7
“ค—คาร์เตอร์หยุดก่อน ผมหายใจไม่ทัน”
“...”
“อ—อึก ก็บอกให้หยุดก่อนไง” หลังถูกปล้ำจูบไม่หยุด ในที่สุดเปอร์ก็ตัดสินใจทุบแผ่นอกของคาร์เตอร์อย่างแรง เพื่อให้อีกฝ่ายหยุดการกระทำเสียที ก่อนที่เขาจะได้ตายเพราะขาดอากาศหายใจ
“ขอโทษที พอดีผมไม่ได้ยินเสียง” คาร์เตอร์ตอบกลับมา ทำเอาเปอร์ได้ยินแล้วถึงกับต้องขมวดคิ้ว เนื่องจากเหตุผลนี้มันฟังไม่ขึ้น
“ไม่ได้ยินหรือไม่ใส่ใจที่จะฟังกันแน่” เขาถามกลับไปทั้งหน้างอ ก่อนจะว่าต่อ “งั้นก็ไม่ต้องทำแล้ว พอเลย”
“เดี๋ยวสิ” คาร์เตอร์รีบร้องห้ามเสียงดังพร้อมคว้าแขนเปอร์เอาไว้ เมื่ออีกฝ่ายเห็นว่าเขาตั้งท่าจะลุกจากน้ำตกอีกครั้ง
“คุณไม่อยากกลับบ้านเหรอ?” อีกฝ่ายถาม ซึ่งคำถามนี้จากคาร์เตอร์ก็ทำให้เปอร์ชะงักโดยพลัน เพราะเขาอยากกลับบ้าน ยิ่งเร็วเท่าไรยิ่งดีเนื่องจากเปอร์ไม่อยากให้แม่ของเขาเป็นทุกข์
“อยากสิ” เปอร์ตอบกลับไป
“ถ้าอยากกลับบ้านงั้นก็ต้องแลกเปลี่ยนกันสิ ไม่งั้นผมไม่ปล่อยจริง ๆ ด้วย” คาร์เตอร์เอ่ยคล้ายกับเจ้าตัวกำลังอยู่เหนือเปอร์
“ถ้าคุณจะปล่อยงั้นก็ปล่อยเลยสิ ไม่เห็นต้องมาแลกเปลี่ยนกันเลย” เขาว่ากลับไป
“ไม่เอา เพราะผมต้องการได้ค่าตอบแทน”
“...”
“ลองคิดดูสิ... ถ้าผมไม่คอยตามดูคุณอยู่ห่าง ๆ ตอนนี้คุณอาจจะโดนสัตว์ป่าทำร้ายหรือไม่ก็หลงทางอยู่ตรงมุมไหนสักแห่งแล้วก็ได้ นี่ถือว่าผมช่วยชีวิตคุณนะ” คาร์เตอร์พูดทวงบุญคุณ โดยนั่นก็ทำให้เปอร์ถึงกับอ้าปากค้าง เพราะตอนแรกเขานึกว่าคาร์เตอร์โตแต่ตัวเสียอีก
แต่ทวงบุญคุณเก่งขนาดนี้ งั้นก็ไม่ใช่เล่น ๆ แล้ว
“จะเอายังไง? ถ้าไม่แลกเปลี่ยนงั้นก็แยกย้ายกันตรงนี้เลย” อีกฝ่ายพูดต่อ เมื่อเห็นว่าเปอร์เอาแต่ยืนเงียบและกำหมัดแน่นเท่านั้น
“ถ้าผมรู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้นะ ผมน่าจะขว้างหินก้อนใหญ่ใส่คุณเลยมันคงสะใจกว่าเยอะ” เปอร์ตอบโต้กลับไปด้วยน้ำเสียงเคียดแค้น เพราะเขารู้ดีว่าต่อให้คาร์เตอร์ปล่อยเขาตั้งแต่นาทีนี้ ยังไงเปอร์ก็ต้องหลงทางกลับบ้านลุงนิคไม่ถูกอยู่ดี ยิ่งตอนนี้เป็นเวลากลางคืนอีก นอกจากเขาจะหลงทางแล้วเปอร์ยังอาจได้รับอันตรายจากพวกสัตว์ป่าด้วย
“งั้นก็น่าเสียดายนะที่คุณย้อนเวลากลับไปไม่ได้” สิ้นเสียงของคาร์เตอร์ อีกฝ่ายก็ขยับตัวเข้ามาใกล้กันอีกครั้ง หลังในตอนแรกเจ้าตัวถูกเปอร์ผลักร่างอย่างแรง เนื่องจากเขากำลังจะขาดอากาศหายใจเพราะจูบของอีกฝ่าย
“ห้ามทำแบบเมื่อกี้อีก” เปอร์พูดย้ำกับคาร์เตอร์ หลังเวลาต่อมาแผ่นหลังของเขาได้สัมผัสกับโขดหินอีกครั้ง
“จะพยายามแล้วกัน” คาร์เตอร์ตอบกลับมา เวลาเดียวกันดวงตาสีแดงสดก็จับจ้องมาที่ริมฝีปากบวมเจ่อของเปอร์อีกครั้ง ก่อนที่ใบหน้าหล่อจะโน้มลงมาประกบจูบกันอย่างช้า ๆ โดยตัวของคาร์เตอร์เองก็ต้องพยายามควบคุมตัวเองไม่ให้ใจร้อนกับเปอร์ ไม่อย่างนั้นทุกอย่างคงได้พังซ้ำสองแน่
ไม่ใช่ว่าคาร์เตอร์ทำไม่ดี แต่เพราะที่นี่มันเป็นน้ำตกต่างหาก นั่นจึงทำให้เปอร์รู้สึกว่าตัวเองกำลังอยู่ผิดที่ผิดทางยังไงก็ไม่รู้ นี่ถ้าหากพวกเขาทำกันอยู่ในห้อง บางทีเปอร์อาจจะไม่รู้สึกแปลก ๆ เช่นนี้ก็ได้
“คุณยังกลัวอยู่เหรอ?” คาร์เตอร์กระซิบถามข้างใบหู ขณะที่ปลายจมูกโด่งก็คอยกดย้ำที่ข้างขมับของเขาซ้ำ ๆ เมื่อเจ้าตัวได้ปล้นจูบเปอร์จนพอใจแล้ว และสังเกตเห็นว่าเขากำลังสั่นเทิ้มเนื่องจากปัจจัยอะไรหลาย ๆ อย่าง
“นิดหน่อย แต่ไม่เท่าตอนแรกแล้ว” เปอร์ตอบกลับไปเสียงแผ่ว ท่าทีดูขลาดอายอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากเขาไม่คิดว่าครั้งแรกของตัวเองมันจะเกิดขึ้นกลางป่าเขาแบบนี้
“แล้วทำไมถึงตัวสั่นแบบนี้” คาร์เตอร์ถามต่ออย่างไม่เข้าใจ
“ก็มันหนาวแล้วก็อายด้วย”
“...”
“นี่คุณไม่คิดว่าจะมีใครมาเห็นเราบ้างเหรอ?”
“นอกจากสัตว์แล้วก็ไม่น่าจะมีมนุษย์คนไหนบังเอิญมาเห็นพวกเราในเวลาแบบนี้นะ” คาร์เตอร์ตอบกลับมาพลางใช้มือข้างหนึ่งจับปลายคางของเปอร์ให้เชิดขึ้น เพื่อให้ทั้งสองได้สบตากัน
“ว่าแต่คุณชื่ออะไรนะ ผมยังไม่เคยรู้จักชื่อของคุณเลย” อีกฝ่ายถาม
“แล้วจะอยากรู้ไปทำไม ในเมื่อเราสองคนคงไม่ได้เจอกันแล้ว”
“ก็จริงของคุณ” คาร์เตอร์เอ่ยอย่างเห็นด้วย ก่อนจะสรรหาเหตุผลมาโต้แย้งกัน “แต่ถ้าผมไม่รู้ มันก็คาใจผมน่ะสิ”
“...”
“แค่ชื่อเองอย่าหวงไปหน่อยเลยน่า” อีกฝ่ายพูดต่อพร้อมจ้องลึกเข้ามาในดวงตาของเปอร์ด้วย ซึ่งนั่นก็ทำให้เปอร์นิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะตัดสินใจบอกชื่อเล่นของตัวเองเพราะคิดว่ามันไม่น่าจะเสียหายอะไร
“เปอร์... ผมชื่อเปอร์” เปอร์บอกคาร์เตอร์เพียงสั้น ๆ โดยหลังจากที่เขาบอกไปอย่างนั้น ริมฝีปากหนาของคาร์เตอร์ก็มีการพึมพำเบา ๆ คล้ายกำลังจดจำชื่อของเขาเอาไว้ ก่อนที่อีกฝ่ายจะพูดขึ้นอีกครั้ง
“ผมจะจำให้ขึ้นใจเลยว่าเมียของผมชื่อเปอร์” ทันทีที่ได้ยินอย่างนั้น เปอร์ก็จัดการทุบเข้าที่แผ่นอกของคาร์เตอร์อย่างแรงจนได้รับเสียงร้องโอดโอยกลับมา
“ตีทำไมเนี่ย” คาร์เตอร์ถามอย่างไม่เข้าใจ
“พวกที่ชอบพูดจากวนประสาท มันก็ต้องเจอแบบนี้นี่แหละ” เปอร์พูด โดยเขาก็ไม่มีท่าทีรู้สึกผิดด้วยซ้ำ เนื่องจากเขาคิดว่ามันสาสมแล้ว
“มือเล็กนิดเดียวแต่หนักใช่ย่อยเลยนะเนี่ย” คาร์เตอร์พึมพำพร้อมถือวิสาสะลูบไล้ตามสีข้างเปอร์อย่างช้า ๆ เหมือนต้องการวัดสัดส่วนของเขาด้วยการสัมผัส
“ทำไมคุณถึงตัวเล็กจัง ตัวเล็กกว่ามนุษย์คนไหน ๆ ที่ผมเคยเจอมาเสียอีก”
“ก็ผมเป็นคนเอเชีย”
“...”
“คนเอเชียไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชายก็ตัวเล็กกว่าทางฝั่งนี้กันทั้งนั้นแหละ มันเป็นเรื่องของกรรมพันธุ์ไง” เปอร์ขยายความต่อ ซึ่งคราวนี้คำพูดของเขาก็ทำให้คาร์เตอร์เอียงคอมองด้วยความฉงน
“เอาเถอะ... ต่อให้ผมอธิบายไปยังไงคุณก็คงไม่เข้าใจอยู่ดี” เขาว่าต่อ ไม่มีความคิดว่าจะอธิบายอะไรมากกว่านี้ เพราะต่อให้คาร์เตอร์รู้ไปมันก็คงไม่เกิดประโยชน์อะไรอยู่แล้ว
“นี่น่ะเหรอ 56” เปอร์พูดขึ้นอีกครั้ง เมื่อเขาตัดสินใจรวบรวมความกล้าแล้วคว้าหมับเข้าที่ลำกายของคนตรงหน้า หลังเปอร์คิดว่าพวกเขากำลังเสียเวลาอยู่ที่นี่โดยใช่เหตุ
“อือ” คาร์เตอร์ขานรับ ขณะเดียวกันลมหายใจของอีกฝ่ายก็เริ่มขาดห้วงอยู่เป็นระยะ เมื่อเปอร์เริ่มใช้มือรูดรั้งแก่นกายเพื่อให้มันขยายใหญ่มากกว่านี้ จนในที่สุดลำกายของคาร์เตอร์ก็ขยายใหญ่เต็มมือของเปอร์
“แล้วไปจำมาจากไหนว่าตัวเอง56?” เปอร์ถาม
“เพื่อนในฝูงบอกอย่างนั้น”
“ไม่ยักรู้ว่าพวกมนุษย์หมาป่าจะสนใจเรื่องพวกนี้กันด้วย” เขาพูดต่อด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ พลางหลุบตามองสิ่งที่อยู่ในมือเขาอย่างใช้ความคิดไปด้วย เมื่อมันเป็นครั้งแรกที่เปอร์ได้ใช้ประสบการณ์จากการดูคลิปโป๊มาทำเรื่องแบบนี้ให้กับคนอื่น
“ก็ต้องสนใจอยู่แล้วสิ ในเมื่อมันเกี่ยวกับการขยายเผ่าพันธุ์ของเรา” คาร์เตอร์บอกกลับมาและเริ่มเคลื่อนไหวบ้าง ด้วยการใช้มือทั้งสองข้างของเจ้าตัวบีบเค้นที่บั้นท้ายของเปอร์เหมือนมันเขี้ยวกัน
“เดี๋ยว ๆ เราตกลงกันไว้ว่าจะใช้แค่มือนะ!” เปอร์รีบทักท้วงโดยพลัน เนื่องจากเขากลัวว่าคาร์เตอร์จะเข้าใจผิดไป ทว่าพอเขาได้เห็นสายตาเจ้าเล่ห์ของคาร์เตอร์ที่จ้องมองมาอย่างนึกสนุก นั่นก็ทำให้เปอร์รู้ทันทีว่าเขาได้เสียรู้ให้กับหมาป่าจอมเจ้าเล่ห์แล้ว
“ผมไม่เห็นจะจำได้เลยว่าเคยตกลงแบบนั้น” คาร์เตอร์ตอบกลับมาพร้อมออกแรงบีบเค้นบั้นท้ายของเปอร์ยิ่งกว่าเคย โดยในจังหวะที่เปอร์ตั้งท่าจะถอยห่างอีกครั้ง อีกฝ่ายก็ถือโอกาสนั้นในการเลิกชายเสื้อของเปอร์ที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำให้กองไว้ที่เหนืออกของเขา แล้วจัดการดูดเลียยอดอกของเปอร์อย่างไม่รีรอ
“อ๊ะ... ย—อย่าเลีย” เปอร์ร้องห้ามเสียงหลง พร้อมพยายามกระชากผมของคาร์เตอร์อย่างแรง แต่อีกฝ่ายกลับยิ่งเกาะร่างเขาเอาไว้แน่นราวกับปลิง แถมยังดูดเลียยอดอกของเปอร์จนแก้มตอบ
นี่มันไม่ใช่สิ่งที่เปอร์คิดเอาไว้เลยแม้แต่นิด ซึ่งก็อาจเป็นความผิดของเขาแหละมั้งที่มองโลกในแง่ดีเกินไป คิดไปว่าคาร์เตอร์จะยอมทำตามข้อตกลงระหว่างเรา แถมเขายังเลือกที่จะมองข้ามท่าทีเจ้าเล่ห์ที่เผยให้เห็นอยู่เป็นระยะอีก
เปอร์ผิดเองแหละที่เผลอไว้ใจมนุษย์หมาป่าจอมเจ้าเล่ห์
“คาร์เตอร์หยุดนะ” เป็นอีกครั้งที่เปอร์เอ่ยปากห้ามอีกคน เมื่อเวลาต่อมาคาร์เตอร์ได้ไล่ต้อนเขาขึ้นฝั่ง เพื่อที่เจ้าตัวจะได้ทำเปอร์ได้อย่างถนัด
“ไม่ชอบเหรอ?” อีกฝ่ายถามกลับมาด้วยท่าทีใสซื่อ ทว่าคราวนี้การแสดงของคาร์เตอร์กลับไม่สามารถตบตาเปอร์ได้อีกแล้ว
“ใช่ ไม่ชอบ” เปอร์รีบตอบทันที เพราะเขาหวังว่านั่นจะช่วยให้คาร์เตอร์หยุดการกระทำของตัวเองเสียที แต่ก็ดูเหมือนว่าเปอร์จะคิดผิดไป
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็ชอบเอง” คาร์เตอร์ตอบกลับมา จากนั้นอีกฝ่ายก็จัดการจับขาของเขาให้อ้าออกจากกัน เพื่อที่เจ้าตัวจะได้ใช้ปากปรนเปรอให้กันได้อย่างถนัด หลังก่อนหน้านี้อีกฝ่ายได้ดูดเลียตามร่างกายท่อนบนของเขาจนพอใจแล้ว
“อ—อ๊ะ” ทันทีที่ลำกายของเขาถูกปรนเปรอด้วยโพรงปากอุ่น เปอร์ถึงกับหลุดเสียงครางออกมาทันที เขาใช้ปลายเท้าถีบไปมากลางอากาศเพราะหวังจะให้คาร์เตอร์หยุดการกระทำ แต่ก็ดูเหมือนว่ามันจะไม่เป็นผลนัก มิหนำซ้ำคาร์เตอร์ยังรีบรูดรั้งลำกายของเปอร์อีก จนในที่สุดเปอร์ก็ตัดสินใจดึงผมของคาร์เตอร์อย่างแรง เพื่อให้อีกฝ่ายหยุดการกระทำของตัวเอง
ซึ่งคราวนี้มันก็ได้ผลเสียด้วย
“เจ็บ” คาร์เตอร์เอ่ยเพียงสั้น ๆ และพอเปอร์ได้ยินอย่างนั้น เขาก็ยิ่งออกแรงกระชากผมหนาของอีกฝ่ายอย่างแรง จนคาร์เตอร์ต้องส่งเสียงร้องโอดโอยออกมาด้วยความเจ็บปวด
“พูดดี ๆ แล้วไม่ฟังมันก็ต้องเจอแบบนี้แหละ” เปอร์พูดพร้อมหอบหายใจไปด้วย เมื่อคาร์เตอร์ทำเขาเหนื่อยไปหมด
“แล้วไม่ชอบเหรอ?” คาร์เตอร์ถามอีกครั้ง
“ไม่ชอบ ฟังไม่รู้เรื่องหรือไง”
“ก็เห็นสวนสะโพกเข้าหาปาก ก็นึกว่าชอบ”
“...”
“ไม่ชอบก็ไม่ชอบ งั้นไม่ทำก็ได้” คาร์เตอร์พูดต่อ ขณะที่เปอร์ก็ได้นิ่งค้างไปครู่หนึ่ง เนื่องจากเขาไม่คิดว่าคาร์เตอร์จะสังเกตเห็นท่าทีเหล่านั้น
“เดี๋ยวพวกเรากลับบ้านกันเลยก็ได้ ไม่ทำแล้ว” อีกฝ่ายเอ่ยพร้อมผละตัวออกห่างเปอร์ไป ซึ่งนาทีนั้นเขาก็มองคาร์เตอร์อย่างใช้ความคิด และพอเขาเห็นสายตาที่จริงจังของอีกฝ่าย นั่นจึงทำให้เปอร์ตัดสินใจถามบางอย่าง
“แล้วจะพากลับไปส่งบ้านเหมือนเดิมไหม” เปอร์ถามในสิ่งที่เขาเป็นกังวล
“เหมือนเดิม ในเมื่อผสมพันธุ์ไม่ได้ก็ไม่รู้จะเก็บเอาไว้ทำไมเหมือนกัน” คาร์เตอร์ตอบกลับมาเสียงห้วน โดยอีกฝ่ายก็มีท่าทีแตกต่างจากตอนแรกอย่างเห็นได้ชัด หลังจากที่เจ้าตัวรู้ว่าไม่ว่ายังไงเปอร์ก็จะไม่มีทางยินยอมผสมพันธุ์กับอีกฝ่ายเด็ดขาด
ซึ่งเปอร์ก็คิดว่านี่มันเป็นเรื่องดีแล้ว...
หลังจัดแจงใส่เสื้อผ้าที่เปียกชุ่มเพราะถูกดึงให้ร่วงไปในน้ำตกเรียบร้อยแล้ว เวลาต่อมาเปอร์ก็เดินตามคาร์เตอร์ที่อยู่ในร่างหมาป่าตัวยักษ์กลับไปยังบ้านพักอย่างเงียบ ๆ โดยเขาก็รับหน้าที่เป็นคนถือตะเกียงและไฟฉายเอง เนื่องจากคาร์เตอร์ในร่างสุนัขไม่สะดวกต่อการถือของนัก
“ขนาดยืนสี่ขายังตัวสูงกว่าคนอีกแฮะ” ระหว่างที่กำลังเดินตามสุนัขตัวใหญ่ที่มีขนสีเทา ดำและขาวสลับกันไปมาอย่างสวยงาม เปอร์ก็พูดกับตัวเองไปด้วย เมื่อเขาเพิ่งจะมีโอกาสได้สังเกตสัดส่วนของคาร์เตอร์อย่างชัด ๆ และก็พบว่าอีกฝ่ายมีขนาดตัวที่ใหญ่มาก แตกต่างจากหมาป่าทั่วไปอย่างชัดเจน ซึ่งลักษณะเหล่านี้มันก็ตรงตามข้อมูลที่เว็บไซต์บอกไว้อย่างเป๊ะ ๆ
“และไม่ว่าจะร่างไหน หมอนี่ก็ดูดีทั้งนั้น โลกนี้มันช่างลำเอียงจริง ๆ” เปอร์ว่าต่อด้วยน้ำเสียงริษยา เมื่อความจริงที่เขาไม่สามารถปฏิเสธได้เลย นั่นก็คือคาร์เตอร์ทั้งในร่างมนุษย์และหมาป่าต่างดูดีกันทั้งคู่ ทำเอาเปอร์เห็นแล้วก็เกิดความอิจฉาและอดคิดไม่ได้ว่าโลกนี้มันช่างลำเอียงนัก
“ถึงแล้วเหรอ ถ้าอย่างนั้นผมกลับไปที่ห้องนอนของคุณเลยนะ แล้วพรุ่งนี้คุณก็ต้องไปส่งผมที่บ้านด้วย” เขาเอ่ย หลังต่อมาคาร์เตอร์ในร่างสุนัขได้หันมามองเขาด้วยสายตาเฉยชา เมื่ออีกฝ่ายได้พาเขากลับมายังบ้านพักของเจ้าตัวแล้ว
โดยหลังจากที่คาร์เตอร์เดินนำมาส่งเปอร์ที่บ้านพักเสร็จ อีกฝ่ายก็วิ่งหายเข้าไปในป่ามืดทึบอีกครั้ง ก่อนที่เสียงเห่าหอนจะดังขึ้น ทำเอาเปอร์เผลอสะดุ้งตัวเล็กน้อยแล้วรีบเข้าไปในบ้านพักของคาร์เตอร์ เพราะเขากลัวว่าหากยืนอยู่หน้าบ้านนานกว่านี้ มันจะไม่ปลอดภัยต่อชีวิต
“ถ้าเราถือวิสาสะหยิบเสื้อผ้าเขามาใส่เลย มันคงไม่เป็นไรใช่ไหมเนี่ย ในเมื่อชุดนี้เขาทำให้เปียกเอง” เวลาต่อมาเมื่อเปอร์เข้ามาในบ้านเรียบร้อยแล้ว ระหว่างที่เขากำลังยืนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้าของคาร์เตอร์ เขาก็พูดกับตัวเองด้วยความชั่งใจ หลังเปอร์ไม่แน่ใจนักว่าการที่เขาหาเสื้อผ้าตัวใหม่มาเปลี่ยน มันจะเป็นการละลาบละล้วงเกินไปหรือเปล่า
ซึ่งถ้าจะให้เปอร์กระโดดขึ้นเตียงนอนทั้งสภาพเสื้อผ้าเปียกชุ่มแบบนี้มันก็ไม่ได้อีก และถ้าจะให้เขานั่งคอยจนกว่าคาร์เตอร์จะกลับเข้ามาในบ้าน เปอร์ก็กลัวว่าตัวเองจะแข็งตายเสียก่อน เนื่องจากเวลานี้ยามดึกอากาศค่อนข้างหนาวเย็นมาก
สุดท้ายเขาจึงตัดสินใจทิ้งความคิดมากของตัวเองออกไปแล้วถือวิสาสะหาเสื้อผ้าชุดใหม่มาใส่ โดยเปอร์ก็ไม่คิดที่จะรอให้เจ้าของตู้เสื้อผ้ามาหยิบให้กัน
“เท่านี้ก็เรียบร้อย” เปอร์พูดกับตัวเองพร้อมกระโดดขึ้นเตียงนอนของคาร์เตอร์อีกครั้ง ตั้งใจจะพักผ่อนเอาแรง เพราะวันพรุ่งนี้เขาน่าจะต้องเดินทางไกล
“หลับ ๆ นะเปอร์ เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ มันก็เป็นแค่ฝันร้ายเท่านั้นแหละ” ทันทีที่หัวของเขาทิ้งลงหมอนใบเดิม เปอร์ก็พูดกับตัวเองอีกครั้งเพื่อกล่อมให้ตัวเองหลับ หลังตลอดทั้งวันนี้มันมีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้น จนเขาไม่รู้จะโฟกัสตรงไหนก่อนดี
เมื่อเปอร์ปิดเปลือกตาลงแล้ว ทุกอย่างมันก็ควรจะจบลงแค่เท่านั้น
เขาควรจะได้พักผ่อนตามที่ตั้งใจเอาไว้ ทว่าหลังจากที่เปอร์เคลิ้มหลับไปได้ไม่นานนัก คิ้วของเขาก็เผลอขมวดเข้าหากันโดยอัตโนมัติ เมื่อเปอร์รู้สึกว่าเขากำลังถูกปลายจมูกโด่งซุกไซ้ตามซอกคอของเขาอยู่ ซึ่งสัมผัสที่ผะแผ่วชวนทำให้เกิดอาการขนลุกชัน มันก็ทำให้เปอร์ตัดสินใจลืมตาขึ้นอีกครั้ง
เพื่อที่เขาจะได้สบตากับดวงตาสีแดงสดอันเป็นเอกลักษณ์
“นี่จะเอาให้ได้เลยใช่ไหม” ท่ามกลางความเงียบและความมืดที่แผ่ปกคลุมไปทั่วห้อง เปอร์ก็พูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ไม่มีความตื่นตระหนกอยู่ในน้ำเสียงเขา แม้ว่าการกระทำของคาร์เตอร์มันจะสร้างความตกใจให้เขาก็ตาม
“ก็กลิ่นมัน...”
“ผมถามว่าจะเอากันให้ได้ใช่ไหม” เปอร์ถามย้ำเสียงเข้ม
“ก็ถ้าได้ก็ดี”
“ต่อให้ผมไม่ให้ ยังไงคุณก็จะตื๊อจนกว่าจะได้อยู่ดีนั่นแหละ” เขาบอกกลับไปพลางพ่นลมหายใจออกมาอย่างแรง เมื่อเขาไม่รู้จะจัดการยังไงกับคาร์เตอร์ดี
“ถ้ารู้แบบนี้แล้วจะให้กันได้หรือยัง?” คราวนี้คาร์เตอร์เป็นฝ่ายถามกลับมาบ้าง ซึ่งอีกฝ่ายก็ดูจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเปอร์กำลังพูดจาประชดประชันเจ้าตัวอยู่
“เอาเถอะ... ไหน ๆ ก็มาถึงขนาดนี้แล้ว คุณอยากทำอะไรก็ทำให้พอใจเลย เพราะผมเหนื่อยแล้ว” พูดจบ เปอร์ก็ชันขาทั้งสองข้างของตัวเองขึ้น เพื่อให้คาร์เตอร์ได้ทำกันได้อย่างถนัด
โดยหลังจากที่เปอร์ยอมเปิดทางให้อีกฝ่ายแล้ว คาร์เตอร์ก็ไม่รอช้า อีกฝ่ายรีบจัดการถอดกางเกงนอนของเขาออกทันที ก่อนที่ในเวลาต่อมาร่างกายช่วงล่างของเขาจะเปลือยเปล่าต่อหน้าคาร์เตอร์อีกครั้ง