ความรู้สึกของเปอร์ในตอนนี้ มันคงเป็นความรู้สึกที่เรียกว่าปลงแหละมั้ง เนื่องจากเขาเหนื่อยหน่ายมากกับความขี้ตื๊อของคาร์เตอร์ที่จ้องจะผสมพันธุ์กับเขาให้ได้ แม้ว่าอีกฝ่ายจะถูกเปอร์ปฏิเสธหนแล้วหนเล่าก็ตาม
“อ—อ๊ะ อย่าดูดแรงสิ”
“เจ็บเหรอ”
“อือ” เปอร์ขานรับ เมื่อในระหว่างที่คาร์เตอร์กำลังใช้ท่อนลิ้นไล่เลียตรงยอดอกของเปอร์อยู่นั้น เขาที่กำลังนอนอ้าขารับสัมผัสจากมนุษย์หมาป่าจอมเจ้าเล่ห์ก็มีการส่งเสียงร้องออกมาเบา ๆ หลังปากของคาร์เตอร์กำลังสร้างความเจ็บให้กับเขา เนื่องจากอีกฝ่ายดูดกันแรงเกินไป
โดยหลังจากที่คาร์เตอร์รับรู้แล้วว่ามันสร้างความเจ็บปวดให้กัน อีกฝ่ายก็รีบผละริมฝีปากออกไปทันที ดวงตาคมเงยหน้าขึ้นมามองเปอร์อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เวลาต่อมาอีกฝ่ายจะค่อย ๆ แลบลิ้นและเลียไปทั่วแผ่นอกของเขา ทำเอาเปอร์ถึงกับเกิดอาการหายใจไม่เป็นจังหวะ
เปอร์ไม่ได้อยากปล่อยใจหรือเผลอไผลไปกับสัมผัสของคาร์เตอร์ด้วยซ้ำ แต่ที่เขายินยอมและปล่อยให้มันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น นั่นก็เพราะเปอร์คิดว่ายังไงซะวันพรุ่งนี้เขาก็คงไม่ได้เจอคาร์เตอร์อีกแล้ว อีกทั้งเขาต้องการตัดความรำคาญด้วย เพราะถ้าเปอร์ยังบ่ายเบี่ยงแบบนี้อีก เห็นทีตลอดทั้งคืนนี้เขาคงไม่ได้พักผ่อนอย่างที่ตั้งใจเอาไว้แน่
“ห้ามทำรอย” เปอร์กระซิบข้างใบหูคาร์เตอร์ เมื่อเวลาต่อมาจมูกของอีกฝ่ายกำลังสูดดมที่ซอกคอเขาด้วยความหื่นกระหาย
โดยหลังจากที่คาร์เตอร์ได้ยินแบบนั้น อีกฝ่ายก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับมาสักประโยคเดียว คาร์เตอร์เลือกที่จะเงียบใส่เปอร์และเอาแต่สัมผัสตามร่างกายของเขาเท่านั้น ซึ่งการมีอะไรกับมนุษย์หมาป่าเป็นครั้งแรกในชีวิตมันก็ไม่ได้แตกต่างจากการมีอะไรกับคนทั่วไปเลย
แต่ถึงอย่างนั้น... เปอร์ก็ไม่แน่ใจว่าถ้าคาร์เตอร์อยู่ในอีกร่างหนึ่ง อีกฝ่ายจะเป็นแบบนี้หรือเปล่า
“ย—อย่าทำ ห้ามทำตรงนั้น!” เปอร์ร้องห้ามเสียงหลง เมื่อคาร์เตอร์ได้เคลื่อนย้ายตัวเองไปอยู่ที่กลางหว่างขาของเขา โดยในนาทีนั้นเปอร์ก็สามารถรู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายคิดจะทำอะไรกับเขากันแน่
“ทำไม?” คาร์เตอร์เงยหน้าขึ้นมาถามอย่างไม่เข้าใจ
“ก็มัน...”
“เขินเหรอ” อีกฝ่ายถามต่อ เมื่อเห็นว่าเปอร์มีท่าทีกระอักกระอ่วนใจที่เขาต้องตอบคำถามนั้นของเจ้าตัว
“เปล่าสักหน่อย” เปอร์รีบส่ายหน้าปฏิเสธกลับไปทันที จากนั้นความเงียบก็เข้าปกคลุมทั้งสองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะตัดสินใจพูดบางอย่างออกไป
“เผื่อนายจะไม่รู้... มนุษย์ปกติเขาไม่เอาหน้าไปซุกอยู่ตรงนั้นหรอกนะ”
“จริงเหรอ” คาร์เตอร์รีบถามกลับมาคล้ายกับไม่อยากเชื่อ ก่อนที่อีกฝ่ายจะพูดต่อ “ไม่ใช่หรอก ใคร ๆ ก็ชอบตรงนี้กันทั้งนั้น อย่ามาโกหกกันหน่อยเลย”
“อ—อ๊ะ” สิ้นเสียงของคาร์เตอร์ ทันใดนั้นเสียงร้องของเปอร์ก็ดังขึ้นทันที เมื่อคาร์เตอร์ซุกใบหน้าลงมาที่กลางหว่างขาของเขาพร้อมใช้ปากครอบครองลำกายเล็กของเปอร์อย่างรู้หน้าที่
โดยวินาทีที่แก่นกายของเปอร์ถูกครอบครองด้วยโพรงปากอุ่น เขาก็เบิกตากว้างด้วยความตกใจ พยายามจะดันหัวไหล่หนาของคาร์เตอร์ เพื่อให้อีกฝ่ายถอยห่างแต่ก็ไม่เป็นผล เนื่องจากคาร์เตอร์มีพละกำลังมากกว่าเขา
“ค—คาร์เตอร์” เปอร์เรียกชื่ออีกคนเสียงสั่นพลางเงยหน้าขึ้นมองเพดานห้อง หลังปากของคาร์เตอร์กำลังทำให้เปอร์รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
เขาไม่รู้ว่ามันเกี่ยวกันหรือไม่ แต่อาจเป็นเพราะส่วนหนึ่งในตัวของคาร์เตอร์เป็นหมาป่าแหละมั้ง นั่นจึงทำให้อีกฝ่ายรู้จักการใช้ลิ้นของตัวเองแบบนี้ แถมยังมีการเก็บรายละเอียดจังหวะเล็มเลียท่อนกายของเขา จนทำให้เปอร์ต้องจดจ่ออยู่กับสัมผัสจากเจ้าตัว รอดูว่าอีกฝ่ายจะทำยังไงกับเขาต่อ
“ขอใส่นิ้วนะ” เมื่อใช้ปากดูดเลียลำกายให้กันจนพอใจแล้ว เวลาต่อมาคาร์เตอร์ก็เงยหน้าขึ้นมาบอกขั้นตอนต่อไปที่เจ้าตัวจะทำกับเขา และหลังจากที่อีกฝ่ายเห็นว่าเปอร์ไม่ได้โต้แย้งอะไร คาร์เตอร์ก็ค่อย ๆ ชำนิ้วหนึ่งเข้ามาในช่องทางสีสดของเปอร์ เพื่อเป็นการเบิกทางให้กัน
“เจ็บ” เปอร์บอกความรู้สึกของตัวเองพร้อมทำหน้าเหยเกไปด้วย
“รู้สึกดีขึ้นยัง?” คาร์เตอร์ถามกลับมา เมื่ออีกฝ่ายผ่อนจังหวะให้ช้าลงกว่าเดิมนิดหน่อย
“อือ” เปอร์ขานรับกลับไป จากนั้นความเงียบก็เข้าปกคลุมทั้งสองอยู่ครู่หนึ่ง คาร์เตอร์ปล่อยให้เวลาทำงานนานอยู่พักใหญ่ ก่อนจะเริ่มขยับนิ้วของตัวเองอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าท่าทีของเปอร์เริ่มผ่อนคลายลงแล้ว
หลังเปอร์รู้สึกได้ถึงการขยับนิ้วชำเข้าออกในร่างเขาอีกระลอก คิ้วของเปอร์ก็ขมวดเข้าหากันทันที ทว่าคราวนี้เขาไม่ได้ส่งเสียงร้องหรือบอกความเจ็บของตัวเองออกมาแล้ว เนื่องจากมันอยู่ในเกณฑ์ที่เขาพอจะรับได้
“อ—อ๊ะ คาร์เตอร์” เปอร์เรียกชื่อคนที่กำลังคร่อมร่างกันไว้อีกครั้ง เมื่ออีกฝ่ายได้โน้มหน้าลงมาไล่เลียยอดอกของเขา คล้ายต้องการปลอบประโลมความเจ็บปวด
“เผื่อมันจะทำให้รู้สึกดีขึ้น” คาร์เตอร์บอก
จากนั้นความเงียบก็ปกคลุมทั้งคู่อีกรอบ โดยในวินาทีที่เปอร์ยังคงถูกคาร์เตอร์ปรนเปรอให้กัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้ลิ้นไล่เลียตามแผ่นอกของเขา มือข้างหนึ่งของเจ้าตัวคอยชักลำกายให้ส่วนมืออีกข้างก็เล้าโลมตรงช่องทางหลังให้กัน เขาก็นึกตั้งคำถามในใจว่าทำไมคาร์เตอร์ถึงเก่งเรื่องพวกนี้นัก
ทั้งที่ก่อนหน้านี้อีกฝ่ายดูไม่ได้ประสีประสากับเรื่องบนเตียงเลย
“เข้าไปนะ” ทันใดนั้นเสียงของคาร์เตอร์ก็ทำให้เปอร์หลุดจากภวังค์ทันที เขาสบตากับดวงตาสีแดงสดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าตอบรับอย่างช้า ๆ เมื่อเปอร์คิดว่าร่างกายเขาพร้อมที่จะรับอะไรที่ใหญ่โตกว่านิ้วแล้ว
เมื่อได้รับการอนุญาตจากเปอร์แล้ว คาร์เตอร์ก็รีบจัดแจงท่าทางของตัวเองใหม่ อีกฝ่ายรูดรั้งลำกายของเจ้าตัวที่เคยอวดอ้างกับเปอร์ให้ขยายใหญ่มากขึ้น ก่อนจะนำมาถูไถที่แก่นกายของเขาเหมือนต้องการหยอกเย้าแล้วค่อย ๆ กดส่วนหัวเข้ามาในร่างเปอร์อย่างใจเย็น
“คาร์เตอร์” เปอร์เรียกเจ้าของชื่อเสียงเข้ม เมื่อความเจ็บเริ่มทำงานอีกครั้งจนทำให้เขาต้องแสดงความเจ็บออกมาผ่านทางสีหน้า
“ทนหน่อยนะ เพราะถ้าเริ่ม ๆ หยุด ๆ ทั้งคืนนี้มันคงไม่เสร็จสักที” อีกฝ่ายตอบกลับมาและยังดันลำกายของตัวเองเข้ามาในร่างเปอร์ไม่หยุด จนในที่สุดตัวตนของคาร์เตอร์ก็เข้ามาอยู่ในร่างเปอร์โดยสมบูรณ์แบบ
ไม่รู้ว่าท่อนกายของคาร์เตอร์กับแก้มของเปอร์ อันไหนมันอุ่นร้อนมากกว่ากัน
หลังมนุษย์หมาป่าตัวยักษ์สอดท่อนกายเข้ามาในร่างเปอร์ได้สำเร็จแล้ว อีกฝ่ายก็ยังไม่ได้ขยับตัวในทันที เนื่องจากร่างกายของเปอร์ยังต้องการเวลาในการปรับตัวอยู่พักใหญ่ นั่นจึงทำให้ระหว่างนั้นทั้งคู่ไม่มีอะไรทำนอกเสียจากจ้องตากันปริบ ๆ
“เปอร์ยังเจ็บอยู่ไหม?” เสียงของคาร์เตอร์ดังขึ้น
“ก็ไม่เท่าตอนแรกแล้ว” เปอร์ตอบกลับไป
“...”
“ค—คุณขยับเลยก็ได้นะ” เขาพูดต่อ เมื่อรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูกและเปอร์ก็คิดว่าหากคาร์เตอร์เริ่มขยับตัวเสียตั้งแต่ตอนนี้ บางทีความอึดอัดที่เขากำลังเป็นอยู่มันก็คงจะดีขึ้น
เมื่อเปอร์เปิดไฟเขียวให้คาร์เตอร์แล้ว อีกฝ่ายก็เริ่มขยับสะโพกเข้าออกในช่องทางของเปอร์ทันที ซึ่งในขณะที่คาร์เตอร์กำลังทำอยู่นั้น เปอร์ก็ไม่ได้รู้สึกขวยเขินหรือเกิดความรู้สึกอื่นนอกจากความเสียวเลย จนกระทั่งอีกฝ่ายกล่าวชมร่างกายของเขาว่าสวยอย่างนั้นแน่นอย่างนี้ นาทีนั้นใบหน้าของเปอร์ถึงเริ่มร้อนฉ่าขึ้นมาอีกหน
“ลองจับตรงนี้ดูสิ ไม่ชอบเหรอ?” ระหว่างที่คาร์เตอร์กำลังกดลำกายเข้ามาในร่างเปอร์อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย อีกฝ่ายก็พูดขึ้นพร้อมดึงมือเขาให้ไปลูบไล้ที่กล้ามหน้าท้องของเจ้าตัวเหมือนภูมิใจนำเสนอ
โดยคราวแรกเปอร์ก็รีบชักมือออกด้วยความตกใจ แต่เพราะคาร์เตอร์จับมือเขาเอาไว้แน่น ไม่ยอมให้เปอร์ชักมือหนี นั่นจึงทำให้เปอร์ต้องสัมผัสกล้ามหน้าท้องของอีกฝ่ายอย่างจำยอม
แต่เขาก็จำยอมแค่ในตอนแรกเท่านั้นแหละ...
“ทำไมแน่นจัง คุณออกกำลังกายบ่อยเหรอ?” เปอร์ถามคาร์เตอร์ ระหว่างที่มือของเขากำลังลูบไล้กล้ามหน้าท้องของมนุษย์หมาป่าด้วยความหลงใหล
“คงงั้น เพราะต้องล่าสัตว์เกือบทุกวัน” คาร์เตอร์ตอบ ขณะที่มือของเจ้าตัวก็คอยรูดชักแก่นกายให้เปอร์ไปด้วย
“แล้วเรื่องผสมพันธุ์ล่ะ คุณทำเรื่องพรรค์นี้บ่อยหรือเปล่า?” เปอร์ถามต่อ โดยเขาก็ตั้งใจจะจับผิดคาร์เตอร์ว่าอีกฝ่ายโกหกกันหรือไม่ เรื่องที่เจ้าตัวเคยบอกเขาว่ามีอาการตายด้านทางด้านความต้องการ
“ก็บอกแล้วไงว่าก่อนหน้านี้ผมรู้สึกตายด้าน” คาร์เตอร์ยังคงให้คำตอบแบบเดิม
“...”
“หมายถึงก่อนที่ผมจะได้กลิ่นของคุณ ได้ยินเสียงของคุณและได้เห็นหน้าของคุณน่ะนะ”
เช้าวันต่อมา...
“คาร์เตอร์... เรื่องระหว่างเรามันจะเป็นความลับใช่ไหม?” ขณะที่กำลังเตรียมตัวเดินออกจากบ้านของคาร์เตอร์ โดยมีเจ้าของบ้านเป็นคนนำทาง เปอร์ก็ตัดสินใจถามสิ่งที่เขาข้องใจออกไป เมื่อเขากลัวว่าหลังจากที่แยกย้ายกันแล้ว คาร์เตอร์จะเอาเรื่องที่เกิดขึ้นตลอดทั้งคืนไปโพนทะนาบอกคนในฝูงของเจ้าตัว
“แน่นอนสิ คุณจะให้ผมเอาไปบอกใครกัน?” อีกฝ่ายถามกลับมาทั้งคิ้วขมวดแล้วค่อยว่าต่อ “เอาเป็นว่าคุณไม่ต้องห่วงเรื่องนี้หรอก เพราะผมไม่เอาไปเล่าให้ใครฟังอยู่แล้ว เดี๋ยวพวกนั้นมันจะอยากรู้อยากเห็นว่ากลิ่นของคุณเป็นยังไง”
“ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดี” เปอร์เอ่ยกลับไป โดยเขาก็รู้สึกโล่งใจอยู่ไม่น้อยที่คาร์เตอร์รับปากกลับมาแบบนี้
“ว่าแต่คุณเถอะ... สาบานมาสิว่าจะไม่เอาเรื่องการมีอยู่ของพวกผมไปเล่าให้ใครฟัง” คราวนี้คาร์เตอร์ถามกลับมา ซึ่งคำถามของอีกฝ่ายก็ทำให้เปอร์มีท่าทีชะงักไปทันที
“...”
“เงียบแบบนี้หมายความว่าไง?”
“ก็ไม่ได้หมายความว่าไง ถ้าคุณไม่อยากให้ผมเล่า ผมก็จะไม่เล่าเหมือนกัน” เปอร์ตอบกลับพร้อมจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคมของคาร์เตอร์ เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจของตัวเอง
“เอาล่ะ... ส่วนตอนนี้คุณก็พาผมกลับบ้านได้แล้ว เพราะป่านนี้ที่นั่นคงวุ่นวายกันน่าดู” เขาพูดต่อ เมื่อไม่อยากเสียเวลาอยู่ที่นี่นานกว่านี้
โดยหลังจากที่คาร์เตอร์ได้ยินแบบนั้น อีกฝ่ายก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก แต่เลือกที่จะกลายร่างกลับไปเป็นหมาป่าตัวยักษ์อีกครั้ง แล้วนำทางเปอร์กลับไปยังบ้านของลุงนิค
ซึ่งระยะทางจากหมู่บ้านมนุษย์หมาป่าไปยังแหล่งที่อยู่อาศัยของมนุษย์ปกติมันก็ค่อนข้างอยู่ห่างไกลกันพอสมควร จนเปอร์ต้องเอ่ยปากขอร้องให้คาร์เตอร์หยุดพักระหว่างการเดินทางก่อน เขาขอเวลาหยุดพักราว ๆ สี่ห้าครั้งเห็นจะได้ จนในที่สุดเปอร์ก็เห็นบ้านของลุงนิคอยู่ไกล ๆ
“พอแล้ว... คุณมาส่งผมแค่เท่านี้ก็พอ” เมื่อคิดว่าต่อจากนี้เขาสามารถเดินไปเองได้โดยที่ไม่ต้องมีคาร์เตอร์คอยนำทางอีกต่อไป เปอร์ก็ตัดสินใจบอกอีกฝ่าย
“เดี๋ยวคนอื่นเขาจะมาเห็นร่างคุณเข้า คุณคงไม่อยากให้ใครมาเห็นตัวคุณหรอกใช่ไหม?” เขาว่าต่อ และในนาทีนั้นเปอร์ก็รู้สึกใจหายอยู่ไม่น้อยที่เขาจะต้องแยกย้ายกับคาร์เตอร์จริง ๆ แต่ถ้าจะให้เปอร์ใช้ชีวิตอยู่ที่หมู่บ้านนั้นต่อ เขาก็ไม่เอาเช่นกัน
“ยังไงก็ขอบคุณแล้วกันที่อุตส่าห์มาส่งและยอมให้ผมกลับบ้าน” พูดจบ เปอร์ก็ทำการลูบหัวคาร์เตอร์อยู่สองสามที ก่อนที่เขาจะเดินออกมาจากป่า โดยที่มีคาร์เตอร์คอยมองตามตาไม่กะพริบ
ซึ่งในวินาทีที่เปอร์มาหยุดยืนที่หน้าประตูบ้านของลุงนิคแล้ว รอยยิ้มจาง ๆ ก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาโดยพลัน เมื่อก่อนที่เปอร์จะออกมาจากบ้านของคาร์เตอร์ เขาได้แอบหยิบเอาของบางอย่างที่บ่งบอกถึงการมีอยู่ของมนุษย์หมาป่าออกมาด้วย เพราะคิดว่าหากเปอร์นำของพวกนี้ไปลงเป็นหลักฐานในเว็บ บทความของเขามันก็น่าจะมีมูลค่าที่สูงขึ้น
โดยของที่เปอร์หยิบติดไม้ติดมือมาด้วยนั้นก็เป็นรูปภาพและขนหมาป่าที่มีให้เห็นตามพื้นบ้าน
“แม่ครับ ผมกลับมาแล้ว” เปอร์ตะโกนเรียกคนในบ้านเสียงดัง