสบายดีไหมคะ" ติน่า คู่หมั้นคู่หมายของเรียวตรงเข้าสวมกอดเขาทันทีที่เจอหน้ากัน "เอ่อ...สบายดีครับ" เรียวมีท่าทีอึกอักเล็กน้อย "พาน้องไปเลือกแหวนแต่งงาน และไปทานข้าวด้วยนะ ส่วนเรื่องงานมัมให้คนจัดการแทนแล้ว" "แต่ว่า..." "ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น ตกลงตามนี้นะ แม่ไปก่อนนะหนูติน่า ฝากน้องด้วยนะเรียว" ไม่เปิดโอกาศให้เขาได้พูดอะไรผู้เป็นมารดาก็เดินออกจากห้องไปเสียแล้ว เฮ้อ! "เราไปทานข้าวกันนะคะ" เรียวทำเพียงแค่พยักหน้า ก่อนจะเดินออกมาจากห้องทำงานโดยมีติน่าเดินควงแขนเขาอย่างเปิดเผยต่อหน้าพนักงานในบริษัท เรียวพาติน่าออกมาทานข้าวตามคำสั่งของคนเป็นแม่ หลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จทั้งคู่ก็ตรงไปที่ร้านเพชรของบริษัทเขาที่ตั้งอยู่ภายในห้างดังทันที โดยมีติน่าเดินเกาะแขนแสดงความเป็นเจ้าของเขาไม่ห่าง และคงไม่ถึงชั่วโมงรับรองว่าได้มีข่าวเขาเผยแพร่ไปทั่วแน่ ๆ "สวัสดีค่ะท่านประธาน" ทันทีที่เดินเข้ามาในร้านเหล่าพนักงานต่างทำความเคารพเขาและติน่าอย่างพร้อมเพรียง "ดูแหวนแต่งงานค่ะ" ติน่าเอ่ยบอกพนักงานด้วยรอยยิ้ม มือก็ยังคงเกาะแขนกำยำของเรียวไม่ยอมปล่อย "สักครู่นะคะ" แม้ว่าจะตกใจไม่น้อยกับคำพูดของเธอ แต่พนักงานในร้านต่างก็รีบหยิบจับแหวนเพชรเม็ดงามออกมาวางเรียงรายให้ติน่าได้เลือกดูวงที่ถูกใจ "วงนี้เป็นยังไงบ้างคะ" ติน่าหยิบแหวนเพชรเม็ดงามขึ้นมาลองสวมใส่ก่อนจะยื่นมือไปตรงหน้าเรียวเพื่อถามความเห็น "สวยดีครับ" "พี่เรียวชอบวงไหนคะ ติน่าชอบวงนี้มากเลย แถมยังเป็นคู่กันกับวงนี้ด้วย เหมาะกับพี่เรียวมาก ๆ เลยค่ะ พี่เรียวว่าไหม" "แล้วแต่ติน่าเลย พี่เลือกไม่เป็นหรอก" เอาง่าย ๆ คือรำคาญนั่นแหละ ถ้าไม่ใช่เพราะแม่เขา เขาคงไม่ต้องมาเดินเป็นหุ่นเชิดให้ติน่าลากไปมาแบบนี้หรอก "แต่แบบนี้ก็สวยไปอีกแบบนะคะ อุ๊ย! ขอดูสร้อยเส้นนั้นหน่อยได้ไหมคะ สวยจังเลย" ขณะที่เลือกแหวนอยู่นั้น สายตาของเธอก็เหลือบไปเห็นสร้อยเพชรเส้นหนึ่งเข้าพอดี มันสวยมากและคงจะเหมาะกับเธอมากแน่ ๆ ติน่าขบคิดในใจด้วยความตื่นเต้น และอยากจะได้มาครอบครอง "สร้อยเส้นนี้มีลูกค้าสั่งทำไว้เป็นพิเศษค่ะ คงให้ดูไม่ได้จริง ๆ " พนักงานเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ "ขอซื้อต่อจากเขาได้ไหมคะ" มันเหมาะกับเธอมาก ๆ ถ้าได้มาอยู่บนลำคอของเธอคงดูล้ำค่าน่าดูเลย "ขอโทษด้วยนะคะ แต่ทางเราให้ดูไม่ได้จริง ๆ ค่ะ เพราะลูกค้าสั่งทำให้แฟนเป็นพิเศษ มีแค่เส้นเดียวในโลกค่ะ" "ได้หรือยังครับ พี่มีประชุมงานต่อ" เรียวเอ่ยขึ้นอีกครั้งหลังจากที่เงียบไปนาน เมื่อเห็นว่าติน่าเซ้าซี้จะเอาสร้อยเส้นนั้นให้ได้ เขาเบื่อที่จะต้องมาคอยตามใจเธอเต็มทนแล้ว "แบบนี้โอเคไหมคะ" "ก็โอเค สวยดี" เรียวตอบแบบขอไปที "แต่ติน่าว่าแบบนี้สวยกว่านะคะ" "พี่ตามใจติน่าเลยครับ" "งั้นเอาแบบนี้นะคะ" ติน่าเอ่ยบอกเขาด้วยรอยยิ้มสดใส ก่อนจะยื่นแหวนให้พนักงาน "เดี๋ยวผมให้คนมาเอา จัดการให้เรียบร้อยด้วยนะ" "ได้ค่ะท่านประธาน" "พี่เรียวคะ ติน่าอยากอยู่เดินเล่นต่อ พี่เรียวกลับไปทำงานเถอะค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงติน่านะ" เมื่อเดินออกมาจากร้านติน่าก็เอ่ยพูดกับเขาด้วยรอยยิ้มเช่นเดิม "เอางั้นเหรอ เดี๋ยวพี่ให้คนตามไปเป็นเพื่อนนะ" เรียวเอ่ยขึ้นด้วยความเป็นห่วง? "ไม่เป็นไรค่ะติน่าอยู่ได้ พี่เรียวรีบกลับไปทำงานเถอะค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงติน่านะ แค่นี้สบายมาก" "เอางั้นก็ได้" เรียวถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งอกที่สามารถแยกตัวออกมาจากติน่าได้สำเร็จ "นายครับ นายเห็นข่าวหรือยังครับ" แม็กซ์ถามขึ้นเมื่อกลับมาถึงบริษัท "ข่าวอะไร?" "ข่าวนายกับคุณติน่าไงครับ" แม็กซ์บอกพร้อมกับวางโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะทำงานของเรียว สายตาคมไล่อ่านข่าวบนหน้าจอมือถือทันที ก่อนจะถอนหายใจหนัก ๆ อีกครั้ง "พวกที่ทำข่าวแม่งก็ไวฉิบหาย" แถมยังดูจะรู้ดีกว่าเขาที่ตกเป็นข่าวเสียอีกนะ "นายจะเอายังไงต่อครับ แล้วคุณมิเกล..." "ออกไปก่อน กูอยากอยู่คนเดียวห้ามใครรบกวน" เรียวหลับตาลงอย่างคิดไม่ตก เอ่ยบอกลูกน้องคนสนิทด้วยน้ำเสียงเหนื่อยล้าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน "ครับนาย" งานนี้เขาคงช่วยอะไรเจ้านายหนุ่มไม่ได้ ในเมื่อเป็นคนเรียนผูกก็ต้องเป็นคนเรียนแก้ด้วยตัวเอง... แค่หลับตาลงใบหน้าสวยของใครบางคน ใครบางคนที่อยู่ในความทรงจำและอยู่ในใจของเขาก็ลอยเข้ามาทันที เขาจะต้องเริ่มจากตรงไหน ต้องพูดกับเธอยังไง เขาจะต้องปล่อยเธอไปจริง ๆ อย่างงั้นเหรอ แล้วเธอจะเป็นยังไงบ้างถ้าเขาเอ่ยพูดมันออกไป ความรู้สึกของเธอ... เขาจะต้องทำร้ายมันด้วยมือของเขาจริง ๆ นะเหรอ "ฉันต้องทำยังไงดีมิเกล ฉันต้องทำยังไงถึงจะไม่เสียเธอไป" ถ้าเขาเลือกเธอ เขาก็จะกลายเป็นลูกที่เนรคุณพ่อแม่หรือเปล่า แต่การใช้ชีวิตคู่มันต้องเกิดจากความรักและความเข้าใจกันของทั้งสองฝ่าย มันถึงจะเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบได้ไม่ใช่เหรอ มิเกลเดินกรีดกรายเข้ามายังสตูดิโอถ่ายแบบตามปกติเช่นทุกวัน ที่จะต้องมาทำงานก่อนจะหยุดพักยาว แต่ดูเหมือนว่าวันนี้ร่างกายเธอจะไม่ค่อยเอื้ออำนวยต่อการทำงานเท่าไหร่นัก "เอกสารที่ให้ไปเอาเมื่อวานค่ะ" มือเล็กยื่นซองเอกสารให้เจ๊ชาช่า พร้อมกับกระแทกตัวนั่งลงข้าง ๆ อย่างแรง "ขอบใจจ้ะ ว่าแต่ว่าวันนี้คุณลูกสาวของเจ๊ดูไม่โอเคเลยนะ" เจ๊ชาช่ามองอย่างจับผิด เมื่อวานก็ดี ๆ อยู่ พอมาวันนี้ดูเธอจะอิดโรยแปลก ๆ "เมื่อคืนมีไข้นิดหน่อยอ่ะเจ๊" มิเกลเอ่ยบอกพลางก้มหน้าหลบตา จะให้บอกไปตรง ๆ ก็ทำไม่ได้ ถึงบอกได้ก็ไม่กล้าเสี่ยง เพราะกลัวเจ๊ชาช่าจะตกใจหัวใจวายก่อน "แน่ใจนะว่าไม่ได้มีอะไรปิดบังเจ๊อยู่" "แน่สิเจ๊ ไม่เชื่อก็จับดูสิ" พูดจบมิเกลก็ยื่นแขนไปตรงหน้าผู้จัดการส่วนตัวให้จับดู "จริงด้วย! ตัวรุม ๆ อยู่เลย แล้วแบบนี้จะถ่ายงานไหวไหมเนี่ย" เจ๊ชาช่าถามอย่างตกใจและเป็นห่วง แต่ที่ตัวเธอร้อนไม่ใช่ว่ามีไข้อย่างที่บอกหรอก ที่ตัวร้อนเพราะเมื่อคืนแทบไม่ได้นอนเลยต่างหากล่ะ เพราะพอกลับถึงเพนท์เฮาส์เธอก็ถูกคนตัวโตรังแกทั้งคืน "สบายมากเจ๊" "ถ้าไม่ไหวก็บอกเจ๊นะ" เจ๊ชาช่าพูดด้วยน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใย "แก ๆ เห็นข่าวนี้หรือยัง" เสียงหนึ่งในทีมงานเอ่ยขึ้นด้วยความตื่นเต้น ก่อนจะเดินเข้าไปหาเพื่อนอีกคน "ข่าวอะไร" "ก็นี่ไงข่าวด่วนคนดังประจำวันนี้อ่ะ" "นี่มันคุณเรียวไม่ใช่เหรอ แล้วผู้หญิงนี้ใครกันอ่ะ" เสียงพูดคุยของทีมงานเรียกความสนใจให้กับมิเกลเป็นอย่างมาก จนต้องเผลอเหลือบตาไปมอง "นี่ไง ๆ ข่าวด่วนคนดัง นักธุรกิจหนุ่มรูปหล่อไฟแรงอย่าง 'เรียว' ควงสาวสวยปริศนาทานข้าว ก่อนที่ทั้งคู่จะควงกันเข้าร้านเพชร เหมือนจะบอกเป็นนัยว่าคนนี้ตัวจริงหรือเปล่า... ใครกันอ่ะแก ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเลย" มิเกลที่นั่งเล่นมือถืออยู่แต่จิตใจไม่ได้จดจ่อที่สิ่งของตรงหน้าเลยสักนิด สิ่งที่เรียกความสนใจเธอได้เห็นจะเป็นทีมงานสองคนที่นั่งอ่านข่าวของเรียวอยู่ใกล้ ๆ นี้ต่างหาก ใจดวงน้อยกระตุกวูบเมื่อได้ยินประโยคต่อมา "หรือว่านี่จะเป็นคู่หมั้นที่เคยมีข่าวด้วยกันเมื่อสองปีก่อน ฉันว่าใช่แน่ ๆ เลยแก ควงกันเข้าร้านเพชรขนาดนี้ไม่รู้ว่าจะไปเลือกแหวนแต่งงานกันหรือเปล่า" "เออ ๆ ฉันว่าใช่แน่ ๆ ครั้งนี้แต่งชัวร์" "มิเกลไหวไหมเนี่ย ไปพักก่อนไหมเจ๊ว่าเธอดูไม่โอเคเลยนะ" เจ๊ชาช่าสะกิดไหล่เรียกเธอเบา ๆ อย่างเป็นห่วง รู้สึกว่าพักนี้มิเกลจะดูเหม่อลอยไปบ้างในบางที "ไหวเจ๊ ถ่ายให้เสร็จก่อนแล้วค่อยพักทีเดียวก็ได้ ยังไงวันนี้ก็มีแค่งานเดียว" อยากจะรีบทำให้เสร็จ ๆ จะได้ไปทิ้งตัวลงนอนโง่ ๆ คนเดียวเงียบ ๆ ในหัวก็มีแต่เรื่องของเรียววิ่งวนเต็มไปหมด "แต่เจ๊ว่าไม่โอเคนะ หน้าตาดูเหนื่อย ๆ ยังไงไม่รู้" "ฉันไหวจริง ๆ เจ๊ ป่ะ ๆ รีบถ่ายกันเถอะ" ก่อนที่จะโดนจับผิดไปมากกว่านี้มิเกลก็รีบเดินออกไปหน้าเซ็ตถ่ายแบบทันที เพราะเธอคงเก็บความรู้สึกตัวเองได้ไม่มากนักหรอก ถ้าไม่พอใจอะไรเธอจะแสดงออกทางสีหน้าก่อนเสมอ อย่างเช่นตอนนี้... ที่เธอเผลอแสดงความรู้สึกออกมาจนเจ๊ชาช่าต้องคอยถามอย่างห่วงใย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD